หลังจากย้ายมาอยู่ที่หมู่บ้านเหมยหลิน พลังปราณของจุนห่าวก็เพิ่มขึ้น และเข้าสู่ลมปราณขั้นที่สองในที่สุด จุนห่าวใช้่เวลานี้บ่มเพาะพืชบนที่นาิญญาขนาดสิบหมู่ของเขา พื้นที่สองหมู่ใช้ปลูกข้าวิญญา อีกสามหมู่ใช้ปลูกพืชผักนานาชนิด เขาตั้งใจเก็บข้าวิญญาและพืชผักิญญาไว้กินเองและไม่ได้แบ่งขาย พื้นที่ที่เหลืออีกห้าหมู่ของที่นาิญญา เขาใช้ปลูกหญ้าไหมเงินเปลวไฟโลหิต หลังจากเริ่มปลูก จุนห่าวก็ได้ทำการกำหนดให้ที่นาิญญาของเขาเป็เขตหวงห้าม ราวกับประตูใหญ่ที่ใส่กลอนแ่า หากไม่มีกุญแจก็ไม่อาจเข้าไปได้ เพราะเขาปลูกหญ้าิญญาล้ำค่าไว้ จึงต้องป้องกันหญ้าิญญาทั้งจากมนุษย์และสัตว์อสูร อีกทั้งเขาได้ซื้อสิ่งที่ทำให้เกิดการสร้างเขตหวงห้ามระดับสูง เพื่อป้องกันการโจมตีของนักพรตที่มีระดับลมปราณต่ำกว่าขั้นที่แปดได้ด้วย
เมื่อปลูกหญ้าิญญาสำเร็จ ทุกเช้าจุนห่าวจะไปเรียกฝน และใช้โอกาสนี้รดน้ำโดยน้ำจากบ่อโอสถ ส่วนเวลาที่เหลือจุนห่าวจะอยู่บ้าน เพื่อรอเวลาที่หานรุ่ยจะคลอดลูก จุนห่าวตระเตรียมทุกอย่างไว้แล้ว เขาติดต่อหมอตำแยในหมู่บ้าน ซึ่งเป็ซวงเอ๋อร์ที่มีประสบการณ์ในการผดุงครรภ์ อีกทั้งเขายังเตรียมนมผลไม้ที่ทารกต้องดื่มหลังคลอดไว้แล้ว ซึ่งนมผลไม้เหล่านี้บ่มเพาะจากในเทศะ และเนื่องจากมีลูกสองคน เขาจึงบ่มเพาะเอาไว้เป็จำนวนมาก แม้ลูกจะยังไม่เกิด แต่เขาก็อยากให้สิ่งที่ดีที่สุดแก่ลูก
แม้ว่าซวงเอ๋อร์ในแผ่นดินชางหลานจะให้กำเนิดบุตรได้ ทว่าไม่อาจผลิตน้ำนมได้เหมือนสตรี เพราะฉะนั้นบุตรที่เกิดจากซวงเอ๋อร์จึงจะต้องกินนมผลไม้ นมผลไม้ คือ ผลไม้เล็ก ๆ ชนิดหนึ่งที่พอปลอกเปลือกออกแล้ว เนื้อด้านในจะเหมือนกับน้ำนมแม่ ด้วยเหตุนี้จึงถูกเรียกว่า ‘นมผลไม้’ ซึ่งเป็ผลไม้พิเศษที่มีเฉพาะบนแผ่นดินชางหลานเท่านั้น
ในวันนี้จุนห่าวเพิ่งกลับจากที่นา จู่ ๆ เขาก็ได้ยินหานรุ่ยพูดกับเขาว่า “จุนห่าว ข้าใกล้จะคลอดแล้ว เ้ารีบไปตามหมอตำแยมาเร็ว”
เมื่อได้ยินสิ่งที่หานรุ่ยพูด จุนห่าวก็รีบวิ่งพรวดออกไปตามหมอตำแยที่อยู่ไม่ไกลจากบ้านของเขาทันที จุนห่าวบอกหมอตำแยไว้ล่วงหน้าแล้ว ่นี้หมอตำแยจึงรอเวลาอยู่ที่บ้าน เมื่อหมอตำแยเห็นจุนห่าวตื่นตระหนกมา จึงทราบทันทีว่าภรรยาซวงเอ๋อร์ของเขาใกล้จะคลอดแล้ว เขาจึงหยิบสิ่งของที่เตรียมไว้ล่วงหน้าเรียบร้อยแล้ว วิ่งพรวดพราดออกไปพร้อมจุนห่าว
เมื่อจุนห่าวกลับมาถึงบ้าน เขาก็เดินนำหมอตำแยไปที่ห้องนอน พอเห็นหานรุ่ยที่นอนอยู่บนเตียงกำลังเ็ป ใบหน้าของหานรุ่ยเต็มไปด้วยเหงื่อและกัดริมฝีปากแน่น จุนห่าวก็กล่าวขึ้นอย่างร้อนรนว่า “เสี่ยวรุ่ย หมอตำแยมาแล้ว เ้าต้องอดทน อย่ากัดตัวเองนะ หากเ้าเจ็บ เ้ามากัดข้าแทนเถอะ” เมื่อกล่าวจบเขาก็พลันวางข้อมือตรงปากของหานรุ่ย
หานรุ่ยเจ็บจนสับสนไปหมด หานรุ่ยเป็คนที่อดทนมาก เมื่อครั้งที่เส้นลมปราณและจุดตันเถียนทั่วร่างถูกทำลาย เขายังสามารถอดทนต่อความเ็ปนั้นมาได้ แต่ทว่าพอเขาได้ยินเสียงของจุนห่าว หานรุ่ยกลับไม่อยากอดทนอีกต่อไป เขาเอ่ยขึ้นว่า “จุนห่าว ข้าเจ็บ ข้าเจ็บ...”
จุนห่าวจับมือของหานรุ่ยแน่นและกล่าวว่า “เสี่ยวรุ่ย ข้ารู้ว่าเ้าเจ็บ ถ้าเ้าเจ็บ ก็จงกัดข้า ข้าไม่กลัวเจ็บหรอก” จุนห่าวอยากคลอดลูกแทนหานรุ่ยและเจ็บแทนเขาเหลือเกิน แต่เขาไม่อาจทำเื่นี้แทนหานรุ่ยได้
เมื่อเห็นหานรุ่ยเป็เช่นนี้ จุนห่าวจึงพูดกับหานรุ่ยด้วยดวงตาแดงก่ำว่า “เสี่ยวรุ่ย เ้าต้องอดทนไว้นะ พอคลอดลูกครั้งนี้แล้ว เราจะไม่มีลูกอีก เ้าจะได้ไม่ต้องคลอดแล้ว พอเห็นเ้าเป็แบบนี้ ข้าทนไม่ได้จริง ๆ ”
พอได้ยินจุนห่าวบอกว่าจะไม่ให้เขาคลอดบุตรอีกแล้ว หานรุ่ยจึงตอบว่า “ไม่ได้นะ จุนห่าว ข้าอยากมีลูกให้เ้า ข้ารักเด็ก ข้าอยากมีลูกให้เ้า ข้ารักเด็ก...” หานรุ่ยพูดซ้ำไปซ้ำมา เขาชอบจุนห่าว เขาอยากมีลูกให้จุนห่าวอีกหลายคน
“ได้ ข้าให้เ้ามีลูก เ้าอยากมีกี่คนก็มีได้ แต่เสี่ยวรุ่ย เ้าต้องผ่านความเจ็บครั้งนี้ไปให้ได้” จุนห่าวกล่าวปลอบใจ จุนห่าวเองก็รักเด็ก เพียงแค่เขาไม่อยากเห็นหานรุ่ยทุกข์ทรมาน จึงตัดสินใจที่จะไม่ให้หานรุ่ยคลอดบุตรอีก
“เ้าออกไปต้มน้ำก่อน ภรรยาซวงเอ๋อร์ของเ้าไม่เป็อันใดหรอก ตอนนี้ใกล้จะคลอดแล้ว เด็กกลับหัวอยู่ ซวงเอ๋อร์ไม่ตกอยู่ในอันตรายหรอก การมีบุตรเป็สิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ เ้าต้องรักเขาให้มาก จากนี้ไปต้องดีกับเขานะ” เมื่อพูดจบก็พลางดันจุนห่าวออกมาด้านนอก เขาทำคลอดมาหลายครั้ง นี่เป็ครั้งแรกที่เขาเห็นสามีหนุ่มที่ดีเช่นนี้
จุนห่าวเองก็รู้ว่าไม่มีประโยชน์อะไรที่จะอยู่ในนี้ แต่เขาแค่อยากอยู่เคียงข้างหานรุ่ย “เสี่ยวรุ่ย ข้าไปต้มน้ำก่อน ถ้าต้มน้ำเสร็จแล้ว ข้าจะมาอยู่ข้าง ๆ เ้านะ เสี่ยวรุ่ย... ถ้าเ้าเจ็บก็ะโออกมานะ” จุนห่าวถูกดันออกมาจากห้อง เขารีบไปจุดไฟ ตั้งน้ำ ต้มน้ำไปพลาง เงี่ยหูฟังไปพลาง แต่เขาไม่ได้ยินเสียงอะไรเลย
เมื่อจุนห่าวต้มน้ำเสร็จ จู่ ๆ เขาก็ได้ยินเสียงร้อง “อุแว้ อุแว้” เขาจึงรู้ทันทีว่าหานรุ่ยคลอดลูกแล้ว หลังจากนั้นก็มีเสียงร้อง “อุแว้ อุแว้” ดังขึ้นอีกครั้ง ราวกับหัวใจของจุนห่าวดิ่งลงพื้น ราวกับความแข็งแกร่งของจุนห่าวทั้งหมดโดนดูดหายไป เขาเอนตัวพิงกำแพงอย่างอ่อนแรง พร้อมทรุดลงไปนั่งบนพื้น
หมอตำแยออกมาจากห้อง พอเห็นจุนห่าวที่กำลังอ่อนแรง จึงไปที่ห้องครัว เพื่อไปเอาน้ำร้อนมาเอง พลางคิดในใจว่า คนที่คลอดบุตรไม่ทรุด แต่คนที่ไม่ได้คลอดกลับทรุดไปก่อนซะอย่างนั้น
จุนห่าวนิ่งอยู่ครู่หนึ่ง เมื่อรู้สึกว่าขาเริ่มมีแรง เขาก็พุ่งไปยังห้องนอน และเดินไปหยุดอยู่ที่ข้างเตียง เขาเห็นหานรุ่ยนอนเปลือยกายอยู่บนเตียงด้วยใบหน้าซีดเผือดและมีเหงื่อท่วมเต็มใบหน้า แต่ทว่ายังตื่นอยู่ จุนห่าวจึงจับมือหานรุ่ยและเอ่ยขึ้นว่า “เสี่ยวรุ่ย เ้าไม่เป็ไรใช่ไหม เ้าทำข้าใแทบตาย”
หานรุ่ยพูดด้วยรอยยิ้มว่า “ข้าไม่เป็ไร ลูกเป็อย่างไรบ้าง เ้าอุ้มมาให้ข้าดูที”
จุนห่าวกล่าวพลางเกาหัวอย่างเขิน ๆ ว่า “ข้าก็ยังไม่ทันได้เห็นเหมือนกัน” เมื่อกี้เขานึกถึงแต่หานรุ่ยจนลืมลูกไปเลย
เมื่อได้ยินหานรุ่ยถามหาลูก หมอตำแยจึงทำความสะอาดเด็กทั้งสอง แล้วอุ้มเข้ามา พร้อมเอ่ยขึ้นว่า “มาดูลูกของพวกเ้าเร็ว เป็ฝาแฝดซวงเอ๋อร์ หน้าตาเหมือนกันไม่ผิดเพี้ยน น่ารักน่าชังเสียจริง”
จุนห่าวรับเด็กมาดูอย่างระมัดระวัง แม้จะเกรงว่ามือของเขาหยาบกร้าน แต่เขาก็อุ้มลูกที่หน้าตาอย่างกับพิมพ์เดียวกันมาอยู่ต่อหน้าของหานรุ่ย และกล่าวขึ้นว่า “เสี่ยวรุ่ย เ้าดูสิ นี่คือลูกที่เ้าคลอดมาให้ข้า หน้าตาช่างงดงามเสียจริง ต้องลำบากเ้าแล้ว เสี่ยวรุ่ย ข้าต้องขอบคุณเ้ามากที่เ้ามีลูกให้กับข้า”
“ไม่ต้องกล่าวขอบคุณข้าหรอก ระหว่างเราไม่จำเป็ต้องพูดคำนี้ แค่เ้ารักข้าก็พอแล้ว” หานรุ่ยมองเด็กน้อยสองคนที่หน้าตายับยู่ยี่ เขามองไม่ออกเลยว่างดงามตรงไหน แต่เขากลับรักพวกเขาจากสุดก้นบึ้งของหัวใจ นี่คือก้อนเนื้อสองก้อนที่ออกมาจากตัวเขา