เล่มที่ 2 บทที่ 38 ดอกบัวสีแดง
สำหรับหลินเฟยเองนั้น เขาได้แร่ไท่อี๋ั้แ่ตอนอยู่ที่แม่น้ำหยิน แถมยังใช้เคล็ดวิชาจูเทียนฝูถูจนหลอมละลายได้ปราณกระบี่ไท่อี๋ นับว่าก้าวเข้าสู่เส้นทางการบำเพ็ญไปอีกขั้น
แต่ตอนนี้กลับสายไปเสียแล้ว เริ่มฝึกขั้นจู้จีไปก็แก้ไขอะไรไม่ได้อีก ต่อให้หลินเฟยใช้วิชาหมื่นกระบี่จูเทียนก็ตาม เพราะมันเป็การฝืนกฎธรรมชาติที่จะต้องค่อยๆฝึกไปทีละขั้น เคล็ดกระบี่มากมายที่เ้าของร่างเดิมเคยฝึกบัดนี้กลายเป็เพียงรากฐานไปเสียแล้ว ไม่อาจพัฒนาได้อีกต่อไป โอกาสเดียวที่มีคือตอนบรรลุขั้นฟ่าเซินนั้น จะต้องอาศัยพลังจากฟ้าดิน ช่วยชำระเอาเคล็ดกระบี่เ่าั้ให้หมดไป…
หากเป็เช่นนี้ ก่อนที่จะบรรลุขั้นฟ่าเซิน จะต้องมีผลกระทบต่อการบำเพ็ญแน่ๆ เพราะรากฐานไม่มั่นคงพอ สาเหตุที่ไม่มั่นคงก็เพราะเส้นทางบำเพ็ญนี้มันไม่ถูกหลักนั่นเอง…
ซ่งเทียนสิงกลับนำข่าวดี เื่ที่ผู้าุโอู๋แห่งหุบเขาหมัวเจี้ยนได้เตาฟงอวี่แปดทิศมา ช่างสมพรปรารถนาอะไรเช่นนี้ แม้เตาฟงอวี่แปดทิศจะไม่มีข้อดีอะไรเลย ทว่าเปลวไฟแปดทิศของมันนั้นสามารถหลอมละลายทุกสิ่งได้…
หลินเฟยจึงคิดอาศัยเปลวไฟแปดทิศหลอมละลายรากฐานตนเอง…
ใช่แล้ว เื่ไปตามหาแร่โฮ่วเทียนที่หอว่านเป่า หรือจะเป็เื่ที่จงใจยั่วโมโหผู้าุโจนถูกจับแขวนบนเตา ทั้งหมดที่ทำไปกเพื่อสิ่งเดียวเท่านั้น นั่นคือเพื่อให้ได้เข้ามาในเตาฟงอวี่แปดทิศนี้ เพื่อจะได้ใช้เปลวไฟแปดทิศหลอมรากฐานตนเองใหม่นั่นเอง!
เปลวไฟแปดทิศนี่ช่างหายากเสียจริง…
หากนับเวลาดู หลินเฟยก็อยู่ในเตาประมาณครึ่งชั่วยามแล้ว นอกจากทะเลเพลิงที่ไม่มีที่สิ้นสุด ก็ไม่เห็นเปลวไฟแปดทิศเลยแม้แต่เงา…
‘ช้าก่อน เปลวไฟแปดทิศ…’
ขณะที่เข้าตาจนในหัวก็เกิดความคิดบางอย่างขึ้นมา…
“ช่างโง่เสียจริง…”
เมื่อรู้ว่าสิ่งนั้นคืออะไร หลินเฟยก็พึงสำนึกขึ้นมาได้ว่าตัวเองนั้นได้ทำพลาดไปเสียแล้ว…
หลินเฟยเข้าใจว่าเปลวไฟแปดทิศนั้นเป็เปลวไฟที่มีจิติญญา จะต้องแตกต่างจากเปลวไฟทั่วไป ทว่าเขากลับหลงลืมเื่หนึ่งไปสนิท นั่นก็คือเปลวไฟแปดทิศย่อมสามารถบงการเปลวไฟทั่วไปได้ ต่อให้พยายามหาอย่างไรก็หาไม่เจอ บางทีท่ามกลางทะเลเพลิงที่ไม่สิ้นสุดแห่งนี้ แท้จริงแล้วก็คือเปลวไฟแปดทิศที่กำลังบงการเพื่ออำพรางไม่ให้หาเปลวไฟแปดทิศเจอ…
“ถ้าแบบนี้ก็ง่ายขึ้นเยอะ…” คิดได้ดังนั้นหลินเฟยก็เริ่มโคจรพลังปราณ เพียงพริบตาเดียวปราณกระบี่สีทองและสีขาวทั้งสองสาย ก็พลันะเิสูงออกไปนับสิบจ้าง
ก่อนที่ลำแสงกระบี่สองสายจะสะบั้นลงท่ามกลางทะเลเพลิง ทันใดนั้นเปลวไฟที่ลุกท่วมอยู่ก็ถูกปราณกระบี่ขั้นเซียนเทียนและโฮ่วเทียนสองสายหมุนสะบัดจนปั่นป่วนไปหมด ต่อให้ปะทะกับวิชามารฟ้าสยบเซียนด้วยเคล็ดวิชาหมื่นกระบี่จูเทียน ก็สามารถชนะขาดลอยได้อย่างง่ายดาย แล้วนับประสาอะไรกับเปลวไฟธรรมดาเหล่านี้
ปราณกระบี่ทั้งสองสายทำให้เปลวไฟเ่าั้เกิดความปั่นป่วนไปหมด หลินเฟยไม่แม้แต่จะหยุดเพียงเท่านี้ แต่เขากลับโหมโคจรพลังปราณมากขึ้นอีก ทำให้พลังของปราณของกระบี่ทั้งสองรุนแรงยิ่งขึ้น เปลวไฟมากมายก็โหมแรงไปมาราวกับเหล่าัเพลิงกำลังเต้นระบำอยู่ก็ว่าได้…
หลังจากหลินเฟยสยบเปลวไฟเหล่านี้ได้สำเร็จ ทันใดนั้นเองเขาก็เห็นดวงไฟลูกหนึ่งผุดขึ้นมา…
“เจอแล้ว!”
ไม่นานนัก ดวงไฟลูกนั้นก็กลายสภาพเป็ัเพลิงตัวมหึมา มันกางกรงเล็บออกก่อนที่จะพุ่งมาทางหลินเฟย ตัวเขาเองก็ไม่รอช้า รีบสะบั้นปราณกระบี่สองสายเข้าต้านทันที ัเพลิงถูกผ่าเป็สองซีก ทว่าสิ่งที่อยู่ตรงหน้านั้นไม่ใช่เปลวไฟธรรมดา หลังจากถูกผ่าออกมาเป็สองซีก ก็เกิดเสียงคำรามดังก้อง ต่อจากนั้นหัวและหางของมันก็เข้ามากอดรัดหลินเฟยเอาไว้แน่น…
“ร้ายกาจ!” หลินเฟยถูกัเพลิงรัดร่างของเขาไว้จนแน่น อุณหภูมิสูงจนสามารถหลอมละลายได้ทุกสิ่ง พริบตาเดียวก็เผาทำลายอาภรณ์ของหลินเฟยจนหมดสิ้น หลินเฟยกลับรู้สึกใเพียงเล็กน้อยเท่านั้น เพราะรู้ดีว่าตัวเองจะต้องเผชิญหน้ากับเตาฟงอวี่แปดทิศอยู่แล้ว เขาถึงขั้นลงทุนซื้อเสื้อผ้าที่ทำจากด้ายหิมะกลับมาจากหอว่านเป่า เพื่อรับมือเปลวไฟแปดทิศเลยทีเดียว
แต่คิดไม่ถึงเลยว่าเพียงพริบตาเดียว เสื้อผ้าอาภรณ์ของเขาก็ถูกเปลวไฟแปดทิศเผาจนกลายเป็เถ้าถ่านเช่นนี้แล้ว
ยังดีที่หลินเฟยเองก็ว่องไวพอ เมื่อเห็นท่าไม่ดี ก็รีบเก็บปราณกระบี่ทั้งสองกลับเข้าไป ปราณกระบี่สีทองนั้นถูกเก็บไว้ที่จุดตันเถียน เพื่อป้องกันไม่ให้จุดตันเถียนถูกทำลาย ส่วนปราณกระบี่สีขาวก็กลายเป็กระแสไอเย็นห่อหุ้มกายเนื้อเอาไว้
จะว่าไปหลินเฟยเองก็โชคดีไม่น้อย ก่อนที่จะเข้ามาในเตาฟงอวี่แปดทิศ ก็บังเอิญได้แร่อิ๋นเหวินมาพอดิบพอดี จึงทำให้ตัวเขาในตอนนี้มีปราณกระบี่อิ๋นเหวิน ที่เต็มไปด้วยทั้งกระแสไอเย็นและพลังหยิน
ปราณกระบี่อิ๋นเหวินกับเปลวไฟแปดทิศมีพลังรุนแรงไม่ต่างกัน กระแสไอเย็นนั้นไม่อาจแช่แข็งัเพลิงได้ ขณะที่ัเพลิงเองก็ไม่อาจทำร้ายหลินเฟยได้เช่นกัน…
หลินเฟยรู้สึกถึงโอกาสที่กำลังมาถึงแล้ว
ในระหว่างที่ปราณกระบี่อิ๋นเหวินปะทะกับเปลวไฟแปดทิศอยู่นั้น หลินเฟยก็ถีบตัวเองลงสู่ก้นทะเลเพลิง ท่ามกลางแสงทั้งแปดสายบนเพดาน หลินเฟยก็นั่งขัดสมาธิลง และแล้วทุกอย่างก็เงียบสงบ สามารถต้านทานต่อเปลวไฟธรรมดาและเปลวไฟแปดทิศที่กำลังแผดเผา หลินเฟยค่อยๆโคจรวิชาหมื่นกระบี่จูเทียนอีกครั้ง…
หากเวลานี้มีใครสักคนเข้ามา เขาผู้นั้นก็จะเห็นว่าทุกครั้งที่หลินเฟยหายใจอยู่ จะมีดอกบัวสีแดงปรากฏขึ้นด้วยเสมอ…
หนึ่งดอก สองดอก สามดอก…
สุดท้ายทั่วทั้งร่างกายก็เต็มไปด้วยดอกบัวสีแดง
ดอกบัวทุกดอกคือเปลวไฟแปดทิศ หลินเฟยเองจึงนั่งอยู่บนดอกบัวเ่าั้ด้วย จากนั้นก็ค่อยๆหลอมรากฐานใหม่ขึ้นอีกครั้ง…
ไม่อาจปฏิเสธได้เลยว่า เปลวไฟแปดทิศนั้นสามารถหลอมละลายสรรพสิ่งได้อย่างสมคำร่ำลือจริงๆ ดอกบัวสีแดงค่อยๆเบ่งบานทีละดอกภายใต้เคล็ดวิชาหมื่นกระบี่จู่เทียน หลินเฟยรับรู้ได้ว่ารากฐานที่ไม่บริสุทธิ์ของตัวเองนั้น กำลังถูกชำระไปทีละนิด…
อักขระที่กำลังถูกชำระไป คือเคล็ดวิชากระบี่ที่เ้าของร่างเดิมฝึกฝนมาอย่างยากลำบาก หยาดเหงื่อที่ทุ่มเทไปนั้น เกรงว่าคงจะมีแค่เ้าตัวเท่านั้นที่รับรู้ได้
แต่หลินเฟยไม่้าสิ่งเ่าั้แล้ว…
เพียงแค่ให้เปลวไฟแปดทิศชำระอักขระพวกนั้นให้หมดสิ้น เช่นนี้หลินเฟยก็จะก้าวเข้าสู่เส้นทางการบำเพ็ญด้วยวิชาหมื่นกระบี่จูเทียนได้อย่างสมบูรณ์
กระบี่ระลึกตนถูกได้ถูกชำระแล้ว กระบี่ชีฉินก็ถูกชำระแล้ว และกระบี่พลีชีพก็ถูกชำระไปแล้วเช่นกัน อักขระวิชากระบี่มากมายถูกชำระไปจนหมดสิ้น หลินเฟยรู้สึกได้ว่ารากฐานตนเองตอนนี้กำลังสะอาดบริสุทธิ์มากเลยทีเดียว…
หลินเฟยกำลังสร้างรากฐานตนเองใหม่ในเตาฟงอวี่แปดทิศ
ส่วนหลี่ฉุนที่อยู่ด้านนอกก็สร้างสถานการณ์ว่าหลินเฟยหนีไปแล้วเรียบร้อย หากมีใครมาเห็นเข้าก็คงจะคิดว่าหลินเฟยหนีรอดจากพันธนาการเชือกโลกันตร์ไปแล้วจริงๆ
แต่หลี่ฉุนกลับรู้สึกว่ามันยังไม่สมบูรณ์พอ
“ขาดอะไรไปนะ…” หลี่ฉุนลูบคางพลางครุ่นคิด
“จริงสิ ทำไมถึงลืมไปได้นะ!” ไม่นานหลี่ฉุนก็ตบหัวตัวเอง
“เหตุผลที่ต้องหนี ก็เพราะเปลวไฟมันปะทุขึ้นมาอย่างไรล่ะ!”
------------------------------------------------------------------------------------------------------