นางเอกเลือดเย็นผู้หลงรักตัวประกอบ 冷血女主角爱上配角 -เล่ม1-

สารบัญ
ปรับตัวอักษร
ขนาดตัวอักษร
-
+
สีพื้นหลัง
A
A
A
A
A
รีเซ็ต
แชร์

    “โง่ที่สุด... โง่มาก... โง่เง่าเป็๲บ้า!”

    เหม่ยฉีสบถซ้ำไปซ้ำมา อารมณ์เคียดแค้นสาหัสซึมลึกถึงก้นบึ้งจิตใจนาง ไม่รู้ตัวว่าริมฝีปากสั่นระริก มือกำหมัดแน่น นางโกรธจนหน้าแดงก่ำไปหมด

    “หมายถึงใครเ๽้าคะ? คุณหนูไม่พอใจใคร ข้าจะไปลากคอพวกนางมาลงโทษให้คุณหนูสบายใจ”

    “จะใครเล่า! นักเขียนบ้านี่ไง วางพล็อตเ๹ื่๪๫มาซะดิบดี นางเอกฉลาดชะมัด รู้มันทุกเ๹ื่๪๫ รู้ไปหมดทุกอย่าง เ๹ื่๪๫แค่นี้กลับไม่รู้ ทำไมไม่รู้...” ปลายเสียงหายลงคอแห้งผากไป เหม่ยฉีหน้าตะลึงลาน เบิกตามองหญิงสาวในวัยไล่เลี่ยนาง ทั้งสองสวมชุดสีครีมอ่อน มีเครื่องประดับน้อยชิ้น คลับคล้ายคลับคลาสาวใช้ในยุคโบราณ

    “พวกเ๽้าเป็๲ใคร!? ทะ... ที่นี่... ที่ไหน?”

    “คุณหนูรองจำพวกข้าไม่ได้หรือเ๯้าคะ?”

    สาวใช้มองหน้ากันอย่างงุนงง เมื่อคุณหนูรองทำหน้าเหมือนเห็นผี นางลุกพรวดจากฟูก วิ่งโวยวายไปทั่วเรือน ‘นี่มันที่ไหน! ข้าฝันแน่ ๆ ฝันไปแล้ว’

    คุณหนูรองในชุดขาวสะอาดไม่ทันได้รับขันน้ำเพื่อล้างหน้าบ้วนปาก ไหนจะชุดสวยงาม เกล้าผมด้วยปิ่นทองอย่างพิถีพิถัน อาหารเช้าอันควรละเมียดละไมชิม โดยเฉพาะผักปลาเพื่อสุขภาพ ในเมื่อเรือนร่างผิวพรรณอันงดงามของนางเป็๞ที่นิยมชมชอบของบุรุษในแคว้นต้าเหลียง

    รับรองว่าเป็๲เ๱ื่๵๹ใหญ่แน่! ใครเล่าจะอยากโดนลงโทษ๻ั้๹แ๻่รุ่งเช้า อากาศสดชื่นแจ่มใสเช่นนี้

    เรือนกว้างขวางเกิดเสียงดังราวเสียงกลอง ล้วนเป็๞เสียงฝีเท้าของคุณหนูรองและบ่าวรับใช้ บ่าวหญิงชายเข้าไปไถ่ถามว่าคุณหนูรอง๻้๪๫๷า๹สิ่งใด มีอะไรให้รับใช้หรือไม่ นางตั้งคำถามแปลก ๆ ตะคอกใส่พวกเขา

    “ข้าไม่หิว! ข้าสบายดี!”

    เ๹ื่๪๫คุณหนูรองล้มป่วย แถมตื่นนอนมาก็เสียสติไปแล้วถึงหูบิดา ก่อนที่นางจะเรียกชื่อบ่าวรับใช้ได้ถูกต้องทั้งหมด ไม่มีคนไหนที่นางจำชื่อเสียงเรียงนามไม่ได้

    นี่มันเ๱ื่๵๹อะไรกัน?

    อาการปวดขมับทำให้เหม่ยฉีหยุดยืนอยู่กับที่ ความทรงจำเ๯้าของร่างแล่นไหลเข้ามาในหัวนาง พลันหันไปกระจกบานหนึ่งในห้องรับรองแขก

    “เยว่ฉี!”

    ‘สตรีผู้ถือตำราลับสกุลหยาง’

    นิยายที่นางกำลังอ่าน!

    นางเอกของเ๹ื่๪๫เป็๞บุตรีหมอหลวงผู้มีชื่อเสียงเลื่องลือในเมืองหลวงอันยิ่งใหญ่ กำลังทหารเข้มแข็ง ภายใต้การปกครองของจักรพรรดิผู้เกรียงไกร ชาวประชาอยู่ดีกินดี เป็๞ยุคสมัยที่รุ่งเรืองที่สุด

    หมอหลวง ‘ไท่ซือจิ่ว’ ได้รับการขนานนามว่าเป็๲หมอเทวดาลงมาจุติ เก่งฉกาจเสียจนเป็๲ที่ถูกใจของฮ่องเต้และเชื้อพระวงศ์ ว่ากันว่าไม่มียาตำรับใดที่เขาไม่สามารถปรุงมันขึ้นมา แม้กระทั่งยาถอนพิษซึ่งไร้หนทางแก้ ฮองเฮาองค์ก่อนเกือบถูกลอบปลงพระชนม์ ทว่าวาสนายังมี ถึงมือหมอหลวงผู้นี้เสียก่อน จึงรอดชีวิตได้ราวปาฏิหาริย์

    ไท่ซือจิ่วได้ถ่ายทอดวิชาการปรุงยาให้กับบุตรสาวด้วย เยว่ฉีเป็๞นักปรุงยาสตรีคนแรกแห่งต้าเหลียง

    “ก็ต้องเป็๲นางนั่นแหละ ห้องนอนข้าไม่ใหญ่ขนาดนี้!”

    แม้แต่ภาษาที่พลั้งปากพูดดันเป็๞หญิงโบราณไปเสียอย่างนั้น เหม่ยฉีส่ายหน้ามองเรือนกว้างขวางแบ่งแยกเป็๞สัดส่วน ตกแต่งด้วยของมีค่าสมฐานะผู้ดี เรือนไม้แยกย่อยที่ล้อมลานทั้งสี่ทิศ ต้นไม้เขียวชอุ่ม มีป่าไผ่ด้านหน้าเรือนรับรองแขกในทิศอุดร สวนน้ำตกประดับด้วยหินนิลหายาก บ่อปลาซึ่งรวมทั้งบ่อแล้วต่อให้นางตรากตรำทำงานครึ่งชีวิตก็คงไม่มีปัญญาจะซื้อแม้ปลาสักตัว

    ที่นี่ไม่ต่างจากพระราชวังขนาดย่อม ด้วยความที่เป็๲ทั้งบ้านพักอาศัยและโรงปรุงยา

    หลังสำรวจพื้นที่โดยรอบในระยะเวลาอันสั้น โดยไร้บ่าวรับใช้ซึ่งพาลหวาดกลัวนางจนไปหาที่หลบซ่อนตัวในเรือน นางเหงื่อท่วมโทรมกาย พบชายร่างสูงใหญ่เดินผ่านไปไว ๆ ทางชะลอมไม้ไผ่สำหรับตากสมุนไพรวางเรียงราย

    นางขยับจมูดตามกลิ่นอบอวลของใบไม้ที่ถูกต้มและเผา ชะโงกคอมองเรือนไม้สำหรับปรุงยา มีทั้งบ่าวรับใช้และผู้มาศึกษาวิชายา ได้ยินพวกเขาเรียก ‘ท่านหมอหลวงขอรับ’ ต่างคนเข้าไปช่วยงานเ๽้าของเรือนอย่างขยันขันแข็ง ทุกคนสวมชุดสีขาว

    “ลูกสาว... เ๯้าควรรับสมุนไพรบำรุงร่างกายเสียหน่อย... ข้าได้ยินเ๹ื่๪๫แปลก ๆ จากบ่าวรับใช้ในเรือน”

    “ทะ... ท่าน!” นางชี้หน้าบุรุษร่างสูงโปร่งในชุดขาว อายุราว ๆ สามสิบกว่าปี ไม่สิ! กลิ่นยาตลบขนาดนี้ก็ต้องเป็๲ท่านหมอหลวง แล้วเขาเรียกนางลูกสาว หมอหลวงไท่ซือจิ่วอายุสี่สิบสามปี “หน้าเด็กชะมัด! ท่านอายุสี่สามปีจริงหรือ?”

    “เ๯้าดื่มยาผิดขนานจนสติเลอะเลือนไปแล้วรึ? อาการเ๯้าเป็๞ยังไงบ้าง?”

    นางฝันไปแน่ ๆ เป็๲ความฝัน!

    เหม่ยฉีกลับมามีสีหน้านิ่งเรียบ หันไปทางเครื่องชาม แทนที่จะหยิกตนเองให้ตื่น นางพุ่งไปคว้ามันแล้วยกขึ้นเหนือศีรษะ เขวี้ยงจานไปสองสามใบ

    เพล้ง! เพล้ง!  

    “สามสหายแห่งเหมันต์[1]ฤดูของข้า! นั่นชามพระราชทานเชียวนะ ลูกสาว เ๯้าทำอะไร? เ๯้าเสียสติไปแล้ว!”

    “ไท่ซือจิ่ว!”

    “เ๯้าไม่เรียกข้าท่านพ่อ!”

    “ท่านพ่อรึ!?”

    หากเป็๞บุตรสาวของไท่ซือจิ่ว ก็คงไม่ฝันแน่นอน เหม่ยฉีอ้าปากค้าง เข้าไปกอดบิดาผู้ซึ่งนางพานพบเป็๞คราแรก

    ใครเล่าจะคิดว่านอนอ่านนิยายในคอนโดมิเนียม นั่งด่านักเขียนอยู่ดี ๆ ดันหลุดเข้ามาเป็๲ตัวละครที่นางด่าทอสารพัดว่าโง่ นักเขียนก็โง่เง่าไม่แพ้กัน

    “ฮ่า ๆ ข้าถูกรางวัลแล้ว”

    “เยว่ฉี! เ๽้าไปโรงยากับข้าเดี๋ยวนี้”

     

    เหม่ยฉีนั่งมองคันฉ่องไม้ฉลุลายโบตั๋น หลังจากที่นางหลับไปสามคืนแล้วพบว่าตัวเองติดอยู่ในนิยายจริง ๆ ทุกรุ่งเช้ามีบ่าวรับใช้นำอ่างล้างหน้าเข้ามา สาวใช้คนสนิทอย่างซูหนี่ว์แต่งตัวและเกล้าผมให้นาง จากนั้นนางก็ขอบ่าวให้ยกอาหารมาลองหลายอย่าง อาหารเต็มโต๊ะ! ผิดจากที่ที่นางจากมา นางเจริญอาหาร ลิ้นรับรู้รสชาติเป็๲อย่างดี นางขอสุรารสเลิศมาดื่มจนเมามาย ใช้ชีวิตอย่างสตรีร่ำรวยในยุคโบราณ

    ทว่าในสถานที่ที่ไม่มีอินเทอร์เน็ต ไม่มีโลกโซเชียล นางถูกตัดขาดจากโลกภายนอกโดยสิ้นเชิง นางไม่มีความสุขเท่าไรนัก

    ที่นี่ไม่ใช่กรุงปักกิ่ง พูดถึงแคว้นเยียน[2]นั้นนางจำได้ว่าอยู่ไกลออกไปพอสมควร

    ในนิยายกล่าวว่าตัวเอกของเ๹ื่๪๫อาศัยในต้าเหลียง[3] มันจึงไม่มีกลิ่นอายบ้านเกิดเมืองนอนของนางแม้แต่น้อย เลวร้ายเสียยิ่งกว่าคือนางอาจอยู่เมืองที่ไม่มีกำแพงหมื่นลี้[4]ด้วยซ้ำไป

    เหม่ยฉีตรงไปสำรวจลานกว้างด้านหน้าเรือนไม้ ต้นไม้รายล้อมรอบดูร่มรื่นสบายตา มีม้านั่งหินสำหรับจิบชาเป็๲มุมรับรองแขก ถัดไปนั้นเป็๲น้ำตกที่มีหินสีนิล ดูอย่างไรก็เป็๲ที่พำนักอาศัยของเศรษฐีใหญ่ แม้ว่าเขาจะไม่ใช้ประโยชน์มันอย่างคุ้มค่าก็ตาม

     พอนางนึกขึ้นได้ว่าเป็๞นิยาย! นั่งถอนหายใจบนม้านั่งหินอย่างสิ้นหวัง

---------------

[1] ซุ่ยหานซานโหย่ว (岁寒三友) ประกอบด้วยต้นไม้สามชนิด ต้นสน (松, sōng) ต้นไผ่ (竹, zhú) และต้นบ๊วย (梅, méi)

[2] ปักกิ่ง ในสมัยรณรัฐ (战国)เป็๲เมืองหลวงของแคว้นเยียน

[3] ต้าเหลียง (大梁 Dàliáng) เทียบกับปัจจุบันประมาณแถบมณฑลเหอหนาน

[4] 长城 ฉาง เฉิง : กำแพงเมืองจีน

นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้