น้ำเสียงของเซียวเฉินดังก้องทั่วพื้นที่รกร้าง
แววตาของเสิ่นเล่ยเกิดระลอกขึ้นเล็กน้อย เห็นเซียวเฉินเดินมา มองซือคงไจซิงและเอ่ยอย่างเ็า “เ้าน่าจะดีใจที่มือของเ้าไม่ได้แตะต้องนาง ไม่เช่นนั้น ข้าจะตัดแขนของเ้าเสีย” แววตาของเซียวเฉินไร้ความรู้สึก จากนั้นหันหน้าไปไม่สนใจซือคงไจซิงอีก
“เ้าออกมาั้แ่เมื่อใด?” เซียวเฉินถามเสิ่นเล่ย
เสิ่นเล่ยหน้าแดงนิดๆ มองเซียวเฉินด้วยสายตาวิบวับ แล้วเบือนหน้าหนีทันที เอ่ยเสียงเบา “เมื่อครู่”
เพิ่งออกมาก็เจอพวกไร้ยางอาย
เซียวเฉินมองสีหน้าของเสิ่นเล่ยแล้วหัวเราะ คนเ็าเป็น้ำแข็งอย่างนางก็มีด้านน่ารักด้วย
เสิ่นเล่ยไม่รู้ความจริงในเสียงหัวเราะของเซียวเฉิน
ได้แต่เงยหน้าขึ้นมองเขา ดวงตาโตฉายแววไม่เข้าใจและมีโทสะนิดๆ
อารมณ์เช่นนั้นทำให้บุรุษนับไม่ถ้วนที่นั่นเบิกตาโต เพียงแต่สายตากระชากิญญาของหญิงงามไม่ได้มีต่อพวกเขา ทว่าแสดงออกต่อคนผู้หนึ่ง
เซียวเฉินเอ่ย “ความหมายของข้าคือ เ้าไม่ต้องสนใจเขาเลย พูดกับเขา ไปพูดกับสุนัขเสียดีกว่า อย่างน้อยสุนัขก็ไม่เหมือนเขาที่ทำให้คนชิงชังแล้วยังไม่รู้ตัวอีก” เสิ่นเล่ยฟังคำพูดของเซียวเฉินเข้าใจ เซียวเฉินกำลังด่าซือคงไจซิงว่าสู้สุนัขไม่ได้
นางยิ้มนิดๆ จากนั้นเอ่ยว่า “พวกเราไปกันเถอะ”
เซียวเฉินพยักหน้า
ความเคลื่อนไหวของคนทั้งสองทำให้ทุกคนที่นั่นเข้าใจว่า ที่แท้เทพธิดาน้ำแข็งมีคนที่ใช่อยู่แล้ว เป็กุมารทองกุมารีหยก คู่์สรรค์สร้าง ส่วนซือคงไจซิงกลับเหมือนอันธพาลที่หยอกล้อภรรยาของผู้อื่นต่อหน้าทุกคน ทุกคนต่างอิจฉาเซียวเฉิน ขณะเดียวกันก็ทอดถอนใจ ที่แท้เทพธิดาเป็บุปผามีเ้าของ...
ส่วนซือคงไจซิงที่อยู่ด้านข้างกลับมีสีหน้าอัปลักษณ์
ตนวางแผนการมากมายเพื่อเอาอกเอาใจ แต่ผู้อื่นกลับไม่สนใจตน ส่วนเซียวเฉินพูดประโยคเดียวก็กลายเป็แขกในม่านมุ้งของนาง เื่นี้ทำให้ซือคงไจซิงในฐานะประมุขน้อยของสำนักดารากร กลุ่มอิทธิพลสูงสุดของเขติญญาใต้อับอายถึงขั้นใด? ทั้งยังถูกเหยียดหยามต่อหน้าธารกำนัลว่าสู้สุนัขไม่ได้ แต่ละประโยคเหมือนตบเข้าที่บ้องหูของเขาอย่างแรง
แม้ไม่มีเสียงดังแต่กลับเ็ปแสบร้อน!
จะให้ซือคงไจซิงอดกลั้นได้อย่างไร?
เขาคือใคร? ประมุขน้อยของกลุ่มอิทธิพลสูงสุดของเขติญญาใต้ บุคคลไร้เทียมทาน ผู้มีพร์ วันนี้ถึงกับถูกหยามเกียรติต่อหน้าทุกคน ทำให้เขาอดกลั้นไม่ได้
สายตาที่มองเซียวเฉินมีแววเ็า
“เ้าเป็ตัวอะไร ถึงกล้าหยามเกียรติข้าเช่นนี้ มาโขกศีรษะขอโทษข้าเสีย จากนั้นส่งสตรีข้างกายเ้ามาเป็ของชดเชยให้ข้า ข้าจะแล้วกันไป ละเว้นชีวิตเ้าสักครั้ง ไม่เช่นนั้น ข้าจะให้เ้าเดินมา แต่ถูกหามออกไป” น้ำเสียงของซือคงไจซิงเย่อหยิ่ง
เขาพบโชควาสนาในประตู์ ความสามารถรุดหน้าไปมาก ดังนั้น ยามนี้จึงยิ่งมั่นใจในตนเอง
ตนเองเป็ผู้มีพร์ บี้มดแมลงตัวหนึ่งง่ายดุจพลิกฝ่ามือ!
คิดถึงตรงนี้ ดวงตาของซือคงไจซิงก็เริ่มมองพินิจเรือนร่าง รูปโฉมงามล่มเมืองของเสิ่นเล่ย รูปร่างอันสมบูรณ์แบบ โดยเฉพาะูเาสองลูกบนหน้าอกและขาเรียวยาว แค่คิดก็ทำให้ซือคงไจซิงใจเต้นรัวอย่างสะกดกลั้นไว้ไม่อยู่
เซียวเฉินหันไปมองซือคงไจซิง ไม่มีรอยยิ้มบนใบหน้าแล้ว
ร่างแผ่ไอสังหารไร้ลักษณ์กระจายกลางอากาศ ทำให้ทุกคนอึ้งงัน
เป็ไอสังหารอันแกร่งกร้าวนัก!
เซียวเฉินเอ่ยช้าๆ “เคยมีคนบอกเ้าหรือไม่ว่าสิ่งที่ทำให้คนชิงชังเ้าที่สุด คือดวงตาลุ่มหลงราคะและปากเน่าๆ เหมือนกินอาจม แค่สองข้อนี้ ก็เพียงพอให้ข้าสังหารเ้าแล้ว”
ประโยคเดียว ทำเอาทุกคนในที่นั้นใ
เซียวเฉินถึงกับใช้เหตุผลเหลวไหลสองข้อนี้เพื่อสังหารซือคงไจซิง
ยังตลกยิ่งกว่านี้ได้หรือไม่?
ทว่าแววตาของเซียวเฉินกลับจริงจัง “ตอนเกิดใหม่ชาติหน้า ทางที่ดีเ้าควรตาบอดและเป็ใบ้ ไม่เช่นนั้น หากข้าพบเ้า ข้าก็จะฆ่าเ้าอีก!” สิ้นเสียง กระบี่ก็ออกจากฝัก พริบตา ปราณกระบี่ดุจห่านป่าตื่น กวาดทั่วบริเวณ ไอสังหารราวกับมีและไม่มี กลายเป็รังสีอันน่าสะพรึง ปกคลุมเขาและซือคงไจซิงไว้ภายใน
ซือคงไจซิงก็เช่นกัน
เขาเกิดจิตสังหารต่อเซียวเฉิน!
หากบอกว่าก่อนหน้านี้เพราะ่ชิงเสิ่นเล่ย เช่นนั้น ตอนนี้ก็เพราะบุญคุณความแค้นของสำนัก
แม้ซือคงไจซิงจะบ้าราคะจนเป็นิสัย แต่ในเมื่อเขากลายเป็ประมุขน้อยของสำนักดารากรได้ย่อมต้องมีจุดที่เหนือกว่าผู้อื่น คำพูดของเซียวเฉินเกี่ยวพันถึงชื่อเสียงของสำนักดารากร ไม่ใช่แค่บุญคุณความแค้นของคนสองคน เพราะการหยามเกียรติเขาต่อหน้าทุกคนก็คือการหยามเกียรติสำนักดารากรโดยนัย หากไม่ฆ่าเขา สำนักดารากรจะยืนหยัดท่ามกลางกลุ่มอิทธิพลของเขติญญาได้อย่างไร?
“รอข้าสังหารเ้าก่อน แล้วข้าจะเล่นสนุกกับสตรีของเ้าต่อหน้าศพของเ้า ให้เ้ารู้จุดจบของการล่วงเกินข้า ล่วงเกินสำนักดารากร!” ซือคงไจซิงเอ่ยอย่างดุดัน ดวงตาฉายแววชั่วช้าลามก ทำให้เซียวเฉินยิ่งมองเขาด้วยสายตาลึกล้ำ ซือคงไจซิงรู้สึกว่ามีหลุมดำร่วงลงมากลืนกินเขา
“สำนักดารากรมีคนอย่างเ้าเป็ประมุขน้อย ตาบอดแท้ๆ วันนี้ข้าจะเปลี่ยนประมุขน้อยแทนสำนักเอง!”
วิ้ง!
เบิกฟ้าส่งเสียงวิ้งๆ ไอสังหารไร้ขอบเขต เซียวเฉินฟันกลางอากาศ แผ่นดินสั่นะเื ปะทุเจตจำนงกระบี่ ปราณกระบี่ไร้สิ้นสุดโอบล้อมร่างของเซียวเฉินดุจราชันแห่งกระบี่
กระบี่นั้นสามารถฟันดวงดาวร่วง สามารถยึดครองแผ่นดิน!
เมื่อปราณกระบี่ปรากฏ เสิ่นเล่ยที่อยู่ด้านข้างมีสีหน้าประหลาดใจ “เซียวเฉินถึงกับรู้แจ้งเจตจำนงกระบี่!” เสิ่นเล่ยแสดงออกว่ารู้สึกได้ เจตจำนงกระบี่ของเซียวเฉินไม่ด้อยกว่าของตนเลย จะไม่ให้นางใได้อย่างไร ต้องรู้ก่อนว่า เป็ไปไม่ได้ที่ในประตู์สามสิบหกบานจะปรากฏฉากประสบการณ์ที่เหมือนกัน แล้วเซียวเฉินรู้แจ้งเจตจำนงกระบี่ได้อย่างไร
หรือว่ามีสถานที่กระบี่อีกแห่ง?
“เป็ปราณกระบี่อันแกร่งกร้าวนัก!”
คนอื่นๆ ต่างส่งเสียงชื่นชมเจตจำนงกระบี่ของเซียวเฉิน
ส่วนซือคงไจซิงและเซียวเฉินในที่นั้นก็ะเิการต่อสู้ รังสีกระบี่ของเซียวเฉินแหลมคม ส่วนมือทั้งสองข้างของซือคงไจซิงมีพลังแห่งดาราปรากฏขึ้น สองมือแข็งแกร่งดุจสามารถเด็ดดวงดาวได้
เขาถึงกับรับรังสีกระบี่ของเซียวเฉินด้วยมือเปล่า!
ตูม!
คนทั้งสองล่าถอยพร้อมกัน เซียวเฉินร่ายรำเบิกฟ้าในมือ จู่โจมด้วยคัมภีร์กระบี่ทัณฑ์์
อัสนีเทพลงสู่หล้าสะท้านจิ่วโจว ิญญาโศกเศร้าภายใต้ทัณฑ์์!
ฟันหนึ่งกระบี่ อัสนีพลิกตลบ ดุจทัณฑ์แห่งเทพที่มิอาจขวางกั้น
เจตจำนงกระบี่และอัสนีเทพหลอมผสาน อานุภาพยิ่งรุนแรง ต้านทานไม่อยู่ ในปราณกระบี่มีพลังอัสนี ส่วนในสายฟ้าบรรจุอานุภาพกระบี่ ทั้งสองฝ่ายดุเดือดแกร่งกร้าว หลังจากหลอมผสาน แค่คิดดูก็รู้ถึงอานุภาพ กระบี่นี้ อานุภาพสะท้านฟ้า ทำให้ทุกคนพากันถอยหลัง กลัวว่าจะได้รับผลกระทบ
ซือคงไจซิงมีสีหน้าหนักใจ
จากนั้น สองมือะเิพลังดาราไร้ที่สิ้นสุด อ้าสองแขนออก ดุจเก็บดาราบนเวิ้งนภา รังสีมหึมายิงใส่เซียวเฉิน อานุภาพแห่งดาราไร้ขีดจำกัด แสงจรัสดุจดาวตก ทรงพลังมิอาจต้านทาน
“หัตถ์์เก็บดาว!”
ซือคงไจซิงคำรามราวกับสัตว์ปิศาจร่ำร้อง
“ตายเสีย!”
เซียวเฉินร่ายรำเบิกฟ้าในมือ ฟันรังสีกระบี่จู่โจมดาวตกจนเกิดเสียงดังสนั่นอย่างต่อเนื่อง
“มีความสามารถน้อยนิดจริงๆ หากเ้ามีความสามารถแค่นี้ เช่นนั้นก็จบแค่นี้เถอะ ข้าเล่นจนเบื่อแล้ว!” ซือคงไจซิงมองเซียวเฉินด้วยสายตาเ็า น้ำเสียงมีแววดูแคลน เขามองเสิ่นเล่ยแล้วมุมปากโค้งขึ้นเป็รอยยิ้มเย้ยหยัน
นี่คือบุรุษที่เ้าเลือกหรือ? เขาต้องตายด้วยมือข้า!
ข้าจะทำให้เ้าได้เห็นว่าระหว่างพวกเราใครโดดเด่นกว่ากัน!
ทว่าเซียวเฉินก็หัวเราะออกมาเช่นกัน “ข้าแค่อบอุ่นร่างกาย ต่อไปจะเป็การเริ่มต้นที่แท้จริง!”