อวี๋ฉี่เจ๋อไม่ค่อยเต็มใจนักหลังจากนึกถึงสายตาใสกระจ่างที่ไร้ซึ่งความละอายใจของนางยามมองมาที่เขาเมื่อครู่แต่ก็รู้ว่าท่านแม่แอบเก็บกับข้าวไว้ให้เมิ่งอวี๋เจียวดังนั้นจึงยังคงวางม้วนตำราในมือลง หยัดกายลุกขึ้นเดินออกไปข้างนอก
ร่างสูงโปร่งดุจหยกของอวี๋ฉี่เจ๋อยืนอยู่หน้าประตูห้องเล็กเขายังคงผลักประตูเข้าไปอีกครั้ง ไม่แม้แต่จะมองอวี๋เจียวที่นอนอยู่บนพื้นมุ่งตรงไปหยิบถ้วยและตะเกียบ เมื่อพบว่าอาหารในถ้วยไม่ลดลงเลยราวกับอาหารในถ้วยแทบไม่ถูกแตะต้องถึงเอ่ยออกเสียงว่า“ไม่ใช่ว่าจะมีข้าวยกมาให้เ้ากินทุกมื้อ”
อวี๋เจียวจดจ้องอวี๋ฉี่เจ๋อั้แ่เขาเดินเข้ามาจากประตูเมื่อได้ยินเขาเอ่ยเช่นนี้จึงเผยยิ้มบาง หัวคิ้วงองุ้ม เอ่ยอย่างน่าสงสารว่า“ขาทั้งสองข้างของข้าเจ็บมาก กระดูกซี่โครงตรงหน้าอกก็หักแล้ว กินอาหารไม่ลงจริงๆเ้าช่วยไปหาสมุนไพรจำนวนหนึ่งมาให้ข้าได้หรือไม่?”
ดวงตาฉ่ำน้ำของนางกะพริบปริบๆพลางมองมาทางอวี๋ฉี่เจ๋ออย่างคาดหวัง ภายในดวงตาเป็ประกายแวววับ
ภายในความทรงจำของเมิ่งอวี๋เจียวอวี๋เจียวได้รู้ว่านายท่านของสกุลอวี๋คือท่านหมอโดยปกติมักตรวจอาการปวดหัวตัวร้อนและอาการาเ็เล็กน้อยภายในจวนสกุลอวี๋จึงมีสมุนไพรเก็บเอาไว้ไม่น้อย
ถึงแม้อวี๋ฉี่เจ๋อจะรังเกียจนางยิ่งนักแต่ยังคงยกข้าวยกน้ำมาให้นาง แสดงให้เห็นว่าเป็คนปากแข็งแต่ใจอ่อนดังนั้นอวี๋เจียวถึงได้อ้อนวอนเขาเสียงอ่อน
ผลเป็ดังคาดอวี๋ฉี่เจ๋อไม่ได้ปฏิเสธและเอ่ยออกมาว่า “ข้าไม่รู้เื่สมุนไพรนัก”
อวี๋เจียวรู้ว่าเขาไม่รู้วิชาการแพทย์ทว่ายังคงขอร้องเสียงอ่อนต่อไปว่า “ข้าพอจะรู้วิชาแพทย์แผนโบราณอยู่บ้างเ้าแค่ช่วยเอาสมุนไพรมาให้ข้าเป็พอ”
ถึงแม้ภายในใจของอวี๋ฉี่เจ๋อจะนึกสงสัยว่าอวี๋เจียวรู้วิชาการแพทย์ได้อย่างไร? แต่เขาคร้านเกินจะซักถาม เพียงเอ่ยด้วยท่าทางเ็าว่า“เ้า้าสมุนไพรอันใด?”
อวี๋เจียวได้ยินเขาเอ่ยถามเช่นนี้พลันรู้ทันทีว่ามีหนทางแล้วนางรีบเอ่ยขึ้นว่า “ต้นหม่าหลาน ฮั่นเหลียนเฉ่า[1] ยางสนแห้ง ใบต้นจ้าว[2]แต่ละอย่างจำนวนห้าสลึง นำมาบดให้ละเอียด”
อวี๋ฉี่เจ๋อฟังนางเอ่ยราวกับรู้เื่สมุนไพรจริงๆทำให้ความสงสัยภายในใจยิ่งเพิ่มมากขึ้น เพียงแต่ไร้ซึ่งความใคร่รู้เขาคิดเอาไว้ว่าหลังจากอาการาเ็ของอวี๋เจียวหายดีแล้วจะไล่นางออกไป
เมื่อเห็นอวี๋ฉี่เจ๋อหันหลังมุ่งหน้าออกไปข้างนอกอวี๋เจียวรีบเอ่ยเสริมอีกหนึ่งประโยค “ช่วยเอาสุราสมุนไพรมาให้ข้าอีกเล็กน้อยด้วย”
อวี๋ฉี่เจ๋อไม่ส่งเสียงใดแต่อวี๋เจียวรู้ว่าเขาได้ยินแล้ว คนผู้นี้ใบหน้าเ็ายากเข้าหา ทว่าภายในใจกลับอ่อนโยนเป็มิตร
สิ่งที่นาง้าเป็เพียงสมุนไพรรักษาาแภายนอกจำนวนหนึ่งส่วนวิธีรักษาภายใน นางก็มีเช่นกัน แต่จากท่าทีที่สกุลอวี๋มีต่อนางใช้ตาตุ่มคิดก็ยังรู้ว่ามีหรือจะปล่อยให้อวี๋ฉี่เจ๋อต้มยาให้นาง
ฮูหยินเฒ่าอวี๋และสะใภ้สามแซ่จ้าวต่างมีนิสัยชอบนอนกลางวันตอนนี้ภายในลานเรือนเหลือเพียงสองสามีภรรยาครอบครัวใหญ่ที่ยังคงสานกระบุงหวายเมื่อเห็นอวี๋ฉี่เจ๋อเดินออกมาจากห้องเล็ก คนทั้งสองล้วนไม่กล้าส่งเสียง
ฮูหยินเฒ่าของสกุลอวี๋คือภรรยาใหม่ของนายท่านอวี๋บุตรคนโตและบุตรคนรองคือบุตรภรรยาคนก่อนหน้าของนายท่านอวี๋มีเพียงบุตรคนที่สามถึงจะเป็บุตรแท้ๆ ของสตรีแซ่อวี๋โจวด้วยเหตุนี้บุตรชายคนโตและบุตรชายคนรองจึงสนิทสนมกันมากกว่าบุตรคนอื่นสักหน่อย
อวี๋ฉี่เจ๋อเดินมองหาสมุนไพรตากแห้งอยู่ภายในลานเรือนตามที่เมิ่งอวี๋เจียว้าถึงแม้จะไม่รู้วิชาสมุนไพร แต่ยังคงได้ยินได้ฟังยามนายท่านอวี๋รักษาคนป่วยมาบ้างทำให้คนในสกุลอวี๋พอจะรู้เื่สมุนไพรไม่มากก็น้อยน้อยนักที่คนทั่วไปจะขึ้นไปเก็บสมุนไพรบนเขา ประชาชนทั่วไปมักจะมาหาซื้อตามโรงหมอและนี่ก็คือรายได้หลักอีกหนึ่งทางนอกจากการทำนาของสกุลอวี๋
เมื่อเห็นว่าอวี๋ฉี่เจ๋อหาสมุนไพรสะใภ้ใหญ่แซ่จางเอ่ยถามเสียงเบา “เ้าห้า เ้าจะเอาสมุนไพรไปทำอะไร?”
อวี๋ฉี่เจ๋อเคารพนับถือสะใภ้ใหญ่มาโดยตลอดในยามที่อวี๋เมิ่งซานขึ้นเขาไปเก็บยาจนถูกสัตว์ร้ายกัดขาขาดผู้ที่แบกเขากลับมาก็คืออวี๋เฉียวซานผู้นี้ นับั้แ่เกิดเื่กับครอบครัวรองบุตรชายคนโตและสะใภ้ใหญ่คอยช่วยเหลือครอบครัวรองอยู่ไม่น้อย
เขาตอบกลับเสียงเบา“หาสมุนไพรจำนวนหนึ่งไปรักษาแผลให้นางขอรับ”
คำว่า‘นาง’ คำนี้หมายถึงผู้ใด ไม่จำเป็ต้องถามก็รู้
สตรีแซ่จางเอ่ยเสียงเบาอย่างรู้สึกไม่เป็ธรรมแทนอวี๋ฉี่เจ๋อ“จะหายาไปให้นางทำไมกัน? เ้าห้าเ้าจะไปสนใจทำไมกันว่าคนเช่นนั้นจะเป็หรือตาย!”
ถึงแม้เมิ่งอวี๋เจียวกับอวี๋ฉี่เจ๋อจะไม่ได้เป็สามีภรรยากันจริงๆอีกทั้งยังไม่มีพิธีกราบไหว้ฟ้าดิน แต่นางเข้ามาอยู่ในสกุลโดยมีฐานะเป็ภรรยาเสริมมงคลการเปลื้องอาภรณ์ขึ้นไปนอนบนเตียงของญาติพี่น้องเช่นนี้ช่างน่าสมเพชเสียจริงบุรุษคนใดจะทนได้เล่า?
อวี๋ฉี่เจ๋อไม่พูดอะไรเพียงก้มหน้าลงค้นหาสมุนไพรต่อไป มิใช่ว่าเขาไม่ได้รู้สึกแสลงใจอะไรกับสิ่งที่เมิ่งอวี๋เจียวทำจริงๆสิ่งที่ผู้หญิงคนนี้ทำนั้นล้ำเส้นมากเกินไปแต่จะว่าไปแล้วก็เป็เพราะร่างกายของเขาไม่ดีทำให้แม่นางสกุลอื่นต้องเสียเวลาเปล่าไปชั่วชีวิต
หลายปีมานี้เขาเคยชินกับวาจาเ็าและเย้ยหยันเสียแล้วแม้เมิ่งอวี๋เจียวจะทำเื่เช่นนี้อีกก็ไม่เป็อะไรเพราะเขาคัดค้านการแต่งงานเสริมมงคลมาั้แ่ต้นแต่ช่วยไม่ได้ที่ผู้เฒ่ากลับเชื่อคำพูดของนักพรต
“เ้าพูดให้น้อยลงสักหน่อย” อวี๋เฉียวซานดึงแขนสตรีแซ่จางไปอีกด้านบุรุษล้วนรักเกียรติกันทุกคน ถึงแม้เ้าห้าจะยังอายุน้อยแต่เมื่อพบเจอเื่เช่นนี้ เกรงว่าภายในใจคงต้องรู้สึกไม่ดีแน่
สะใภ้แซ่จางรู้สึกไม่เป็ธรรมแทนครอบครัวรองตอนแรกผู้ที่ซื้อตัวแม่นางเมิ่งเข้ามาในสกุลก็คือนายท่าน ครั้นตอนนี้เกิดเื่ขึ้นมากลับผลักภาระทั้งหมดไปให้ครอบครัวรองเหตุใดถึงรังแกผู้อื่นเช่นนี้
สตรีแซ่จางคือคนวาจาดุจมีดแต่จิตใจดุจเต้าหู้เช่นกันเพราะกลัวว่าอวี๋ฉี่เจ๋อจะค้นหานานเกินไปแล้วถูกครอบครัวสามและฮูหยินเฒ่ามาพบเข้านางวางกระบุงหวายในมือ เดินมายังราวไม้ตรงหน้าที่ใช้ตากสมุนไพร เอ่ยถามเสียงเบาว่า“ยังเหลือสมุนไพรอะไรบ้าง?”
“ยังเหลือฮั่นเหลียนเฉ่าขอรับ” อวี๋ฉี่เจ๋อเอ่ย
“ฮั่นเหลียนเฉ่า? ข้าจำได้ว่าเมื่อครั้งก่อนหลังจากตากแห้งเรียบร้อยแล้วท่านพ่อเอาไปเก็บไว้ในห้องทางฝั่งตะวันตก ข้าจะไปหาดูสักหน่อย”สตรีแซ่จางเอ่ยพลางเดินไปทางห้องโถง
ห้องเก็บสมุนไพรอยู่ติดกับห้องของครอบครัวสามมือเท้าของสตรีแซ่จางแ่เบายิ่งนักค้นหาภายในห้องโถงฝั่งตะวันตกอยู่ครู่หนึ่งกว่าจะพบฮั่นเหลียนเฉ่าสะใภ้แซ่จางเพิ่งจะคว้าเอามาได้หนึ่งกำมือ ทันใดนั้นถูกอวี๋ฮั่นซานที่เดินมาจากห้องข้างๆพบเข้าเสียแล้ว
เขาเห็นท่าทางลับๆล่อๆ ของสตรีแซ่จางจึงเอ่ยถามออกมาว่า “พี่สะใภ้ใหญ่ ท่านทำอะไรลับๆ ล่อๆ?”
สตรีแซ่จางเอาฮั่นเหลียนเฉ่าซ่อนไว้ในแขนเสื้อตอกกลับโดยไม่หวาดกลัวแม้แต่นิด “ผู้ใดลับๆ ล่อๆ? ข้าเจ็บคออยากหาสมุนไพรไปต้มดื่มยังต้องทำลับๆ ล่อๆ งั้นหรือ?”
อวี๋ฮั่วซานจดจ้องมองมือของนางเอ่ยซักไซ้ว่า “เจ็บคอ? พี่สะใภ้ใหญ่ไม่รู้วิชาสมุนไพรอย่าได้หยิบผิด”
สตรีแซ่จางแต่งเข้าสกุลอวี๋เกือบจะยี่สิบปีแล้วยังพอรู้เื่สมุนไพรอยู่บ้าง เอ่ยพลางเดินออกมาข้างนอก “ข้าร้อนในจนเจ็บคอแค่มาเอาดอกสายน้ำผึ้งกำมือหนึ่งไปต้มกิน ไม่ใช่ของมีราคาอันใด น้องสามเ้ายังจ้องข้าราวกับข้าเป็โจรเช่นนั้น?”
อวี๋เฉียวซานได้ยินเสียงความเคลื่อนไหวภายในห้องแล้วเมื่อเห็นสตรีแซ่จางเดินออกมาจึงเอ่ยหนุนหลังว่า “หาดอกสายน้ำผึ้งพบหรือไม่? ไม่เช่นนั้นจะได้ปลุกท่านพ่อ ให้ท่านพ่อช่วยเขียนเทียบยาให้เ้า?”
สตรีแซ่จางคล้อยตามส่ายหน้าไปมา “ท่านพ่อชอบนอนกลางวัน ข้าแค่เป็ร้อนใน ไม่ใช่โรคภัยไข้เจ็บร้ายแรงต้มดอกสายน้ำผึ้งกินสักถ้วยก็ช่วยดับร้อนได้แล้วเ้าค่ะ”
ขณะเอ่ยเดินไปทางห้องหุงต้มท่าทางคล้ายจะต้มดอกสายน้ำผึ้งจริงๆ
เมื่อเห็นอวี๋ฉี่เจ๋อยืนอยู่ภายในลานเรือนนางเอ่ยว่า “เ้าห้า เ้าช่วยเอาหม้อต้มยามาให้ข้าหน่อย”
อวี๋ฉี่เจ๋อเดินถือหม้อต้มยาจีนเข้ามาในห้องครัวสตรีแซ่จางรีบยัดฮั่นเหลียนเฉ่าภายในมือให้เขา เอ่ยถามเสียงเบาว่า“เท่านี้พอหรือไม่?”
“พอแล้วขอรับ” หนึ่งกำมือนี้ของสตรีแซ่จางไม่ใช่แค่ห้าสลึงเรียกได้ว่าเหลือเฟือ
“ให้ข้าต้มยาเถิด” สตรีแซ่จางเอ่ยพลางล้างหม้อต้มยาเพราะถึงอย่างไรนางก็บอกกับน้องสามว่าจะต้มดอกสายน้ำผึ้ง จะได้ช่วยเขาต้มยาไปในคราวเดียวกัน
อวี๋ฉี่เจ๋อส่ายหน้า“ขอบพระคุณท่านป้าขอรับ แต่สมุนไพรเหล่านี้ล้วนแต่ใช้ภายนอก ไม่ต้องต้มขอรับ”
เชิงอรรถ
[1] ฮั่นเหลียนเฉ่า 旱莲草 หรือ กะเม็ง ชื่อสามัญ Falsedaisy, White head, Yerbadetajo herb
[2] ต้นจ้าว 皂树หรือ Gleditsiasinensis หรือตั๊กแตนน้ำผึ้งจีนเป็สายพันธุ์ของพืชดอกพื้นเมืองเอเชีย