บทที่ 10 กำหนดการสามวัน
เมื่อกลับมาที่โรงเตี๊ยม ฉู่อวิ๋นก็ปลุกฉู่ซินเหยา พยุงแผ่นหลังของนางขึ้นและขอให้นางยกคางขึ้นเล็กน้อย เผยให้เห็นลำคอที่ยาวและขาวราวหิมะ จากนั้นก็เปิดริมฝีปากสีเชอรีของนาง แล้วป้อนเม็ดยาเสริมิญญาเข้าไป
หลังจากกินยาเสริมิญญา สีหน้าของฉู่ซินเหยาก็สดใสขึ้นอย่างเห็นได้ชัด รังสีอึมครึมของนางหายไปแล้ว ใบหน้าที่งดงามอยู่แล้วก็งามขึ้นกว่าเดิมด้วย
ฉู่ซินเหยากะพริบตาแล้วมองเห็นกล่องเล็กๆ สองสามกล่องบนโต๊ะ นางไม่พอใจและพูดด้วยความโกรธ "เ้าเด็กมือเติบนี่ ซื้อยาแค่เม็ดเดียวก็พอ เ้าจะซื้ออะไรมาตั้งมากมาย เ้าบอกมานะ ยาพวกนี้ต้องใช้เงินเท่าไร?”
เมื่อมองดูใบหน้างามของฉู่ซินเหยาที่เต็มไปด้วยความโกรธ ฉู่อวิ๋นก็ยิ้มอย่างอบอุ่น ช่วยพยุงให้นางค่อยๆ นอนลงและพูดเบาๆ ว่า "ไม่เยอะๆ แค่ร้อยเหรียญทองเท่านั้น พี่หญิงท่านวางใจเถอะ"
หลังจากได้ยินคำพูดของฉู่อวิ๋น ฉู่ซินเหยาก็เชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง แต่นางไม่เคยก้าวเข้าสู่ตลาดยาเลย ดังนั้นย่อมไม่รู้ราคาของยา
นางไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากบีบหน้าฉู่อวิ๋นเบาๆ แล้วยกยิ้ม จากนั้นจึงหลับตาลงเพื่อพักผ่อน
หลังจากนั้น ฉู่อวิ๋นนั่งลงขัดสมาธิบนพื้นห้อง หยิบยาฟื้นเส้นสมปราณมากิน แล้วเปิดเส้นลมปราณเสริมต่อไป
พรุ่งนี้เขาจะไปที่เรือนตระกูลหลัก เพื่อพิสูจน์ตัวเอง และทำให้ทุกคนหุบปากเสีย!
ค่ำคืนเปรียบดังแม่น้ำ อยู่ใต้ท้องนภาเดียวกัน ณ ลานตะวันตกของตระกูลฉู่
ในห้องห้องหนึ่ง แสงเทียนริบหรี่ ปรากฏเงาร่างสามร่าง
หนึ่งในนั้นเป็ชายวัยกลางคนที่มีใบหน้าอึมครึม เขานั่งอยู่บนเก้าอี้ มองตรงไปที่ฉู่เฮ่า ริมฝีปากเม้มแน่น และมีร่องรอยของความโกรธ
“เ้าเด็กชั่ว เ้ายังคิดจะโกหกข้าอีกหรือ? ต้องให้ข้าทำลายมืออีกข้างของเ้าหรืออย่างไรเ้าถึงจะพูดความจริงออกมา?” ชายวัยกลางคนโบกมือด้วยความโกรธ พาให้เก้าอี้ที่อยู่ด้านข้างล้มระเนระนาด
ฉู่เฮ่าสะดุ้งและเอ่ยอย่างลนลาน "ท่านพ่อ! ข้าไม่ได้โกหก! มือของข้า...ถูกเ้าขยะอย่างฉู่อวิ๋นทำลายจริงๆ ขอรับ! มัน...ดูเหมือนว่ามันจะไปถึงขอบเขตควบแน่นพลังปราณระดับสามแล้วด้วย!”
ชายวัยกลางคนผู้นี้คือผู้าุโหกของตระกูลหลักและเป็บิดาของฉู่เฮ่า เขารู้จักนิสัยของฉู่เฮ่าดีและรู้ว่าลูกชายของตนลุ่มหลงสุรานารีทั้งวัน ทั้งยังชอบสร้างปัญหาไปทั่ว
เดิมผู้าุโหกคิดว่าที่ฉู่เฮ่าถูกทำลายมือข้างขวาเพราะไปยั่วยุผู้แข็งแกร่งที่มาจากนอกเมือง และอีกฝ่ายคงน่าหวาดกลัวจนไม่กล้าบอกที่มาที่ไป
แต่มาบอกว่าถูกเ้าฉู่อวิ๋นจากตระกูลย่อยทุบตีจนมือพิการมา จะเป็ไปได้อย่างไร?
“เชอะ! พวกเราที่เป็ตระกูลฉู่ของเมืองไป๋หยาง มีชื่อเสียงในพื้นที่นี้ ใครหน้าไหนจะกล้ามาท้าทาย ต่อให้พวกเราจะฆ่าคนตาย แม้แต่เ้าเมืองมู่หรงก็ยังต้องดูสีหน้าพวกเราก่อนจะทำอะไร ตกลงแล้วเด็กอกตัญญูเช่นเ้าทำอะไรลงไปกันแน่?”
ผู้าุโหกตะคอกอย่างเ็า เขาไม่เข้าใจว่าทำไมฉู่เฮ่าถึงหลบเลี่ยงและไม่ยอมเอ่ยถึงต้นตอของเื่นัก เพียงแต่บอกว่าเป็ฉู่อวิ๋นที่ทำให้เขาพิการ
เมื่อได้ยินเช่นนี้ สีหน้าของฉู่เฮ่าก็เปลี่ยนไป ดวงตาก็หลบเลี่ยงไปมา
ความจริงแล้ว เขาไม่ได้บอกว่าเขาตั้งใจจะลวนลามฉู่ซินเหยา เพราะในตระกูลฉู่ แม้ว่าพวกเขาจะมีอำนาจมากเพียงใด ก็ไม่สามารถบังคับรุกรานผู้คนในตระกูลเดียวกันได้
ยิ่งไปกว่านั้น ฉู่ซินเหยายังเป็เทพธิดาในสายตาของคนรุ่นใหม่ หากมีใครรู้เข้า เขาคงถูกรุมประณามและทุบตีเอาปางตายแน่
เมื่อเห็นฉู่เฮ่าเงียบ ผู้าุโหกก็เืขึ้นหน้า ทันใดนั้น เขาก็ลุกขึ้นและตบฉู่เฮ่าอย่างแรงจนมีรอยฝ่ามือสีแดงสดปรากฏบนใบหน้าของฉู่เฮ่า
“ขายหน้านัก! เ้าคนขี้ขลาด!”
ฉู่เฮ่าจับใบหน้าที่แสบร้อนไว้และไม่แสดงความเ็ปออกมา เขาไม่คิดว่าท่านพ่อจะไม่เชื่อคำพูดของเขาเลย
แต่ก็ไม่น่าแปลกใจ เพราะคงไม่มีใครคิดว่าฉู่อวิ๋นจะทะลวงพลังยุทธ์ผ่านได้ถึงสองขั้นภายในสองวัน ไปถึงขอบเขตควบแน่นพลังปราณระดับสาม และเชี่ยวชาญกระบี่ดาวตกเป็อย่างมาก
“ท่านพ่อ ใจเย็นลงก่อนเถิดขอรับ ข้าคิดว่า คำพูดของเฮ่าเอ๋อร์ก็ใช่ว่าจะเชื่อไม่ได้ เมื่อเร็วๆ นี้ มีข่าวลือว่ามีกระแสพลังิญญาปรากฏขึ้นในเมืองไป๋หยางตอนดึก หากสิ่งที่เฮ่าเอ๋อร์พูดเป็ความจริง นี่จะต้องเกี่ยวข้องกับเ้าดาวหายนะแน่ ทุกอย่างก็ดูสมเหตุสมผลอยู่นะขอรับ”
ถัดจากเขา ชายหนุ่มรูปงามก็เปิดปากวิเคราะห์ คนคนนี้คือฉู่เจี้ยนเหริน พี่รองของฉู่เฮ่า
ผู้าุโหกกะพริบตา แสดงท่าทีครุ่นคิด และพูดว่า "เ้าหมายความว่า กระแสพลังิญญาเกิดจากเ้าขยะนั่นหรือ?"
ฉู่เจี้ยนเหรินพยักหน้า "ขอรับ หากจะให้ก้าวหน้าได้อย่างรวดเร็วภายในสองวัน ทำได้แค่กระตุ้นกระแสพลังิญญาเท่านั้น"
เมื่อได้ยินดังนั้น สีหน้าของผู้าุโหกก็อ่อนลงเล็กน้อย ดวงตาแสดงความประหลาดใจ เขาหย่อนตัวนั่งลงบนเก้าอี้ จ้องมองไปที่ฉู่เฮ่าแล้วถามว่า "เฮ่าเอ๋อร์ เ้าไม่ได้โกหกข้าจริงหรือ?"
ฉู่เฮ่าพยักหน้าซ้ำๆ
ห้องทั้งห้องตกอยู่ในความเงียบ
ผู้าุโหกใช้เวลานานกว่าจะหายจากอาการใ
แต่ทว่า ดวงตาของเขาเ็ามาก
“ฉู่ซานเหอ...เ้ามีลูกชายที่ดีจริงๆ” ผู้าุโหกพูดกับตัวเองและเยาะเย้ยอยู่ซ้ำๆ
“เชอะ ตามที่เฮ่าเอ๋อร์พูดไว้ พรุ่งนี้เศษเดนจากตระกูลย่อยจะมาที่นี่...” ผู้าุโหกจ้องมองฉู่เจี้ยนเหรินด้วยสีหน้าเคร่งเครียด “เหรินเอ๋อร์ เ้ารู้หรือไม่ว่าควรทำอย่างไร?”
ฉู่เจี้ยนเหรินยกยิ้มมุมปากขึ้นเล็กน้อย เขาหัวเราะเยาะขึ้นและเอ่ยว่า "ข้าทราบแล้วขอรับ คนผู้นี้เก็บไว้ไม่ได้ แม้ว่าข้าจะไม่รู้ว่าทำไมการฝึกฝนของเขาจึงพัฒนาขึ้นได้ แต่พรุ่งนี้ข้าจะให้เขาได้ลิ้มรสคมกระบี่"
ในบรรดานักรบิญญารุ่นเยาว์ของตระกูลฉู่เมืองไป๋หยางนั้น ทักษะกระบี่ของฉู่เจี้ยนเหรินนั้นค่อนข้างโดดเด่นและการฝึกฝนของเขาอยู่ที่ระดับสี่ของขอบเขตควบแน่นพลังปราณแล้ว ทั้งเขายังปลุกิญญายุทธ์กระบี่หฤสังหารระดับที่สี่ กระบี่ที่ใช้นั้นทั้งดุร้ายและดุดัน
กับอีแค่ขยะขอบเขตควบแน่นพลังปราณระดับสาม ไม่อยู่ในสายตาของเขาแม้แต่น้อย
พลังยุทธ์ห่างกันหนึ่งขั้นก็เพียงพอแล้วที่จะวัดความสามารถ
เมื่อเห็นท่าทางมั่นใจของฉู่เจี้ยนเหริน ผู้าุโหกก็พูดอย่างมีความสุขว่า "สมแล้วที่เป็ลูกชายของข้า ฉู่เจิ้นหยวน จิตใจนิ่งสงบ พลังยุทธ์ยอดเยี่ยม ศักยภาพที่ไร้ขีดจำกัดเหมือนพี่ชายเ้า ไม่เหมือนน้องชายของเ้าที่ทำอะไรไม่สำเร็จสักอย่าง!"
เมื่อพูดเช่นนั้น ผู้าุโหกก็เหลือบมองมาที่ฉู่เฮ่าด้วยสายตารังเกียจ ทำให้ฉู่เฮ่าก้มหน้าด้วยความอับอาย
เขาพ่ายแพ้ให้กับฉู่อวิ๋นที่อยู่ในระดับเดียวกันภายในกระบวนท่าเดียว ทั้งอีกฝ่ายยังทำลายมือขวาของเขาด้วย นี่น่าอับอายกว่าการตายในสนามรบนัก
ในตระกูลผู้ฝึกยุทธ์ ผู้แข็งแกร่งได้รับการเคารพ แม้แต่ญาติที่เืข้นกว่าน้ำก็ยังไม่มีความรักใดๆ ให้แก่กัน ผู้อ่อนแอถูกบงการและทำได้เพียงอยู่ใต้บังคับบัญชาของผู้อื่นเท่านั้น
เพิ่งรุ่งสาง พระอาทิตย์กำลังขึ้นทางทิศตะวันออก
ในห้องพักของโรงเตี๊ยม ฉู่อวิ๋นยืนอยู่ตรงหน้าต่าง เหม่อมองไปไกลยังทิศตะวันตกที่ยังมืดมิดของเมืองไป๋หยางด้วยใจที่หนักอึ้ง
คืนนั้น ด้วยความช่วยเหลือจากยาฟื้นเส้นลมปราณ เขาเปิดเส้นลมปราณเสริมได้แปดเส้นซึ่งเพิ่มความจุพลังปราณที่จุดตันเถียนได้มากขึ้น แต่เขากลับไม่มีเวลาฝึกประกายทมิฬแล้ว
“หวังว่าครั้งนี้จะไม่มีเื่อะไรเกิดขึ้นนะ”
ฉู่อวิ๋นกำด้ามกระบี่ไว้แน่น เขาทั้งตื่นเต้นและกังวล
ในที่สุดวันนี้ก็มาถึง
เขาลืมเื่ข้าวปลาและการพักผ่อน ฝึกฝนจนไม่หลับไม่นอน เพียงเพื่อพิสูจน์ตัวเองในวันนี้และนำชัยชนะกลับบ้าน
“อวิ๋นเอ๋อร์...”
เสียงแ่เบาของหญิงสาวดังมาจากด้านหลัง ฉู่อวิ๋นรีบเก็บสีหน้าเคร่งขรึมทันที ก่อนจะหันกลับมาแสดงรอยยิ้มเต็มแก้ม
“พี่หญิง ตื่นเช้าขนาดนี้เลยหรือ?”
หลังจากพักผ่อนมาทั้งคืน ฉู่ซินเหยาที่กินยาเสริมิญญาเข้าไปก็รู้สึกสดชื่นขึ้น นางสวมชุดกระโปรงสีชมพูอ่อน ผมยาวสลวยผูกไว้หลวมๆ ดูน่ามอง
เมื่อััได้ถึงิญญายุทธ์จางๆ ในดวงตาของฉู่อวิ๋น ฉู่ซินเหยาก็เอ่ยปากอย่างเป็กังวล "อวิ๋นเอ๋อร์ วันนี้จำต้องไปหรือ? เราออกจากตระกูลฉู่และเรือนย่อยไปไม่ดีกว่าหรือ?"
ฉู่ซินเหยากลัวมาก
นางกลัวว่าฉู่อวิ๋นจะไม่กลับมา
ฉู่อวิ๋นส่ายหน้าและอธิบาย "ครั้งนี้ไม่ใช่แค่การมายึดบ้านของตระกูลหลักเท่านั้น ข้า้าทวงถามความยุติธรรมให้กับตระกูลย่อยที่เสียชีวิตอย่างไม่ยุติธรรมเพราะพวกสัตว์ปีศาจ ข้าอยากจะถามคนในตระกูลหลักด้วยตนเองว่าเหตุใดพวกเขาถึงได้เนรคุณคน ทิ้งศพท่านลุง ท่านอาเจ็ดและคนอื่นๆ ไว้ในที่กันดาร!”
“เราต่างก็เป็ตระกูลฉู่ มีเืไหลหล่อเลี้ยงร่างกายเหมือนกัน เหตุใดพวกเขาจึงสวมเสื้อผ้าหรูหรา กินอาหารโอชา และอยู่อย่างมีศักดิ์ศรี?”
“เราต่างก็เป็ตระกูลฉู่ เหตุใดคนของพวกเราถึงตกตายดั่งมดแมลง ไม่มีอำนาจพอที่จะถูกฝังในสุสานปราณัด้วยซ้ำ!”
“เราต่างก็เป็ตระกูลฉู่ ทั้งๆ ที่พวกเขาฝ่าฝืนกฎของตระกูล! แต่กลับกล่าวหาว่าข้าสังหารคนในตระกูลตนเอง!”
“วันนี้เป็เพียงจุดเริ่มต้น ข้าไม่มีทางปล่อยให้พวกมันมีชีวิตที่ดีเป็แน่!”
ยิ่งฉู่อวิ๋นพูดมากเท่าไร เขาก็ยิ่งเดือดพล่านมากเท่านั้น ความโกรธในดวงตาของเขาลุกโชน พลังปราณในร่างกายพุ่งสูงขึ้น
หัวใจของเขาเต็มไปด้วยความเกลียดชัง
ทันใดนั้นก็มีลมหอบพัดโชยมา
เมื่อฉู่อวิ๋นมองไป หมัดที่กำแน่นของเขาถูกยกขึ้นด้วยมือที่อ่อนนุ่มคล้ายไม่มีกระดูกคู่หนึ่ง ทำให้จิตใจที่ตึงเครียดของเขาสงบลง
น่าแปลกที่ดูเหมือนว่าทุกการเคลื่อนไหวของฉู่ซินเหยา แม้แต่การเล่นดนตรีก็สามารถทำให้ฉู่อวิ๋นสงบลงได้
“อวิ๋นเอ๋อร์... เ้าต้องกลับมานะ! หากวันนี้พี่รอเ้าไม่ไหว พี่ก็จะ...รีบไปที่เรือนตระกูลหลักขอร้องพวกเขา!” ฉู่ซินเหยาลูบมือของฉู่อวิ๋นด้วยความเขินอายบนใบหน้า ทว่ามีความดื้อรั้นในดวงตา
ดวงตาของฉู่อวิ๋นอ่อนลง เขาคลายหมัด จับมือเล็กๆ ที่อ่อนโยนของฉู่ซินเหยา แล้วเอ่ยว่า "ท่านพี่ซินเหยา...ข้ารับปากท่าน ท่านไม่ต้องกังวล ท่านพ่อบอกไว้ว่าผู้นำตระกูลหลักให้ความสำคัญกับชื่อเสียงเงินทองเท่านั้น หากไม่ได้กระทำการใดผิด ก็ไม่อนุญาตให้คนในตระกูลเข่นฆ่ากันเอง”
“ข้าจะกลับมาหาท่านอย่างปลอดภัยแน่นอน”
หลังจากมองฉู่ซินเหยาอย่างลึกซึ้งแล้ว ฉู่อวิ๋นก็เดินออกจากห้องอย่างไม่เต็มใจไปยังลานตะวันตกของตระกูลฉู่
เมื่อมองตามแผ่นหลังของฉู่อวิ๋น ฉู่ซินเหยาก็เป็กังวลและกระสับกระส่าย
ลานตะวันตกของตระกูลฉู่ ตั้งอยู่ในพื้นที่ที่เจริญรุ่งเรืองที่สุดทางตะวันตกของเมืองไป๋หยาง มีคนผ่านไปมาตลอด แบบการสร้างเรือนก็พูดได้ว่าหรูหราและงดงามเมื่อเทียบกับลานตะวันออก แม้แต่ประตูก็ยังทาด้วยทองคำ
เช้าตรู่ ฉู่อวิ๋นมาที่ประตูลานตะวันตกของตระกูลฉู่ และเห็นว่าประตูสีทองคำเปิดกว้างราวกับว่าไม่ได้ปิดมาตลอดทั้งปี
เพราะคงไม่มีโจรหน้าโง่คนใดมาตระกูลฉู่เพื่อขโมยไก่และลักสุนัข
แต่ถึงแม้จะมีจริง มันก็จะกลายเป็ศพและถูกแขวนไว้บนกำแพงเมืองเพื่อประกาศต่อสาธารณะ
"ฮ่า-ฮ่า-"
ในลานตะวันตก เขาได้ยินเสียงของสมาชิกตระกูลที่กำลังฝึกฝนในตอนเช้า สง่างามดั่งสายรุ้ง
ฉู่อวิ๋นก้าวเข้ามาอย่างสงบ และทันใดนั้น ยามเฝ้าประตูที่ไร้น้ำยาทั้งสองก็เริ่มตื่นตัว
ทว่าเมื่อพวกเขาเห็นว่าคนที่มาคือฉู่อวิ๋น พวกเขาก็ยิ้มอย่างดูถูก พร้อมทั้งเผยแววตาเยาะเย้ยอย่างชัดเจน
ตัวไร้ประโยชน์จากตระกูลย่อย จะมาสร้างปัญหาอันใดที่นี่?
แต่คิดว่าเขาคงไม่กล้าทำหรอก
ฉู่อวิ๋นเมินเฉยต่อชายสองคนนั้น แล้วตรงไปยังใจกลางลานฝึกยุทธ์
ยามนี้ ในลานฝึกยุทธ์ ศิษย์คนหนึ่งของตระกูลสังเกตเห็นร่างของฉู่อวิ๋น การเคลื่อนไหวฝึกซ้อมในตอนเช้าของเขาชะงักลง ทำให้ผู้ฝึกสอนะโใส่ทันที "นี่ ไอ้หนูตรงนั้นน่ะ เคลื่อนไหวให้มันว่องไวหน่อย!"
ทว่า หินหนึ่งก้อนก่อคลื่นนับพัน[1] ทันทีที่สมาชิกทุกคนในตระกูลสังเกตเห็นร่างของฉู่อวิ๋น ต่างก็พากันหยุดสิ่งที่กำลังทำ และเริ่มกระซิบกระซาบ
“เอ๊ะ? นี่มันตัวไร้ประโยชน์จากตระกูลย่อยไม่ใช่หรือ? เขามาทำอะไรที่นี่?”
“เ้าไม่รู้หรือ? พวกผู้าุโตัดสินใจรับเรือนตระกูลย่อยของเขามาไว้ในปกครอง เขามาที่นี่ก็เพราะเื่นี้”
“ลานตะวันตกของเราใหญ่ขนาดนี้ ทำไมต้องเอาเรือนเน่าๆ นั่นกลับมาด้วยเล่า?”
“นี่ พี่สาวของเขาสวยนัก ถ้านางมาอยู่ที่ลานตะวันตกได้ พวกเราก็จะเข้าไปดูแลได้อย่างไรเล่า”
ผู้ฝึกสอนเดินไปตามแนวสายตาของเหล่าศิษย์ก่อนจะมองเห็นฉู่อวิ๋น เขาขมวดคิ้วทันทีและะโอย่างดุเดือด "ฉู่อวิ๋น? นี่คือเรือนตระกูลหลัก ไม่ใช่สถานที่ที่ดาวหายนะเช่นเ้าควรเข้ามา รีบไสหัวไป!"
ฉู่อวิ๋นมองไปที่ผู้ฝึกสอน ทันใดนั้นเขาก็หายใจถี่ขึ้น ความโกรธก็เพิ่มทวี
เขาจำได้ คนคนนี้คือลุงรอง คนที่ทรยศตระกูลย่อย แล้วมาเข้าร่วมกับตระกูลหลัก ฉู่อู๋
---------------------------
[1] เหตุการณ์เล็กๆ หรือการกระทำหรือคำพูดของใครบางคน ทำให้เกิดปฏิกิริยาตอบโต้ครั้งใหญ่
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้