เช้าวันต่อมา จางจินเยว่ตื่นั้แ่เช้าตรู่ เธอตื่นมาเตรียมตัวด้วยความตื่นเต้นด้วยความสัตย์จริงเมื่อคืนเธอแทบนอนไม่หลับเลยด้วยซ้ำ เพราะเธอนอนนึกแต่ว่าด้านนอกรั้วบ้านของเธอนั้นจะเป็อย่างไร จะเป็เหมือนที่เคยเห็นในหนังหรือซีรีส์หรือไม่
เมื่อยามเหม่ามาถึง เสียงเคาะประตูก็ดังขึ้น
ก๊อก ก๊อก
"เข้ามาเลยพี่เจียวเหม่ย"
เจียวเหม่ยเข้ามาในห้องนอนของคุณหนูของเธอก่อนจะมองไปที่สาวน้อยที่กำลังเลือกชุดอยู่อย่างประหลาดใจ
"คุณหนูตื่นเช้าจังเลยเ้าค่ะ"
"ก็ข้าตื่นเต้นนี่นา ข้าอยากออกไปข้างนอกบ้านจะแย่แล้ว" จางจินเยว่ตอบขณะที่ยังคงสาละวนกับการเลือกชุดตรงหน้า เจียวเหม่ยยกยิ้มอย่างเอ็นดูเ้านาย ก่อนจะเดินเข้าไปช่วยเลือกเมื่อทั้งสองเลือกชุดได้เป็ที่พอใจคุณหนูจางจินเยว่เรียบร้อยแล้ว ก็พากันแต่งองค์ทรงเครื่องเสร็จเรียบร้อย
นับั้แ่ก้าวเท้าออกจากบ้านจางจินเยว่ก็แทบจะไม่หยุดมองนั่นมองนี่ ทุกอย่างดูน่าสนใจเหลือเกินสำหรับเธอคนที่มาจากอีก่เวลา ผู้คนเดินกันขวักไขว่กายแต่งกายฤดูหนาวของแต่ละคนสวยงาม อาจจะด้วยใกล้จะถึง่เทศกาลปีใหม่ บ้านเรือนถูกตกแต่งประดับประดาอย่างสวยงาม
จางซือเชี่ยนมองลูกสาวที่นั่งข้าง ๆ บนรถม้า เปิดหน้าต่างดูข้างทางอย่างตื่นเต้นก็อดเอ็นดูจางจินเยว่ไม่ได้ ด้วยความที่เธอป่วยกระเสาะกระแสะทำให้โอกาสที่จะออกมาเที่ยวนอกบ้านแบบนี้แทบจะเป็ศูนย์ เมื่อเห็นลูกสาวแข็งแรง แลดูสดใสร่าเริงแบบนี้เธอก็สบายใจ
วันนี้เธอพาลูกสาวออกมาตรวจงานที่ร้านใหญ่ในตลาดด้วยครั้งแรกเลยก็ว่าได้ เพราะเธอกับสามีหวงและห่วงลูกสาวคนนี้มาก ๆ ด้วยกลัวเธอจะป่วยตอนนี้เธอเองก็กลัวว่ากลับบ้านไปลูกสาวจะป่วยอีกก็เป็ได้ และครั้งนี้สามีของเธอปลอบใจว่าถือว่าเป็การวัดใจกับ์อีกครั้ง หากการฟื้นมาครั้งนี้ลูกของเขาอาจจะเปลี่ยนไปกลายเป็คนแข็งแรงก็เป็ได้
ขบวนรถม้าของฮูหยินและคุณหนูตระกูลจาง มาจอดเทียบที่หน้าร้านขายผ้าไหมผ้าแพรที่ถือว่าใหญ่ที่สุดหลังจากเวลาผ่านไปได้สักหนึ่งถ้วยชา (ประมาณ 15 นาที)
จางจินเยว่ที่มองข้างทางมาตลอดทางออกจากบ้าน ก็ยังคงตื่นเต้นเมื่อลงจากรถม้าหน้าร้านขายผ้าไหมผ้าแพรของครอบครัว เธอเงยหน้ามองอาคารไม้สองชั้นที่ตอนนี้ตกแต่งประดับโคมไฟอย่างสวยงามเบื้องหน้าด้วยความตะลึง
"ใหญ่มาก" เธอเผลออุทานออกมาเบา ๆ ด้วยความคิดไม่ถึงว่ากิจการของครอบครัวเธอจะยิ่งใหญ่ถึงขนาดนี้
จางซือเชี่ยนเดินนำจางจินเยว่และบรรดาผู้ติดตามเข้าไปในร้าน ที่มีพ่อบ้านเหม่ยออกมาต้อนรับนายหญิงและคุณหนูจางทันที
ภายในร้านที่ตกแต่งด้วยภาพวาดสวยงาม มีผ้าหลากหลายสีสัน ลวดลาย ให้เลือกซื้อเยอะจนละลานตา นอกจากนั้นแล้วยังมีลูกค้าแน่นขนัดร้านชนิดที่ว่าลูกน้องในร้านช่วยกันขายผ้ามือเป็ระวิงเลยทีเดียว
"ทางนี้เ้าค่ะคุณหนู"
เจียวเหม่ยสะกิดคุณหนูจางเมื่อนึกขึ้นได้ว่าจางจินเยว่ความทรงจำหายไปคงจะลืมทางไปห้องรับรอง
เมื่อจางซือเชี่ยนพาลูกสาวกับเจียวเหม่ยขึ้นมา้าของร้านในส่วนของห้องทำงานของเธอและห้องรับรองแขกแล้วนั้นก็แยกตัวไปตรวจบัญชีกับพ่อบ้านเหม่ย โดยกำชับให้เจียวเหม่ยดูแลลูกสาวของตนให้ดี
หากมองจาก้าลงไปจะเห็นเป็ลานกว้างกลางอาคารที่ตอนนี้มีผู้คนมากหน้าหลายตากำลังเลือกซื้อผ้า จางจินเยว่กวาดตามองไปรอบ ๆ ด้วยความตื่นตาตื่นใจกับความคึกคักตรงหน้า
จนกระทั่งเธอสะดุดตากับชายหนุ่มคนหนึ่งที่เดินเข้ามาในร้าน โดยมีผู้ติดตามเดินตามมาอีกหนึ่งคน เขาแต่งกายสะอาดสะอ้านดูโดดเด่นออกมาจากผู้คนรอบตัวเขาเดินเข้ามาดูผ้าที่มุมหนึ่งของร้าน
หลี่จางิ่รู้สึกได้ว่ามีใครกำลังมองเขาจาก้าของร้านจึงเงยหน้าขึ้นมอง ทำให้จางจินเยว่ที่กำลังมองเขาอยู่สะดุ้งตัวทันทีด้วยไม่คิดว่าเขาจะเงยหน้าขึ้นมา
ดวงตาเรียวของเขาสบเข้ากับดวงตากลมโตของจางจินเยว่ ทำเอาสาวน้อยรู้สึกร้อนที่ใบหน้าและใบหูไม่ได้
จะแอบดูเขากลับทำให้เขารู้ตัวซะงั้น
จางจินเยว่ที่ตอนนี้เขินหนักมากที่เผลอสบตาเข้ากับหลี่จางิ่ ใจเต้นตึกตักอย่างไม่เคยเป็มาก่อน เธอจึงคิดไปเองว่าคงเป็เพราะเธอเขินที่โดนจับได้ว่าแอบมอง
ทางด้านหลี่จางิ่ที่จับได้ว่ามีคนแอบมองเขาจาก้าก็ไม่ได้มีอาการหน้าแดงหูแดงอย่างคนที่แอบมองไม่ แต่หากสังเกตดูดี ๆ แล้วจะเห็นได้ว่าบนใบหน้าที่เรียบเฉยนั้นมุมปากของเขากำลังยกขึ้นเล็ก ๆ อย่างเอ็นดูเมื่อเห็นเด็กสาว้าทำเป็เสไปมองอย่างอื่นเมื่อสบตาเข้ากับเขา
หลี่จางิ่เป็บุตรชายของแม่ทัพหลี่ที่ปัจจุบันต้องไปดำรงตำแหน่งที่เมืองใกล้ ๆ กันนี้ เขาเป็ลูกชายคนเล็กของแม่ทัพหลี่ทำให้ไม่ค่อยมีใครรู้จักเขานัก เนื่องจากเขาไม่ต้องเทียวไปออกงานสังคมกับท่านพ่อ
สำหรับคนภายนอกจะมองว่าเขาเป็เพียงบุรุษหน้านิ่ง เงียบขรึม ตาดุ เท่านั้น แต่หากใครที่ใกล้ชิดสนิทสนมแล้วจะรู้ดีว่าเขานั้นเป็ผู้ช่วยหรือกำลังสำคัญคนหนึ่งของแม่ทัพหลี่เลยก็ว่าได้
เนื่องจากเขาเติบโตมาในครอบครัวทหาร เขาจึงได้เรียนรู้วิชามาจากท่านพ่อเต็ม ๆ ไม่ว่าจะเป็เพลงดาบ เพลงกระบี่ หรือตำราพิชัยยุทธ์ก็ตาม เพียงแต่เขาไม่เคยได้มีโอกาสแสดงฝีมือให้ใครเห็นเท่านั้น
หลี่จางิ่เป็บุรุษวัยที่ควรจะแต่งงานได้แล้ว สาว ๆ ต่างหมายปองเขา แต่เขานั้นไม่เคยสนใจหญิงใดเลย เพราะการทำงานของเขานั้นค่อนข้างจะเสี่ยงอันตรายทำให้เขาไม่อยากแบ่งเวลาไปคิดเื่อื่น
นอกจากนั้นแล้วหลี่จางิ่ยังมีผู้ติดตามหรือเพื่อนสนิทอีกหนึ่งคน ซึ่งเรียกว่าโตมาด้วยกันเลยก็ว่าได้หากเขาอยู่ที่ใดก็จะมีหยางจิ้นฝางเป็เงาตามตัว
วันนี้หลังจากที่พบกับท่านอาจางเพื่อนของท่านพ่อเรียบร้อยแล้ว หลี่จางิ่กับหยางจิ้นฝางผู้เป็ผู้ติดตามที่เปรียบเสมือนเพื่อนสนิทก็พากันมาเดินตลาดต่อ ซึ่งความจริงแล้วจะเรียกว่าเดินตลาดก็ไม่ได้เพราะที่จริงแล้วพวกเขามาทำงานซะมากกว่า
คนอื่นที่มองเข้ามาจะคิดว่าพวกเขาเป็เพียงแค่บัณฑิตลูกแม่ทัพเท่านั้น แต่ความจริงแล้วพวกเขาก็คือสายลับของกองทัพดี ๆ นี่เอง
แล้วใครเล่าจะคิดว่าการออกมาทำงานวันนี้จะทำให้หลี่จางิ่ได้เจอกับจางจินเยว่ลูกสาวของอาจางโดยไม่คาดคิด เขาได้ยินชื่อของเธอมานานแล้วไม่ผิดตัวแน่ เพราะคงไม่มีใครสามารถขึ้นไปที่บริเวณ้าของร้านได้
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้