ทำไมมียาเซิงเสวี่ยตานอยู่ในมือแล้ว หานอวิ๋นซียังไม่สามารถเริ่มล้างพิษได้อีกล่ะ?
ทุกคนต่างประหลาดใจ แต่หานอวิ๋นซีกลับอธิบายว่า “ข้าเหนื่อยเกินไป ไว้เริ่มล้างพิษกันตอนบ่ายเถิด เพื่อไม่ให้เกิดข้อผิดพลาด”
หานอวิ๋นซีที่เหน็ดเหนื่อยจากการวุ่นวายตลอดทาง คนเหล่านี้รีบร้อน แต่นางไม่อยากที่จะรีบ ร่างกายของตนเองก็ต้องดูแลเช่นกัน
ในฐานะหมอ การรับผิดชอบต่อตนเองคือการรับผิดชอบต่อผู้ป่วย แม้ว่าจะพูดว่ามียาเซิงเสวี่ยตานอยู่ในมือแล้ว และการล้างพิษเป็เพียงการผ่าตัดเล็กๆ สำหรับนาง อย่างไรแล้วมันก็เป็การผ่าตัด หากเกิดข้อผิดพลาดในกระบวนการ ผลที่ตามมาอาจจะบอกไม่ได้
เมื่อได้ยินสิ่งที่นางพูด ดวงตาของฮ่องเต้เทียนฮุยก็ฉายแววไม่พอใจเล็กน้อย แต่ด้วยความกลัวคำว่า “เพื่อไม่ให้เกิดข้อผิดพลาด” ฮ่องเต้เทียนฮุยจึงพยักหน้าเห็นด้วยโดยไม่พูดอะไร
หานอวิ๋นซีนอนในเรือนข้างวังตะวันออกตลอดทั้งเช้า นอกจากหลงเฟยเยี่ยแล้ว ทุกคนยังไม่ได้ออกไปไหน แม้ว่าพวกเขาจะกระวนกระวายใจ แต่ก็ทำได้เพียงรอนางตลอดทั้งเช้า
หลังจากตื่นนอนในตอนบ่ายและกินของว่างไปเล็กน้อย ในที่สุดหานอวิ๋นซีก็กลับมาที่ลาน กู้เป่ยเยวี่ยเองก็ได้เตรียมบางอย่างไว้แล้วและรอนางอยู่
เมื่อไม่เห็นหลงเฟยเยี่ย แววตาของหานอวิ๋นซีก็ฉายแววประหลาดใจ ทว่าก็ไม่ได้มีเวลาที่จะคิดเกี่ยวกับเื่นี้
“หานอวิ๋นซี ตอนนี้เ้ามีสติเต็มร้อยแล้วใช่หรือไม่?” ฮ่องเต้เทียนฮุยถาม
“ทูลฝ่าา อวิ๋นซีมีพลังมากขึ้นแล้วเพคะ” หานอวิ๋นซีโน้มตัวไปข้างหน้าและตอบตามความเป็จริง
“เช่นนั้นก็ดีแล้ว เ้าคงรู้ใช่หรือไม่ว่าหากมีอะไรผิดพลาด…” ฮ่องเต้เทียนฮุยไม่ได้พูดอะไรต่อ แต่มากกว่าการพูดต่อคือออร่าของการเตือน
“อวิ๋นซีเข้าใจแล้ว” หานอวิ๋นซีก้มศีรษะลง แววตาก็สงบนิ่งอย่างมาก ในเมื่อฮ่องเต้เทียนฮุยกล่าวเช่นนั้น แน่นอนว่านางต้องมีข้อแลกเปลี่ยนอยู่แล้ว “ฝ่าา ในตอนที่หม่อมฉันทำการรักษา นอกเหนือจากหมอหลวงกู้แล้ว ห้ามมิให้ผู้ใดอยู่ที่นี่”
ทันทีที่คำพูดเหล่านี้ออกมา ฮองเฮาเป็คนแรกที่รู้สึกไม่สบายใจและพูดอย่างเ็าว่า “หานอวิ๋นซี เ้าหมายความว่าอย่างไรกัน?”
หานฉงอันซึ่งยืนอยู่ข้างๆ ก็ใช้โอกาสนี้ถามทันที “ฉินหวังเฟย หรือว่ามีการสมรู้ร่วมคิดแอบแฝงในการรักษางั้นหรือถึงได้ต้องห้ามผู้อื่นอยู่ที่นี่?
หรือมีทารกอยู่ในท้องของไท่จื่อ แล้วกลัวว่าคนอื่นจะเห็นหรือไร?”
หานอวิ๋นซีมองอย่างเ็าและพูดประชดประชันว่า “เช่นนั้น หมอเทวดาหานมารักษาเองหรือไม่ล่ะ?”
“เ้า!” หานฉงอันที่ไม่มีอะไรจะตอบ ก็หันไปพูดกับฮ่องเต้เทียนฮุยว่า “ฝ่าา ตามคำกล่าวของกระหม่อม ต้องมีบางอย่างผิดปกติเกี่ยวกับเื่นี้อย่างแน่นอน!”
กู้เป่ยเยวี่ยที่รู้นิสัยของหานอวิ๋นซี เมื่อกำลังจะอธิบาย หานอวิ๋นซีกลับบอกกับฮ่องเต้เทียนฮุยอย่างจริงจังว่า “ฝ่าา การรักษานี้ต้องใช้แรงกายและแรงใจอย่างมาก พวกท่านกำลังกดดันอวิ๋นซีมากเกินไปจนข้าไม่มีสมาธิ เพื่อลดความเสี่ยงของการรักษาและเพื่อความปลอดภัยของไท่จื่อ หวังว่าฝ่าาจะเข้าพระทัย สำหรับความสงสัยของหมอเทวดาหาน อวิ๋นซีได้พูดไปก่อนหน้านี้แล้วว่า เมื่อมะเร็งในช่องท้องของไท่จื่อได้รับการรักษาแล้ว หมอเทวดาหานสามารถมาตรวจสอบได้ด้วยตัวเอง”
ทันทีที่หานอวิ๋นซีเข้าสู่สถานะหมอ ความเป็มืออาชีพและเคร่งขรึมของนางก็ปรากฏขึ้น แม้ว่าเสียงของนางจะไม่ดังแต่ก็ทำให้ผู้คนรู้สึกเกรงกลัวได้
ก่อนที่ฮ่องเต้เทียนฮุยจะตอบ หานอวิ๋นซีก็พูดอย่างจริงจังว่า “นอกจากนี้ อวิ๋นซีมีคำขออีกอย่าง ในระหว่างการรักษา หวังว่าจะทำให้บริเวณโดยรอบเงียบสงบและปลอดภัย ขจัดสิ่งรบกวนและสิ่งที่ไม่จำเป็ออกไป”
สถานที่แห่งนี้เป็ของผู้มีเกียรติที่สุดในราชวงศ์ แต่เวลานี้ขณะนี้ หมอคือผู้ที่เป็ใหญ่ที่สุด!
แม้ว่าท่าทางของหานอวิ๋นซีจะทำให้ฮ่องเต้เทียนฮุยอึดอัดอย่างมาก แต่ใน่เวลาสำคัญเช่นนี้ ฮ่องเต้เทียนฮุยทำได้เพียงเห็นด้วยกับนางเท่านั้น และไม่ได้พูดอะไรเกี่ยวกับความรับผิดชอบหรือการขาดความรับผิดชอบ ความผิดพลาดเป็สิ่งที่ฮ่องเต้เทียนฮุยไม่้าเห็น หลังจากการรักษาสิ้นสุดลง เขาจะให้คนตรวจสอบสถานที่ทันที และหานอวิ๋นซีไม่มีทางที่จะมีเล่ห์เหลี่ยมใดๆ ได้
“ตกลง ข้าตอบรับเ้า หวังว่าเ้าจะไม่ทำให้ข้าผิดหวังเช่นกัน เข้าไปเถิด” ฮ่องเต้เทียนฮุยพูดด้วยน้ำเสียงเ็า
ฮ่องเต้เทียนฮุยเห็นด้วยแล้ว หานฉงอันจะพูดอะไรได้อีก เขามองไปที่หานอวิ๋นซีด้วยความโกรธและรอคอยการตรวจสอบหลังการรักษา
“ขอบพระทัยฝ่าาที่เข้าใจเพคะ อวิ๋นซีจะไม่ทำให้พระองค์ผิดหวัง” หานอวิ๋นซีที่ยังคงมั่นใจมาก อย่างไรก็ตาม หากปัญหาการสูญเสียเืมากเกินไปได้รับการแก้ไข การรักษาก็จะง่าย
นางผ่อนคลายลง เมื่อกำลังจะเข้าไปในห้องกับกู้เป่ยเยวี่ย ฮองเฮาก็ตามนางมาและจับมือนาง “อวิ๋นซี ข้าฝากเทียนโม่ด้วยล่ะ”
หานอวิ๋นซีที่กำลังจะพูด แต่จู่ๆ ฮองเฮาก็ลดเสียงลงและเตือนอย่างเ็าว่า “หานอวิ๋นซี เ้าต้องรับปากว่าเทียนโม่จะปลอดภัย มิฉะนั้น ข้าไม่มีทางปล่อยเ้าไปแน่!”
ขณะที่ฮองเฮาพูด รอยยิ้มหยิ่งยโสก็ปรากฏบนริมฝีปาก “แน่นอนว่าหากเ้ารักษาเทียนโม่ให้หายดีได้ ข้ากับไท่เฮาก็จะลำเอียงกับเ้า”
หานอวิ๋นซีเยาะเย้ยอยู่ภายในใจ ปัญหาในตอนนี้ไม่ใช่ฮองเฮาที่จะเอาเปรียบนางหรืออะไรทั้งนั้น แค่อย่ามาก่อกวนนางอีกเลย แค่นั้นก็ขอบคุณมากแล้ว
หานอวิ๋นซีไม่ตอบ แต่มองฮองเฮาอย่างลึกซึ้ง ผลักมือของนางออกไปเบาๆ แล้วเข้าไปในห้องทันที พร้อมกับปิดประตูด้วยตัวเอง
เมื่อเห็นเช่นนี้ ฮองเฮาก็โกรธมากจนใบหน้ามืดมน ดีจริงๆ หานอวิ๋นซี ถ้าไม่ใช่เพราะเ้าเป็ชายาของฉินอ๋อง ข้าคงบดขยี้เ้าให้ตายได้ด้วยนิ้วเดียวไปแล้ว ไว้เ้าออกมาแล้วค่อยมั่นใจเสียดีกว่า มิเช่นนั้น เ้าได้เห็นดีแน่!
ทันทีที่ประตูปิดลง ไท่เฮาและฮองเฮาก็ไม่ได้ไปไหน และยืนแอบฟังอยู่นอกประตูอย่างตั้งใจ โดยหวังว่าจะได้ยินอะไรบางอย่าง ฮองเฮาที่โกรธเกรี้ยวก็โกรธเกรี้ยว ทว่าก็กระวนกระวายมากเช่นกัน
ฮ่องเต้เองก็ไม่ได้ไปไหนไกล นั่งลงที่ลาน มองไปที่ท่าทางลับๆ ล่อๆ ของไท่เฮาและฮองเฮาที่หน้าประตู เขาอดไม่ได้ที่จะรู้สึกรำคาญเล็กน้อย
“หมู่โฮ่ว เชิญนั่งลงเถิด” เขาพูดเบาๆ
ไท่เฮาเดินเข้าไป พร้อมกับแววตาที่เต็มไปด้วยความกังวล “เฮ้อ...หัวใจของข้า มันขึ้นๆ ลงๆ ไม่สบายใจเอาเสียเลย!”
ฮองเฮาที่กำลังจะคล้อยตาม แต่เมื่อเห็นความรำคาญในแววตาของฮ่องเต้แล้ว จึงทำได้เพียงยอมแพ้ และนั่งลงข้างๆ ไท่เฮา
เวลาที่รอแม้ว่าจะนานกว่านี้เพียงหนึ่งวินาที แต่ก็รู้สึกเหมือนนาน แต่หานอวิ๋นซีที่กำลังยุ่งอยู่ภายในห้องกลับลืมเวลาไปแล้ว
นางได้ทำการตรวจที่จำเป็สำหรับหลงเทียนโม่ไปหลายครั้งแล้ว และให้ยาสลบทันทีหลังจากยืนยันว่าสามารถผ่าตัดได้
การดมยาสลบนี้จำเป็ต้องทำ ด้วยเพราะประการแรก อีกประเดี๋ยวหากใช้ยาพิษจะทรมานอย่างมาก และประการที่สอง ในตอนที่ใช้มีด หลงเทียนโม่อาจไม่สามารถทนได้ แน่นอนว่าสิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือนางหวังว่าหลงเทียนโม่จะไม่เห็นมัน
ยาสลบตัวใหม่ที่มาพร้อมกับระบบการล้างพิษของนางยังคงมีประสิทธิภาพมาก เพียงแค่ครู่เดียว หลงเทียนโม่ก็สลบไป
กู้เป่ยเยวี่ยที่เพิ่งจะเริ่มต้มยา ถุงยาพิษขนาดใหญ่ถูกต้มเป็น้ำแกงพิษชามเล็กๆ สมกับที่เป็ยาพิษจริงๆ รสชาติช่างแปลกเป็พิเศษ แม้แต่กู้เป่ยเยวี่ยที่โตมาในกองยาก็ยังไม่สามารถทนได้ โชคดีที่หลงเทียนโม่สลบไปแล้ว มิฉะนั้นคงจะเป็ปัญหาใหญ่สำหรับเขาที่จะดื่มยา
หลังจากต้มยาแล้ว กู้เป่ยเยวี่ยก็รินให้หลงเทียนโม่ดื่มด้วยตนเอง
หานอวิ๋นซีเดินไปที่หม้อยา เมื่อกำลังจะกำจัดพิษที่ตกค้าง ทว่าทันใดนั้นก็หยุดและเกิดความลังเลขึ้น กลิ่นของยาที่ตกค้างนั้นแรงกว่าที่นางคาดคิดไว้!
ไม่ว่าจะซ่อนในกระเป๋าหมอของนางหรือในกล่องยาของกู้เป่ยเยวี่ย ต้องมีกลิ่นออกมาอย่างแน่นอน เมื่อถึงเวลานั้นหากถูกจับได้ คงไม่รู้จะอธิบายอย่างไร
ทำอย่างไรดีล่ะ?
หานอวิ๋นซีหันหน้าไปมองกู้เป่ยเยวี่ย เมื่อเห็นว่าความสนใจของเขาอยู่ที่หลงเทียนโม่ แววตาของความสับสนก็ปรากฏขึ้น นางย้ายตำแหน่งและหันหลังให้กู้เป่เยวี่ยเพื่อบังสายตาของเขา
อย่างไรก็ตาม หานอวิ๋นซีไม่รู้ว่าในขณะนี้ มีดวงตาที่เ็าและลึกซึ้งคู่หนึ่งกำลังจ้องมองมาที่นางจากบนหลังคา
หลงเฟยเยี่ยเห็นความผิดปกติของหานอวิ๋นซีได้อย่างรวดเร็ว และสงสัยทันทีว่ามีบางอย่างผิดปกติกับหม้อยา แต่ในฐานะที่เขาไม่ใช่มืออาชีพ จึงไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น
เป็ไปได้หรือไม่ว่าหานอวิ๋นซีจะซ่อนอะไรจากกู้เป่ยเยวี่ย?
ขณะเดียวกัน มือของหานอวิ๋นซีจับหม้อยาที่ตกค้างเบาๆ ดูเหมือนว่ากำลังจะดมกลิ่น อย่างไรก็ตาม ชั่ววินาทีที่หลงเฟยเยี่ยเหม่อลอย ยาที่ตกค้างในมือของหานอวิ๋นซีก็หายไปจากอากาศ
หลงเฟยเยี่ยขมวดคิ้วทันที ขยับกระเบื้องอีกแผ่นเพื่อให้ตัวเองมองเห็นได้ชัดเจนยิ่งขึ้น และเห็นว่ายาที่ตกค้างในหม้อยากลับว่างเปล่าเสียแล้ว หานอวิ๋นซีหันกลับมาเพื่อเปิดกล่องยาของกู้เป่ยเยวี่ยและหยิบยาออกมาหนึ่งห่อ
ของล่ะ?
เขาตาฝาดไป หรือมันหายไปในอากาศจริงๆ? หลงเฟยเยี่ยถึงกับคิดไม่ตก
การนำยาพิษและกากของเสียใส่เข้าไปในระบบการล้างพิษนั้นปลอดภัยที่สุด และไม่มีทางได้กลิ่นอย่างแน่นอน
หานอวิ๋นซีชำเลืองมองกู้เป่ยเยวี่ย เมื่อเห็นว่าเขายังคงป้อนยาพิษให้หลงเทียนโม่อย่างจริงจัง นางจึงถอนหายใจด้วยความโล่งอกและรู้สึกผ่อนคลายมากขึ้น
นางหยิบยาที่เตรียมไว้ก่อนหน้านี้ออกมาจากกล่องยาของกู้เป่ยเยวี่ย และยาเหล่านี้ก็ตรงตามใบสั่งยาที่นางเขียนไว้ตามความ้า
นางใส่ส่วนผสมยาทั้งหมดลงในหม้อยา เติมน้ำเพียงครึ่งเดียวแล้วต้มอีกครั้ง เมื่อล้างพิษเสร็จ ยาเหล่านี้ก็คงถูกจัดการเช่นกัน
เมื่อถึงเวลานั้น ฮ่องเต้เทียนฮุยและหานฉงอันจะตรวจสอบอย่างไร นางก็ไม่กลัว
หลังจากป้อนยาพิษลงไป ดวงตาของหานอวิ๋นซีก็เปลี่ยนเป็จริงจังมากขึ้น แม้ว่าการผ่าตัดเล็กๆ นี้จะง่ายมาก แต่ก็มักจะมีความเสี่ยงเสมอ และขั้นตอนนี้เป็ขั้นตอนที่สำคัญและเสี่ยงที่สุดเช่นกัน
หลังจากยาพิษลงไปในท้อง สิ่งที่อยู่ในท้องของหลงเทียนโม่ก็เริ่มสลายไป หานอวิ๋นซีจึงชอบเรียกมันว่า “สิ่งของ” มากกว่าทารกในครรภ์ เพราะสิ่งนั้นอาจมีลักษณะเฉพาะของสิ่งชีวิต หรือบางทีอาจจะไม่ได้มีรูปร่างเหมือนมนุษย์ก็เป็ได้
การคิดแบบนี้ทำให้ความรู้สึกผิดของนางลดลงเมื่อเผชิญกับสิ่งมีชีวิต
หานอวิ๋นซียกเสื้อผ้าของหลงเทียนโม่ขึ้นอย่างใจเย็น เผยให้เห็นท้องใหญ่ของเขา
แม้จะรู้ว่าขณะนี้หานอวิ๋นซีเป็หมอ แต่กู้เป่ยเยวี่ยก็ยังประหลาดใจเล็กน้อยเมื่อเห็นการกระทำที่คล่องแคล่วเช่นนั้นของนาง แต่ก็เต็มไปด้วยความชื่นชมมากขึ้น สตรีผู้นี้ไม่ได้มีอาการเขินอายเหมือนสตรีนางอื่นๆ และการปฏิบัติตนของนางนั้นกำเริบเสิบสานอย่างมาก ทว่าก็เป็จิตใจที่กล้าหาญมากที่สุด เด็ดเดี่ยวและกล้าทำสิ่งต่างๆ
“หมอหลวงกู้ ก่อนที่ข้าจะลงมีด ห้ามพูดกับข้าเด็ดขาด และอย่ารบกวนข้าไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น!” น้ำเสียงของหานอวิ๋นซีจริงจังอย่างมาก
ต้องใช้เวลาระยะหนึ่งกว่าที่พิษจะละลายสิ่งนั้น และระยะเวลานี้จะกำหนดเวลาที่หานอวิ๋นซีจะใช้มีดได้
หากเร็วเกินไปจะไม่มีทางสลายตัวอ่อนในท้องได้ทั้งหมด และหากสายเกินไป พิษอาจเริ่มทำอันตรายต่ออวัยวะภายใน ก่อให้เกิดปัญหาใหม่หรือผลที่ตามมา
สิ่งเหล่านี้เป็สิ่งที่หานอวิ๋นซีไม่อยากให้เกิดขึ้น และนางก็ไม่สามารถชดใช้ได้เช่นกัน
ต้องรู้ว่า คนสามคนที่อยู่ข้างนอกนั้นไม่ใช่คนที่จะไปมีเื่ด้วย ไหนจะยังมีหานฉงอันอีกคนหนึ่งคอยหาเื่นางอีก
ในขั้นตอนนี้ ต้องทำให้สำเร็จเท่านั้น ห้ามล้มเหลวเด็ดขาด!
แม้ว่ากู้เป่ยเยวี่ยจะไม่เข้าใจ แต่เขาก็รู้ถึงความสำคัญของขั้นตอนนี้ ไม่เช่นนั้น เมื่อครู่หานอวิ๋นซีคงไม่ร้องขอครั้งที่สองกับฮ่องเต้เทียนฮุย
“ตกลง ท่านเองก็อย่าประหม่าเกินไปล่ะ” กู้เป่ยเยวี่ยพูด หันหลังกลับและเดินออกไปเพื่อลดการรบกวน
ดวงตาของหานอวิ๋นซีจดจ้องไปที่ท้องที่บวมของหลงเทียนโม่ ด้วยแววตาที่จริงจังและมีสมาธิ นางเปิดใช้ระบบการสแกนของระบบล้างพิษทันที สแกนสารพิษในช่องท้องของหลงเทียนโม่ ติดตามการเคลื่อนไหวและประเมินความคืบหน้าของการกัดกร่อนและการละลายของพิษ
ในขณะนี้ หานอวิ๋นซีกำลังตั้งสมาธิ เผยความรู้สึกจริงจังที่ไม่สามารถรบกวนหรือเข้าใกล้ได้
แม้ว่าระบบการสแกนเชิงลึกของระบบล้างพิษจะคำนวณอย่างชาญฉลาด แต่ก็ต้องอาศัยความร่วมมือจากสมาธิของนาง และความจดจ่อของนางต้องสูงถึงร้อยเปอร์เซ็นต์ มิฉะนั้นจะส่งผลต่อการคำนวณของระบบการสแกนและทำให้เกิดข้อผิดพลาด ซึ่งจะส่งผลต่อเวลาในการลงมีดอย่างแน่นอน
กู้เป่ยเยวี่ยที่มองนางจากระยะไกล ในแววตาก็กลับเต็มไปด้วยความประหลาดใจ เขาชอบความจริงจังของสตรีผู้นี้มากที่สุด
แต่ใครจะรู้ว่า ณ เวลานี้...