เซียวอวิ๋นถิงดึกดื่นไม่หลับไม่นอน ในศาลากลางน้ำจุดเตาไฟให้ความอบอุ่นรอบทิศ ส่วนตนเองนั่งอยู่ในศาลากินเนื้อดื่มสุรา ผ่อนคลายไม่รีบร้อน
เนื้อกวางที่แล่เป็แผ่นบางถูกย่างด้วยถ่านไม้จนส่งกลิ่นหอมเย้ายวน เฉิงชิงอดไม่ได้ที่จะกลืนน้ำลาย เซียวอวิ๋นถิงเชิญนางนั่ง เฉิงชิงก็หย่อนก้นนั่งบนม้านั่งหินจริงๆ
“ซื่อจื่อช่างสำราญ”
“ข้าเดาว่าเ้านอนไม่หลับ จึงให้คนเชิญเ้ามาร่วมดื่มด้วยกัน แต่บัดนี้ข้าก็ได้เปลี่ยนแผนแล้ว”
เซียวอวิ๋นถิงปรบมือ แก้วสุราตรงหน้าเฉิงชิงก็ถูกเปลี่ยนเป็ถ้วยชาร้อนหนึ่งใบ
“เด็กน้อยไม่ควรดื่มสุรา เ้ายังคงเหมาะกับการดื่มชา”
คนขี้โรคเป็ห่วงเป็ใยนางเช่นนี้ เฉิงชิงไม่ได้ปลาบปลื้มเป็ล้นพ้น นางเพียงรู้สึกอึดอัด
รู้อยู่เต็มอกว่านางคือเด็กเล็ก แล้วไยถึงเชิญนางให้มาหากลางดึกเล่า?
“ข้านึกว่าการแลกเปลี่ยนกับซื่อจื่อสิ้นสุดแล้วเสียอีก แต่ท่าทีของซื่อจื่อกลับดูเหมือนว่าจะไม่เป็เช่นนั้น เฉิงชิงเป็เพียงราษฎรตัวเล็กๆ ผู้หนึ่ง ไม่มีคุณสมบัติที่จะร่วมกินเนื้อดื่มสุรากับซื่อจื่อหรอกขอรับ”
ตำแหน่งบัณฑิตอั้นโส่วแห่งอำเภอเป็ลางดีที่ฟังดูไพเราะ ผ่านระดับอำเภอแล้วแต่ก็ยังไม่นับว่ามีคุณวุฒิ บัดนี้เฉิงชิงเป็คนตัวเปล่าผู้หนึ่งอย่างแท้จริง
เซียวอวิ๋นถิงมองนาง
ไม่ ไม่ใช่
ปากกล่าวว่าตนเองเป็ราษฎรตัวเล็กๆ ที่แสดงออกในแววตากลับไม่ใช่อย่างชัดเจน
ราษฎรตัวเล็กๆ ที่แท้จริง เมื่อเห็นขุนนางก็ล้วนแข้งขาอ่อนแล้ว ยิ่งไม่ต้องพูดถึงการมานั่งด้วยกันกับซื่อจื่อแห่งจวนอ๋อง?
เซียวอวิ๋นถิงจำเฉิงชิงได้ นอกเหนือจากความสามารถที่เก่งกาจในการทำบัญชี ก็เป็เพราะ ‘ความพิเศษ’ ของเฉิงชิง เพื่อความพิเศษเล็กน้อยนี้ เขาไม่ถือสาที่จะมาหนานอี๋อีกสักครั้ง
“มิผิด การแลกเปลี่ยนสิ้นสุดแล้ว เ้าช่วยข้าทำบัญชี ข้าคืนความบริสุทธิ์ให้บิดาเ้า เงินและสิ่งของได้รับเรียบร้อยแล้ว เ้าและข้าไม่ได้ติดค้างอะไรกัน”
บัญชีปลอมที่เฉิงชิงทำมีประโยชน์ ส่วนสิทธิ์ในการใช้ประโยชน์บัญชีปลอมเ่าั้อย่างเฉพาะเจาะจงเช่นไรอยู่ที่เซียวอวิ๋นถิง เขาไม่จำเป็ต้องอธิบายอย่างละเอียดให้เฉิงชิงฟัง ก็เหมือนกับที่เขาเองก็ไม่ต้องเอ่ยถึงขั้นตอนการพนันอย่างละเอียดว่าเขาใช้การตายของเฉิงจือหย่วนปลุกความละอายใจของฮ่องเต้อย่างไร... แต่เื่อื่น เซียวอวิ๋นถิงย่อมต้องเอ่ย
“ขุนนางปกติแม้จะเสียชีวิตในหน้าที่ ราชสำนักก็ได้แต่เพียงเลื่อนขั้นย้อนหลังให้สูงกว่ายามยังมีชีวิตหนึ่งขั้น นอกเสียจากทำคุณงามความะเืแผ่นดิน ทำให้ราชสำนักต้องตกรางวัลให้อย่างหนัก บิดาของเ้าตายอย่างอยุติธรรม แต่ก็ไม่ถึงขนาดเลื่อนขั้นย้อนหลังจากขั้นเจ็ดเป็ขั้นสี่ นอกเสียจากความยินดี เ้าได้ใคร่ครวญอย่างลึกซึ้งถึงสาเหตุในนี้หรือไม่?”
เฉิงชิงย่อมต้องเคยคิด!
มีประโยคหนึ่งที่กล่าวได้ดี ของขวัญที่โชคชะตามอบให้ล้วนแปะราคาในที่ลับไว้แล้วทั้งนั้น ได้รับอะไรมาก็ต้องจ่ายไปตามนั้น นี่แสดงให้เห็นชัดเจนถึงพระเมตตาอันกว้างใหญ่ไพศาลของฝ่าาที่ไม่สมเหตุสมผล น่ากลัวว่า้าให้พวกนางทั้งครอบครัวจ่ายราคาที่ยากจะรับไหว!
ตอนกลางวันคนในบ้านเยอะเกินไป เฉิงชิงจึงตัดสินใจหาโอกาสพูดคุยอย่างละเอียดกับนายท่านห้าเกี่ยวกับเื่นี้
แต่ยังไม่ทันได้พูดคุยก็ถูกเซียวซื่อจื่อเรียกขึ้นมาจากบนเตียง
“เป็ซื่อจื่อที่ใช้อำนาจในนั้น?”
เซียวอวิ๋นถิงต่อสู้เพื่อให้เฉิงจือหย่วนได้รับชื่อเสียงหลังเสียชีวิตที่ยิ่งใหญ่ถึงปานนี้ ไมตรีนี้ช่างยิ่งใหญ่นัก เฉิงชิงเกรงว่าตนเองต้องขายตัวให้จวนเยี่ยอ๋องถึงจะสามารถทดแทนได้
บนใบหน้านางเต็มไปด้วยความไม่ยินยอมพร้อมใจ เซียวอวิ๋นถิงได้แต่ทำเป็ไม่เห็น ส่ายหน้าปฏิเสธการคาดเดาของเฉิงชิง
“มีสาเหตุมาจากข้าเล็กน้อย แต่ไม่ใช่สิ่งที่สำคัญที่สุด ที่ครอบครัวพวกเ้าได้รับคือการชดเชยของฮ่องเต้... มลทินของจวนเยี่ยอ๋องและบนร่างบิดาเ้าได้รับการชำระล้างจนสะอาดแล้ว เงินช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติที่ถูกยักยอกไม่เกี่ยวข้องกับจวนเยี่ยอ๋อง ฮ่องเต้ก็ได้ทรงตรวจสอบพบผู้บงการหลังฉากแล้ว แต่ฮ่องเต้ทรงไม่คิดจะลงโทษคนผู้นั้น ดังนั้นจึงทรงตกรางวัลหนักให้แก่ผู้บริสุทธิ์ที่ถูกพัวพันในครั้งนี้ ไม่เพียงบิดาเ้า จวนเยี่ยอ๋องเองก็ได้รับการตกรางวัลอย่างหนัก”
การเยาะเย้ยปรากฏเพียงแวบเดียวบนหน้าของเซียวอวิ๋นถิง
เฉิงชิงตกตะลึง “ความหมายของซื่อจื่อคือ ฮ่องเต้ทรงใช้วิธีการไกล่เกลี่ยเส้นแบ่งถูกผิดให้เลือนรางมาตัดสินคดียักยอกเงินช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติหรือ?”
เซียวอวิ๋นถิงค่อยๆ พยักหน้า
ไฟโทสะของเฉิงชิงถูกจุดขึ้นแล้ว
เื่นี้เมื่ออยู่ในสังคมของยุคปัจจุบัน ก็เท่ากับฆ่าคนไปแล้ว ชดใช้เงินเล็กน้อยให้แก่ครอบครัวของเหยื่อก็เป็อันคลี่คลายคดี มาตกรไม่ต้องเข้าคุก!
เลื่อนขั้นย้อนหลังเป็จ้านจื่ออิ่นขั้นสี่อะไรกัน บรรดาศักดิ์กงเหรินขั้นสี่อะไรกัน คุ้มครองสิทธิ์จำกัดในการเข้าศึกษาในสำนักศึกษาหลวง ล้วนเป็การชดเชยที่มอบให้ครอบครัวเฉิงชิง
นางไม่ได้้าการชดเชยเช่นนี้
ให้นางเป็ขุนนางใหญ่ทั้งยังเลื่อนขั้นย้อนหลังให้บิดาผู้จากไป ขอแต่งตั้งบรรดาศักดิ์ให้นางหลิ่ว
นางเองก็ไม่ได้้าการสืบทอดสิทธิ์จำกัดในการเข้าศึกษาในสำนักศึกษาหลวง ไม่ได้เข้าสำนักศึกษาหลวงก็ไม่อาจส่งผลกระทบในการสอบเข้ารับราชการของนางได้!
เมื่อได้รู้ความจริงจากปากของเซียวอวิ๋นถิง ไฟในใจของเฉิงชิงก็โหมไหม้ในทันที คลื่นไส้จนอยากอาเจียน——แต่ไหนแต่ไรมานางก็ไม่ใช่คนมีคุณธรรมเที่ยงตรงพิเศษมากมาย แต่นางเข้าข้างพรรคพวกตนเองมาก นางไม่้าการชดเชยเหล่านี้ ในฐานะครอบครัวของเหยื่อ นางเพียงอยากให้ฆาตกรได้รับโทษที่ควรได้!
เซียวอวิ๋นถิงขยับตะเกียบคีบเนื้อกวางหนึ่งแผ่น
“เ้าโกรธมาก”
น่าสนใจจริงๆ
คนธรรมดามิอาจสงสัยการตัดสินใจของฮ่องเต้
ฮ่องเต้้าชดเชยให้ผู้ใด ผู้นั้นก็ทำได้เพียงรับเอาไว้อย่างเคารพ
จะสายฟ้าหรือหยาดฝนก็ล้วนเป็พระเมตตาของฝ่าา[1] องค์ชายละเมิดกฎหมายมีความผิดเช่นเดียวกับประชาชนเป็เื่ตลกที่ใหญ่ที่สุด กฎหมายคือสิ่งที่ฮ่องเต้ใช้ในการควบคุมราษฎรแคว้นเว่ย แต่ไร้ประโยชน์ต่อตัวฮ่องเต้เอง
ฮ่องเต้คิดว่าคนผู้หนึ่งมีความผิด ไม่จำเป็ต้องมีหลักฐานอะไร
ฮ่องเต้ประสงค์ปกป้องนักโทษผู้หนึ่ง หลักฐานความผิดก็สามารถถูกละเลยได้
ทำเช่นนี้ย่อมเสื่อมเสียพระเกียรติของฮ่องเต้ แต่ในแต่ละราชวงศ์ก็ไม่มีโอรส์พระองค์ใดที่เป็อริยบุคคลจริงๆ เสื่อมเสียเล็กน้อยนับว่าเป็อะไรได้ ขุนนางตรวจสอบที่เที่ยงตรงที่สุดเองก็รู้ว่ายามใดสามารถจริงจัง ยามใดควรทำเป็ไม่รู้ไม่เห็น——แต่เฉิงชิงคล้ายจะไม่คิดเช่นนี้
เซียวอวิ๋นถิงไม่เคยละเลยรายละเอียดสีหน้าใดๆ บนใบหน้าของเฉิงชิง ั้แ่ยามที่เฉิงชิงเอ่ยว่า้าทำบัญชีปลอมหลอกกรมคลัง เขาคิดว่าเด็กหนุ่มที่ยังไม่โตเต็มวัยผู้นี้ดูเหมือนจะไม่มีใจกลัวเกรงราชสำนักและพระราชอำนาจ
อืม การคาดการณ์ของตนไม่ผิด เฉิงชิงเป็อย่างที่เขาคิดไว้จริงๆ
“ข้าย่อมโกรธ!”
เฉิงชิงใช้แรงคว้ามุมของม้านั่งหิน
“หรือว่าซื่อจื่อไม่โกรธหรือขอรับ? หากท่านไม่โกรธ ก็คงไม่เป็ข้าหลวงใหญ่ประกาศราชโองการมาหนานอี๋แล้ว ท่านคิดจะบอกเื่นี้แก่ข้า แม้ว่าข้าไม่เข้าใจว่าเหตุใดท่านจึงให้ความสำคัญข้า แต่ก็ทำให้ข้ารู้สึกเช่นนี้ขอรับ!”
เฉิงชิงเก่งในการใช้วิธีการคัดออก เมื่อคัดออกความน่าจะเป็ทุกประเภทออกไปแล้ว ที่เหลืออยู่ก็คือความจริง
ความจริงนี้ค่อนข้างเหลือเชื่อ ทั้งยังอยู่ตรงหน้าอย่างแท้จริง
ในฐานะที่เซียวอวิ๋นถิงเป็เยี่ยอ๋องซื่อจื่อ เขากำลังมองหาความสามารถแบบใดกัน เหตุใดจึงให้ความสำคัญนางกัน?
สามารถทำบัญชีปลอมได้ก็ใช้ว่าเป็ความสามารถที่เก่งกาจอะไรนัก เหล่าศิษย์ของสถานศึกษาหนานอี๋ไม่มีทักษะนี้ แต่นายบัญชีชราที่หัวแหลมกลับมีอยู่เป็โหล ด้วยอิทธิพลและทรัพย์สินของจวนเยี่ยอ๋อง เซียวอวิ๋นถิงสามารถชักชวนหัวกะทิที่แท้จริงมาเข้าร่วมได้
เหตุใดถึงต้องเป็นางกัน?
เฉิงชิงมักจะส่องกระจกดูตนเองอยู่บ่อยครั้ง เข้าใจรูปลักษณ์ของตนเองดี
ที่กล่าวว่าอวี๋ซานตกหลุมรักนางคือการพูดไปเรื่อยเปื่อย รูปลักษณ์เช่นนี้ ต่อให้เป็พวกตัดแขนเสื้อก็คงไม่ชมชอบนาง… อย่างน้อยก็คงไม่หลงรักนางั้แ่แรกพบ
เฉิงชิงรู้สึกมาโดยตลอดว่า สิ่งที่เรียกว่ารักแรกพบเป็เพราะเห็นว่าหน้าตาดีเลยอยากมีความสัมพันธ์ด้วย
คือคำที่สงวนไว้สำหรับหนุ่มหล่อสาวสวย ก่อนหน้าที่จะทะลุมิตินางก็มีฐานะเช่นนี้ หลังจากทะลุมิติน่ะหรือ ยากที่จะกล่าวหมดในคำเดียว
มองทะลุหน้าตาเห็นจิติญญาที่น่าสนใจของนาง?
อา ถุย!
หน้าตาที่ดูดีเป็แบบเดียวกันหมด จิติญญาที่น่าสนใจน้ำหนักสองร้อยกว่าจิน[2]
ยิ่งไปกว่านั้น แม้นางจะเคยมีหน้าตาที่ดูดีมาก่อน แต่ก็เทียบไม่ได้กับซื่อจื่อขี้โรคที่อยู่ตรงหน้า แล้วเซียวอวิ๋นถิงจะใจเต้นกับรูปลักษณ์ในปัจจุบันของนางได้อย่างไร?
มองดูแล้วรสนิยมทางเพศของเ้าขี้โรคก็ค่อนข้างปกติ ที่รับใช้ที่อยู่ข้างกายก็ล้วนเป็หญิงรับใช้ที่รูปลักษณ์โดดเด่น
เฉิงชิงคิดจนหัวแทบะเิ นางอดกลั้นอารมณ์ที่ไร้หนทางระบายในอกเมื่อเห็นเซียวอวิ๋นถิงยังค่อยๆ กินเนื้อกวางอยู่ ลุกขึ้นยืนโดยไม่ลังเล
“ดึกแล้ว เฉิงชิงไม่รบกวนซื่อจื่อ บัดนี้ขอตัวลา”
เซียวอวิ๋นถิงวางตะเกียบ “เ้าไม่อยากรู้ว่าใครคือผู้อยู่เื้ัการสังหารหรือ?”
“รู้ไปแล้วมีประโยชน์อันใด หากซื่อจื่อคิดจะบอกข้า ไม่ต้องให้ข้าเอ่ยถามก็คงบอกแล้ว ยิ่งไปกว่านั้นบัดนี้ข้ารู้แล้วว่ายังคงไร้ทางจับตัวอีกฝ่าย ซื่อจื่อท่านเองก็เช่นกัน มิใช่ว่าได้แต่หงุดหงิดใจหรือขอรับ?”
[1] ในที่นี้สายฟ้าเปรียบเสมือนการลงโทษของฮ่องเต้ ส่วนสายฝนเปรียบเสมือนการพระราชทานรางวัลของฮ่องเต้
[2] หน้าตาที่ดูดีเป็แบบเดียวกันหมด จิติญญาที่น่าสนใจน้ำหนักสองร้อยกว่าจิน เป็มุกตลกของคนอ้วน สื่อว่าให้ดูที่จิตใจภายในมากกว่ารูปลักษณ์ภายนอก
