โจรที่เหลือทั้งหกคนเมื่อเห็นสถานการณ์กลับกลายเป็เช่นนี้ความโกรธของพวกมันก็พุ่งทะยานขึ้นถึง์แปรเปลี่ยนเป็ความบ้าคลั่ง เกรี้ยวกราด และดุร้ายอย่างยิ่ง
ฆ่ามันซะ!!
หลังจากที่มีโจรคนหนึ่งะโขึ้นเสียงดัง เป็เหมือนเสียงสัญญาณ พวกโจรที่เหลือก็พร้อมใจกันเหนี่ยวไกปืนอย่างพร้อมเพรียง
ทุกคนที่อยู่ในธนาคารต่างพากันปิดตาไม่อาจทนดูภาพโหดร้ายที่กำลังจะเกิดขึ้นได้
แต่ในขณะที่กำลังจะเหนี่ยวไกนั่นเองพวกโจรก็หยุดนิ่งอย่างกะทันหัน ร่างกายเหมือนโดนแช่แข็งอย่างฉับพลันคล้ายเป็เพียงรูปปั้นเสมือนจริงกลุ่มหนึ่ง
สักพักร่างของพวกมันก็เริ่มโงนเงนมือไม้อ่อนแรง ปืนโลหะตกกระแทกพื้นเสียงดังสนั่น
จากนั้นก็ตามมาด้วยร่างของพวกโจรชักกระตุกไม่กี่ครั้งก่อนล้มลงไปนอนแน่นิ่งอยู่กับพื้น
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้ทุกคนสับสนมึนงงอย่างยิ่งตรงประตูทางเข้าของธนาคาร ไช่หนิงปรากฏตัวขึ้น ในมือถือวิทยุสื่อสารกำลังพูดคุยอะไรบางอย่าง
เนื่องด้วยการปรากฏตัวของหญิงสาวมาพร้อมกับเหตุการณ์อันแปลกประหลาดนั่นทำให้ทุกคนไม่กล้าที่จะลุกเดินหรือแม้กระทั่งพูดคุยกัน พวกเขาไม่เข้าใจว่าเหตุใดพวกอยู่ดีๆ พวกโจรร้ายถึงล้มลงไปนอนกับพื้นตาเหลือกแบบนั้นได้
แต่นั่นไม่ใช่กับหยางเฉินเขารู้สึกโล่งใจเป็อย่างมากต่อการปรากฏตัวของบุคลากรหนึ่งในแปดสะพานเหล็กอัคคีเหลือง บุปผาพิรุณ ไช่หนิงสามารถช่วยเขาได้มากเพราะไม่เช่นนั้นเขาอาจต้องเปิดเผยความสามารถออกไป จนอาจทำให้ชีวิตต่อจากนี้วุ่นวาย
วิชาที่ไช่หนิงใช้เป็วิชาอาวุธลับของตระกูลถัง ซึ่งผสมผสานวิชาพิษเข้าไปด้วยการปลดปล่อยอาวุธลับของเธอนั้นรวดเร็วจนคนธรรมดาไม่อาจมองตามได้ทันแต่หยางเฉินสามารถเห็นรายละเอียดต่างๆ ได้อย่างชัดเจน
ถังหว่านยังคงนั่งอยู่ที่พื้นพร้อมเอามือกุมหน้าอก ทำให้หยางเฉินไม่อาจทำอย่างไรได้ เขายื่นมือออกมายิ้มกล่าวว่า
"นั่งสบายมั้ยครับ?"
ถังหว่านออกอาการเขินอายเล็กน้อย เธอลังเลอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะจับมือหยางเฉินพร้อมกับยืนขึ้นอุณหภูมิที่ส่งตรงจากมือของเขาทำให้หัวใจของเธอร้อนระอุ
"ขอบคุณที่ช่วยฉันไว้นะคะ"
หยางเฉินชี้ไปที่ประตูทางเข้า"ผู้หญิงลึกลับคนนั้นต่างหากที่ช่วยคุณไว้"
"ถ้าไม่ได้คุณช่วยถ่วงเวลาพวกโจรไว้ฉันคง..."
หยางเฉินทำอะไรไม่ถูกเขาไม่ค่อยเจอกับสถานการณ์เช่นในตอนนี้เท่าไหร่นัก
ไม่นานนักตำรวจจากด้านนอกก็วิ่งกรูเข้ามาในธนาคารเมื่อเห็นพวกโจรนอนกองอยู่ที่พื้น พวกเขาก็รีบเข้ามาใส่กุญแจมือและลากพวกโจรออกไปข้างนอกทันที
กลุ่มโจรปล้นธนาคารที่ตำรวจตามล่ามากว่าสองเดือนในที่สุดก็ถูกจับ เหล่าตำรวจต่างพากันยินดีบางคนถึงกับแอบทำร้ายพวกโจรที่หมดสติอย่างสะใจ
พนักงานธนาคารเองก็เริ่มให้ความร่วมมือกับตำรวจในการสอบปากคำ
ไช่เอี๋ยนรีบเข้าไปในห้องโถงของธนาคารหลังจากเสร็จสิ้นเื่เอกสารเธอมองไปรอบๆ และเหลือบไปเห็นหยางเฉินและถังหว่านยืนอยู่ด้วยกันเธอจึงเดินเข้าไปหาอย่างสงสัย
"นายมาทำอะไรที่นี่?"
"ธนาคารไม่ใช่บ้านคุณซะหน่อยทำไมผมจะมาที่นี่ไม่ได้"หยางเฉินตอบคำถามอย่างขบขัน
"เมื่อมีเื่ร้ายแรงเกิดขึ้นเมื่อไหร่ฉันก็จะเห็นเงาของนายอยู่ที่นั่นทุกที นั่นจะไม่ให้ฉันสงสัยนายได้ยังไงกัน?" ไช่เอี๋ยนเอ่ยถามอย่างเยาะเย้ย
เฉินเต๋อไห่ก็สองครั้งแล้วอันซินก็อีกหนึ่งครั้ง และหลินรั่วซียังแต่งงานอย่างมีเงื่อนงำอีกนั่นทำให้ไช่เอี๋ยนรู้สึกสงสัยในตัวหยางเฉินว่าเขาใช้วิธีสกปรกอะไรหรือเปล่า
หยางเฉินรู้สึกไม่พอใจทันทีเขาพยายามอดทน และกล่าวว่า
"ถ้าไม่มีอะไรแล้วผมขอตัวนะครับ"
"ไม่ได้!"
ไช่เอี๋ยนยืนขวางตัวหยางเฉินไว้
"ฉันสงสัยว่านายอาจมีส่วนร่วมกับพวกโจรหรือแม้กระทั่งการปล้นธนาคารสามครั้งที่ผ่านมา?! ดังนั้นในฐานะผู้ต้องสงสัยนายจะต้องถูกสอบปากคำในโรงพักเสียก่อน!"
ดวงตาของหยางเฉินส่องประกายเ็าไม่ว่าใครหากเจอเหตุการณ์แบบหยางเฉินแน่นอนว่าต้องไม่พอใจยิ่งไม่ต้องพูดถึงหยางเฉินที่ไม่ประสีประสาเื่การควบคุมอารมณ์
ถังหว่านสังเกตเห็นได้ถึงปฏิกิริยานี้เธอจึงรีบเอ่ยขึ้นว่า
"สารวัตรไช่ ฉันเชื่อว่าคุณหยางเป็ผู้บริสุทธิ์เขาเพิ่งจะมีเื่กับหัวหน้าโจรไป เพื่อช่วยเหลือพวกเราโปรดอย่าทำให้คุณหยางลำบากใจเลยนะคะ"
"ประธานถังคุณอยู่ในเหตุการณ์ด้วยใช่มั้ยคะ"ไช่เอี๋ยนดูเหมือนจะยังไม่เชื่อในคำพูดของถังหว่านเธอกล่าวต่อทันทีว่า "ผู้ชายคนนี้อันตรายอย่างมากเขาเข้าไปในสถานีตำรวจเพราะเื่อื้อฉาวหลายต่อหลายครั้งเขาไม่ใช่คนดีอย่างที่คุณคิดไว้ คุณอย่าถูกเขาหลอกโดยเด็ดขาด"
ถังหว่านมองหยางเฉิน เมื่อเธอเห็นรอยยิ้มอายๆของหยางเฉินก็รู้ได้โดยทันทีว่าสิ่งที่ไช่เอี๋ยนพูดเป็ความจริงหัวใจของเธอรู้สึกไม่สบายใจขึ้นมาทันทีแต่เมื่อคิดว่าหยางเฉินนั้นเพิ่งจะช่วยชีวิตเธอไว้เธอจึงไม่อาจให้ไช่เอี๋ยนพาตัวหยางเฉินไปเด็ดขาด
"เื่ที่เกิดขึ้นมาแล้วก็ให้มันเลยผ่านไปใครจะรู้ว่าต่อไปสารวัตรไช่อาจต้องขอความช่วยเหลือจากเขาก็ได้"
ไช่เอี๋ยนเป็ถึงสารวัตรของสถานีตำรวจในภาคตะวันตกเธอรู้ดีว่าเื้ัของหญิงสาวคนนี้เป็อย่างไร แม้จะเป็ตระกูลไช่ก็ตามหากไปมีเื่กับเธอขึ้นมา แน่นอนว่าเธอจะอยู่ในเมืองนี้อย่างไม่เป็สุข
ไม่เข้าใจเลยว่าผู้หญิงที่ทั้งสวยและฉลาดอย่างเธอจะออกมาปกป้องหยางเฉินทำไม?
ในขณะที่กำลังครุ่นคิดอยู่นั่นเองเสียงโทรศัพท์ของไช่เอี๋ยนก็ดังขึ้น
และเมื่อมองหมายเลขโทรศัพท์ที่ปรากฏมันกลับเป็พี่สาวแท้ๆของเธอ ไช่หนิง
"พี่อยู่ที่ไหนน่ะ?" ไช่เอี๋ยนกดรับโทรศัพท์แล้วเอ่ยถามในทันที
ไช่หนิงไม่ได้ตอบคำถามของไช่เอี๋ยน เธอเพียงเอ่ยสั้นๆ ว่า
"อย่าทำให้ชายคนนั้นไม่พอใจ"
"คนไหน?"
"หยางเฉิน..."
ไช่เอี๋ยนนึกไม่ถึงว่าพี่สาวของเขาก็พูดปกป้องชายคนนี้เช่นเดียวกัน? พวกเขารู้จักกันงั้นหรือ!?
"ทำไมละคะ ฉันอยากรู้เหตุผล" ไช่เอี๋ยนถามหัวชนฝา
ไช่หนิงเงียบไปครู่หนึ่งก่อนเอ่ยขึ้นว่า
"เอี๋ยนเอี๋ยน ฟังฉันนะเลิกสนใจเื่นี้ซะ ฉันรับประกันได้เลยว่าเขาไม่เกี่ยวข้องอะไรกับพวกโจร"
"แต่ว่า..."
"ไม่มีแต่!" ไช่หนิงสั่งด้วยน้ำเสียงเฉียบขาด "เขาไม่ใช่คนที่ทั้งฉันและเธอจะสามารถจัดการได้ต่อไปเธอต้องไม่ไปยุ่งกับเขาอีก"
ไม่ใช่คนทั้งฉันและพี่สามารถจัดการได้!?
ประโยคนี้ยิ่งทำให้ไช่เอี๋ยนไม่สบายใจ หรือหยางเฉินจะเป็คนที่กระทำเื่ที่กระทบต่อความมั่นคงของชาติอย่างงั้นหรือ ทำไมพี่สาวถึงพูดแบบนี้ออกมา?
เมื่อวางสายโทรศัพท์แล้วไช่เอี๋ยนก็ต้องเผชิญกับความยุ่งยากบางอย่าง เมื่อเห็นท่าทีอดกลั้นของหยางเฉินเธอก็ยังคงค้างคาหัวใจเป็อย่างมาก แต่ก็ไม่อาจขัดคำสั่งพี่สาวตนเองได้ เธอสูดลมหายใจลึกกัดฟันกล่าวว่า
"ดีเนื่องจากประธานถังเอ่ยปากขอ วันนี้ฉันก็จะปล่อยนายไปแต่จำไว้นะ ครั้งต่อไปสิ่งเหล่านี้จะไม่มีวันเกิดขึ้นอีกเด็ดขาด!"
ถังหว่านยิ้ม
"ขอบคุณสารวัตรไช่มากค่ะ"
หยางเฉินไม่ได้้าที่จะอยู่เพื่อแสดงความกตัญญูต่อถังหว่านเขาเพียงพยักหน้าแล้วเดินออกจากธนาคารไปในทันที
ถังหว่านเหม่อมองหยางเฉินเดินจากไปด้วยอารมณ์ที่เธอเองก็ไม่เข้าใจ
หยางเฉินตั้งใจจะหลบหนีออกไปอย่างเงียบๆเพื่อหลีกเลี่ยงสถานการณ์อันวุ่นวาย แต่จู่ๆ ก็มีไมโครโฟนปรากฏอยู่ด้านหน้าของเขาพร้อมกับผู้สื่อข่าว และกล้องมากมาย!
"นั่นเขาใช่ไหม ใช่เขาแน่ๆ!"
"คุณคะคุณเป็ฮีโร่คนนั้นใช่มั้ยคะ!?"
---
เสียงแฟลชดังขึ้นระงมนักข่าวรายล้อมหยางเฉินไว้ทุกทิศทาง
หยางเฉินกลืนน้ำลายเหนียวหนืดลงคอดังอึกนี่มันเกิดอะไรขึ้น!?
กลุ่มผู้สื่อข่าวจู่โจมด้วยไมโครโฟนใส่หยางเฉินจากทางด้านหน้าในทันทีไม่ให้เขามีโอกาสตั้งตัวได้
"คุณคะ มีผู้รอดชีวิตจากข้างในบอกพวกเราว่าคุณเป็คนที่ช่วยหญิงสาวข้างในจากพวกโจรจริงๆ หรือคะ?"
"บอกได้มั้ยคะว่าคุณทำงานอะไร?"
"พอจะเล่าสถานการณ์ข้างในอย่างละเอียดได้มั้ยคะ!?"
ผู้สื่อใช้วิชาลับประเคนคำถามรัวใส่หยางเฉินดั่งปืนกลทำให้หยางเฉินเข้าใจว่ามีคนมาบอกผู้สื่อข่าวพวกนี้ว่าเราทำอะไรไว้ด้านในพร้อมทั้งชี้เป้ามาที่เขาด้วย
โลก้าคนดีแต่เมื่อคนเลวต่างเข้าคุกไปเยอะแล้ว ดังนั้นฮีโร่จึงมีคุณค่ามากกว่าคนดีเพราะฮีโร่นั้นหาได้ยากในชีวิตจริงดังนั้นจึงมีคนจำนวนมากเต็มใจที่จะจ่ายเงินเพื่อดูเื่ราวของพวกเขา
และเมื่อฮีโร่ปรากฏตัว ผู้สื่อข่าวก็สามารถทำข่าวเรียกกระแส เรียกยอดไลค์ทำให้เรตติ้งพุ่งกระฉูดได้นานพอที่จะทำเงินได้อย่างมหาศาล!
ซึ่งหยางเฉินเกลียดวิธีการดังกล่าว เพราะมันจะเป็ชื่อเสียงที่คนอื่นยัดเยียดให้
ในขณะที่ไม่รู้จะทำอย่างไรกล้องของผู้สื่อข่าวด้านหน้าของหยางเฉินก็พลันะเิออกโดยพร้อมเพรียงกันสร้างความใให้กับนักข่าวอย่างยิ่งยวด
“โพละ! เปรี้ยง!"
คล้ายกับปฏิกิริยาลูกโซ่กล้องและนักข่าวคนอื่นๆ ต่างะเิตามกันมาเหมือนเล่นโดมิโน่
"บึ้มๆๆๆ!" เสียงะเิดังอื้ออึงถามมาด้วยเศษกล้องและฝุ่นละอองกระจัดกระจายไปทั่ว!
หยางเฉินได้โอกาสจึงรีบหลบออกไปด้านข้างอย่างรวดเร็ว
นักข่าวทั้งหมดรู้สึกหวาดกลัวขึ้นมาจับใจเพียงแค่การถ่ายภาพ และบันทึกวิดีโอ อุปกรณ์ทั้งหมดก็ถูกทำลายลงอย่างสมบูรณ์!
ที่แปลกไปกว่านั้นคือ แม้กระทั่งอุปกรณ์จัดเก็บข้อมูลหรือเมมโมรี่การ์ดก็พังไปด้วยผู้สื่อข่าวทั้งหมดต่างมองหน้ากันด้วยความสับสนอย่างยิ่ง
หยางเฉินวิ่งหนีไปจากที่เกิดเหตุอย่างรวดเร็วลัดเลาะไปตามถนนแคบๆ และไปหยุดอยู่ที่แผงหนังสือ เล็กๆ ร้านหนึ่ง
ด้านหลังของร้านเป็หญิงสาวที่สวมแว่นกันแดดกำลังนั่งอยู่บนเก้าอี้ เธอผู้นี้นั่งอ่านหนังสือพิมพ์อยู่เงียบๆ
หยางเฉินนั่งลงตรงข้ามกับผู้หญิงคนนั้นพลางถอนหายใจออกมาและยิ้มกล่าวว่า "ผมไม่คิดว่าอาวุธลับของตระกูลถังจะร้ายกาจขนาดนี้มันใช้งานง่ายกว่าะุปืนเสียอีก"
"ถ้าคุณ้าที่จะมีชื่อเสียงฉันสามารถเรียกนักข่าวมาหาคุณได้อีกครั้งนะ" บุปผาพิรุณวางหนังสือพิมพ์ลงแล้วเงยหน้าขึ้นมองหยางเฉิน
หยางเฉินโบกมือไปมาพลางกล่าวว่า
“ขอบายละกันคุณสองพี่น้องนี่ช่างไม่มีอารมณ์ขันกันเสียเลย ใครได้เป็แฟนคงเครียดตายแน่ๆ"
ั์ตาของไช่หนิงส่องประกายวาวโรจน์แม้จะมีแว่นกันแดดปิดบังไว้แต่หยางเฉินก็รู้สึกได้ถึงสายตาอันหนาวเหน็บที่แผ่ซ่านออกมา
"ฉันไม่อาจทำอะไรคุณได้แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าคุณจะสามารถข่มเหงฉันได้"
"อ่า..." หยางเฉินถอนหายใจออกมาพร้อมรอยยิ้มเขินอาย
"คุณบุปผาพิรุณครับคุณซีเรียสจัง แต่ผมก็ต้องขอขอบคุณที่ช่วยผมไว้"
"คุณไม่พอใจที่เราทราบที่อยู่ของคุณงั้นหรือ?"
"ก็นิดหน่อย แต่หากผมเป็คุณผมก็คงไม่อาจปล่อยะเิมนุษย์ให้เดินโทงๆ ไปไหนมาไหนได้" หยางเฉินกล่าวด้วยรอยยิ้ม
ไช่หนิงครุ่นคิดอยู่สักพักก่อนเอ่ยขึ้นว่า
"คุณไม่ได้ะเิธรรมดาแต่เป็ะเินิวเคลียร์ต่างหาก"
ริมฝีปากปากของหยางเฉินกระตุกเล็กน้อย
"ดูเหมือนคุณจะมีอารมณ์ขันแต่เื่ตลกนี้ออกจะเ็าไปบ้าง"
"ฉันพูดความจริง" ไช่หนิงดูเหมือนไม่เต็มใจที่จะพูดมากนัก
"ฉันแค่เดินเข้ามาในห้องโถงธนาคารแต่กลับพบว่าคุณสามารถควบคุมการเคลื่อนไหวของพวกโจรได้ทั้งหมดแล้วเห็นได้ชัดว่ามันสมบูรณ์แบบถึงขนาดครอบคลุมถึงลมหายใจของพวกนั้น"
หยางเฉินหัวเราะอยู่ภายในใจ และตระหนักได้ว่าผู้หญิงคนนี้เป็ความภาคภูมิใจของกลุ่มสะพานเหล็กอัคคีเหลืองเสียจริงๆ
"คุณอยากให้ผมสอนมั้ยล่ะ"
"คุณจะสอนฉันงั้นหรือ?" บุปผาพิรุณรู้สึกตื่นเต้นขึ้นเล็กน้อย
"หลังจากผมสอนคุณเสร็จ แล้วเราสองคนก็จะ..."หยางเฉินขยิบตาให้เธอ
บุปผาพิรุณรู้สึกเหมือนถูกล้อเล่นเธอลุกขึ้นยืน และเมินหน้าหนีไปทันที
เมื่อเห็นหญิงสาวที่เ็าแสดงออกถึงความพ่ายแพ้เช่นนี้ หยางเฉินก็รู้สึกว่าวันนี้ก็ไม่ได้โชคร้ายเสียทีเดียวเขาโบกมือก่อนกล่าวว่า
"ลาล่ะ"
เช้าของการขึ้นเงินกลับกลายเป็ว่าธนาคารถูกปล้นหยางเฉินรู้สึกว่าวันนี้โชคของเขาไม่ดีพอ และตั้งใจว่าจะกลับไปที่บริษัทหลังจากจัดการกับมื้อเที่ยงเสร็จแล้ว
แต่ทันใดนั้นโทรศัพท์ของเขาก็ดังขึ้น ปรากฏว่าเป็ป้าหวังที่โทรมา
เมื่อวานนี้หยางเฉินทะเลาะกับหลินรั่วซีเขาจึงละเลยป้าหวังที่ห่วงใยเขาอยู่ตลอดไป และตั้งใจว่าจะกลับไปหาเธอในเร็วๆ นี้
"คุณชายคะคุณชายโอเคหรือเปล่า?"ป้าหวังพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงร้อนรนถึงขีดสุด
หยางเฉินตกตะลึงไปชั่วขณะ
"ป้าหวังครับ ป้าช่วยสงบใจลงก่อนแล้วค่อยๆ พูดได้ไหมครับ?"
"ป้าเห็นคุณชายในทีวีที่เกิดการปล้นธนาคารขึ้น และป้าก็เห็นคุณชายอยู่ในนั้นด้วยตอนนั้นคุณหนูกลับมาถึงบ้านพอดี!"หลังจากพบว่าหยางเฉินไม่เป็อะไรน้ำเสียงของป้าหวังก็สงบลงอย่างมาก
"ผมนี่สร้างแต่ความเดือดร้อนไปทั่วเลยนะครับ" หยางเฉินพูดอย่างสบายๆ
"อ๊ะ" ป้าหวังร้องออกมาอย่างใ
"คุณชาย! หลังจากคุณหนูเห็นคุณชายในทีวีคุณหนูก็รีบขับรถออกไปหาคุณชายทันที คุณชายยังอยู่ที่ธนาคารอยู่หรือเปล่าคะ? คุณชายรีบไปหาเธอเร็วเข้า!"
หลินรั่วซีขับรถไปที่ธนาคารด้วยตัวเอง? เธอไม่รู้จักสิ่งที่เรียกว่าโทรศัพท์หรืออย่างไร?
"รับทราบครับป้าหวังผมจะโทรหาเธอเดี๋ยวนี้"
"ค่ะ" ป้าหวังเผยรอยยิ้มโล่งใจ
หลังจากวางสายจากป้าหวัง หยางเฉินก็รีบกดหาเบอร์หลินรั่วซีทันที แต่ในขณะนั้นเอง มือถือของเขาก็ดับลงโชคชะตาช่างน่าขัน เพราะตอนนี้แบตเตอรี่โทรศัพท์ของเขาหมดลงเสียแล้ว!