"ตกลง เร็วเข้ารีบพาข้าไป" เพียงครู่เดียว ความหวังเปล่งประกายขึ้นมาในดวงตาของฮองเฮาอวี่เหวิน
เหนียนยวี่เห็นภาพนั้นในสายตา ประคองฮองเฮาอวี่เหวินก้าวเดินไปข้างหน้า
ชาติก่อน หลังจากจ้าวเยี่ยนได้ขึ้นครองบัลลังก์ ก็ได้สะสางกลไกของสวนร้อยสัตว์ทั้งหมดแต่ก่อนหน้านั้น แผนผังของสวนร้อยสัตว์นั้นซับซ้อนมาก และป่าพุ่มหนามที่พวกนางอยู่นั้นก็เป็เหมือนเขาวงกตขนาดใหญ่เขาวงกตนี้...
ได้ยินว่า ป่าพุ่มหนามแห่งนี้ยามที่พระมารดาของฮ่องเต้องค์ปัจจุบันยังดำรงตำแหน่งฮองเฮานั้น ได้ออกแบบตามค่ายกลกระบี่ทุกอย่างภายในนั้นยอดเยี่ยมล้ำเลิศและปรวนแปรเปลี่ยนแปลงได้ร้อยแปดพันเก้า
เนื่องจากเป็ผู้นำกองทัพสู้รบาปราบปรามมาตลอด เหนียนยวี่ในชาติก่อนจึงมีความสนใจเื่ค่ายกลกระบี่อย่างมากครั้งหนึ่งนางเคยศึกษาค่ายกลกระบี่ในป่าพุ่มหนามในเขาวงกตนี้เมื่อถูกแก้ครั้งหนึ่ง ค่ายกลก็จะเปลี่ยน และทุกๆ ครั้ง ก็จะยากขึ้นเรื่อยๆแม้ว่านางจะใช้ความคิดมากแล้ว ทว่ากลับคลายได้แค่สองครั้งแรกเท่านั้น
เหนียนยวี่ทำตามความทรงจำคร่าวๆหาทางข้างหน้าอย่างระมัดระวัง นางรู้ว่าถ้านางก้าวผิด ค่ายกลก็จะเปลี่ยนไป และหาทางได้ยากขึ้นเท่านั้นดังนั้นเหนียนยวี่ต้องเดินอย่างระมัดระวังทุกย่างก้าว
ระหว่างทาง ฮองเฮาอวี่เหวินเดินตามหลังเหนียนยวี่อย่างใกล้ชิด
ทั้งสองยังไม่ทันได้ออกจากป่าพุ่มหนามเสียงร้องคำรามของสัตว์ป่าก็ดังลั่นเข้ามาในหูของเหนียนยวี่ ไม่เพียงแค่เหนียนยวี่ทว่าฮองเฮาอวี่เหวินก็เกร็งขึ้นมาทันที
สัตว์ร้าย!
ทันทีที่คำสองคำนี้แวบเข้ามาในหัวเสือตัวหนึ่งตรงหัวมุมก็สะท้อนเข้ามาในม่านตา แม้แสงสียามราตรีในคืนนี้จะยืมแสงสว่างบางๆของดวงจันทร์มา ทว่าก็ยังเห็นเสือตัวใหญ่ท่าทางดุร้ายได้อย่างชัดเจน
นี่มันเสือขนาดโตเต็มวัย!
เพียงครู่เดียว ในใจเหนียนยวี่ก็ตัดสินใจได้ไม่เพียงแค่นั้น ในดวงตาของเสือที่จ้องมองมาที่ทั้งสองฉายแววหิวกระหายเหนียนยวี่รู้ได้ทันทีว่า นี่เป็เสือที่กำลังหิวโหยที่สุด!
ภูมิศาสตร์ที่สลับซับซ้อนเช่นนี้ข้างหน้าตอนนี้คือเสือที่หิวโหย สถานการณ์แทบจะไม่มีอะไรที่เลวร้ายไปกว่านี้อีกแล้ว
ณ เวลานี้ เสืออยู่ห่างจากพวกนางเพียงสิบก้าวมันกำลังเคลื่อนเข้ามาทางพวกนางทีละก้าวๆ...
"อา..." ฮองเฮาอวี่เหวินอุทานออกมาทางด้านหลังเหนียนยวี่ดูเหมือนว่าจะใเพราะเห็นเสือดุร้ายตัวนี้
เหนียนยวี่คิดว่าความหวาดกลัวนี้อาจจะทำให้ฮองเฮาอวี่เหวินได้สติกลับมาสู่ความเป็จริงได้ทว่านางไม่คาดคิดเลยว่า การปรากฏของเสือตัวนี้จะยิ่งทำให้ฮองเฮาอวี่เหวินดำดิ่งอยู่ในความเ็ปรวดร้าวที่สูญเสียบุตรี ยากจะถอนตัวออกมาได้อีก...
“จี้เยวี่ย...แม่มาช่วยเ้าแล้วเ้าไม่ต้องกลัว...” ฮองเฮาอวี่เหวินกล่าวพึมพำ สิ่งที่พลุ่งพล่านในดวงตาคู่นั้นยิ่งฉายแววผิดปกติมากขึ้นเรื่อยๆยามที่พูดก็ใช้แรงทั้งหมดผลักเหนียนยวี่ที่ขวางหน้านางออกไปทีเดียวไม่คำนึงกลัวอะไรทั้งนั้น พุ่งตรงเข้าไปหาเสือตัวนั้นทันที
ร่างกายเหนียนยวี่ชะงักไป เมื่อตระหนักถึงอะไรได้ก็รีบเร่งก้าวไปข้างหน้าและคว้าข้อมือของฮองเฮาอวี่เหวินอย่างทันทีทันใด
ฮองเฮาอวี่เหวินพุ่งเข้าไปเช่นนี้มิใช่ว่าเป็การส่งตัวเองเข้าปากเสือหรือ?
โชคดีที่เหนียนยวี่จับนางไว้ได้ ทว่าในตอนนั้นเสือที่ดูหิวโหยนั่นราวกับว่ารอคอยไม่ไหวแล้วเช่นกัน ดวงตาแหลมคมกระหายเืหรี่ลงและกระโจนมาข้างหน้า พุ่งเข้าหาทั้งสองอย่างดุเดือด การะโนั้นเกิดขึ้นต่อหน้าต่อตาของฮองเฮาอวี่เหวิน
หากชาติก่อนนางไม่เคยเผชิญชีวิตอย่างโชกโชนในค่ายทหารมาหลายปียามนี้พวกนางสองคนคงจะถูกเสือที่หิวโหยฉีกกินเป็ชิ้นๆ ไปแล้วอย่างแน่นอนแม้แต่กระดูกก็คงไม่เหลือ ทว่าอาศัยสัญชาตญาณตอบสนองอันว่องไวที่ได้รับมาจากการฝึกฝนในาโลหิตในชาติก่อนเกือบจะทันทีที่เสือล้มลงไป เหนียนยวี่ก็คว้าข้อมือฮองเฮาอวี่เหวินออกแรงทั้งหมดพาฮองเฮาก้าวถอย
ทว่าเสือตัวนั้นจะจ้องมองเนื้อที่เกือบจะเข้าปากให้หลุดรอดไปได้อย่างไร?
เมื่อเห็นคนตรงหน้าเคลื่อนไหวก็กระโจนเข้าใส่อีกครั้ง คราวนี้ปากที่นองไปด้วยเือ้าออกกว้างราวกับจะกลืนกินคนสองคนพร้อมกันในคราเดียว
เหนียนยวี่รีบผลักฮองเฮาอวี่เหวินออกไปอย่างรวดเร็วผลักออกไปได้ไกลไม่กี่ก้าว สุดท้ายก็ล้มลงกับพื้น และตัวนาง...
อุ้งเท้าเสือที่แหลมคมตะปบลงมาข่วนแขนขวาของนางอย่างแม่นยำเสียงฉีกกระชากดังขึ้นมา เสื้อผ้าก็ขาดรุ่ย แม้แต่ิัข้างในก็เปิดออกด้วย รอยขีดข่วนสีแดงน่าใ
ความเ็ปตามมา ราวกับไปจุดประกายความทรงจำของเหนียนยวี่
ชาติก่อนการต่อสู้สิบห้าวันกับเหล่าสัตว์ป่าดุร้ายนั้นแจ่มชัดขึ้นมาในดวงตา...
และความเ็ปผนวกกับความเกลียดชังก็ยิ่งทำให้เหนียนยวี่ดวงตาแดงก่ำ
เหนียนยวี่หรี่ตาและดึงกริชที่ซ่อนอยู่ที่น่องออกมานางในยามนี้เผชิญหน้ากับเสือดุร้าย ะโขึ้น กรีดกริชพาดผ่านลงบนอุ้งเท้าเสือเนื้อหนังแยกออก ในเวลาเพียงครู่เดียวเหนียนยวี่ก็ข้ามผ่านมาอยู่ด้านหลังเสือได้อย่างมั่นคง
ดูเหมือนเสือจะถูกกระตุ้นด้วยมีด ประกายในดวงตาของมันก็ดูดุร้ายขึ้นมันส่งเสียงคำราม หันกลับมาโจมตีเหนียนยวี่อีกครั้ง
เหนียนยวี่ถือกริช หนึ่งเสือ หนึ่งคน กำลังต่อสู้กัน
ฮองเฮาอวี่เหวินนอนอยู่บนพื้นมองเห็นเื่ราวทั้งหมด ดูเหมือนจิตใจจะเหม่อลอยไปแล้วเพียงแค่นางเห็นรูปร่างที่เล็กกะทัดรัด ว่องไวราวกับสายลม และกลิ่นของเืที่ติดอยู่ที่ปลายจมูกดวงตาคู่นั้นของนางก็ยิ่งเลือนราง...
ลูกสาว...ลูกสาวของนาง...
เสือนั่น...จะกัดลูกสาวของนาง...
"จี้เยวี่ย...จี้เยวี่ย..."ฮองเฮาอวี่เหวินกรีดร้อง พยายามตะกุยตะกายลุกขึ้น
เหนียนยวี่ตระหนักถึงอะไรบางอย่างได้ รู้ว่าตนไม่อาจเสียกำลังกับสัตว์ป่าตัวนี้ไปได้มากกว่านี้ในใจเหมือนเห็นโอกาสชัดเจน ยืนอยู่ตรงนั้นนิ่งๆ ไม่ขยับเขยื้อนดั่งหินผาจ้องมองเสือที่พุ่งเข้ามาหาและกดทับตนเอง
ดวงตาของเสือดูวาววับ ทอประกายความตื่นเต้นที่ได้พิชิตแต่ในขณะที่มันกำลังจะโถมตัวเข้ามาหาเหนียนยวี่กริชในมือของเหนียนยวี่ก็แทงเข้าไปอย่างโเี้...
ร่างของเสือขาดอากาศหายใจเืไหลออกจากลำคออย่างต่อเนื่อง ดวงตาของสัตว์ร้ายเบิกกว้างอย่างไม่น่าเชื่อ
ยามที่ฮองเฮาอวี่เหวินเดินโซซัดโซเซเสือที่ไร้ลมหายใจทับอยู่บนตัวเหนียนยวี่พอดี เหนียนยวี่ถอนหายใจด้วยความโล่งอกและล้มตัวลงนอนกับพื้น หายใจเข้าออกอย่างเต็มที่
"จี้เยวี่ย...ลูกสาว...เื...หมอหลวงช่วยลูกสาวข้าด้วย..." ฮองเฮาอวี่เหวินััของเหลวที่เปียกชื้นภายใต้แสงจันทร์อ่อนๆ นางมองไม่เห็นสีเื มีเพียงกลิ่นฉุนคละคลุ้งแต่นั่นกลับทำให้นางหวาดกลัวอย่างอธิบายไม่ถูก ราวกับหวนคืนสู่คืนนั้นอีกครั้งความตื่นตระหนกในดวงตายากเกินจะรับมือได้นานแล้ว
เหนียนยวี่มองเห็นทุกสิ่งในสายตาไม่ว่าฮองเฮาอวี่เหวินจะอุ้มร่างของนางไว้อย่างไรรู้สึกถึงน้ำหนักของเสือที่กดทับอยู่บนตัวนาง การปะทะกันในตอนสุดท้ายนางได้ใช้แรงทั้งหมดที่มีแล้ว
อย่างไรก็ตามร่างกายนี้ยังไม่สามารถทนทรมานได้เหมือนเมื่อก่อนเพียงแค่เสือตัวเดียวก็ทำให้นางหมดแรงได้แล้ว
“ฮองเฮา…”เหนียนยวี่เอ่ยปากพยายามปลอบใจฮองเฮาอวี่เหวิน ทว่าดูเหมือนฮองเฮาอวี่เหวินจะไม่ได้ยินคำพูดของนางแขนของฮองเฮาโอบกอดศีรษะและยังคงร้องห่มร้องไห้ออกมาไม่ขาดสายท่าทีทุกข์ใจสิ้นหวังนั้นเพิ่มขึ้นมากกว่าเมื่อครู่สภาพของนางราวกับจะดูรุนแรงขึ้นกว่าเดิม
เหนียนยวี่ขมวดคิ้ว นางครุ่นคิดครู่หนึ่ง เมื่อนึกอะไรบางอย่างได้ครั้นที่เอ่ยปากออกมาอีกครั้งนั้นกลับเอ่ยคำสองคำออกมา...
"เสด็จแม่..."
"จี้เยวี่ยเ้ากำลังพูดอยู่หรือ?
เป็ตามคาดมีเพียงสองคำนี้เท่านั้นที่สามารถเข้าถึงสติของฮองเฮาอวี่เหวินได้ เพียงครู่เดียว ฮองเฮาอวี่เหวินก็จ้องมองเหนียนยวี่ในอ้อมแขนด้วยสีหน้าแปลกใจผสมผสานความดีใจ
"ใช่เพคะ เสด็จแม่เป็จี้เยวี่ย จี้เยวี่ยไร้กำลังแล้ว เสด็จแม่ช่วย...พาจี้เยวี่ยออกไปได้หรือไม่เพคะ?"
"ตกลง ตกลง" ฮองเฮาอวี่เหวินพยักหน้าอย่างเร่งรีบและดึงเหนียนยวี่ออกจากตัวเสืออย่างระมัดระวังราวกับกลัวที่จะทำร้ายร่างกายของเหนียนยวี่ ไม่กล้าััร่างกายนางอย่างสะเปะสะปะ
เหนียนยวี่รู้ว่านี่เป็ความรักและความเ็ปสงสารของฮองเฮาอวี่เหวินที่มีต่อองค์หญิงจี้เยวี่ย
"จี้เยวี่ยอาการาเ็ของเ้า...แม่จะพาเ้าไปหาหมอหลวง..." ฮองเฮาอวี่เหวินเอ่ยพลางคิดอยากจะอุ้มเหนียนยวี่ขึ้น เืที่อาบโชกทั่วร่างกาย ทำให้นางไม่สบายใจฮองเฮาอวี่เหวินเอ่ยพึมพำ "ไม่อาจล่าช้าแม่...แม่ไม่ให้เ้าตาย...ไม่ให้เ้าตาย..."
เหนียนยวี่มองดวงตาพร่ามัวคู่นั้นของฮองเฮาอวี่เหวินรวมถึงการกระทำที่ผิดปกตินั้น นางครุ่นคิดเื่ที่เพิ่งเกิดขึ้นทั้งหมด ท่าทีราวกับกำลังครุ่นคิดอะไรบางอย่าง...