เยว่เฟิงเกอนอนอยู่บนเตียง ปลดล็อกโทรศัพท์แล้วกดเข้าเกมเมืองหิมะลุ่มหลง
แม่นางน้อยที่สวมผ้าปิดตาสีขาวคนนั้นยังคงฮัมเพลงเบาๆ เช่นเคย
ปกติตอนเข้าเกมมาใหม่ๆ แล้วปรากฏภาพฉากแม่นางน้อยคนนี้ เยว่เฟิงเกอมักจะกดข้ามตลอด แต่ครั้งนี้นางไม่ทำเช่นนั้น
นางหยุดชื่นชมแม่นางน้อยในเกมคนนี้พลางนึกถึงตอนที่ม่อเสวียนเช่อเห็นโฉมสะคราญของอีกฝ่ายแล้วหลงหัวปักหัวปำ ก็อดอยากหัวเราะออกมาไม่ได้
หญิงผู้นี้เป็แค่ตัวละครในเกมเท่านั้น แต่ดูจากอาการลุ่มหลงของม่อเสวียนเช่อ หากว่านางเป็คนจริงๆ ขึ้นมา เขาจะไม่รีบไปสู่ขอนางเข้าตำหนักเลยหรือ
ทว่า ตำแหน่งของเขาเป็ถึงองค์ชาย การจะแต่งสตรีธรรมดาเข้ามาคงไม่ใช่เื่ง่าย ต่อให้คนจะเข้ามาในฐานะชายารองก็ยังยาก
ตอนที่เยว่เฟิงเกอกำลังขบคิดอยู่นั้น จู่ๆ แม่นางน้อยในเกมก็หายไปอย่างไร้ร่องรอย
จากนั้นก็เข้าสู่กระบวนการการล็อกอินเข้าเกม
เยว่เฟิงเกอล็อกอินตัวละครของตน พอเข้าไปก็เห็นมู่เหยียนเฉินและมู่เหยียนรั่วยืนอยู่ตรงหน้าตัวละครของนาง
คนทั้งสองเหมือนจะรอนางอยู่ที่นี่นานมากแล้ว โดยเฉพาะมู่เหยียนรั่วที่ยามนี้เหนื่อยจนเปลี่ยนอิริยาบถเป็นั่งพักกับพื้นแล้ว
ส่วนมู่เหยียนเฉินนั้นยังคงยืนอยู่ที่เดิม
ยิ่งกว่านั้น ตอนที่คนทั้งสองเห็นตัวละครของเยว่เฟิงเกอมาปรากฏตัว ใบหน้าน้อยๆ นั้นพลันแย้มยิ้มด้วยความยินดี
มู่เหยียนรั่วรีบยืนขึ้นปัดฝุ่นตามเนื้อตัว ก่อนจะพุ่งเข้าไปคว้าจับมือตัวละครในเกมของเยว่เฟิงเกอ
“พี่หญิงเยว่ ในที่สุดท่านก็มาแล้ว ข้ากับพี่ชายรอท่านอยู่นานแล้ว”
ครั้งนี้น้ำเสียงที่มู่เหยียนรั่วพูดกลับแตกต่างไปจากคราวแรกๆ โดยสิ้นเชิง
ครั้งนี้นางกระตือรือร้นมากราวกับเยว่เฟิงเกอเป็พี่หญิงแท้ๆ ของนางอย่างไรอย่างนั้น
เยว่เฟิงเกอไม่ได้ควบคุมร่างของตัวละครในเกม ปล่อยให้มู่เหยียนรั่วจับมือไป
“พวกเ้าผ่านด่านทั้งหมดแล้วหรือ? ” เยว่เฟิงเกอพิมพ์คำพูดเข้าไปในเกม
มู่เหยียนรั่วกำลังจะกล่าวตอบ แต่กลับถูกมู่เหยียนเฉินแย่งไปพูดก่อน “ใช่แล้ว ข้าและน้องหญิงสำเร็จภารกิจทั้งหมดแล้ว ตอนนี้วรยุทธ์ของเราทั้งสองอยู่ในระดับาาปีศาจแล้ว”
“อืม ในเมื่อเป็เช่นนี้ พวกเ้าก็รีบไปจากเมืองหิมะลุ่มหลงเถอะ” เยว่เฟิงเกอพิมพ์คำพูดเข้าไปอีกครั้ง ก่อนจะหยุดขบคิดเล็กน้อยแล้วพิมพ์ต่อ “จริงสิ ตอนนี้ซ่างกวานม่อิน่าจะกลับมาที่แคว้นเสวี่ยอวี้แล้ว เมื่อพวกเ้าออกไปแล้วอาจจะได้พบเขา”
“ซ่างกวานม่อิ? เขาไม่ได้อยู่ที่แคว้นเสวี่ยอวี้อยู่แล้วหรือ? ” มู่เหยียนเฉินงุนงงเล็กน้อย เหตุใดเยว่เฟิงเกอถึงพูดเช่นนั้น?
เมื่อต้องพูดเกี่ยวกับเ้าซ่างกวานม่อินั่น เยว่เฟิงเกอก็รู้สึกปลงยิ่งนัก
“เขาตั้งใจหนีไปแคว้นเป่ยชวนเพื่อแก้แค้นข้าแทนพวกเ้า แต่ตอนนี้คงกลับมาแล้วกระมัง” เยว่เฟิงเกอไม่อยากอธิบายให้มากความนัก
มู่เหยียนรั่วยังอยากจับมือเยว่เฟิงเกอเพื่อสนทนาด้วยกันต่ออีกหน่อย แต่ครั้งนี้เยว่เฟิงเกอกลับไม่ยอมให้เป็ไปตามความปรารถนาของอีกฝ่าย นางควบคุมตัวละครในเกม ดึงมือตนกลับมา
“พวกเ้ารีบไปจากที่นี่เถอะ ข้าเองก็ต้องไปทำภารกิจอื่นแล้ว” เยว่เฟิงเกอพูดจบก็หมุนกายคิดจะจากไปทันที
มู่เหยียนเฉินรีบร้อนเรียกนางไว้ “เยว่เฟิงเกอ ข้าอยากรู้มากว่าเ้าเข้ามาในเมืองหิมะลุ่มหลงแห่งนี้ได้อย่างไร? ”
สำหรับเื่นี้ มู่เหยียนเฉินสงสัยอยู่นานแล้ว เขาอยู่ในเมืองหิมะลุ่มหลงมานานแล้ว แต่จะคิดอย่างไรก็คิดไม่ออก
ในเมื่อตัวเยว่เฟิงเกออยู่ที่แคว้นเป่ยชวน เช่นนั้นนางมาที่เมืองหิมะลุ่มหลงนี้ได้อย่างไร ทั้งยังช่วยพวกเขาสองพี่น้องไว้ได้ทันก่อนที่ด่านกลไกไร้เทียมทานจะถล่มลงมาอีกด้วย
เยว่เฟิงเกอควบคุมตัวละครในเกม ตอบกลับโดยไม่หันศีรษะกลับไป “ไปถามซ่างกวานม่อิเอาเถอะ ข้าอธิบายที่มาที่ไปให้เขาเข้าใจแล้ว”
มู่เหยียนเฉินมองเงาหลังที่จากไปของเยว่เฟิงเกออย่างเหม่อลอย เขาอยากเดินเข้าไปรั้งนางไว้ แต่สุดท้ายกลับไม่ได้ทำอย่างใจคิด
ถึงแม้วรยุทธ์ของเขาในตอนนี้จะอยู่ในระดับาาปีศาจแล้ว แต่ก็ยังนับว่าช้าไปก้าวหนึ่ง
ตอนนี้เยว่เฟิงเกอเป็ชายาจั้นอ๋องแห่งแคว้นเป่ยชวนแล้ว ไม่ใช่คนที่เขาจะเข้าใกล้ได้อีกแล้ว
เมื่อเงาหลังของเยว่เฟิงเกอหายไปจากสายตาของคนทั้งสองโดยสิ้นเชิง มู่เหยียนรั่วถึงได้ดึงชายเสื้อมู่เหยียนเฉินเบาๆ “ท่านพี่ พวกเรารีบออกไปกันเถอะ ข้าคิดถึงท่านพ่อท่านแม่แล้ว”
มู่เหยียนเฉินข่มความยึดติดที่มีต่อเยว่เฟิงเกอลงไปแล้วจึงพามู่เหยียนรั่วออกไปจากเมืองหิมะลุ่มหลง...
ทางด้านเยว่เฟิงเกอ ตอนนี้นางควบคุมตัวละครของตนให้มาหยุดยืนอยู่หน้าหอคอยิญญา ในนั้นมีเสียงร้องโหยหวนของิญญาผู้เคราะห์ร้ายที่กำลังร่ำร้องด้วยความทุกข์ทน
นี่เป็ดันเจี้ยนที่เยว่เฟิงเกออยากจะทำให้สำเร็จมาโดยตลอด ซึ่งภารกิจนี้เป็ทั้งภารกิจช่วยเหลือและปลดปล่อย
ดังนั้น เยว่เฟิงเกอจำต้องเตรียมอาวุธขั้นสูงให้ครบมือแล้วไปรวมทีมกับคนอื่น ถึงจะทำภารกิจช่วยเหลือองค์หญิงได้สำเร็จ
หากเป็เมื่อก่อนที่นางยังไม่ได้ย้อนเวลามา นางยังสามารถรวมทีมกับผู้เล่นคนอื่นๆ แล้วเข้าไปในดันเจี้ยนเพื่อช่วยกันตีบอสที่อยู่ด้านในได้ แต่ตอนนี้มีนางแค่คนเดียว หากอยากจะช่วยองค์หญิงคนนั้น และทำภารกิจของดันเจี้ยนนี้ให้สำเร็จก็มีแต่ต้องใช้อุปกรณ์ที่ดีที่สุด โดยเฉพาะอาวุธขั้นสูงสุดที่จำเป็ต้องมีติดมือไปทำภารกิจด้วย
เยว่เฟิงเกอเปิดกระเป๋าอุปกรณ์ และเห็นว่าด้านในมีอุปกรณ์ขั้นสุดยอดมากมายที่นางได้มาจากการชนะคู่ต่อสู้ในด่านก่อนๆ
เมื่อนางสวมอุปกรณ์ครบชุดเสร็จแล้ว ตอนนี้ก็เหลือแค่เลือกใช้อาวุธขั้นสูงสุดเท่านั้น
ตอนที่เยว่เฟิงเกอคิดจะเปิดส่วนที่อยู่ในสุดของกล่องเพื่อเลือกสรรอาวุธขั้นสูงที่มีอยู่ แสงเย็นะเืสายหนึ่งพลันเรืองรองทะลุออกมาจากการห่อหุ้ม
เมื่อเยว่เฟิงเกอเปิดออกดู ที่แท้ก็เป็มีดสั้นที่ส่องประกายเ็าเล่มหนึ่ง
มีดสั้นเล่มนี้เหมือนมีดสั้นข้างเอวนางมาก
เยว่เฟิงเกอมองไปที่ข้างเอวตน และพบว่าในตอนนี้มีดสั้นของนางก็กำลังส่องแสงเย็นเยือกวูบวาบอยู่เช่นกัน
จู่ๆ นางก็นึกขึ้นได้ว่ามีดสั้นในเกมเล่มนี้หล่นออกมาจากร่างของบอสที่ก่อนหน้านี้นางโค่นล้มได้
ตอนนั้นคนอื่นๆ ในทีมก็เห็นมีดสั้นเล่มนี้เช่นกัน พวกเขาล้วนอยากได้มัน แต่มิคาดมันจะลอยมาหาเยว่เฟิงเกอแล้วรวมเข้ากับอุปกรณ์บนร่างของนางด้วยตัวเอง
เช่นนี้เองมีดสั้นเซินหลัวอาวุธขั้นสุดยอดนี้จึงหลอมรวมเข้ากับอุปกรณ์ขั้นสูงพวกนั้นแล้วตกมาเป็ของเยว่เฟิงเกอในที่สุด
อย่างไรก็ตาม ั้แ่นั้นมาเยว่เฟิงเกอก็ไม่เคยได้เปิดผนึกหยิบชุดอุปกรณ์และอาวุธขั้นสูงสุดเหล่านี้มาใช้อีกเลย แต่ว่าครั้งนี้นางจะเข้าไปในหอคอยิญญาคนเดียว จึงจำเป็ต้องหยิบมาใช้ทั้งอุปกรณ์ขั้นสูง และมีดสั้นเซินหลัว
เยว่เฟิงเกอควบคุมตัวละครในเกมให้ขึ้นหน้าไปเปิดประตูหอคอยิญญาออกแล้วเดินเข้าไปด้านใน
หอคอยิญญาแห่งนี้มีทั้งสิ้นสิบแปดชั้น ด้านในขังไว้ทั้งิญญาบริสุทธิ์และิญญาร้าย
ทันทีที่เยว่เฟิงเกอย่างเท้าเข้าไป ทั้งิญญาร้ายและิญญาดีต่างก็รีบลอยมาหานาง
เยว่เฟิงเกอควบคุมตัวละครในเกมอีกครั้ง นางเข้าต่อกรกับทั้งิญญาผู้เคราะห์ร้ายและิญญาชั่วร้ายที่เข้ามาโจมตีนางจนิญญาเ่าั้แหลกสลายกันไปตามๆ กัน
เมื่อนางมาถึงชั้นที่สิบแปดก็ได้ยินเสียงเพลงไพเราะดังออกมาจากด้านใน
และเสียงที่ดังคลอมาพร้อมเสียงเพลงอันไพเราะนั้นก็คือเสียงคำรามของบอสระดับสูงสุด
เยว่เฟิงเกอไม่หยุดอยู่นานนัก นางกระชากประตูเหล็กให้เปิดออก
เมื่อบอสระดับสูงสุดเห็นเยว่เฟิงเกอมาปรากฏตัว มันก็แยกเขี้ยวเล็บแล้วพุ่งเข้าใส่เยว่เฟิงเกอทันที
ส่วนองค์หญิงตาบอดคนนั้นที่นางกำลังตามหา อีกฝ่ายมีผ้าแพรสีขาวคาดปิดตา บนร่างสวมอาภรณ์ยาวสีหิมะ
เยว่เฟิงเกอเพิ่งค้นพบว่าองค์หญิงก็คือแม่นางน้อยที่ร้องเพลงคลอในตอนแรกก่อนการล็อกอินเข้าเกม
ในตอนนี้เองนางเข้าใจแล้วว่า เหตุใดตอนแรกที่เปิดเกมเข้ามาถึงได้ปรากฏภาพแม่นางน้อยคนนี้ร้องเพลง ที่แท้อีกฝ่ายก็เป็องค์หญิงที่ถูกขังไว้ในหอคอยิญญา
ตอนที่บอสระดับสูงสุดตัวนั้นกำลังจะโน้มตัวเข้าใกล้เยว่เฟิงเกอ นางก็ได้ดึงมีดเซินหลัวออกมาจากฝักแล้วแทงไปที่ท้องของมัน
เนื้อหนังที่ท้องของบอสระดับสูงสุดตัวนี้หนามาก แน่นอนว่ามีดเซินหลัวไม่สามารถแทงทะลุเนื้อมันได้
เยว่เฟิงเกอรีบควบคุมตัวละครในเกมให้ะโตัวลอยแล้วเปลี่ยนทิศทางของมีดเซินหลัวไปยังบริเวณลำคอของบอสแทน
เนื่องจากบอสระดับสูงสุดมีร่างสูงใหญ่ เมื่อมันเห็นว่าเยว่เฟิงเกอกำลังพุ่งเป้ามาที่คอของมัน มันก็ส่งเสียงขู่ออกมาทันทีแล้วเอื้อมมือไปโจมตีเยว่เฟิงเกอต่อ
เยว่เฟิงเกอควบคุมตัวละครในเกมของนางให้เคลื่อนหลบอย่างรวดเร็ว เมื่อพิจารณาจากระดับความสามารถในเกมของนางแล้วก็หาใช่เื่ยากที่จะหลบหลีกการโจมตีนี้
นางควบคุมตัวละครในเกมให้ะโไปเหยียบบนไหล่ของบอสพร้อมๆ กับใช้มีดสั้นในมือแทงเข้าที่คอของบอสทันที
เืสดไหลทะลักออกมาจากลำคอของมัน
เมื่อเยว่เฟิงเกอเห็นว่าคอเป็จุดอ่อนของบอสตัวนี้ นางก็ควบคุมตัวละครในเกมให้ดึงมีดสั้นออกมาแล้วแทงอย่างรุนแรงซ้ำอีกครั้ง
บอสระดับสูงสุดร้องโหยหวน ร่างกายสั่นเทา
ตอนที่เยว่เฟิงเกอและบอสกำลังตีกันอยู่นี้ องค์หญิงคนนั้นก็ยังคงร้องเพลงคลอต่อไป
ทว่า เสียงขับกล่อมที่ลอดเข้าหูเยว่เฟิงเกอราวกับมีเวทมนตร์ ทำให้ตัวละครในเกมของนางเต็มเปี่ยมด้วยพลัง
เยว่เฟิงเกอควบคุมตัวละครในเกมให้ดีดตัวขึ้นกลางอากาศอีกครั้ง และในระหว่างที่นางกำลังม้วนตัวกลับลงมาก็ได้ใช้มีดเซินหลัวในมือนี้แทงเข้าไปที่ยอดกะโหลกของบอส
ฉับพลันนั้นบอสส่งเสียงครวญครางด้วยความเ็ปออกมาอีกครั้ง มันสั่นไหวอย่างรุนแรง ก่อนจะล้มลงบนพื้นอย่างไร้เรี่ยวแรง
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้