เซวียเสี่ยวหรั่นปอกให้ตัวเองหนึ่งลูก แล้วลุกขึ้นยืนกิน เห็นเขานิ่งงันไม่ขยับอยู่นาน พลันนึกขึ้นได้ "อ้อ... ฮ่าๆๆ ไม่ใช่ของลิงกินเหลือหรอกน่า"
เธอหัวเราะเสียงดัง อ้าปากกว้างจนรู้สึกปวดขากรรไกร
"เอาไว้ข้าจะหาไม้กระดานสักแผ่นเอาไว้ป้องกัน คราวหน้าจะได้ไม่ต้องกลัวพวกมันเอาอะไรมาปาใส่อีกแล้ว แบบนี้ยังช่วยลดขั้นตอนในการเก็บอีกด้วย ฮิๆ"
เซวียเสี่ยวหรั่นลำพองใจไม่น้อย แต่เสียงหัวเราะกลับเบาลงกว่าเดิมมาก เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้ะเืไปถึงกล้ามเนื้อ ใครเจ็บคนนั้นก็ควรรู้รักษาตัว
เหลียนเซวียนหยิบกล้วยน้ำว้าขึ้นมา แววตาซับซ้อนยากจะหาคำอธิบาย เพื่อหาของกิน นางถึงกับต้องทุ่มสุดชีวิตขนาดนี้เชียวหรือ
ในที่สุด เซวียเสี่ยวหรั่นก็ยังต้องถอนมีดสั้นเล่มนั้นออกมา เธอใช้ท่อนไม้กดหัวงูแล้วเหยียบไว้ ใบมีดติดอยู่ที่หัวของมัน แต่เธอก็พยายามออกแรงดึงสุดกำลัง จนกระทั่งถอนออกมาได้
เหลียนเซวียนไม่อาจช่วยอะไรได้ ด้วยสภาพของเขาตอนนี้หากต้องรวบรวมกำลังภายในอีกครั้ง เกรงว่าคงไม่สามารถฟื้นตัวได้อีกเป็เวลานาน
เซวียเสี่ยวหรั่นวิ่งมาริมแม่น้ำเอามีดสั้นถูกับดินทราย ก่อนนำไปล้างแล้วล้างอีก ถึงกลับขึ้นมาบนฝั่ง "ไฟมอดหมดแล้ว" เซวียเสี่ยวหรั่นมองกองไฟปราดหนึ่ง แล้วเก็บมีดสั้นกลับเข้าไปในกระเป๋า "ช่างเถอะ เดี๋ยวไปถึงถ้ำค่อยก่อไฟใหม่ก็ได้"
เธอเล่าเื่ที่เจอถ้ำให้เหลียนเซวียนฟัง หลังจากเก็บข้าวของเสร็จ พวกเขาควรย้ายไปอยู่ในถ้ำจะปลอดภัยกว่า
แต่แล้วปัญหาก็มาอีกจนได้
เดิมทีเธอคิดจะแบกเขาขึ้นหลังแล้วพาไป แต่ตอนนี้ตนเองกลายเป็คนเจ็บเหมือนกันจะแบกเขาไหวได้อย่างไร เธอปวดทั้งก้นและบั้นเอว เมื่อครู่ตอนไปริมแม่น้ำถอดกางเกงออกดูแล้ว ดูเหมือนว่าจะฟกช้ำจนเขียวเป็วงใหญ่ ั้แ่โตมาขนาดนี้ เธอยังไม่เคยาเ็ขนาดนี้มาก่อน
"ท่านพอจะเดินไหวหรือไม่" สีหน้าของเธอวิตกกังวล
"ประคอง... ข้า... ขึ้น... มา" เขาเขียนตัวอักษรบนพื้นทราย
มือของเหลียนเซวียนจับท่อนไม้ยาวที่ใช้พยุงร่างกายขณะเดินไปทำธุระเมื่อเช้า
เซวียเสี่ยวหรั่นประคองเขาขึ้นมาอย่างทุลักทุเลพอสมควร
คนเจ็บสองคนต่างต้องกัดฟันทนต่อความเ็ปทางกายของตัวเอง เซวียเสี่ยวหรั่นเจ็บจนแยกเขี้ยวยิงฟัน ใบหน้าบิดเบี้ยว ส่วนเหลียนเซวียนก็หน้านิ่วคิ้วขมวด ใบหน้าที่มีแต่าแฉายแววตึงเครียด
เซวียเสี่ยวหรั่นสะพายเป้ขึ้นหลัง เอาเสื้อแขนยาวพันรอบเอว แล้วประคองเหลียนเซวียน ทั้งสองเคลื่อนไหวไปอย่างเชื่องช้าด้วยความเร็วอย่างกับทาก
ระยะทางเพียงสามสี่เมตร แต่พวกเขาใช้เวลาเดินถึงครึ่งชั่วโมง
ยามมาถึงปากถ้ำ สีหน้าของแต่ละคนก็ซีดเซียว
"ถึง... ปากถ้ำแล้ว พักเหนื่อยสักครู่เถอะ" เซวียนเสี่ยวหรั่นสูดหายใจเอาแรงเฮือกสุดท้ายประคองเขาไปนั่งข้างต้นไม้ใหญ่ด้านซ้ายของถ้ำ
หลังจากนั้นเธอเองก็ฝืนต่อไปไม่ไหว ล้มตัวลงนอนตะแคงแน่นิ่งราวกับปลาตาย
หากไม่ใช่เพราะอาศัยพลังใจอันแข็งแกร่ง ตอนนี้เหลียนเซวียนเองก็อยากลงไปนอนแผ่อยู่เหมือนกัน
หลังจากนั้นสิบนาที เซวียเสี่ยวหรั่นค่อยหายใจคล่องขึ้น ลุกขึ้นมานั่งช้าๆ แน่นอนว่าท่านั่งไร้สง่าราศีอย่างยิ่ง เธอพับขาทั้งสองไว้ข้างสะโพกแล้วใช้มือยันพื้นลุกขึ้นมา
"โอย... เหนื่อยยิ่งกว่าวิ่งห้าพันเมตรซะอีก" เธอยกมือขึ้นปาดเหงื่อที่หน้าผาก
เหลียนเซวียนเม้มริมฝีปากรู้สึกละอายใจอยู่หลายส่วน เขานำความเดือดร้อนมาให้นางแท้ๆ
"โอ้์ เหนื่อยรอบนี้เล่นเอาเกือบพระอาทิตย์ตกดินเชียวหรือ"
ดวงตะวันคล้อยต่ำถึงยอดทิวไม้ แสงสายัณห์สีส้มอ่อนที่สาดส่องลงมาบนตัวของพวกเขาไม่ร้อนแรงเหมือนตอนเที่ยงวัน ไม่ช้าก็จะเลือนลับไปหลังพงไพร ท้องฟ้ากำลังจะมืด
เซวียเสี่ยวหรั่นร้องลั่น ไม่สนใจเื่พักผ่อนอีกต่อไป เอากระเป๋าเป้วางลง ก่อนคลานเข้ามาอย่างรวดเร็ว
"ข้าจะไปเก็บฟืนสักหน่อย"
แค่นึกถึงความหนาวเย็นตอนกลางคืน ความเ็ปที่ก้นก็ดูเหมือนจะไม่ทรมานเกินกว่าจะทนได้อีกแล้ว
เซวียเสี่ยวหรั่นบ่ายหน้าไปทางพงป่ารกที่อยู่ไม่ไกล แล้วเดินเข้าๆ ออกๆ เริ่มขนย้ายฟืนกับหญ้าแห้งเข้ามา
หลังขนของมาตุนกองใหญ่ ก็เทผลไม้ที่เหลือออกมาจากกระเป๋า
พวกเขาสองคนกินกล้วยน้ำว้าหมดแล้ว ผลไม้ที่เหลือดูเหมือนว่าจะมีพวกสาลี่ ลูกพลับ ฝรั่งทับทิม [1] บางอย่างเซวียเสี่ยวหรั่นก็ไม่รู้จัก กระจัดกระจายอยู่บนพื้น เสบียงของลิงนี่ไม่น้อยเลย
เซวียเสี่ยวหรั่นเอื้อมมือไปหยิบฝรั่งทับทิมดินขนาดเท่าไข่ไก่ขึ้นมาพิจารณา นับว่ายังสมบูรณ์ดี จากนั้นก็ยัดใส่มือของเหลียนเซวียน
"นี่คือผลฝรั่งทับทิม กินได้ เนื้ออาจจะแข็งสักหน่อย แต่ไม่ใช่เื่ใหญ่ ท่านกินก่อนเถอะ"
ฝรั่งทับทิมในป่าทางใต้แบบนี้หาไม่ยาก เพียงแต่ผลจะเล็กกว่าผลทับทิมอยู่บ้าง ่ที่ยังเขียวจะมีรสฝาด พอเริ่มเหลืองถึงจะออกรสหวาน
"ข้าจะฉวยโอกาสที่ฟ้ายังไม่มืดไปเก็บผลเกาลัดมาเพิ่มอีกสักหน่อย"
พูดจบก็สะพายเป้เปล่าวิ่งออกไปข้างนอก
สถานที่ที่มีต้นเกาลัดอยู่ไม่ไกลจากถ้ำ เพียงแต่ต้องขึ้นเขาไปอีกหน่อย เธอเคยปีนขึ้นไปแล้วครั้งหนึ่ง ครั้งที่สองย่อมจะราบรื่นกว่ามาก
จนกระทั่งเซวียเสี่ยวหรั่นวิ่งกระหืดกระหอบกลับมาพร้อมกับเกาลัดเต็มกระเป๋า ก็พบว่าเหลียนเซวียนยังถือฝรั่งทับทิมผลนั้นอยู่ในมือเหมือนเดิม
"ทำไมท่านไม่กินล่ะ" เธอนึกสงสัย
เหลียนเซวียนสั่นศีรษะ ยื่นฝรั่งทับทิมผลนั้นส่งกลับมาให้ นางวิ่งแล่นไปทั่วใช้กำลังมาก ของกินย่อมจำเป็สำหรับนางมากกว่า
เซวียเสี่ยวหรั่นเข้าใจความหมายของเขา ใบหน้าเปื้อนฝุ่นและหยาดเหงื่อเผยรอยยิ้ม "ของกินยังมี ท่านวางใจเถอะ ข้าจะไปตักน้ำใส่ขวดให้เต็ม อีกประเดี๋ยวค่อยกลับมากิน"
มือที่ยื่นออกมาของเหลียนเซวียนมิได้รั้งกลับ มือใหญ่ของเขาถือฝรั่งทับทิมผลเล็กไว้ เซวียเสี่ยวหรั่นก็พบว่ามือของเขาน่ามองจริงๆ แม้จะผอมบาง แต่เรียวยาว ข้อนิ้วชัดเจน เพียงแต่เล็บมือไม่เป็ระเบียบ ทั้งยังมีดินโคลนติดตามซอกเล็บ
"ท่านวางก่อนเถอะ ข้าจะไปตักน้ำ กลับมาแล้วค่อยก่อไฟย่างเกาลัดกัน"
เธอเทเกาลัดพรวดออกมา แล้วหิ้วเป้เปล่าๆ วิ่งออกไปอีกรอบ
เหลียนเซวียนจึงต้องรั้งมือกลับไป
หลังดื่มน้ำที่ริมแม่น้ำไปครึ่งขวด ก็ตวงน้ำใส่ขวดน้ำแร่จนเต็ม จากนั้นก็ก้มไปล้างหน้า ก่อนหยัดกายขึ้นมาอย่างยากเย็น ก้นของเธอร้อนผ่าว เจ็บจนต้องกัดฟันทน
หลังจากลุกขึ้นมา เธอไม่ได้กลับไปทันที แต่กลับมุ่งหน้าไปอีกทาง
นั่นคือทางที่พวกเขาเดินมาก่อนหน้านี้
งูจงอางตัวนั้นยังอยู่ที่เดิม เืของมันล่อมดแมลงออกมายั้วเยี้ย
เซวียเสี่ยวหรั่นยืนอยู่ไม่ไกลนัก จดจ้องไปที่งูใหญ่ตัวนั้นอย่างลังเล
งูสามารถกินได้
ปู่ของเธอเป็เชฟทำอาหาร มักจะนำวัตถุดิบหายากเช่น งู หนูนา กบ ตั๊กแตน แมงป่องกลับมาบ้าน แม้ไม่ค่อยได้กินบ่อยนัก แต่เซวียเสี่ยวหรั่นยังเล็กไม่รู้ความ ก็เลยกินอย่างสบายอารมณ์ แต่พอโตแล้ว ในใจกลับรู้สึกต่อต้าน จึงไม่กินอีก
งูพิษ แค่ตัดส่วนหัวของมันออก เนื้องูส่วนอื่นล้วนไม่มีพิษ
เซวียเสี่ยวหรั่นกลืนน้ำลาย ตอนนี้เธอเกิดความรู้สึกว่าไม่ได้กินเนื้อหนึ่งวันก็เหมือนไม่ได้กินข้าวสามวัน
นี่คือเนื้อมื้อใหญ่เชียวนะ ในสถานที่ทุรกันดาร หากคลาดจากเนื้อมื้อนี้ ก็ไม่รู้ว่าจะได้กินอีกเมื่อไร
แม้ตลอดทางที่เดินมาจะพบเห็นสัตว์เล็กๆ ตามพงหญ้า แต่หนึ่งเธอไม่มีเครื่องมือ สองไม่มีเรี่ยวแรง แล้วจะจับพวกมันได้อย่างไร เธอไม่เก่งเื่การขุดหลุมสร้างกับดัก ตอนเล็กๆ เคยเห็นคุณปู่ทำอยู่บ่อยครั้ง แต่ผ่านมาหลายปี เธอก็จำขั้นตอนไม่ได้แล้วว่าทำอย่างไร
พอคิดได้แบบนี้ เธอก็กัดฟันเดินเข้าไปหนึ่งก้าว แต่พอนึกว่าต้องตัดหัวงู ขาของเธอกลับก้าวถอยหลังโดยไม่รู้เนื้อรู้ตัว
กินหรือไม่กินดีนะ ช่างเป็ปัญหายุ่งยากจริงเชียว
...
[1] ฝรั่งทับทิม เป็ผลไม้เมืองร้อน ผลเป็สีเขียวอมเหลืองแต่เนื้อตรงกลางกลับเป็สีชมพูหรือแดง มีเมล็ดมาก