ทันใดนั้นหนิงเซียงสะบัดมือนางออกทันทีแล้วจ้องตาดุกลับมา
“ไม่ใช่ไม่ใช่ เฉินเนี้ยนหราน เ้าพูดจาไร้สาระ”
ตะคอกใส่เสร็จก็เดินตึงตังเข้าเรือนไปสถานการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วนี้ ทำให้เฉินเนี้ยนหรานทำสิ่งใดไม่ถูก จนกระทั่งครึ่งวันหลังจากนั้นนางถึงได้ยิ้มขมขื่นออกมา
“ที่แท้คนที่ไม่กล้าเผชิญหน้ากับความจริง ไม่ใช่แค่เ้ากับข้า”
นางไม่ได้พูดกับหนิงเซียงแต่พูดกับโจวอ้าวเสวียนที่อยู่ในกระโจมขององค์หญิง กระโจมจำนวนร้อยกว่าหลังล้วนแต่เป็ชื่อขององค์หญิงสามเพียงคนเดียวเพราะเหตุนี้ จึงสามารถมองออกได้ว่าองค์หญิงคนนี้ได้รับความรักมากเพียงใด
ตอนโจวอ้าวเสวียนใกล้จะนอนหลับมีบ่าวคนหนึ่งเข้ามาเปลี่ยนเสื้อผ้าให้เขา ทุกอย่างล้วนแต่เป็ปกติ จนกระทั่งตอนกำลังจะออกมากลับมีสาวใช้คนหนึ่งถือถาดขนมเข้ามา
“คุณชายเ้าคะนี่คือขนมที่ท่าน้า”
แววตาของโจวอ้าวเสวียนวาววับขึ้นเล็กน้อยพยักหน้าเบาๆ
ความจริงแล้วเขาไม่ได้้าขนม แผนนี้มีไว้สำหรับสถานการณ์เร่งด่วน อู่เอ๋อร์จึงได้ใช้มันวันนี้เพิ่งจะแยกจากอู่เอ๋อร์ มีเื่ใดเกิดขึ้นถึงได้ทำให้เ้าคนนี้รีบร้อนวิ่งมาส่งจดหมายกัน?
โจวอ้าวเสวียนถอดเสื้อลงที่เตียงพร้อมทั้งพกพาความสงสัยไปด้วย
ด้านในห้องไม่มีคนอื่นอยู่ด้วย เขาจึงค่อยๆ กัดขนมชิ้นนั้นออกมา ขณะทานชิ้นที่สาม ด้านในกลัยมีของแข็งๆมาดึงความสงสัยของเขา พอเปิดออกอ่าน ้าเขียนเพียงเนื้อหาสั้นๆ ง่ายๆว่าจะหาคนมาทำแทน
“ตัวแทน?”
“คิดไปแล้วจะต้องเป็ความคิดของนางเป็แน่ก็ดี เป็เช่นนี้จึงจะสามารถอยู่กับพวกนางแม่ลูกได้นานสักหน่อย”
สำหรับวิธีการเปลี่ยนตัวโจวอ้าวเสวียนไม่มีปัญหาเลยแม้แต่น้อย ดังนั้นในคืนนี้ เมื่อคิดถึงเื่น่าตื่นเต้นทำให้เขาไม่สามารถหลับตาลงนอนได้
กว่าฟ้าจะสว่างเขาออกไปเดินบนถนนตามปกติ และเข้าไปในร้านน้ำชา ดังนั้นทุกอย่างจึงทำให้เหล่าองครักษ์ต่างมองว่าเป็เื่ที่ปกติมาก
หลังจากเขาเข้าไปเกือบสองชั่วยามสตรีหน้าตางดงามนางหนึ่งก็เดินออกมาจากด้านใน
สตรีคนนี้หน้าตางดงามเรือนร่างเย้ายวน โดยเฉพาะแพขนตาที่หลุบลง ยิ่งงดงามทำให้คนรู้สึกว่าแค่มองไปครั้งเดียวิญญากลับจะถูกกระชากออกมา
“เป็สตรีที่งามมากนักที่เปียนโม่มีหญิงที่งดงามเช่นนี้ั้แ่เมื่อใดกัน!”
“จะงดงามเพียงใดย่อมไม่ใช่คนที่เ้ากับข้าจะได้กิน เช่นนั้นก็มองให้มากๆ เสียหน่อย”
“ชิมองแล้วอย่างไร คนอยู่ตรงนี้ จะหนีไปได้อย่างไร”
“แต่เรือนร่างของสตรีคนนี้งดงามเกินไปแล้วจริงๆมองแผ่นหลังนั้น แค่มองท่าเดินก็มีความรู้สึกเหมือนจะตั้งขึ้นมาเลย”
“ฮ่าๆหนิวจื่อ แต่ก่อนเ้ายังว่าพวกข้า คิดไม่ถึงว่าเพียงครู่เดียวก็มีปฏิกิริยาแล้ว”
ที่พวกองครักษ์พวกนั้นไม่เห็นก็คือบนใบหน้าของสตรีงดงามที่เดินออกไปไกลแล้วคนนั้นในตอนนี้มีม่านหมอกแห่งความไม่พอใจบดบังไว้
“สมควรตายนักหากรู้มาก่อนว่าออกมาแล้วจะต้องมาแต่งกายเป็สตรีแทน จะอย่างไรก็ไม่มีทางยอมรับแผนการนี้”เขาเดินตึงตังขึ้นไปนั่งบนรถม้าก่อนจะเดินเข้าไปในเขตกระโจมของเฉินเนี้ยนหรานด้วยความโมโห
บรรดาสตรีหลายคนกำลังย้ายของออกไปข้างนอกพรุ่งนี้จะเปิดร้านแล้ว วันนี้ทั้งวันจะต้องเอาของไปวางไว้ในร้าน
ความจริงแล้วเดิมทีกำหนดไว้ว่าเป็วันนี้ แต่เพราะรอโจวอ้าวเสวียนมาถึงสตรีบางคนในตอนนี้จึงจิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัวมากพอจะทำงาน ทุกคนล้วนรู้ว่าในใจของนางมีเื่ให้คิดจึงไม่ได้เร่งเร้านาง
ในยามนี้เมื่อเห็นรถม้ามาจอดที่หน้าประตู ฝีเท้าของเฉินเนี้ยนหรานจึงขยับแล้ว
บุรุษแต่งสตรีบางคนที่เดิมโทสะยังคงปะทุเมื่อเห็นสายตารอคอยคู่นั้น ไฟโทสะพลันสลายไปในพริบตา เขาแหวกม่านลงจากรถเดินไปทางสตรีที่ยืนมองนิ่งด้วยรอยยิ้ม
“ที่แท้เ้าก็เป็คนบื้อใบ้นะ”
เขายกมือขึ้นไปััใบหน้ารูปไข่ของนางเบาๆ้าจับนางมาฟัดสักที
เฉินเนี้ยนหรานที่มองจนอ้ำอึ้งยกมือขึ้นมาขยี้ตา หลังจากได้ยินเสียงทั้งยังรู้สึกถึงการกระทำของเขา นางจึงหัวเราะออกมาพร้อมทั้งมองเขาที่แต่งชุดสตรีอย่างพิจารณา ดวงตาจึงกลอกไปมา
“สตรีงดงามท่านนี้วันนี้เ้าคือคนที่ต้องแสดงแบบชุดของร้านพวกเรา ตอนนี้รบกวนตามข้าไปที่ร้านด้วยกันเถิดนะเ้าคะ”
โจวอ้าวเสวียนทำหน้าหน่ายตอนที่กำลังจะสั่งสอนสตรีสมควรตายคนนี้ หนิงเซียงก็เดินหาวออกมา
หลังจากเห็นหญิงงามคนนี้ดวงตาของนางก็วาววาบ ก่อนจะวิ่งมาตรงหน้า
“โอ้ๆหญิงงามล่มเมือง จุ๊ๆ เรือนร่างดีเช่นนี้ หากไม่ใช้ให้เป็ประโยชน์ ถือว่าสิ้นเปลืองจริงๆไปๆ พวกเราไปที่ร้านกัน”
เมื่อเห็นสตรีสองคนยิ้มชั่วร้ายเช่นนี้โจวอ้าวเสวียนอยากปฏิเสธอย่างเด็ดขาด ทว่าเฉินเนี้ยนหรานกลับกระแอมออกมา จากนั้นจึงใช้น้ำเสียงออดอ้อน
“สามีข้าคิดถึงเ้านี่…ไปกับข้านะ”
หนิงเซียงรีบตบแขนตัวเองร้องไอ๊หยาออกมา นี่มันคันเกินไปสักหน่อยแล้ว
“เอ่อ…เื่นี้ก็ได้…”
เฉินเนี้ยนหรานเอามือขึ้นมาบังก่อนมืออีกข้างจะทำท่าส่งสัญญาณชัยชนะไปให้กับหนิงเซียง
ซึ่งคนถูกทำท่าใส่ก็เบ้ปาก
บัดซบรู้สึกแม่นางคนนี้ยังสามารถใช้แผนสาวงามได้ด้วย ไม่เสียแรงที่นางคิดออกมาได้ถึงขั้นใช้ความงามมาล่อลวงบุรุษของตนเองให้เต็มใจเป็สตรี
ฮ่าๆแต่มาคิดๆ ดูแล้ว เื่ราวทั้งหมดนี้ หากต่อไปนำเื่นี้ไปเล่าให้กับลูกหลานของตนเองอะแฮ่ม มันจะต้องมีสีสันมากเลยใช่หรือไม่!
ยิ่งหนิงเซียงคิดก็ยิ่งเพริศแพร้วยิ่งมองไปทางโจวอ้าวเสวียนกับเฉินเนี้ยนหราน ก็ยิ่งรู้สึกว่าสองคนนี้จะมองอย่างไรล้วนเข้ากันดี
เอาเถิดนางนี่ชั่วร้ายเกินไปจริงๆ หากในยุคนี้มีพวกกล้องถ่ายรูปนางจะต้องถ่ายภาพนี้เก็บไว้เป็ที่ระลึกแล้ว
เฉินเนี้ยนหรานในตอนนี้มีหญิงงามหยดย้อยอยู่ข้างกาย บนใบหน้าของนาง มีรอยยิ้มที่งดงามราวกับดอกไม้ที่ผู้ใดเห็นต่างย่อมหลงใหล
สตรีคนนี้มีความคิดเช่นเดียวกับหนิงเซียง หากเอาเื่ของโจวอ้าวเสวียนในตอนนี้ให้พวกลูกๆได้รู้ล่ะก็
ฮ่าๆ…จะต้องตลกมากแน่นอน
เดินไปได้สักพักสายตาของนางมองไปที่หน้าอกของโจวอ้าวเสวียนอย่างระมัดระวัง ตรงนั้นนูนออกมา ไม่รู้ว่าด้านในยัดสิ่งใดลงไป! ตอนที่ลองชุดอย่าได้มีพวกหมั่นโถวหรือผิงกั่ว[1] ร่วงลงมาเชียวนะเช่นนั้นคงจะเื่ใหญ่แน่
โจวอ้าวเสวียนได้รับสายตาที่มีความคิดไม่ดีมองพิจารณามายังตนเองฝีเท้าของเขาจึงยิ่งช้าลงเรื่อยๆ โดยเฉพาะสายตาของพวกคนบนถนน ยิ่งมองมาทางเขาอย่างไม่ได้ตั้งใจ
เขาที่ปกติจะเ็าั้แ่เมื่อใดกัน ที่เขาถูกสายตาหิวกระหายของพวกหมาป่ามองอย่างพิจารณาเช่นนี้
เขาในตอนนี้เริ่มรู้สึกเสียใจภายหลังอีกครั้งที่รับปากคำขอของสตรีข้างกาย
ดูสิมีคนมากมายมองมาทางเขาจนน้ำลายไหล น่าสะอิดสะเอียน…มากจริงๆ
เมื่อรู้ว่าคนข้างกายโกรธขึ้นมาแล้วเฉินเนี้ยนหรานจึงยกมือขึ้นมาถูแขนของเขา ก่อนจะจับเอาไว้ในมือของนางเบาๆความหงุดหงิดที่มีพลันสลายไปในพริบตา
โจวอ้าวเสวียนถอนหายใจออกมาเบาๆสตรีคนนี้ เกิดมาเพื่อทำร้ายเขาหรืออย่างไร เพื่อรอยยิ้มของนาง เพื่อพวกนางแม่ลูกเขาถึงต้องแต่งกายเป็…สตรีคนหนึ่ง
ช่างมันเถิด
เอาเถิดชีวิตคนเรา สิ่งสำคัญที่สุดคือมีชีวิตอย่างมีความสุข ส่วนหน้าตาอย่างไรภายนอกเป็อย่างไร ล้วนปล่อยให้คนอื่นมองไปแล้วกัน
เมื่อคิดเช่นนี้ตอนที่มองไปยังคนรอบๆ อีกครั้ง โจวอ้าวเสวียนก็ไม่ได้เ็าเช่นนั้นอีกแล้ว
พอดีกับที่ในตอนนี้มีคนรู้ว่าแม่นางอู๋ซวงที่มาใหม่จะมายังร้านเปิดใหม่นี้ จึงมายืนออรอส่งดอกไม้ให้
***
ตอนที่ช่อดอกไม้ส่งมาตรงหน้าของโจวอ้าวเสวียนยิ่งตอนที่คนส่งดอกไม้จ้องมองด้วยสายตาเต็มไปด้วยความหมายมาทางเขา โจวอ้าวเสวียนถึงกับชะงักไป
เฉินเนี้ยนหรานอึ้งไปเช่นกันนางแค่้าให้บุรุษคนนี้แต่งเป็สตรีหนึ่งวันเท่านั้น
คิดๆแล้วหากผ่านไปแล้วมาคิดถึงเื่ราวทั้งหมดในวันนี้ตอนแรกบุรุษคนนี้ยังยิ้มเพราะสายตาของนาง จึงยินยอมแต่งตัวเป็สตรี
เอ่อแต่นั่นไม่ได้หมายความว่าจะมีบุรุษมามอบดอกไม้ให้เขาสิ
เมื่อเห็นว่าบุรุษของตนจะอาละวาดแล้วเฉินเนี้ยนหรานใแล้วรีบจับมือของเขาเอาไว้ ปลายนิ้วก็ลูบฝ่ามือของเขาไปด้วย
“อาฮ่าๆ …อู๋ซวง เ้าดูสิ ยามนี้เ้าทำให้คนริษยามากเสียจริง ไปที่ใดก็มีดอกไม้มาให้ ทั้งยังมีพวกของขวัญอีกข้า ข้าอิจฉาจริงๆ เฮ้อ ส่วนข้าไม่มีคนมาตามเกี้ยวเช่นนี้เลยนะ”
โจวอ้าวเสวียนได้ยินเช่นนี้พลันตัวแข็งทื่อใช้สายตามองขู่นาง เ้ายังหวังว่าจะให้คนมาตามเกี้ยวอีก!
“ฮ่าๆเื่นี้ ข้าเพียงพูดไปเรื่อยเปื่อยเท่านั้น”
เมื่อเห็นคนมอบดอกไม้ที่ยืนอยู่ตรงข้ามใจนหน้าถอดสีเฉินเนี้ยนหรานจึงรีบรับดอกไม้แทนเขา
“อาขอบคุณเ้าค่ะ วันนี้แม่นางอู๋ซวงอารมณ์ไม่ค่อยดีเท่าใดนัก ดังนั้นดอกไม้ของท่านนี้คงจะสามารถปลอบประโลมอารมณ์ไม่ดีของนางได้ขอบคุณท่านมาก!”
เด็กหนุ่มคนนั้นกำลังใกับสีหน้าราวกับกินเืกินเนื้อของโจวอ้าวเสวียนจนทำสิ่งใดไม่ถูกพอได้ยินคำพูดนี้ของนางจึงยิ้มเจิดจ้าออกมา
“ไม่เป็อะไรขอรับหากดอกไม้ช่อนี้สามารถทำให้แม่นางอู๋ซวงอารมณ์ดีได้จริงๆ ให้ข้านำดอกไม้มาให้ทุกวันข้าก็ยอมฮ่าๆ วันนี้ข้าก็พาท่านแม่และน้องสาวมาที่ร้านของพวกท่านเพื่อดูเสื้อผ้าใหม่ๆ ถือว่าสนับสนุนแม่นางอู๋ซวงด้วย”
เฉินเนี้ยนหรานชะงักไปเอ่อ คิดไม่ถึงเลย คิดไม่ถึงว่าบุรุษพวกนี้ที่มาร้านของตนเองในยามนี้ จะมาเพราะแม่นางอู๋ซวง
ในตอนนั้นในใจของนางมีแต่ความรู้สึกวุ่นวายเต็มไปหมด อดมองไปทางบุรุษข้างกายไม่ได้ซึ่งคนถูกมองกลับกุมมือของนางแน่นด้วยท่าทางไม่พอใจ
“ขอร้องเ้าล่ะแต่งแค่วันเดียวเท่านั้น อา…” ในใจของเฉินเนี้ยนหรานหวาดกลัว นางดันให้บุรุษที่แสนเย่อหยิ่งมาแต่งกายเป็สตรีแสนเย้ายวนออดอ้อนอะแฮ่ม ตอนนี้จะต้องปลอบอารมณ์ของเขา หากถึงยามนั้นเขาไม่ยอมแต่งแล้วเช่นนั้นจะทำอย่างไร
เมื่อคิดเช่นนี้นางจึงรีบปลอบบุรุษข้างตัวซึ่งตัวบุรุษเองก็เหล่ตามองนาง นิ้วมือกุมประสานกันกับนิ้วเรียวของนางหลังจากลูบโดนตุ่มด้านที่ฝ่ามือของนาง ฝีเท้าพลันช้าลง
“แค่วันเดียวเท่านั้น”
“ได้ๆเ้าพูดแล้วก็นับตามนั้นนะ” เฉินเนี้ยนหรานรีบรับปากยิ้มสดใส
ตลอดทางที่เดินมายังมีคนมากมายนำของขวัญมาให้ นำดอกไม้มาให้
แม้โจวอ้าวเสวียนจะตอบรับนางว่าจะแต่งตัวเป็สตรีหนึ่งวันแต่ภาพลักษณ์สตรีเย่อหยิ่งเ็า ได้ฝังลึกลงไปในใจของคนที่มองทุกคน
“ว้าวอู๋ซวงในวันนี้เยือกเย็นมากจริงๆ แต่ข้ามองแล้วยิ่งรัก”
“อู๋ซวงที่เป็เช่นนี้ทำให้ข้าไม่กล้าเข้าใกล้แต่ปรารถนาเข้าใกล้นางจริงๆ ยิ่งอยากจะทำให้นางยิ้มออกมา”
“แน่นอนข้ามักจะรู้สึกว่า อู๋ซวงในวันนี้ มีนิสัยเ็าราวกับดอกบัวหิมะบนูเาหิมะนางในเวลาปกติดูแล้วจะมีท่าทางเกียจคร้านแต่ในวันนี้กลับทำให้คนทำได้แค่มองจากที่ไกลๆ มีความรู้สึกว่าไม่สามารถปฏิบัติต่อนางเพียงเล่นๆได้”
“แน่นอนความจริงแล้วก็เป็เช่นนั้น เฮ้อ สตรีที่เย่อหยิ่งเ็า สตรีเช่นนี้ กำหนดไว้แล้วว่าจะทำให้บุรุษที่เขตเปียนโม่อย่างพวกเราบ้าคลั่งได้ยินว่าครั้งนี้แม่นางอู๋ซวงถูกเหล่าครอบครัวของนางลากออกมาเพื่อหาคนที่นางต้องใจเงื่อนไขไม่จำกัด ขอเพียงสามารถเข้าตาแม่นางอู๋ซวงก็พอ”
เชิงอรรถ
[1] ผิงกั่วหมายถึงแอปเปิล
