ค่ำคืนลึกลับในห้องประชุมฝ่ายอธรรม ตะเกียงน้ำมันส่องแสงริบหรี่สะท้อนบนใบหน้าของผู้นำทั้งห้า เสียงลมพัดแรงผ่านช่องหน้าต่างไม้ ทำให้เงาของพวกเขากระพริบไหวราวเปลวไฟ
เหลียง เจี้ยนหลง ผู้นำสูงสุด
รูปร่างสูงใหญ่ ดวงตาคมดุจเหยี่ยวสีดำสนิท สายตาเยือกเย็นแผ่พลังกดดันราวกับโลกทั้งใบต้องหมอบคลาน
“เราจักโจมตีทุกสำนักของฝ่ายธรรมะสำเร็จแล้ว แต่พลังศักดิ์สิทธิ์ยังคงเร้นลับ การโจมตีครานี้มิใช่เพียงบุกสำนัก… หากแต่จักดึงความสนใจ เปิดทางให้เราเข้าถึงเป้าหมายโดยสะดวกที่สุด”
หาน อี้เซิง พรรคเขี้ยวเหล็ก
สูงโปร่งเพรียว ดวงตาดำสนิทเปล่งประกายเยือกเย็นเหมือนมีมีดซ่อนอยู่
หาน อี้เซิง พยักหน้าอย่างเยือกเย็น
“ฝ่ายธรรมะมิทันตั้งตัว พวกมันจักสับสนกับความเสียหายรอบด้าน ทุกสำนักที่เราบุก… ความหวาดกลัวและความโกลาหลจักครอบงำหัวใจของพวกมัน”
เฟิง หลี่ิ สำนักวิหคเพลิง
สูงใหญ่ ดวงตาแดงฉานราวเปลวเพลิง ผมดำยาวประดับทอง พลังของเขาแผ่ออกเหมือนไฟลนลาม
เฟิง หลี่ิ ผายมือออก ดวงตาแดงฉานฉายประกายไฟ
“เพลิงแห่งความสับสน ความหวาดกลัว และการทำลายจักเป็แรงดึงพลังของฝ่ายธรรมะให้ลอยเหนือความคาดหมาย เราจักสกัดมิให้ผู้ใดได้ใกล้พลังศักดิ์สิทธิ์”
เหม่า จื้อ พรรคม่านหมอก
สูงโปร่ง ดวงตาสีเทาอมม่วง ลึกลับ ใบหน้าเรียบขรึม เครื่องแต่งกายสีเทาเข้มเคลื่อนไหวเงียบสงัด
เหม่า จื้อ พิงผนัง เงียบแล้วค่อยเอ่ยด้วยน้ำเสียงนุ่มลึก
“หมอกของข้าและเงาที่ซ่อนอยู่จักปกป้องการเคลื่อนไหวทุกขั้นตอน หากฝ่ายธรรมะคิดสะกดจิตหรือสอดแนม… พวกมันจักเห็นเพียงความว่างเปล่า”
จาง เทียนหัว พรรคสายลมเหล็ก
เพรียวแต่แข็งแรง ดวงตาสีฟ้าเข้ม ผมดำยาวปัดไปด้านหลัง
จาง เทียนหัว คลายมือจากผม ดวงตาสีฟ้าเข้มส่องประกาย
“ความเร็วและความแม่นยำคือกุญแจ ทุกการโจมตีและเคลื่อนพลจักประสานดุจลมพายุ มิปล่อยช่องว่างให้ฝ่ายธรรมะได้แก้ตัว”
เหลียง เจี้ยนหลง พยักหน้าเบา ๆ
“ข้าเห็นพ้อง… หาน เ้ากับเฟิง จงออกประเมินความเสียหายล่าสุดของฝ่ายธรรมะ และสำรวจจุดอ่อนซึ่งพวกมันมิทันคาดคิด ส่วนเหม่า… จงสอดแนม หมอกและเงาของเ้าจักปกป้องการเคลื่อนที่ของพวกเราในทุกขั้นตอน”
หาน อี้เซิง ยิ้มเย้ยเล็กน้อย
“ข้อสังเกต… ศิษย์สำนักหยกเขียวยังรอด แต่ขณะนี้พวกมันตื่นตระหนกและสับสน เราจักใช้ช่องว่างนั้นเป็เหยื่อล่อ”
เฟิง หลี่ิ ชี้มือไปยังแผนที่บนโต๊ะ
“หากฝ่ายธรรมะรวมพลในูเาและสำนักใหญ่ เราจักก่อความวุ่นวาย ณ ทิศตะวันออกและทิศใต้ให้ถึงขีดสุด… การจุดเพลิงและเสียงโห่ร้องจักบีบให้ฝ่ายธรรมะถอยร่นจากที่มั่นโดยแน่นอน”
เหม่า จื้อ พยักหน้าอย่างลึกซึ้ง
“พวกเราจักใช้เงาและหมอกล้อมเส้นทางถอยของพวกมัน ผู้ใดคิดหนีหรือสอดแนม… จะมิอาจเห็นหนทางชัดเจนเลย”
จาง เทียนหัว เสริมด้วยความมั่นใจ
“ทุกหน่วยจักเชื่อมสัญญาณกันอย่างเคร่งครัด ฉับไว และเงียบงัน เราจะไม่ปล่อยช่องว่างให้ฝ่ายธรรมะได้ปรึกษาหรือรวมพล”
เหลียง เจี้ยนหลง แผ่สายตาเยือกเย็นราวพายุฝน
“จงจำไว้… นี่คือาแห่งจิตใจ เราจักเล่นกับความหวาดกลัวและความสับสนของพวกมัน กลลวงและการล่อคืออาวุธสำคัญ ความอดทนและเยือกเย็นของเรา จะเป็ตัวกำหนดชะตา ผู้ใดล้มเหลว… ย่อมเห็นความพ่ายแพ้อย่างเด่นชัด”
หาน อี้เซิง เอ่ยเสียงต่ำ
“ทุกการเคลื่อนไหวจักเงียบดั่งเงาเหยี่ยว… แต่เมื่อถึงคราวโจมตี จักต้องฉับไวและเด็ดขาดไร้ปราณี
เฟิง หลี่ิ พ่นลมหายใจออกเป็กลุ่มไอเย็น
“ฝ่ายธรรมะจักรับรู้เพลิงแห่งความหวาดกลัว แต่มิทันตั้งหลัก… พลังของเราจักแผ่ออกดุจเปลวไฟลามทั่วแผ่นดินยุทธจักร”
เหม่า จื้อ พยักหน้า
“หัวหน้า… เมื่อเราล้อมและล่อจนฝ่ายธรรมะสับสนแล้ว ข้าพร้อมที่จะเข้าใกล้พลังศักดิ์สิทธิ์โดยไร้อุปสรรค”
จาง เทียนหัว เอียงคอมองเหลียง เจี้ยนหลง
“หัวหน้า… เมื่อเราล้อมและล่อจนฝ่ายธรรมะสับสนแล้ว เราจะมีโอกาสเข้าใกล้พลังศักดิ์สิทธิ์โดยไม่ถูกขัดขวาง”
เหลียง เจี้ยนหลง ผ่อนลมหายใจลึก
“ดี… ทุกท่านจงจำให้มั่น พลังศักดิ์สิทธิ์คือหัวใจแห่งยุทธภพนี้ เราจะไม่พลาดแม้เพียงเสี้ยวลมหายใจ”
เสียงหัวเราะต่ำ ๆ ของเหลียง เจี้ยนหลงดังก้องในห้องประชุม ทิ้งความหวาดกลัวและความตื่นตัวแก่ผู้นำฝ่ายอธรรมทุกคน บรรยากาศเต็มไปด้วย ความมั่นใจ, ความเยือกเย็น และการวางแผนอย่างเป็หนึ่งเดียว
หาน อี้เซิงเอนตัวพิงโต๊ะ มือขยับไปบนแผนที่
“หัวหน้า… ข้าพบว่าเส้นทางหลักซึ่งฝ่ายธรรมะใช้เชื่อมสำนักทั้งหลาย มีจุดอับหลายแห่ง เราจักส่งกำลังน้อยสองหน่วยแฝงตัว ณ ที่นั้น ก่อความสับสนก่อนกองหลักของพวกมันจะมาถึง”
เฟิง หลี่ิชี้ไปยังจุดบนแผนที่
“ข้าเห็นพ้อง… จักระดมวิหคเพลิงออกป่วนพื้นที่นั้น ก่อเปลวเพลิงลวงตา บีบให้ฝ่ายธรรมะถอยร่นโดยมิทันตั้งหลัก”
เหม่า จื้อ
“ข้าจักปล่อยหมอกหนาปกคลุมเส้นทางถอย สร้างทางลวงให้พวกมันก้าวผิดทุกย่างก้าว… ไม่มีผู้ใดสอดแนมหนทางของเราได้”
จาง เทียนหัว
“ทว่าจักต้องระวัง… หากฝ่ายธรรมะมองเห็นช่องโหว่ พวกมันอาจตั้งด่านสกัด เราจักต้องมีหน่วยพร้อมรับมือแต่เนิ่น”
เหลียง เจี้ยนหลง
“ถูกต้อง… ข้าจักจัดกำลังสำรองสองหน่วย คอยโต้ตอบทุกสถานการณ์เฉพาะหน้า การเคลื่อนไหวต้องแม่นยำต่อเนื่อง หากฝ่ายธรรมะแก้ไขจุดหนึ่ง… อีกจุดจักถล่มในบัดดล”
หาน อี้เซิง
“ข้าจักส่งหน่วยลับออกสืบหาพลังศักดิ์สิทธิ์ให้จงได้ ไม่ให้ล่วงเลยแม้ครึ่งคืน”
เหลียง เจี้ยนหลง
“ดี… เราต้องเร่งมือก่อนที่ฝ่ายมารจักเคลื่อนไหว”
“การประชุมสิ้นสุด ณ บัดนี้ แยกย้ายออกปฏิบัติการตามบัญชา อย่าให้ผิดพลาดแม้เพียงครึ่งลมหายใจ”
เมื่อการประชุมสิ้นสุด ผู้นำทั้งห้าลุกขึ้นยืน มือแต่ละคนกำแน่น เตรียมพร้อมแยกย้ายเพื่อเริ่มปฏิบัติการ ทุกสายตาเต็มไปด้วยความมั่นใจและความเยือกเย็น ความสับสนและความหวาดกลัวที่พวกเขาจะสร้าง… คือเครื่องมือเดียวที่จะนำพวกเขาไปสู่พลังศักดิ์สิทธิ์
ค่ำคืนนี้… เป็เพียงจุดเริ่มต้นของการแผ่ขยายอำนาจของฝ่ายอธรรม