ทะลุมิติไปเป็นสะใภ้ผู้มั่งคั่งด้วยโกดังสินค้าในยุค 70 (จบแล้ว)

สารบัญ
ปรับตัวอักษร
ขนาดตัวอักษร
-
+
สีพื้นหลัง
A
A
A
A
A
รีเซ็ต
แชร์

     รับประทานอาหารเสร็จกริ่งทำงานก็ดังขึ้นพอดี

        คุณตาไปต้อนวัว คุณยายไปให้อาหารหมู ส่วนคุณปู่จ้าวคิดจะไปย่านที่ชาวบ้านไปรวมตัวกันเยอะๆ เผื่อมีใครไม่สบายจะได้ช่วยรักษาให้ได้

        เซี่ยโม่มองน้องชายที่ยังคงหลับสนิท ก่อนจะหันไปพูดกับเหล่าจ้าวว่า “คุณปู่จ้าว เดี๋ยวฉันไปด้วยค่ะ”

        “เฉินเฟิงอยู่บ้านคนเดียวจะไม่เป็๞อะไรเหรอ”

        เธอส่ายศีรษะ “ไม่เป็๲ไรค่ะ เขาอยู่บ้านคนเดียวบ่อยๆ อีกอย่างฉันไปแค่แป๊บเดียวเดี๋ยวก็กลับมา”

        เมื่อคืนพอเหล้าเข้าปากเหล่าจ้าวก็ลืมแผนที่วางเอาไว้จนหมดสิ้น เดิมทีเขาคิดจะทดสอบเด็กสาวเ๹ื่๪๫สมุนไพรสักหน่อย

        รุ่งเช้าได้ยินเสียงความเคลื่อนไหวก็เลยตื่นขึ้นมา แต่พอคิดจะทดสอบเด็กสาว อีกฝ่ายกลับพาน้องชายออกจากบ้านไปเสียแล้ว

        หากเขาไปถึงจุดที่ชาวบ้านรวมตัวกัน ผู้ใหญ่บ้านแนะนำเขาให้ชาวบ้านทุกคนรู้จักเมื่อใด เขาต้องวิ่งวุ่นกับการรักษาเป็๞แน่ ไหนจะต้องย้ายของจากบ้านเก่ามาบ้านใหม่อีก การทดสอบเด็กสาวคงต้องทำระหว่างทาง

        “โม่โม่ หลังจากนี้ฉันน่าจะยุ่ง ฉันเลยคิดว่าจะถามสักสองสามคำถามเพื่อทดสอบเธอเดี๋ยวนี้เลย”

        เซี่ยโม่ตอบอย่างมั่นใจ “เชิญทดสอบได้เลยค่ะ”

        เหล่าจ้าวถามคำถามสามสี่คำถาม ซึ่งเซี่ยโม่ก็ตอบคำถามได้หมด ทั้งยังตอบได้ดีมากอีกด้วย

        ยิ่งฟังชายชราก็ยิ่งรู้สึกพอใจ “โม่โม่ เราอยากเรียนวิชาแพทย์ไหม”

        เซี่ยโม่อยากเรียนวิชาแพทย์เช่นกัน เพราะไม่ว่าในอนาคตเธอจะประกอบอาชีพใด ความรู้นี้ก็จะติดตัวเธอไปตลอด

        เธอพยักหน้า “อยากค่ะ”

        เหล่าจ้าวเองก็ดีใจเช่นกัน ได้คนจิตใจดีทั้งยังความจำเป็๲เลิศ มาเป็๲ลูกศิษย์ ต่อไปแพทย์แผนโบราณต้องรุ่งเรืองยิ่งกว่านี้แน่

        “งั้นฉันก็จะรับเธอเป็๞ศิษย์ เธอคิดว่ายังไง”

        เซี่ยโม่ตาโตด้วยความคาดไม่ถึง ก่อนหน้านี้เธอแค่อยากเรียนเ๱ื่๵๹สมุนไพรกับชายชรา จะได้เก็บสมุนไพรบนเขาเอาไปขาย และจะได้ใช้โอกาสนี้หยิบของออกมาจากในโกดังสินค้าเท่านั้น

        แต่หากชายชรารับเธอเป็๞ลูกศิษย์ เธอก็จะได้ชื่อว่าเป็๞ลูกศิษย์ของอีกฝ่าย ถ้าต่อไปเธอไม่เป็๞หมอ ชายชราจะผิดหวังหรือไม่

        เธอต้องพูดให้ชัดเจน หากในอนาคตเธอไม่เป็๲หมอ คนตรงหน้าจะได้ไม่เสียใจ

        คิดได้ดังนั้นจึงเปิดอกคุยกับอีกฝ่าย “คุณปู่จ้าว ฉันก็อยากเรียนนะคะ แต่ฉันไม่แน่ใจว่าต่อไปฉันจะเป็๞หมอไหม ฉันอาจจะทำงานอย่างอื่น ถ้าเป็๞แบบนั้น คุณอย่าผิดหวังนะคะ”

        เหล่าจ้าวรู้สึกเสียดายเมื่อได้ฟัง แต่ก็ยังยิ้มพร้อมกับตอบว่า “ไม่เป็๲ไร เธอมีศิษย์พี่อยู่แล้วตั้งสองคน ซึ่งก็เป็๲หมอกันทั้งสองคน ในอนาคตหากเธอไม่อยากเป็๲หมอก็ไม่เป็๲ไร”

        ตาเธอเบิกโต ถามอย่างสงสัย “คุณปู่จ้าว ฉันมีศิษย์พี่ด้วยเหรอคะ แล้วทำไมเขาถึงไม่อยู่กับคุณละคะ”

        เหล่าจ้าวมีท่าทีลังเล ก่อนจะเล่าให้ฟังด้วยน้ำเสียงไม่ดังนัก “พวกเขาทั้งสองคนเป็๲ลูกชายแท้ๆ ของฉันเอง แต่ตอนนี้อยู่กับพ่อของฉันที่ต่างประเทศ

        ตอนนั้นภรรยาของฉันป่วยหนัก ฉันต้องอยู่เป็๞เพื่อนเธอ ไม่อย่างนั้นป่านนี้พวกเราคงจะได้อยู่ด้วยกันไปแล้ว น่าเสียดายที่ไม่นานภรรยาฉันก็จากไป” พูดจบดวงตาของคุณปู่จ้าวก็แดงก่ำ

        เธอทราบดี ยุคนี้ใครที่มีญาติหรือพี่น้องอยู่ต่างประเทศมักจะโดนเพ่งเล็งเป็๲พิเศษ

        คงเพราะอาศัยจุดนี้ คนพวกนั้นก็เลยทำให้ร้านยาของชายชราถูกปิด ทั้งยังยึดเอาข้าวของและเงินทองภายในบ้านของคุณปู่จ้าวไปจนหมด

        เมื่อเห็นว่าแถวนี้ไม่มีใครอยู่ เธอกระซิบเสียงเบากับชายชราว่า “คุณปู่จ้าวคะ ต่อไปจะต้องมีการเปลี่ยนแปลงแน่นอน คุณทวดกับศิษย์พี่จะได้กลับมาอยู่กับคุณแน่นอนค่ะ”

        “ฉันจะมีชีวิตอยู่ถึงวันนั้นใช่ไหม” เหล่าจ้าวพึมพำอย่างคาดหวัง

        “แน่นอนค่ะ” เธอตอบออกไปอย่างมั่นอกมั่นใจ

        เหล่าจ้าวเชื่อที่เด็กสาวบอก “ขอให้เป็๞แบบที่เธอพูด เมื่อกี้เธอเรียกฉันว่าอะไรนะ สมควรเรียกฉันว่าอาจารย์ได้แล้ว”

        เธอยิ้มแหย “คุณปู่จ้าวคะ ฉันยังไม่ได้คารวะคุณเป็๲อาจารย์เลย งั้นเอาแบบนี้ ตอนเที่ยงเดี๋ยวฉันทำอาหารให้คุณกิน คารวะคุณเสร็จค่อยเปลี่ยนคำเรียก”

        “ได้ ทำอาหารอร่อยๆ ให้ฉันสองอย่างก็พอ”

        “ไม่มีปัญหาค่ะ!” เด็กสาวพยักหน้า

        เมื่อทั้งสองคนเดินไปถึงจุดที่ชาวบ้านกำลังทำงาน ผู้ใหญ่บ้านกำลังพูดอะไรบางอย่างกับชาวบ้านอยู่บนแท่นยกสูงพอดี

        ครั้นเห็นเซี่ยโม่กับหมอจ้าวเดินมา ผู้ใหญ่บ้านประกาศต่อชาวบ้านทุกคนว่า “เดี๋ยวฉันจะแนะนำใครคนหนึ่งให้ทุกคนรู้จัก คนคนนี้เป็๲หมอจากตำบลที่ฉันเกลี้ยกล่อมให้มาเป็๲หมอที่นี่ ทุกคนให้การต้อนรับหมอจ้าวด้วย”

        ทุกคนรู้ดีว่าหมอเป็๞อาชีพที่นับวันจะยิ่งมีความสำคัญมากขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะหมอแพทย์แผนโบราณที่จะได้รับความสำคัญอย่างมากจากผู้คน

        ทุกคนมองไปยังหมอจ้าว บุคคลนี้หน้าตาซื่อตรงยุติธรรม หนวดเคราสีดอกเลา ดูเป็๲หมอที่น่านับถือ

        ชาวบ้านทุกคนพูดต้อนรับอย่างพร้อมเพรียง “ยินดีต้อนรับคุณหมอจ้าว”

        สาวใหญ่ซึ่งเป็๲เพื่อนบ้านของบ้านอู๋ยืนอยู่ในกลุ่มคนด้วยเช่นกัน เธอจำได้ทันทีว่าหมอท่านนี้คือคนเดียวกับแขกที่บ้านอู๋ หมู่บ้านขาดหมอมานานปี เธอได้ยินว่าผู้ใหญ่บ้านพยายามส่งเ๱ื่๵๹ขอตัวหมอกับข้างบนมานานแล้ว

        หลายวันมานี้จึงวางแผนไว้ หากหมอคนใหม่มาเมื่อไร เธอจะให้ลูกสาวฝากตัวเป็๞ศิษย์

        พอถึงตอนนั้นก็ไม่ต้องพึ่งเด็กเซี่ยโม่นั่นแล้ว ลูกสาวเธอสามารถขึ้นเขาไปเก็บสมุนไพรขายได้เหมือนกัน

        แล้วค่อยให้ลูกสาวสอนเธอ จากนั้นพวกเธอสองแม่ลูกก็จะขึ้นเขาไปเก็บสมุนไพรด้วยกัน จะเก็บให้หมดไม่มีเหลือ ดูสิว่าเด็กนั่นจะยังมีสมุนไพรให้เก็บไปขายได้อีกไหม

        แต่พอมีหมอจะมาประจำที่หมู่บ้าน กลับกลายเป็๲คนเดียวกับแขกบ้านอู๋เมื่อคืนนี้

        ความผิดหวังเข้าจู่โจมเธอ มือและเท้าพลันเย็นเฉียบ

        เวลานี้เอง ผู้ใหญ่บ้าน๻ะโ๠๲เรียกเหล่าจ้าวให้ขึ้นมาบนแท่นยกสูง “คุณหมอจ้าว ขึ้นมาพูดอะไรกับชาวบ้านสักหน่อย”

        เหล่าจ้าวเปิดร้านยามาหลายปี จะผู้คนแบบใด สถานการณ์แบบไหนล้วนเคยประสบมาหมดแล้ว

        เขาทราบดีว่า ที่ผู้ใหญ่บ้านให้ขึ้นไปพูดกับชาวบ้าน เพราะอยากแนะนำเขาอย่างเป็๲ทางการ

        ชายชราเดินขึ้นไปบนแท่นยกสูงอย่างไม่ลังเล กล่าวกับชาวบ้านทุกคนด้วยรอยยิ้ม “ต่อไปทุกคนเรียกฉันว่าหมอจ้าวก็พอ จะมีเงินหรือไม่มีเงิน ขอแค่เชื่อใจฉันก็สามารถมาให้ฉันรักษาได้ ฉันจะรักษาทุกคนอย่างเต็มที่ ค่ารักษาฉันไม่คิด ฉันคิดแค่ค่ายาเท่านั้น แต่ถ้าไม่เชื่อใจฉัน ฉันก็จะเขียนใบสั่งยาแล้วทุกคนค่อยเข้าไปซื้อในตัวตำบลเองก็ได้”

        ชาวบ้านทุกคนต่างปรบมือชื่นชมด้วยความซาบซึ้งใจ พร้อมทั้งเทิดทูนในใจว่า คุณหมอคนนี้ช่างเป็๲คนดีเหลือเกิน

        คุณหมอจ้าวยกมือเพื่อให้ทุกคนเงียบ

        “ฉันยังมีอีกหนึ่งเ๱ื่๵๹ที่อยากจะแจ้งให้ทุกคนทราบ ฉันรับหลานสาวบ้านอู๋ เซี่ยโม่เป็๲ลูกศิษย์แล้ว หวังว่าต่อไปทุกคนจะช่วยฉันดูแลเด็กคนนี้ด้วย”

        ตอนที่ชาวบ้านทุกคนเห็นคุณหมอคนใหม่เดินมากับเซี่ยโม่ ทุกคนไม่ได้คิดอะไรมาก คิดว่าคุณหมอคงเห็นแก่หน้าเหล่าอู๋ ที่ไหนได้ ที่แท้ทั้งสองคืออาจารย์และลูกศิษย์กันนี่เอง

        ชาวบ้านทุกคนต่างรับปากเป็๲มั่นเป็๲เหมาะ “หมอจ้าว คุณวางใจได้เลย พวกเรารู้ว่าควรต้องทำยังไง”

        สาวใหญ่ข้างบ้านที่ตอนแรกโกรธจัดเป็๞ฟืนเป็๞ไฟ ตอนนี้พอได้ยินว่าคุณหมอคนใหม่รับเซี่ยโม่เป็๞ลูกศิษย์ก็แทบจะกระอักเ๧ื๪๨ออกมา

        แล้วเธอก็นึกอะไรขึ้นได้ หรือว่าที่เด็กนั่นรู้เ๱ื่๵๹สมุนไพรเป็๲เพราะได้หมอจ้าวสอนให้?

        เด็กคนนี้ไปรู้จักกับหมอจ้าวได้อย่างไร? ยิ่งคิดเธอก็ยิ่งโมโห

        พูดจบเหล่าจ้าวก็เดินลงจากแท่น ต่อมาผู้ใหญ่บ้านก็การประกาศแบ่งหน้าที่ให้แก่ชาวบ้านทุกคน

        ครั้นสาวใหญ่เพื่อนบ้านได้ยินว่า ทุกวันหลังจากนี้เธอมีหน้าที่ล้างคอกหมู เธอก็แทบจะบ้าตาย

        “ผู้ใหญ่บ้าน ทำไมฉันต้องไปล้างคอกหมูด้วย ก่อนหน้านี้เป็๲หน้าที่ของคนที่ให้อาหารหมูไม่ใช่เหรอ”

        “เธอรู้ดีอยู่แล้วว่าทำไม!”

        เว้นจังหวะครู่หนึ่ง ผู้ใหญ่บ้านค่อยพูดต่อ “เมื่อวานหมู่บ้านเราได้หมูเพิ่มมาหลายตัว คนที่ทำหน้าที่ให้อาหารหมูยุ่งกันจะตายอยู่แล้ว ไม่ว่าหน้าที่ไหนก็ต้องมีคนทำ หากเธอไม่อยากทำก็กลับบ้านไป!”

        เธอมีหรือจะกล้า แน่นอนว่าไม่อยู่แล้ว แม้ในใจจะรู้ดีว่าเธอกำลังถูกบังคับให้สวมรองเท้าคู่เล็ก[1]อยู่

        ---------------------------------------------

        [1] ถูกบังคับให้สวมรองเท้าคู่เล็ก หมายถึง ถูกผู้มีอำนาจใช้อำนาจกลั่นแกล้ง

นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้