“คะ คุณชายเฉิง!”
ตุบ ตุบ ตุบ
ต่อมาจากเสียงะโคือเสียงเคาะประตู
ยามนี้ผู้ใดกันที่กล้าเคาะประตูใหญ่บ้านเฉิงชิง?
คนนอกล้วนหลีกหนี มีเพียงเ้าหน้าที่ที่ไปดูรายชื่อแทนเฉิงชิงวันนี้!
แต่ยามปกติเ้าพนักงานที่คอยเฝ้าก็เรียกชื่อเฉิงชิงโดยตรง น้อยครั้งที่จะมีความเกรงใจเช่นนี้——บุตรสาวคนโตและน้องสาวทั้งสองมองหน้ากัน ภายในดวงตาเอ้อล้นไปด้วยความยินดี
“น้องชาย พวกเขากลับมาแจ้งข่าวมงคลแล้ว เ้าผ่านการสอบระดับอำเภอสนามแรกแล้วแน่นอน!”
ก็แค่ผ่านการสอบระดับอำเภอสนามแรก?
ไม่ใช่แค่นั้นกระมัง
เฉิงชิงค่อยๆ ลุกขึ้นยืนจากเก้าอี้ด้วยความมั่นใจเต็มเปี่ยม
นางเคยสงสัยว่าตนเองจะพลาดโอกาสไปเข้าร่วมการสอบระดับอำเภอ แต่ไม่เคยสงสัยว่าตนเองที่ได้เข้าร่วมการสอบระดับอำเภอแล้วจะสอบไม่ผ่าน!
แม้ระยะเวลาที่นางได้จับต้องสี่ตำราห้าคัมภีร์จะไม่นาน แต่ ‘เฉิงชิง’ คนเดิมเพียงไม่เคยร่ำเรียนสี่ตำราห้าคัมภีร์อย่างเป็ระบบ ในเมื่อเขียนหนังสือเป็แล้ว ไหนเลยจะไม่เคยแตะต้องเลยสักนิด?
ยิ่งไปกว่านั้น นางมีความเข้าใจของคนวัยยี่สิบกว่าปี มีความทรงจำของเด็กหนุ่มวัยสิบกว่าปี ทั้งยังสอบเข้าสถานศึกษาหนานอี๋ได้แล้ว และยิ่งได้เรียนพิเศษที่สอนโดยเมิ่งไหวจิ่น ถ้าแม้แต่การสอบระดับอำเภอยังสอบไม่ผ่าน เฉิงชิงก็ได้แต่ยอมรับความจริงอันโหดร้ายว่าตนเองไม่เหมาะที่จะเดินไปบนหนทาง ‘การสอบเข้ารับราชการ’ แล้ว
สามารถสอบผ่านการสอบระดับอำเภอได้ เพียงแต่ดูว่าใช้ผลสอบเช่นไรในการผ่าน เ้าหน้าที่เองก็เปลี่ยนคำเรียกขานแล้ว นางมั่นใจว่าผลสอบต้องออกมาไม่เลวแน่
ประตูถูกผลักจนเป็ช่องว่างขนาดใหญ่ พอดีกับที่ใบหน้าดำด่างของเ้าโผล่ออกมา
ใบหน้าดำที่ดูเหี้ยมเกรียมนั้นเต็มไปด้วยรอยยิ้ม
“แจ้งข่าวมงคลแก่คุณชายเฉิง ในการสอบระดับอำเภอสนามแรก คุณชายเฉิงเฉิงได้อันดับที่หนึ่งขอรับ!”
อันดับที่หนึ่งหรือ?
หยาดเหงื่อของการตรากตรำเล่าเรียน ั้แ่ที่นางตัดสินใจว่า้าสอบเข้ารับราชการ ความอัดอั้นตันใจของการถูกกักบริเวณสองเดือน ความเพียรพยายามของพวกชุยเยี่ยนที่ทำให้นางสามารถเข้าร่วมการสอบระดับอำเภอได้ ชั่วพริบตาเดียวทั้งหมดจึงเกิดผลตอบแทนที่มีคุณค่าเสมอกันแล้ว
เฉิงชิงไม่เพียงซาบซึ้งจนสะอึกสะอื้นหลั่งน้ำตา อันดับที่หนึ่งของการสอบระดับอำเภอสนามแรกควรเป็ของนาง!
“น้องชาย เ้าได้อันดับที่หนึ่ง——”
“น้องชาย เ้าเก่งกาจนัก!”
“…ไม่ได้ดูผิดใช่หรือไม่?”
ไม่ใช่ว่าพี่สาวทั้งสามสงสัยในความสามารถของเฉิงชิง พวกนางแค่ยินดีเกินไป
ก่อนหน้าที่จะถูกกักบริเวณ ผลการสอบที่ดีที่สุดในสถานศึกษาของเฉิงชิง อยู่แค่อันดับที่เก้าของห้องเรียนตัวอักษรติง อันดับที่หนึ่งของการสอบระดับอำเภอสนามแรกมาจากสถานศึกษาหนานอี๋นั้นไม่แปลก แต่เมื่อหล่นมาบนหัวเฉิงชิงกลับทำให้พี่สาวน้องสาวทั้งสามแปลกใจระคนยินดี
แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่าในขณะที่เฉิงชิงถูกกักบริเวณอยู่ภายในบ้าน ความสามารถไม่ถดถอยเลยสักนิด มีแต่จะก้าวหน้าขึ้น!
เ้าหน้าที่ผู้คุมยังคงรักษากฎเกณฑ์ที่เ้าเมืองอวี๋สั่ง ไม่กล้าเข้าไปในบ้านตระกูลเฉิงแม้แต่ก้าวเดียว ถึงขนาดไม่กล้าเปิดประตูจนสุด แต่สีหน้าบนใบหน้ากลับไม่เหมือนก่อนอย่างแท้จริง
“ไหนเลยจะมองผิด คุณชายเฉิงสอบได้อันดับที่หนึ่งแน่นอน ข้าน้อยจึงเร่งฝีเท้ามาแจ้งข่าวมงคลล่วงหน้าหนึ่งก้าว ใน่เวลาสั้นๆ นี้เกรงว่าสหายร่วมเรียนของคุณชายเฉิงก็้ามาเยี่ยมเยียนแสดงความยินดี!”
ใช่แล้ว หากไม่ได้อันดับที่หนึ่งของสนามสอบแรก ไหนเลยเ้าพนักงานจะชิงเปิดประตูแจ้งข่าวมงคล? อย่างมากก็แง้มประตูแจ้งพวกนางเสียงเบาว่าลูกชายสอบผ่านสนามแรกแล้ว
นางหลิ่วได้สติกลับมาก็นำซองแดงตกรางวัลเ้าหน้าที่
แต่ไหนแต่ไรมาเ้าหน้าที่ไม่กล้ารับเงินของตระกูลเฉิง ครั้งนี้กลับรับไว้อย่างยินดี
ถึงเ้าเมืองอวี๋รู้แล้วก็คงไม่กล่าวอะไร นี่เป็เงินมงคล เป็ธรรมเนียมของการประกาศรายชื่อในการสอบเข้ารับราชการ!
ผู้ดูแลกล่าวมิผิด เขารับเงินมงคลจากมือนางหลิ่วยังไม่ทันหายร้อน สหายร่วมเรียนห้องเรียนติงเก้าก็รวมตัวกันมาถึงตรอกหยางหลิ่วแล้ว พวกเขาะโเรียกชื่อของเฉิงชิง เ้าหน้าที่กล่าวว่าล่วงเกินแล้วพลางล็อกประตูใหญ่ของบ้านเฉิงชิงไว้ตามเดิม——เหล่าศิษย์เป็ตัวตนที่พวกเขารับมือได้ยาก ครั้งก่อนก็เกือบจะใช้ไม้แข็งด้วยความโกรธ ครั้งนี้เป็เพราะดีใจเกินไปจะใช้ไม้แข็งก็ไม่แปลก ยังคงป้องกันไว้จะดีกว่า!
แต่ถึงกระนั้นบรรดาศิษย์เหล่านี้ก็ยังมายังตรอกหยางหลิ่ว ใต้เท้าอวี๋ไม่ได้เข้มงวดกับคำสั่งห้ามเท่าใดแล้วจริงๆ
ล็อกประตูก็ล็อกประตูสิ ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อเฉิงชิงและเหล่าสหายร่วมเรียนผ่านบานประตู
ฝูงชนล้วนกล่าวแสดงความยินดีที่นางสอบได้อันดับที่หนึ่งเป็ครั้งแรก เฉิงชิงเองก็ดีใจ
“รอข้าสามารถเคลื่อนไหวได้อิสระก่อน จะต้องเชิญทุกคนมาดื่มสุรา ไม่มีพวกเ้าเอ่ยปากเรียกร้องให้ ข้าก็จะไม่มีแม้กระทั่งโอกาสที่จะเข้าร่วมสอบ!”
ที่ซาบซึ้งที่สุดคือชุยเยี่ยน น่าเสียดายที่ชุยเยี่ยนไม่ได้อยู่ตรงนี้
นางเองก็ซาบซึ้งเหล่าสหายร่วมเรียนเหล่านี้เช่นกัน เด็กหนุ่มอายุสิบกว่าปีกลุ่มหนึ่งไม่มีความคิดอื่นใด ช่วยนางโดยไม่ได้้าสิ่งตอบแทน ทุ่มเทให้อย่างจริงใจ
ฝูงชนะโกันในทันที “งานเลี้ยงธรรมดารับรองพวกเราไม่ไหวหรอก รอให้ชุยเยี่ยนกลับมาจากบ้านเดิมแล้ว เ้าต้องเชิญทุกคนไปกินเลี้ยงที่หอไท่ไป๋”
สำรับของหอไท่ไป๋ โต๊ะหนึ่งอย่างน้อยก็ต้องจ่ายสิบกว่าตำลึงเงิน
เงินนี้ไม่ใช่ว่าเฉิงชิงรับไม่ได้ นางเองก็จ่ายไหว… จะว่าแพงก็แพงไปหน่อย แต่ฝีมือพ่อครัวของหอไท่ไป๋ก็ดีสมชื่อ เฉิงชิงชิมมาแล้วยามถูกเมิ่งไหว่จิ่นเชิญไปเมืองเซวียนตู ผ่านไปแล้วหลายเดือนบางครั้งคราวก็ยังคิดถึงรสชาตินั้น
เงินน่ะหรือ รวมๆ กันแล้วก็มีอยู่ นางจึงรับปากอย่างไม่เขินอายตรงนั้น “ได้ เลือกหอไท่ไป๋ พวกเราไม่เมาไม่กลับ!”
ฝูงชนยิ่งยินดียิ่งขึ้น
แน่นอนว่าอาหารรสเลิศทำให้ทุกคนดีใจ ยิ่งต้องดูว่ากินกับใครด้วย
หัวเราะโหวกเหวกแล้วก็มีสหายร่วมเรียนกล่าวถึงเื่จริงจัง
“เฉิงชิง สนามแรกเ้าสอบได้อันดับที่หนึ่ง ยังจะสอบอีกสี่สนามไหม?”
การสอบระดับอำเภอมีทั้งหมดห้าสนาม สนามสอบแรกสำคัญที่สุด ผู้เข้าสอบที่ได้อันดับที่หนึ่งของสนามสอบแรกมีสิทธิพิเศษอย่างหนึ่ง สามารถไม่เข้าร่วมการสอบอีกสี่สนามที่เหลือได้ สามารถร่นเวลาข้ามไปเข้าร่วมการสอบระดับเมืองได้โดยตรง
เฉิงชิงก็อยู่ในกรณีนี้ สหายร่วมเรียนรู้สึกว่านางไม่เข้าร่วมการสอบที่เหลืออีกสี่สนามเป็สิ่งที่สมเหตุสมผลที่สุด
มีสิทธิพิเศษแล้วไยจะไม่ใช้เล่า แม้เ้าเมืองอวี๋จะยินยอมให้เฉิงชิงเข้าร่วมการสอบระดับอำเภอ สุดท้ายแล้วก็เป็เพราะขึ้นหลังเสือจนยากจะลงแล้วจึงฝืนใจตอบรับ ในใจหาได้รังเกียจเฉิงชิงไม่ ยามนี้เฉิงชิงต้องเก็บตัวเงียบเสียหน่อย เข้าร่วมการสอบระดับเมืองอย่างราบรื่นจนเสร็จ เหลือเพียงสอบผ่านระดับสำนักศึกษา การได้คุณวุฒิ ‘ซิ่วไฉ’ มาไว้ในมือสำคัญยิ่งกว่าสิ่งใด!
แต่หากใช้สิทธิพิเศษ ละทิ้งการสอบอีกสี่สนามหลังจากนี้ ก็หมายความว่าเฉิงชิงละทิ้งที่จะได้อันดับที่หนึ่งของการสอบระดับอำเภอ
อันดับหนึ่งของอำเภอ เรียกได้อีกอย่างว่า ‘บัณฑิตอั้นโส่วประจำอำเภอ” รวมกับอันดับหนึ่งของการสอบระดับเมืองและระดับวิทยาลัยแล้วเรียกว่า ‘สามอันดับหนึ่งน้อย’
ขึ้นไปอีกขั้น อันดับหนึ่งของการสอบระดับมณฑลเรียกว่า ‘เจี้ยหยวน’ อันดับหนึ่งของการสอบระดับประเทศเรียกว่า ‘ฮุ่ยหยวน’ อันดับหนึ่งของการสอบหน้าพระที่นั่งเรียกว่า ‘จ้วงหยวน’ รวมกันแล้วเรียกว่า ‘สามอันดับหนึ่งใหญ่’
ละสามอันดับหนึ่งน้อยไว้ กล่าวถึงสามอันดับหนึ่งใหญ่อย่างง่ายๆ หลังจากการถือกำเนิดของระบบการสอบเข้ารับราชการ ผู้เข้าสอบที่สอบได้สามอันดับหนึ่งติดต่อกัน ในราชวงศ์ถังมีอยู่สองคน ราชวงศ์ซ่งมีหกคน ราชวงศ์หยวนมีหนึ่งคน… ราชวงศ์หยวนเดิมก็คือราชวงศ์ิ ในเวลาและสถานที่นี้ราชวงศ์ิถูกแทนที่ด้วยแคว้นเว่ยไปแล้ว แต่เว่ยก็เหมือนราชวงศ์ิ ระบบการสอบเข้ารับราชการได้รับสถานะที่สูงกว่าทุกราชวงศ์ก่อนหน้า แต่ถึงแม้แคว้นเว่ยจะก่อตั้งมาหนึ่งร้อยห้าสิบกว่าปีแล้ว จนถึงบัดนี้ก็มีผู้ที่สอบได้สามอันดับหนึ่งติดต่อกันแค่สามคน!
ในร้อยห้าสิบปีมีเทพด้านการสอบโผล่มาแค่สามคน ทุกคนล้วนเป็ตัวตนที่เหมือนกับตัวนำโชคของแว่นแคว้น ยังไม่กล่าวถึงจุดเริ่มต้นของการรับราชการสูงกว่าบัณฑิตจิ้นซื่อปีเดียวกันเท่าใด นี่ก็เพียงพอให้คนรุ่นหลังของเทพด้านการสอบคุยโวได้อีกหลายรุ่นแล้วโอเคไหม?
หนทางการผงาดของเมิ่งไหวจิ่นก็เริ่มจากการเป็บัณฑิตอั้นโส่วประจำอำเภอ
ตลอดเส้นทางเขาได้เป็บัณฑิตอั้นโส่วประจำอำเภอ ประจำเมืองและประจำสำนักศึกษา ทั้งยังได้อันดับหนึ่งของการสอบระดับมณฑล ‘เจี้ยหยวน’ บัดนี้ที่จริงแล้วได้สี่อันดับหนึ่งติดต่อกันแล้ว
หากได้ ‘ฮุ่ยหยวน’ อีก เมิ่งไหวจิ่นก็มีความหวังมากที่จะได้ ‘หกอันดับหนึ่งติดต่อกัน’…เพียงแค่คิด เฉิงชิงก็ตื่นเต้นแล้ว การสอบระดับอำเภอสนามแรก หากนางสอบไม่ได้อันดับที่หนึ่ง นางก็คงไม่มีความคิดเช่นนี้
แต่ความสามารถรวมกับโชคอีกเล็กน้อย ก็ทำให้นางสอบได้อันดับที่หนึ่งแล้ว นางถือดีอะไรถึงคิดจะละทิ้งโอกาสที่จะได้ ‘บัณฑิตอั้นโส่วประจำอำเภอ’?
เพียงเพื่อให้เ้าเมืองอวี๋ดีใจหรือ?
——ช่างมันเถอะ หากนางมีโอกาสคว้าชัย ‘หกอันดับหนึ่งติดต่อกัน’ เ้าเมืองอวี๋จะดีใจหรือไม่ เฉิงชิงก็ไม่สนใจ!
“ไม่ ข้า้าจะเข้าร่วมการสอบอีกสี่สนามที่เหลือ!”
ห่างกันเพียงบานประตู คำตอบของเฉิงชิงก้องกังวานมีพลัง
สหายร่วมเรียนกระอักกระอ่วนแล้ว “เฉิงชิง ข้า ข้าไม่ได้มีความหมายอื่น เพียงรู้สึกว่าไม่สู้เ้าสงบจิตใจทบทวนตำรารอการสอบระดับเมือง…”
“พี่ฟางหวังดีต่อข้า ตัวข้าไม่มีทางเข้าใจผิด แต่ข้าอยากจะสอบจริงๆ”
อยากสอบอะไรกัน
ย่อมต้องคิดอยากได้ตำแหน่งบัณฑิตอั้นโส่วประจำอำเภอ
ยามปกติตอนเฉิงชิงอยู่ที่สถานศึกษาดูเอื่อยเฉื่อยเป็อย่างมาก คิดไม่ถึงว่ายามนี้กลับยืนกรานหนักแน่น ทำให้ทุกคนรู้สึกคลับคล้ายคลับคลา พวกเขาเกือบลืมไปแล้ว อวี๋ซานเพ่งเล็งเฉิงชิง เฉิงชิงล้วนกล้าตอบโต้กลับ ั้แ่แรกเริ่มเฉิงชิงไม่เคยกังวลเกี่ยวกับอารมณ์ของเ้าเมืองอวี๋!
