บทที่ 29 เทือกเขาไป่หลิง
เทือกเขาไป่หลิง ตั้งอยู่ในเขตชานเมืองด้านตะวันออกของเมืองไป๋หยาง สถานที่แห่งนี้เต็มไปด้วยพลังิญญา บนเขามีทั้งนกและสัตว์ปีศาจจำนวนนับไม่ถ้วนอาศัยอยู่
จุดประสงค์ของการประลองเซี่ยหยางในรอบแรก คือเพื่อทดสอบความเข้าใจ ความกล้าหาญ และความสามารถในฝีมือของนักรบรุ่นเยาว์
ท้ายที่สุดแล้ว การประลองนี้นอกจากประลองแต้มสัตว์ปีศาจแล้ว ยังมีสัตว์ปีศาจโบราณจำนวนมากปะปนอยู่ด้วย หากนักรบสุ่มโจมตีก็จะเป็การสิ้นเปลืองพลังและไร้ประโยชน์
มีเพียงการค้นหาสัตว์ร้ายที่มีคะแนนสูง คว้าโอกาส และโจมตีเป้าหมายเพียงครั้งเดียวเท่านั้น ที่จะทำให้ได้รับแต้มและเพิ่มโอกาสในการผ่านเข้าสู่รอบต่อไป
ฉู่อวิ๋นพาดกระบี่เศวตรรุ้งไว้บนหลังแล้วะโขึ้นไปบนกิ่งไม้อย่างรวดเร็ว
“ซ่าซ่า——”
ทันใดนั้น เงาสีดำก็ปรากฏขึ้นบนหญ้าที่สูงระดับเอว วิ่งผ่านพื้นที่โล่งที่อยู่ห่างออกไปเพียงสามหมี่อย่างรวดเร็ว และรีบวิ่งเข้าไปในกอหญ้าอีกครั้ง
เงาดำนั้นว่องไวมาก หากเป็คนธรรมดา แม้ว่ามันจะวิ่งผ่านหน้าก็ยังไม่ทันได้เห็นรูปร่างที่ชัดเจนของมัน
แต่ด้วยสายตา ณ ตอนนี้ของฉู่อวิ๋น เขาสามารถมองเห็นได้ชัดเจนโดยทันทีว่าเป็งูตัวยาวที่มีลำตัวสีเหลือง
งูไฟฟ้า เป็สัตว์ปีศาจระดับสี่ที่มีเขี้ยวโค้งสองซี่ เคลื่อนที่รวดเร็วมากและการโจมตีของมันทำให้เป็อัมพาตได้
มันปรากฏร่างให้เห็นเพียงแวบเดียว ฉู่อวิ๋นก็พบว่าร่างของงูนั้นปกคลุมไปด้วยวงแหวนหยกและมีก้อนหินเล็กๆ ฝังอยู่
“นี่คือศิลาหยกสินะ ฮ่าๆ โชคดีนัก ไม่คิดว่าจะเจอสัตว์ปีศาจทันทีที่เข้ามาในูเา” ฉู่อวิ๋นยิ้มอย่างภาคภูมิใจ ะโลงจากต้นไม้และไล่ตามงูไฟฟ้าทันที
"ชี่!"
ปฏิกิริยาของงูไฟฟ้านั้นว่องไวมาก ทันทีที่ฉู่อวิ๋นเคลื่อนไหว มันก็เร่งความเร็วหนีไปทันที
“เ้างูน้อย เ้าจะหนีไปไหนได้?”
ฉู่อวิ๋นเดินผ่านกอหญ้าอย่างรวดเร็ว หญ้าด้านหน้าทั้งหมดสิบหมี่ถูกกระบี่ฟันออก ร่างสีเหลืองของงูไฟฟ้ากระทบกับแสงแดดทันที
เมื่อเทียบกับความเร็วของงูไฟฟ้า เห็นได้ชัดว่าช้ากว่าฉู่อวิ๋นมาก
“จะหนีไปไหนอีกหรือ? หึหึ”
"ชี่!"
สัตว์ปีศาจเืนอง เมื่อเห็นการโจมตีอันน่ากลัวของมนุษย์ที่อยู่ด้านหลัง งูไฟฟ้าจึงหันกลับไปแลบลิ้นใส่ทันที เผยให้เห็นเขี้ยวสองซี่ที่โผล่ออกมาเป็เส้นโค้งไฟฟ้าจำนวนนับไม่ถ้วน
"ชี่!"
ร่างของงูไฟฟ้าเปล่งประกายราวกับสายฟ้าที่คลานอยู่บนพื้น พุ่งตรงไปยังตำแหน่งของฉู่อวิ๋นอย่างรวดเร็ว ทั้งยังปล่อยกระแสไฟฟ้าเล็กๆ ออกมาจากปากด้วย
“เ้ายังกล้าเข้ามาอีกหรือ? เ้างูน้อย” ฉู่อวิ๋นยิ้ม ถือกระบี่ไว้ในมือและแทงลงไปอย่างสบายๆ
"ชี่--"
ก่อนที่งูไฟฟ้าจะเข้าใกล้ ปลายกระบี่เศวตรรุ้งก็เจาะหัวของงูและปักมันไว้กับพื้นดินแล้ว
ในสายตาของฉู่อวิ๋น งูไฟฟ้าตัวนี้ที่ภูมิใจในความเร็วของมัน กำลังเคลื่อนไหวช้าลงเรื่อยๆ
และตอนนี้ ฉู่อวิ๋นไม่จำเป็ต้องใช้กระบวนท่ากระบี่เพื่อจัดการกับสัตว์ปีศาจระดับสี่เลย
เพียงแทงกระบี่ออกไปก็สามารถฆ่าพวกมันได้แล้ว
“ไม่รู้ว่าเ้าระดับสี่นี่จะมีกี่แต้มกัน?” ฉู่อวิ๋นคุกเข่าลง หยิบแต้มศิลาหยกออกจากซากงู แล้ววางมันไว้ในมือ
มองเห็นคำว่า "สิบ" สลักอยู่บนศิลาหยกผิวเรียบ
“สัตว์ปีศาจระดับสี่มีค่าเพียงสิบแต้มเองหรือ? ถ้าอย่างนั้นหากเป็สัตว์ปีศาจระดับต่ำ ก็มีค่าเพียงไม่กี่แต้มเช่นนั้นหรือ?” ฉู่อวิ๋นตกตะลึงเล็กน้อย แสดงท่าทางครุ่นคิด
หากยังอยู่นอกูเาและคอยล่าสัตว์ปีศาจระดับต่ำถึงกลาง จริงอยู่ที่จะได้แต้มมาโดยง่าย
แต่อย่างไรเสีย ต่อให้เป็สัตว์ปีศาจระดับต่ำ จำนวนที่มีในการประลองก็มีจำกัด
ในเวลานี้ น่าจะมีนักรบระดับต่ำออกล่าอยู่ใกล้ๆ เช่นกัน จำนวนสัตว์ปีศาจในบริเวณนี้ย่อมลดลงอย่างมาก และมันจะกลายเป็สถานการณ์ที่มีภิกษุมากภัตตาหารน้อย
จากนั้น ทางเลือกเดียวที่เหลือคือการปล้นชิง แต่ฉู่อวิ๋นไม่สนใจที่จะทำเช่นนั้น
“ดูเหมือนว่าจะต้องเดินลึกเข้าไปในูเา แล้วค้นหาสัตว์ที่มีแต้มระดับสูงก่อน ถึงจะคว้าโอกาสที่จะกลายเป็ผู้ชนะได้” ฉู่อวิ๋นหยิบแต้มศิลาหยกแล้วเดินหน้าต่อไปอย่างเร็วที่สุด
ตราบใดที่เขาได้รับแต้มศิลาหยกมากพอ ฉู่อวิ๋นก็มีความมั่นใจที่จะปกป้องตัวเอง
แน่นอนว่าถ้ามีคนมาแย่งมันไป เขาก็จะไม่รังเกียจที่จะแย่งมันกลับมา
ระหว่างทาง ฉู่อวิ๋นพบกับสัตว์ที่มีแต้มต่ำเป็ครั้งคราว แต่เขาก็ไม่ได้แสดงความเมตตา ลงมือเก็บศิลาหยกแต้มต่ำใส่ไว้ในกระเป๋า โดยไม่้าให้พวกมันไร้ประโยชน์
ลัดเลาะผ่านผืนป่าก็เจอกับแม่น้ำสายยาวไหลผ่านูเา น้ำใสไหลเชี่ยว คลื่นน้ำสีฟ้ากระเพื่อมทำให้ดูเงียบสงบ
ฉู่อวิ๋นกำลังจะข้ามไป แต่เมื่อเขามองดูอีกครั้งก็พบกับสัตว์สีขาวราวหิมะหลายตัวกำลังดื่มน้ำอยู่ริมแม่น้ำ
นี่คือสัตว์ประเภทลมที่มีลักษณะเหมือนม้าขาว มีนิสัยเชื่อง เป็สัตว์กินพืชและค่อนข้างใกล้ชิดกับมนุษย์
หางของพวกมันมีสีฟ้าและวิ่งเร็วมาก เหล่านักรบจะถือว่าพวกมันเป็สัตว์แห่งการขนส่ง
ฉู่อวิ๋นใจเต้นระรัว “การแข่งขันล่าสัตว์กินเวลาหนึ่งวัน ถ้าข้าเอาแต่วิ่งต่อไป พลังย่อมลดลงไปมาก ถ้าจับสัตว์แห่งลมมาใช้เป็พาหนะได้ก็คงจะดี”
เมื่อคิดได้ดังนั้น ฉู่อวิ๋นก็ข้ามแม่น้ำทันที เขายื่นมือออกไปััสัตว์แห่งลม ให้มันเข้าใกล้เขาอย่างสบายใจ
“นี่! เ้าตัวน้อย พาข้าไปรอบๆ หน่อยได้ไหม?”
"ฮี่!"
ราวกับตอบสนองต่อฉู่อวิ๋น สัตว์แห่งลมส่งเสียงแล้วเอาหัวลูบหน้า
"ดี!"
ฉู่อวิ๋นะโพาตัวเองขึ้นขี่บนหลังของสัตว์แห่งลม
"ไปกันเถอะ!" ฉู่อวิ๋นควบสัตว์แห่งลม กำลังจะขี่ให้มันข้ามแม่น้ำ
“ฟิ้ว——”
ทันใดนั้นก็มีเสียงลมพัดดังมาจากอีกทางหนึ่ง
ลูกศรแหลมคมหลายดอกพุ่งมาจากระยะไกล ก่อตัวเป็ฝนลูกศรหนาแน่นและตกลงมาจากท้องฟ้าอย่างรวดเร็ว
“ฟิ้ว ฟิ้ว ฟิ้ว——”
ลูกศรเ่าั้มีพลังแข็งแกร่งและโจมตีสัตว์แห่งลมที่อยู่ใกล้เคียงได้อย่างแม่นยำ
ร่างของสัตว์แห่งลมเ่าั้ถูกศรธนูยิงเข้า เืไหลนองไปทั่วพื้น พวกมันมีเวลากรีดร้องและต่อสู้เพียงไม่กี่ครั้งเท่านั้น จากนั้นก็ตายทันที
แต่ท้ายที่สุดแล้วยังมีลูกศรอีกสองดอกที่มีแรงส่งอันมหาศาล ยิงตรงไปที่สัตว์แห่งลมของฉู่อวิ๋น
"ฟิ้ว"
ดวงตาของฉู่อวิ๋นหรี่ลง เขารีบดึงกระบี่เศวตรรุ้งออกมาแล้วฟันขึ้นไปในอากาศ!
ก่อนที่ลูกศรทั้งสองจะกระแทกพื้น พวกมันก็ะเิกลางอากาศจนกลายเป็เศษเล็กเศษน้อย
การโจมตีที่คุ้นเคย ลูกศรที่คุ้นเคย
ฉู่อวิ๋นหันกลับมาและเห็นร่างสามร่างเดินออกมาจากป่าทึบ ทุกคนมีรอยยิ้มยียวนบนใบหน้า
หนึ่งในนั้นคือมู่หรงเหิง พี่ชายผู้เอาแต่ใจของมู่หรงซิน อีกสองคนก็ถือคันธนูเหล็กและทำหน้าเคร่งขรึมตามมา เห็นได้ชัดว่าพวกเขาเป็ผู้เข้าร่วมการประลองที่ได้รับมอบหมายจากมู่หรงเจี๋ยให้คอยคุ้มกันมู่หรงเหิง
ด้วยการฝึกฝนของมู่หรงเหิงที่อยู่ในระดับสี่ของขอบเขตควบแน่นพลังปราณ แทบเป็ไปไม่ได้เลยที่จะเข้าสู่รอบสองได้โดยไม่ได้รับความช่วยเหลือ
การประลองเซี่ยหยางเป็การประลองที่มู่หรงเจี๋ยจัดขึ้น ดังนั้นจึงเป็เื่ปกติที่เขาจะเข้าข้างลูกตัวเอง
“ฮ่าๆ ! อาวุธมนุษย์ระดับสูงที่ท่านพ่อมอบให้ใช้งานดีจริงๆ! ข้าฆ่าสัตว์แห่งลมระดับห้าได้ตั้งหลายตัวในคราวเดียว” มู่หรงเหิงมองไปที่ฉู่อวิ๋นที่อยู่ไม่ไกล ในขณะที่ลูบคันธนูในมือไปด้วยและยกยิ้มไปด้วย
ใบหน้าของฉู่อวิ๋นเปลี่ยนเป็เ็าและพูด "ไปที่ไหนก็ต้องเจอเ้าอยู่เรื่อย นี่มันอะไรกัน? หรือพ่อของเ้ากลัวว่าเ้าจะตายในเทือกเขาไป่หลิง เลยส่งสมุนสุนัขสองตัวมาอยู่เป็เพื่อนเ้า"
เมื่อได้ยินดังนั้น นักรบอีกสองคนก็หน้าบึ้งและกำคันธนูเหล็กของตนไว้แน่น
ฉู่อวิ๋นคนนี้เยาะเย้ยพวกเขาอย่างชัดเจน และมอบแต้มศิลาหยกทั้งหมดที่พวกเขาได้รับให้กับมู่หรงเหิง
“เชอะ!” มู่หรงเหิงตะคอกอย่างเ็าและพูดว่า “เ้ามีความสามารถขนาดไหนกัน? เ้าไม่กล้าฆ่าสัตว์ปีศาจด้วยซ้ำ แต่กลับกล้าขี่สัตว์แห่งลม เรามาที่นี่เพื่อล่าสัตว์ปีศาจและล่าแต้มศิลาหยกนะ ไม่ใช่มาท่องเขาเที่ยวสมุทร”
ฉู่อวิ๋นยิ้มเยาะ มู่หรงเหิงโง่เขลานัก เขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่าต้องสิ้นเปลืองพลังปราณไปขนาดไหน
การยิงสัตว์ปีศาจโบราณโดยไม่คิดหน้าคิดหลัง ไม่ช่วยอะไรในการล่าแต้มศิลาหยก
“จริงหรือ? เกรงว่าคนที่มาท่องเขาเที่ยวสมุทรจะเป็เ้ามากกว่ากระมัง” ฉู่อวิ๋นชี้ไปที่กองซากศพของสัตว์แห่งลมบนพื้นและมองตรงไปที่มู่หรงเหิง “ไม่มีแต้มศิลาหยกบนตัวสัตว์พวกนี้หรอกนะ ธนูที่เ้ายิงมาเมื่อครู่เสียเปล่าแล้ว”
"ควั่บ!"
ดวงตาของฉู่อวิ๋นเปลี่ยนเป็เ็า เขาวาดกระบี่หนึ่งที ปรากฏแสงสีม่วงส่องประกายผ่านความว่างเปล่า
ลูกศรทั้งหมดที่ติดอยู่บนพื้นถูกฟันเป็ชิ้นๆ
"เ้า!" เมื่อเห็นการกระทำของฉู่อวิ๋น ดวงตาของมู่หรงเหิงก็เบิกกว้าง สีหน้าโกรธเคือง
ในฐานะผู้ฝึกธนู เขายังไม่ถึงขั้นควบแน่นลูกศรด้วยพลังปราณ และไม่มีิญญายุทธ์ที่พิเศษเหมือนมู่หรงซิน ดังนั้น จำนวนลูกศรที่มีให้ใช้จึงมีจำกัด
นอกจากนี้ ลูกศรเ่าั้ยังทำจากเหล็กชั้นดี ไม่ใช่ลูกศรธรรมดา
ทุกครั้งหลังจากยิงธนู มู่หรงเหิงจะเก็บมันกลับมา
แต่เมื่อกี้นี้ ฉู่อวิ๋นกลับฟันลูกศรทั้งหมดบนพื้นเป็ชิ้นๆ นี่เป็การสูญเสียครั้งใหญ่ของมู่หรงเหิง
“บ้าเอ๊ย! เ้าสองคนรีบไปฆ่าเ้าสารเลวนั่นให้ข้า! ข้าเกินจะทนแล้ว!” มู่หรงเหิงะโอย่างโกรธเคือง ชูคันธนูยาวในมือแล้วชี้ไปที่ฉู่อวิ๋น
เมื่ออีกสองคนได้ยินคำของมู่หรงเหิง พวกเขาก็ไม่ลังเล ในมือกระชับคันธนูและลูกศรแน่น พลังปราณพุ่งสูงขึ้น และมีเจตนาฆ่าอย่างชัดเจน
ในฐานะลูกชายของมู่หรงเจี๋ย มู่หรงเหิงรู้การเตรียมการของเหล่าผู้คุมล่วงหน้าแล้ว ตอนนี้เขากล้าโจมตีฉู่อวิ๋นด้วยความมั่นใจ เห็นได้ชัดว่าเขารู้ว่าบริเวณใกล้เคียงนี้ใกล้กับพื้นที่เฝ้าระวัง
ผู้คุมล้วนเป็ผู้แข็งแกร่งที่เป็กลางในเมืองไป๋หยาง และไม่ได้อยู่ภายใต้อิทธิพลของมู่หรงเจี๋ย ดังนั้นแม้ว่ามู่หรงเหิงจะมีสถานะพิเศษ พวกเขาก็ยังคงต้องระวัง
ยามนี้ ฝ่ายมู่หรงเหิงทั้งสามคนยืนเคียงข้างกัน ง้างคันธนูเข้าหาตัว โดยมีลูกธนูทั้งหมดเก้าดอกบนคันธนู
“ไม่คิดว่าแม้แต่เ้าเมืองมู่หรงที่จัดการประลองอย่างยุติธรรมจะมีใจเอนเอียงเช่นนี้ด้วย” ฉู่อวิ๋นยิ้มเยาะครั้งแล้วครั้งเล่า เมื่อเห็นลูกศรของทั้งสามคน ในที่สุดเขาก็รู้ว่ามู่หรงเจี๋ยต้องจัดการเื่นี้อย่างระมัดระวังมานานแล้ว ซ้ำยังต้องให้มู่หรงเหิงเข้ารอบสองให้ได้ด้วย
“ในเมื่อเป็เช่นนี้ ข้าจะตัดสิทธิ์เ้าเอง!”
ดวงตาของฉู่อวิ๋นมืดมนลง เขาก้มลงกระซิบที่หูของสัตว์แห่งลม "เ้าตัวน้อย สามคนที่อยู่ข้างหน้าคือฆาตกรที่สังหารสหายของเ้า เ้า้าแก้แค้นหรือไม่? ข้าช่วยเ้าได้นะ!"
"ฮี่!!!"
ดวงตาของสัตว์ปีศาจฉายแววดุร้าย มันกระโจนตัวขึ้นด้วยกีบหน้า มองขึ้นไปบนท้องฟ้าและส่งเสียงร้อง ราวกับว่ามันกำลังยืนยันคำตอบ
ฉู่อวิ๋นกอดคอมันด้วยมือซ้ายทันที เขาใช้มือขวาจับกระบี่เศวตรรุ้งแล้วพูดอย่างเคร่งขรึม "เอาล่ะ! ถ้าอย่างนั้นเราก็บุกเข้าไปกัน อย่าไปกลัว!"
"ฮี่!"
ทันทีที่กีบหน้าของมันตกลงมา สัตว์แห่งลมก็พาฉู่อวิ๋นทะยานออกไป
“ฟิ้ว——”
บนพื้นราบ หนึ่งคนหนึ่งม้าก่อให้เกิดเงาลมหมุนที่รุนแรง พัดพาฝุ่นไปทั่วท้องฟ้าและเร่งความเร็วผ่านหน้าไป!
“เ้าโง่นี่รนหาที่ตายแท้ๆ ! ยิงมันให้ตายเสีย!”
มู่หรงเหิงออกคำสั่ง และลูกศรเหล็กเนื้อดีเก้าดอกก็เล็งไปที่ฉู่อวิ๋นอย่างรวดเร็ว คันธนูนั้นราวพระจันทร์เต็มดวง พลังปราณราวสายรุ้ง และกำลังจะยิง!
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้