“ไม่เห็น ถนนมืดไม่มีไฟเลยเห็นแค่เค้าโครง ไม่ได้ยินเช่นกันว่าพวกเขาคุยกระไร แต่สตรีนางนั้นไม่ใช่ภรรยาของเขาเป็แน่ ข้าเคยเห็นภรรยาของเขามาก่อน อวบอ้วนราวกับหมู”
จ้าวสุ่ยเซิงกำชับเขา “เ้าจับตาดูต่อไป แต่ต้องระวังเสียหน่อย อย่าให้ตัวเองเดือดร้อน จะเห็นหรือไม่เห็นย่อมไม่เป็ไร สิ่งสำคัญคือความปลอดภัยของเ้าเองเข้าใจหรือไม่?”
ขอทานน้อยตอบอย่างภูมิใจ “ข้ารู้แล้วจ้าวเกอ ท่านวางใจเถิด รับประกันว่าข้าจะไม่ถูกเขาจับได้ เื่แค่นี้ข้ายังทำไม่ได้แล้วข้าจะไปเป็ขอทานได้อย่างไร!”
“อากาศเย็นขึ้นเรื่อยๆ นี่เป็เสื้อคลุมผ้าฝ้ายตัวเก่าของข้า เ้าเองก็อย่ารังเกียจ ใส่ไว้คลายความหนาวเถิด” จ้าวสุ่ยเซิงมอบห่อผ้าในมือให้ขอทานน้อย “ข้าไปก่อนล่ะ ต้องช่วยท่านพ่อซื้อของกลับไป อีกสองสามวันข้าจะมาหาใหม่”
ขอทานน้อยรีบลุกขึ้นส่ง “อ้อ ขอบคุณจ้าวเกอ จ้าวเกอค่อยๆ เดิน!”
ในอำเภอ
เจียงหงหย่วนกลับดึกแต่ตื่นเช้า
ตอนหลินหวั่นชิวตื่น เขาก็ฝึกชกต่อยในลานบ้านเสร็จแล้ว
“เมื่อคืนท่านกลับมาเมื่อใด? ข้าไม่เห็นได้ยินเสียงเลย” ยายสวีต้มน้ำร้อนเสร็จก็ออกไปจ่ายตลาด หลินหวั่นชิวจะยกน้ำเข้ามาล้างหน้าบ้วนปากเองแต่ถูกเจียงหงหย่วนแย่งถือกะละมัง
“กลับมาตอนต้นยามโฉ่ว[1]” เขาวางอ่างน้ำร้อนลงบนชั้นวาง มองภรรยาตัวน้อยบิดผ้าเช็ดทำความสะอาดใบหน้า รอจนนางล้างหน้าเสร็จแล้วก็ใช้ผ้าเช็ดหน้าของนางมาเช็ดใบหน้าตัวเองเช่นกัน
ความจริงเขาล้างหน้าั้แ่ตอนตื่นแล้ว แต่ตอนนี้อดทำตามภรรยาตัวน้อยไม่ได้
“วันหน้าชินกับงานก็สบายแล้ว ได้กลับบ้านเร็วขึ้น” เจียงหงหย่วนพูด “เหตุใดกัน คิดถึงข้าหรือ?”
เขาหันมามองภรรยาตัวน้อยของตัวเอง สายตาเร่าร้อนประหนึ่งหมาป่าที่จ้องเหยื่อ พิจารณาว่าควรเริ่มกินจากส่วนใด
“ไม่คิดถึง!” หลินหวั่นชิวไม่กล้าตอบว่าคิดถึง ขนาดไม่เล่นด้วย บุรุษผู้นี้ก็ะโขึ้นมาแล้ว หากเล่นด้วยขึ้นมา เขาจะไม่ปีนขึ้นไปถึง์เลยหรือ
“ไม่คิดถึง…” เจียงหงหย่วนหรี่ตา มือหนารวบเอวหลินหวั่นชิวเข้าอ้อมอก
เขาแรงเยอะมาก ใบหน้าหลินหวั่นชิวแทบจะกระแทกใส่หน้าอกเขา กล้ามเนื้อบนร่างก็แข็ง ไม่สบายตัวอย่างมาก
“เ้าเบาหน่อย!” หลินหวั่นชิวกลอกตาใส่เขา
“แค่นี้ก็เจ็บแล้ว…” เจียงหงหย่วนก้มหน้าลงที่หูหลินหวั่นชิว ลมหายใจอุ่นร้อนรดลงบนคอนาง ใบหน้านางเปลี่ยนเป็สีแดงก่ำ
“ตอนเข้าหอจะทำอย่างไร…หรือว่าจะ…รีบปรับตัวให้ชินก่อนหรือไม่…”
“ปล่อยข้าเดี๋ยวนี้” หลินหวั่นชิวดิ้นในอ้อมแขนเจียงหงหย่วน แต่บุรุษผู้นี้กอดนางแน่นมาก ดิ้นอย่างไรก็ไม่หลุด
ทั้งที่เข้าสู่ต้นฤดูหนาวแล้ว แต่บุรุษหนุ่มกลับใส่แค่เสื้อตัวบาง มีเพียงเสื้อผ้าบางขวางกั้น นางได้ยินเสียงหัวใจเต้นแรงของเขา
“พี่สะใภ้…”
“ประตูห้องพี่สะใภ้ปิดอยู่ น่าจะยังไปตื่น พวกเราไปช่วยงานที่ห้องครัวกันเถิด”
จังหวะนี้เอง เสียงของจ้าวหงฮวากับหวางกุ้ยเซียงดังมาจากด้านนอก หลินหวั่นชิวยิ่งร้อนใจ “รีบปล่อยข้า ข้างนอกมีคนนะ”
“ประตูปิดอยู่ จะกลัวกระไร?” กอดร่างภรรยาตัวน้อยไว้ในอ้อมแขน สูดดมกลิ่นหอมของนาง แค่นี้ก็ฟุ้งซ่านเสียแล้ว
ััของภรรยาตัวน้อยช่างดีกระไรเช่นนี้!
“หยุดเล่นได้หรือไม่?” หลินหวั่นชิวขอร้อง บุรุษผู้นี้ต้องทำให้นางขายหน้าจนหมดถึงจะพอใจ
“จูบข้าก่อน แล้วข้าจะยอมปล่อย” บุรุษบึกบึนกลัวจะยั่วยุไม่สำเร็จเช่นกัน กัดใบหูของนางแล้วพูด
เสียงเขาลึกทุ้มและมีแรงดึงดูดราวกับแม่เหล็ก ิญญาหลินหวั่นชิวแทบหลุดออกจากร่าง มันคืบคลานเข้ามาในหูเหมือนมด คืบคลานเข้าสู่ใจนาง
จะฆ่ากันหรือ!
หลินหวั่นชิวรู้สึกเหมือนโดนไฟช็อต สมองขาวโพลน
“เชื่อฟัง…จูบข้าก่อนแล้วข้าจะยอมปล่อย พวกนางรอเ้าอยู่ด้านนอกนะ”
เสียงเตือนของเจียงหงหย่วนทำให้หลินหวั่นชิวได้สติทันที นางจนปัญญา ได้แต่เขย่งเท้าประทับจูบลงบนริมฝีปากเขาภายใต้สายตาอันเร่าร้อนของอีกฝ่ายอย่างรวดเร็ว
แต่น่าเสียดาย บุรุษบึกบึนจะปล่อยนางไปได้อย่างไร
เขาไล่ต้อนมาทันที จับกุมริมฝีปากที่ถอยหนีของนาง…
คราวนี้กระแสไฟฟ้ารุนแรงกว่าเดิม ช็อตั้แ่ศีรษะจรดปลายเท้า ร่างกายนางอ่อนระทวยในอ้อมแขน
คิดจะเอาชีวิตนางจริงๆ ใช่หรือไม่!
เพียงแต่ เ้าหมอนี่คิดว่าแทะขาหมูอยู่หรือ ออกแรงเยอะกระไรเช่นนี้!
เพื่อปกป้องตัวเองไม่ให้โดนแทะปากจนพัง หลินหวั่นชิวต้องตอบกลับและแนะนำอย่างอ่อนโยน
ถูกนางช่วยแนนะนำ บุรุษบึกบึนเหมือนได้ค้นพบแผ่นดินผืนใหม่ เลียนแบบอย่างกระตือรือร้น ท้ายที่สุดก็กลับมาเป็ฝ่ายนำอีกครั้งทั้งที่เพิ่งลองทำแค่สองสามครั้ง
ต้องยอมรับว่าบุรุษผู้นี้มีพร์ด้านนี้มาก
อื้ออื้ออื้อ…
ในที่สุด เจียงหงหย่วนก็ปล่อยนาง
ปากของภรรยาตัวน้อยถูกเขาแทะจนแดงกว่าเดิม เหมือนลูกอิงเถา[2]สีแดงสดบนต้นไม้
“หลบไป…” หลินหวั่นชิวมองเขาด้วยความโมโห ไม่ต้องส่องกระจก นางก็รู้ว่าปากตัวเองต้องบวมเป็แน่
ตอนนี้มันชาจนไม่รู้สึกกระไรทั้งนั้น
เจียงหงหย่วยก้มหน้าลูบปากนางเบาๆ ก่อนที่จะยอมปล่อยนางออกไปด้วยความอาลัยอาวรณ์
“เ้าออกไปก่อน ข้าขอนอนพักอีกประเดี๋ยว” เจียงหงหย่วนเดินไปที่เตียง ถอดรองเท้าแล้วปีนขึ้นไป
เขาไม่ได้ปกปิดความเปลี่ยนแปลงของตัวเองจากหลินหวั่นชิว ทำเอาหลินหวั่นชิวหน้าแดงจนอยากมุดดินหนี
จะยิ่งใหญ่เกินไปแล้ว ทุกครั้งที่พี่น้องที่ผงาดตัวพร้อมข้ามแม่น้ำหย่าลวี่ได้ทุกเมื่อของเขา นางหวาดกลัวเสมอ
มารดามันเถิด ใหญ่ขนาดนั้นนางต้องตายเป็แน่
ชีวิตนี้ไม่ต้องเข้าห้องหอได้หรือไม่? (เจียงหงหย่วน “หึหึ เป็ไปได้หรือ?”)
หลินหวั่นชิวออกจากห้องด้วยความโมโห พร้อมกับปิดประตูห้องให้ด้วย
“พี่สะใภ้ ปากท่านเป็กระไรหรือ?”
เพิ่งเดินเข้ามาในครัว หวางกุ้ยเซียงจ้องปากนางและถามขึ้น
“เพิ่งตื่นเลยสะลึมสะลือ ชนเข้ากับประตู” หลินหวั่นชิวตอบอย่างสงบ ในใจพลางก่นด่าเจียงหงหย่วนไปด้วย
เชิงอรรถ
[1] ยามโฉ่ว(丑) ่เวลาั้แ่ 01.00-02.59 น.
[2] ลูกอิงเถา(樱桃) หมายถึง ลูกเชอร์รี่
