เดิมทีหลินหวั่นชิวก็เป็ไข้สูง วิงเวียนศีรษะ พอมาถูกเขาแบกขึ้นไหล่แบบนี้จึงยิ่งวิงเวียนกว่าเดิม
“เฮ้…วางข้าลง ข้าเดินเองได้” นางไม่มีแรงดิ้น ได้แต่รวบรวมแรงมาประท้วงสุดกำลัง
แต่เปล่าประโยชน์ เสียงที่นางพูดด้วยแรงทั้งหมดแทบไม่ต่างอะไรกับเสียงยุง แค่หลุดออกจากปากก็หายไปในสายลมฤดูใบไม้ร่วง ไม่ต้องหวังว่าชายมีแผลเป็จะได้ยิน
“อยู่นิ่งๆ!” ใครจะไปคิดว่าชายมีแผลเป็จะตอบนางอย่างรำคาญใจ ฝ่ามือหนาตบลงที่ก้นของนาง
โอ้ เด้งมาก เนื้อััดีมาก
ชายมีแผลเป็อดใจตบอีกครั้งไม่ได้
หลินหวั่นชิวสบถในใจ อันธพาลโรคจิต!
น่าเสียดายที่นางไร้เรี่ยวแรงตอบโต้
“นี่…ข้าเวียนหัว…เกิดข้าตายขึ้นมา…เ้าได้ขาดทุนแน่!” ไม่ว่าหลินหวั่นชิวจะโมโหเพียงใดก็เข้าใจสถานะตัวเอง เห็นเขาได้ยินที่ตัวเองพูดแล้วก็รีบเสริมอีก
คนคนนี้ใช้หมูป่าตัวเดียวมาแลกกับนาง คงไม่อยากแบกหญิงที่ตายแล้วกลับบ้านกระมัง?
เพราะจะเอาไปทำอะไรได้?
จองหลุมฝังศพหรือ?
แม้ความคิดนี้จะค่อนข้างน่าเศร้า แต่สถานการณ์บีบบังคับ หากอยากมีชีวิตรอด หลินหวั่นชิวก็ได้แต่พูดโน้มน้าวชายมีแผลเป็เช่นนี้
เป็ไปตามคาด ชายมีแผลเป็บ่นเสียงเบาเมื่อได้ยินคำพูดนาง "ยุ่งยาก" เขาวางนางลงก่อนที่จะอุ้มนางขึ้นอีกครั้ง
แต่ัันุ่มนิ่มของภรรยาในอ้อมแขนก็…ดีกว่าแบกจริงๆ นั่นแหละ
เขาขยับตัวเร็วมาก หลินหวั่นชิวต้องยกสองแขนกอดคอเขาเพราะกลัวตก
์ ผู้ชายคนนี้จะหยาบกระด้างเกินไปแล้ว ร่างกายนางตอนนี้อ่อนแอมาก ทนถูกกระทำรุนแรงได้ที่ไหนกัน…หลินหวั่นชิวรู้สึกเหมือนเพิ่งออกจากรังหมาป่าแล้วต้องเข้าถ้ำเสือต่อ
นางคิดหาวิธีเอาตัวรอดตลอดทาง ไม่ทันไรก็ถึงจุดหมาย
ที่นี่เป็ลานบ้านใต้เชิงเขาหลังเล็กๆ ห่างออกไปมีบ้านเรือนอยู่สองสามหลัง ทว่าด้านข้างกลับไม่มีเพื่อนบ้าน มีลานบ้านแห่งนี้ตั้งอยู่อย่างโดดเดี่ยว ประตูไม้กับกำแพงดินถูกเงาไม้เขียวชอุ่มปกคลุม สภาพผุพังรกร้าง
ชายมีแผลเป็ยกเท้าถีบประตูลานบ้าน ทัศนียภาพด้านในดูไม่ได้ยิ่งกว่าด้านนอก เสื้อผ้าที่ตากบนราวไม่มีสภาพดีสักตัว ทุกตัวถูกปะแล้วปะอีก ภายในลานไม่มีเครื่องเรือนและเครื่องมือทำการเกษตรใดๆ ใต้ชายคามีเก้าอี้พังๆ สองตัว บนกำแพงมีหนังสัตว์ที่ไม่รู้เป็ของสัตว์ป่าตัวไหนแขวนอยู่สองสามผืน
“พี่ใหญ่ ท่านกลับมาแล้วหรือ?”
“พี่ใหญ่ ท่านขายหมูป่าไปหรือยัง? ซื้อเสบียงกลับมาหรือเปล่า? ไปรับยาของพี่รองมาแล้วใช่ไหม?”
ในตอนนี้เองที่มีเด็กชายร่างผอมซูบเนื้อติดกระดูกท่าทางอายุห้าหกขวบคนหนึ่งวิ่งออกมาจากห้องๆ หนึ่ง เด็กชายสวมเสื้อผ้าขาดๆ ผิวที่โดนอากาศกลายเป็สีแดงเพราะความเย็น
ตอนนี้เช้าสู่่ปลายฤดูใบไม้ร่วงแล้ว เด็กน้อยสวมเสื้อผ้าแค่ชั้นเดียว ด้านนอกสวมเสื้อกั๊กหนังสัตว์
รองเท้าที่เขาใส่ขาดจนเห็นนิ้วเท้า ตะเข็บที่ส้นก็อ้าออก ต้องใส่แบบเหยียบส้น เวลาเดินมีเสียงดังเปาะแปะๆ
เด็กชายชะงักเมื่อเห็นหลินหวั่นชิวที่ถูกชายมีแผลเป็อุ้มไว้ เขาตะลึงสักพักก่อนที่จะถามว่า “พี่ใหญ่ นี่ใครหรือ?”
ชายมีแผลเป็ตอบเสียงอู้อี้ว่า “พี่สะใภ้ของพวกเ้า หมูป่าถูกใช้เป็สินสอดไปแล้ว ต่อไปนี้เวลาพี่ใหญ่ออกไปล่าสัตว์ พวกเ้าจะได้มีคนดูแล”
ฟู่ว ยังดีที่ไว้หน้านาง ไม่ได้บอกว่าซื้อตัวนางมา ชายคนนี้รอบคอบไม่เบา
“เยี่ยมไปเลย!” เด็กชายได้ยินดังนี้ก็ดีใจ พี่รองชอบโทษว่าร่างกายที่อ่อนแอของตัวเองทำให้พี่ใหญ่แต่งงานช้า คราวนี้ได้มีพี่สะใภ้แล้ว พี่รองจะได้เลิกโทษตัวเอง และเมื่อเขาอารมณ์ดี ไม่แน่ว่าอาการป่วยอาจจะหายเร็วขึ้นก็ได้
“พี่รอง พี่ใหญ่พาพี่สะใภ้กลับมาด้วยล่ะ!”
เสียงะโโลดเต้นด้วยความดีใจของเด็กชายดังขึ้นข้างหู หลินหวั่นชิวถูกชายมีแผลเป็อุ้มเข้าห้อง ภายในห้องมีเตียงมีเครื่องเรือน แค่มองก็รู้ว่าเป็ของทำมือทั้งสิ้น ไม้ที่ใช้ทำตู้ยังมีเปลือกไม้ติด ทุกอย่างดูหยาบกระด้างไปหมด
แต่อย่างไรก็ดีกว่าบานประตูที่นางนอนก่อนหน้านี้
หลินหวั่นชิวถูกวางลงบนเตียง ชายมีแผลเป็หยิบผ้าห่มผืนบางที่เต็มไปด้วยรอยปะมาห่มให้เสร็จก็หันไปหยิบหนังสัตว์เดินออกไป
“ข้าจะเอาหนังสัตว์ไปขายในตัวเมือง เดี๋ยวเดียวก็กลับ หากมีอะไรก็เรียกน้องเล็ก”
พูดจบก็เดินออกไป หลินหวั่นชิวได้ยินเขากำชับเด็กชายด้านนอก “ต้มน้ำขิงใส่น้ำตาลให้พี่สะใภ้เ้าหน่อย นางไม่สบาย อ้อ จริงสิ ต้มโจ๊กขิงให้นางด้วย”
“แต่บ้านเราเหลือข้าวแค่หยิบมือเดียว” เด็กชายตอบด้วยความลำบากใจ
“ต้มไปเถอะ เดี๋ยวพี่ใหญ่ซื้อเสบียงกลับมา”
เสียงของเด็กชายแจ่มใสขึ้นทันทีที่ได้รับคำมั่นจากชายมีแผลเป็ “พี่ใหญ่วางใจได้ ข้าจะดูแลพี่สะใภ้กับพี่รองเอง”
ทำอย่างไรดี?
ฟังจากที่พวกเขาคุยกัน ครอบครัวนี้จนขนาดที่แทบจะไม่มีอะไรกินแล้ว!
มิหนำซ้ำยังมีคนป่วยอีก!
นี่ไม่ใช่ปัญหาเื่ความจนอย่างเดียว จากความทรงจำของเ้าของร่าง โอสถใน่ราชวงศ์โจวมีราคาแพงมาก ประชาชนหลายคนป่วยแล้วไม่มีเงินหาหมอหรือซื้อยา
หากล้มป่วยก็ได้แต่ทนเอา โชคดีหน่อยก็รอด โชคไม่ดีก็อาจทำให้โรคเล็กๆ เรื้อรังกลายเป็โรคร้ายแรงและตายจากไป
ครอบครัวที่ยากจนว่าน่ากลัวแล้ว ครอบครัวยากจนที่มีคนป่วยยิ่งน่ากลัวเข้าไปใหญ่
ไม่ ไม่…นางไม่มีสิทธิ์มารังเกียจครอบครัวนี้ ตอนนี้ปัญหาใหญ่ของนางคือควรทำอย่างไรต่อไปต่างหาก!
คนหยาบคายนั่นซื้อนางกลับมาให้เป็เมียนะ!
หลินหวั่นชิวอดนึกถึงจุดจบของพวกผู้หญิงที่ถูกหลอกไปขายในูเาลึกให้ชายแก่หัวล้านไม่ได้ นางกลัวจนใจสั่น
นางไม่อยากกลายเป็เครื่องผลิตลูก ไม่อยากแต่งงานทั้งที่ไม่ได้รัก!