นักเวทย์ระดับนี้ คทาเวทย์ของพวกเขา มักจะทำด้วยตัวเองเพื่อให้เหมาะกับความชอบของตัวเองมากที่สุด
“ในเมื่อพวกเ้ามั่นใจขนาดนั้น พวกเรามาพนันกันสักตาไหมล่ะ?” ฉีเล่อด้วยยิ้มมีเลศนัย
เห็นได้ชัดว่าพวกเขาดูมั่นใจในอาวุธของตนเสียเหลือเกิน
“ง่ายๆ ถ้าอาวุธของข้าดีกว่าของพวกเ้า ต่อไปพวกเ้าก็แค่แนะนำคนรู้จักมาซื้ออาวุธที่ร้านของข้าก็พอแล้ว” แม้ว่าฉีเล่อ้าจะพิสูจน์อาวุธของตน
แต่เื่ที่สำคัญที่สุด ยังเป็เื่การหาลูกค้าให้ร้านมากขึ้น
“ไม่มีปัญหาอยู่แล้ว ถ้าอาวุธของท่านดีจริง พวกเราก็ต้องแนะนำลูกค้าคนอื่นๆ อยู่แล้ว” อิ้งเสวี่ยพยักหน้า
“งั้นถ้าเถ้าแก่แพ้ล่ะ” อิ้งเฟิงจ้องมองฉีเล่อด้วยเจตนาร้าย
ฉีเล่อเงยหน้าขึ้น แล้วเอื้อมมือหยิบเครื่องดื่มชูกำลังพร้อมกับอธิบายประโยชน์ของมัน จากนั้นก็วางไว้บนโต๊ะ
“ถ้าข้าแพ้ ขวดนี้ก็เป็ของพวกเ้า”
“นี่คืออะไร?” อิ้งเฟิงจ้องมองขวดสีฟ้าด้วยความสงสัย
ราวกับว่าภายในนั้นเป็ของเหลวมหัศจรรย์
“นี่น่ะ เป็ของดีมากๆ” ฉีเล่อเหลือบมองเครื่องดื่มชูกำลัง และแนะนำประสิทธิภาพของยาชูกำลังด้วยโทนเสียงเรียบเฉย
เครื่องดื่มชูกำลังต่างจากยาเม็ดรักษา นอกจากผลการเลื่อนระดับที่จำกัดเพียงครั้งละหนึ่งคน มันยังสามารถฟื้นฟูพลังของผู้ใช้ได้อย่างเต็มที่ และขวดหนึ่งก็ใช้ได้หลายครั้ง
ไม่อย่างนั้นฉีเล่อคงไม่กำหนดราคาแพงขนาดนี้
“ท่านแน่ใจหรือว่า ไม่ว่าจะอยู่ระดับไหน เพียงจิบเดียวก็สามารถฟื้นฟูความแข็งแกร่งได้เต็มที่?” อิ้งเสวี่ยจ้องขวดในมือของฉีเล่อราวกับว่าจะคว้ามันมาให้ได้
“ใช่ ไม่ว่าจะอยู่พลังยุทธ์หรือพลังเวทย์ขั้นไหน ก็สามารถฟื้นฟูได้”
ฉีเล่อพูดช้าๆ แต่น้ำเสียงดูมั่นใจมาก
“มาสิ เถ้าแก่ พวกเราต้องทำอะไรบ้าง?” อิ้งเสวี่ยกล่าวออกมาด้วยความหงุดหงิด
ฉีเล่อเดินออกมาจากหลังเคาน์เตอร์และดึง “ดาบอัศวิน” ออกมาจากชั้นวางสินค้าหนึ่งเล่มมาถือไว้ในมือ จากนั้นก็มองไปที่อิ้งเฟิง
“ใช้ดาบอัศวินของเ้า พยายามฟาดฟันมันออกมาให้แรงที่สุด”
“เถ้าแก่ ท่านดูจะมั่นใจมากจริงๆ นะ ดูเหมือนว่าเครื่องดื่มชูกำลังของท่านต้องเป็ของข้าแล้วล่ะ ข้าชนะแน่” อิ้งเฟิงตะลึงก่อนเป็อันดับแรก จากนั้นก็หัวเราะออกมา ยกดาบอัศวินในมือขึ้น
ได้ยินเพียงเสียงหมุนวนในอากาศ
อิ้งเฟิงฟาดดาบอัศวินในมืออย่างรุนแรง
ชิ้ง ชิ้ง!
เสียงโลหะปะทะกันดังขึ้น
“มัน...มันเป็ไปได้ยังไง!”
จากนั้น เสียงร้องะโของอิ้งเฟิงก็ดังขึ้นมาทันที
เพราะดาบอัศวินในมือของเขาถึงขั้นหักออกสองท่อน และสิ่งที่เหลืออยู่ในมือของเขาคือด้ามและใบมีดครึ่งหนึ่ง
ส่วนดาบอัศวินในมือของฉีเล่อ มีเพียงรอยบุบเล็กน้อย
แววตาของอิ้งเสวี่ยเบิกกว้างทันที นางแทบไม่กล้าเชื่อในสิ่งที่เห็น
นางรู้ว่าดาบอัศวินในมือของอิ้งเฟิงนั้นคือดาบที่ใช้เงินจำนวนมากจ่ายไปเพื่อซื้อ ตอนที่เชิญปรมาจารย์ด้านตีอาวุธมาที่ตระกูล
ก็เพื่อการทดสอบนักเรียนใหม่ในครั้งนี้
แต่ว่ามันกลับขาดออกเป็สองท่อนแล้ว
และยิ่งไปกว่านั้น มันยังถูกตัดด้วยดาบอัศวินระดับเดียวกัน
นี่มันแทบเป็ไปไม่ได้เลย
“เถ้าแก่ ดาบ ดาบเล่มนี้ของท่าน...”
“สิบผลึกิญญา ห้ามต่อราคา” ฉีเล่อเหลือบมองรอยบุบ หลังจากนั้นก็รู้สึกทุกข์ใจทันที
“แต่ดาบอัศวินเล่มนี้ของท่านมันมีรอยบุบแล้ว” อิ้งเฟิงเหลือบมองรอยบุบบนดาบอัศวิน และพยายามต่อรองราคา
แม้ว่าดาบเล่มนี้จะมีรอยบุบ แต่มันก็ดีกว่าดาบหักของตน