“ผอ.หลี่ ตอนนี้ให้หนูย้ายโรงเรียนได้แล้วใช่ไหมคะ” เด็กสาวมองหลี่สวินอวี้แล้วพูดยิ้มๆ “นักเรียนคนนี้น่าจะเป็นักเรียนที่ฟู่จงหนูเห็นรูปเขาในเว็บบอร์ดโรงเรียนฟู่จง หนูอยากอยู่ห้องเดียวกับเขารบกวนผอ.ช่วยจัดการให้หน่อยนะคะ”
“ไม่มีปัญหา” หลี่สวินอวี้รับเช็คมูลค่าร้อยล้านใบนั้นมาแล้วรับปากตามคำขอของเด็กสาวโดยทันทีคำขอแค่นี้จะไปยากอะไร
“ผอ. คุณถูกคนซื้อไปแล้วเหรอคะ” หลินซวงมองหลี่สวินอวี้แล้วพูดขึ้น “อยากมาห้องฉันก็มา ไม่แน่ว่าอาจจะจัดการกัวไฮว่หมอนั่นได้ก็ได้”
“ฮัดเช้ย ฮัดเช้ย ใครคิดถึงฉันเนี่ย ต้องเป็ครูหลินแน่เลยอยากให้ฉันรักษาให้ครูล่ะสิท่า เดี๋ยวจัดให้” กัวไฮว่ยิ้มเ้าเล่ห์พลางเดินกลับมายังห้องนอน
“พี่ไฮว่ เอามา เอามา ยังมีอีกไหม” กัวไฮว่เพิ่งจะถึงห้องเฉียนตัวตัวกับเซวียนต้าจู้ก็ขวางกัวไฮว่ไว้ที่ตรงประตู ทั้งสองคนดูเปลี่ยนไปก่อนหน้านี้เฉียนตัวตัวเป็เหมือนเด็กหนุ่มผู้หยาบกระด้างส่วนเซวียนต้าจู้เป็ไอ้โง่จากบ้านนอกแต่ตอนนี้เฉียนตัวตัวให้ความรู้สึกเหมือนเป็เด็กหนุ่มสุดเท่ส่วนเซวียนต้าจู้เป็เหมือนาาทหาร
“ถ้าพวกนายไม่กลัวตาย เดี๋ยวฉันจะหาวิธีทำให้พวกนายอีกตอนนี้พวกนายโอเคแล้วล่ะหนทางบำเพ็ญเพียรจะใช้ยาลูกกลอนอย่างเดียวไม่ได้หรอกนะ" กัวไฮว่พูดยิ้มๆเมื่อเห็นท่าทีของทั้งสองกัวไฮว่ก็รู้ได้ว่ายาลูกกลอนที่ตนเองให้เขากินออกฤทธิ์แล้ว
“พี่ไฮว่ ยาที่พี่ให้พวกเรากินมันให้พลังงานจริงๆ นะ วันนี้ทั้งวันไม่จามแม้แต่นิดเดียววิ่งจากห้องเรียนถึงห้องนอนในเฮือกเดียวก็ไม่เหนื่อยแม้แต่น้อย” เฉียนตัวตัวพูดยิ้มๆ
“ผมก็ด้วย วันนี้กระตือรือร้นมากเลย” เซวียนต้าจู้พูดยิ้มๆ
“ต่อไปถ้ามีของดี ฉันจะให้พวกนายอีก ฮ่าๆ เราเป็พี่น้องกัน พี่น้องที่ดี” กัวไฮว่พูดยิ้มๆ “แต่ว่าอย่าเผยเื่ความสามารถของฉันในโรงเรียนนะชีวิตร้อยปีนี้ พวกเราต้องใช้ให้สนุกหน่อย”
“ชีวิตร้อยปี ใช้ให้สนุก ฮ่าๆ ลูกพี่ ต่อไปพวกเราจะติดตามพี่” เฉียนตัวตัวชะงักไปครู่หนึ่ง จากนั้นก็พูดพลางหัวเราะเสียงดัง “ถึงว่าพี่ไฮว่ถึงเขียนพู่กันได้น่าสนใจขนาดนี้ ที่แท้ก็ถ่องแท้ในชีวิตเกรงว่าอาจารย์สองท่านของผมยังสู้พี่ไฮว่ไม่ได้เลย”
“พี่ไฮว่ พรุ่งนี้แปดโมง เรามาเจอกันที่หน้าประตูโรงเรียนนะฉันบอกครูหลินซวงแล้วว่าลาเรียนสามวัน” มู่หรงเวยเวยต่อสายโทรหากัวไฮว่แล้วพูดขึ้นเบาๆ “พี่ว่าต้องเอาอะไรไปบ้าง หรือว่าให้ฉันเตรียมอะไรไหม บอกฉันหน่อยสิ”
“แค่เธอแต่งตัวสวยๆ ให้ฉันเพลินตาอาการป่วยของพี่เธอเดี๋ยวฉันช่วยเธอจัดการเอง” กัวไฮว่พูดยิ้มๆ “ยายหนู วางใจเถอะ ฉันเตรียมของไว้หมดแล้ว พอถึงเวลาฉันจะทำให้เต็มที่”
ทั้งสองคุยกันอีกสักพักก็วางสายไป
“มีคนปิดบังความลับ์ เกิดอะไรขึ้นกันแน่ จู่ๆ ก็มีความรู้สึกบอกไม่ถูกหรือว่าตอนนี้ยังมีเซียนท่านอื่นถูกเนรเทศมาแดนมนุษย์อีก” เดิมทีกัวไฮว่คิดจะคำนวณดูในครานี้ สุดท้ายก็ไม่ได้อะไร เพราะความลับ์ถูกปิดบัง
“ไม่ใช่สุขไม่ใช่ภัย แต่เป็หลบภัยไม่ได้ ไม่สนแล้ว วันนี้ไม่ฝึกปราณแล้วนอนๆ” พูดจบ กัวไฮว่ก็พิงไปบนเตียง ไม่นานก็ผล็อยหลับไป
“เทพแห่งจิต นี่ตั้งใจจะให้ข้าหาเจอหรือใช้ชีวิตในแดนมนุษย์ได้ไม่เลวเลยนี่ ยากันแก่ ยากระตุ้นชีพจร ฝีมือการเขียนไม่เลวรอวันมะรืนเราจะได้เจอกันแล้ว ท่านจะใหรือไม่” อวี้เอ๋อร์นอนพิงเตียงอยู่คนเดียวแล้วพูดขึ้นยิ้มๆ
“คุณไฮว่ ออกไปอีกแล้วเหรอ” หลี่เวยเห็นกัวไฮว่จูงมือมู่หรงเวยเวยเดินมายังประตูโรงเรียนก็พูดต้อนรับ
“พี่เวย หลายวันก่อนผมบังเอิญเจอนักพรตเต๋าด้านนอกเขาให้ยาลูกกลอนผมมาสองสามเม็ด ผมให้พี่เม็ดนึงไม่แน่ใจว่าจะช่วยกันแก่ได้หรือเปล่า” พูดเสร็จกัวไฮว่ก็โยนยาลูกกลอนที่ดูท่าทางไม่เลวเม็ดหนึ่งให้หลี่เวยหลี่เวยเองก็ไม่ได้เกรงใจ รีบเอาเข้าปากไป
“คุณไฮว่ รสชาติไม่เลวเลย บังเอิญเจอที่ไหนเหรอ พี่ก็อยากบังเอิญเจอบ้าง” หลี่เวยพูดยิ้มๆ “คุณไฮว่ถ้าพวกเธอมีเื่อะไรก็ไปทำเลย พี่มีธุระนิดหน่อย” พูดจบหลี่เวยก็เดินเข้าไปในฝ่ายรปภ.โดยไม่หันกลับมามอง
“พี่ไฮว่ พี่ให้เขากินอะไรไป ทำไมจู่ๆ ถึงเข้าไปเลยล่ะ” มู่หรงเวยเวยมองกัวไฮว่ที่ยิ้มร้ายอยู่เลยถามขึ้นเบาๆ
“ไม่มีอะไร แค่ให้ยาปรับสภาพร่างกายน่ะ เรารีบไปกันเถอะ” กัวไฮว่จูงมือมู่หรงเวยเวยออกจากโรงเรียนไป
“พี่เวย เกิดอะไรขึ้น จู่ๆ ก็วิ่งเข้ามาทำอะไรเหรอ” รปภ.สองสามคนเห็นหลี่เวยหน้าแดงเถือกก็ถามขึ้นยิ้มๆ
“พี่แข็ง พี่แข็งขึ้นมาแล้ว” หลี่เวยชี้ไปยังส่วนล่างของร่างกายตนเองแล้วพูดขึ้นด้วยเสียงดังว่า “แม่มันเถอะ าแฉันหายดีแล้ว”
ก่อนที่จะปลดประจำการทหาร มีครั้งหนึ่งที่เขาปฏิบัติภารกิจทำให้น้องชายาเ็เข้าโดยไม่ตั้งใจ เป็เวลาสองปีมาแล้วขอยาหมอมาแล้วหลายที่ก็ยังไม่หายดี เขาได้ละทิ้งความหวังไปนานแล้วแต่ยาลูกกลอนเม็ดเดียวของกัวไฮว่ทำให้เขาหายดีได้ ทำไมเขาจะไม่ตื่นเต้นล่ะ
“พี่ไฮว่ เรารออยู่นี่ก่อนนะ เดี่ยวจะมีคนมารับพวกเรา” เมื่อทั้งสองเดินไปถึงปากทาง มู่หรงเวยเวยก็พูดขึ้นยิ้มๆ “พ่อฉันอารมณ์แปลกๆ นะ พอถึงเวลาพี่ก็อย่าคิดมากเลยนะ”
กัวไฮว่ยิ้มพลางผงกศีรษะ เขารู้เกี่ยวกับตระกูลมู่หรงมาไม่น้อยตระกูลมู่หรง ตระกูลหนานกงและตระกูลเซวียนหยวนเป็สามตระกูลจักรพรรดิจะเห็นได้จากอิทธิพลของตระกูลมู่หรงต่อประเทศจีน
“คุณหนูครับ” รถยนต์โรลส์รอยซ์สีบรอนซ์ขาวคันหนึ่งจอดอยู่ข้างๆกัวไฮว่กับมู่หรงเวยเวย โดยมีชายหนุ่มคนหนึ่งเป็คนขับชายชราคนหนึ่งเดินลงมาจากด้านหลัง เขามองมู่หรงเวยเวยพลางพูดด้วยความนอบน้อม
“ปู่เหยียน ทำไมวันนี้เป็ปู่ได้ล่ะคะ” มู่หรงเวยเวยมองชายชราที่อยู่ตรงหน้าแล้วพูดขึ้นยิ้มๆ
“ทำไม ผมมาไม่ได้เหรอ” ชายชราพูดยิ้มๆ “รีบขึ้นรถเถอะ ท่านผู้นำรอคุณอยู่นะ”
“เสี่ยวเฟย ไม่เห็นต้องเก๊กเท่เลย ก็แค่ขับรถเองไม่ใช่เหรอ” ทันทีที่ขึ้นรถ มู่หรงเวยเวยก็มองคนขับแวบหนึ่งแล้วพูดยิ้มๆ
“พี่เวยเวย พี่เห็นผมแล้วเหรอพี่ชายคนนั้นก็คือคนที่พี่บอกว่าจะมาดูอาการป่วยให้พี่หลงใช่ไหมเดี๋ยวนี้สิบแปดมงกุฎเยอะนะ พี่อย่าโดนเขาหลอกเข้าล่ะ” มู่หรงเฟยที่ขับรถอยู่พูดขึ้นยิ้มๆ
“เสี่ยวเฟย พูดอะไรระวังหน่อย พี่ไฮว่มีพลังวิเศษ ถ้าเขาโกรธขึ้นมานายจะเจ็บตัวเองนะ” มู่หรงเวยเวยพูดขึ้นอย่างโมโห
“พลังวิเศษ? อาจารย์ผมก็มีพลังวิเศษไว้ให้เขาแข่งกับอาจารย์ดูดีกว่า เหอะๆ” มู่หรงเฟยพูดยิ้มๆ
“อายุยังไม่เยอะ แต่ฝึกวิชาจนได้ขนาดนี้แล้ว ไม่เลวเลย ประมาทเลินเล่อจริงๆ” กัวไฮว่มองมู่หรงเฟยที่ขับรถอยู่แวบหนึ่ง แล้วพูดขึ้นยิ้มๆ
“อืม พี่ก็ดูออกเหรอว่าผมเคยฝึกมาก่อน” มู่หรงเฟยอึ้งไปก่อนจะถามขึ้นยิ้มๆ
“ฝึกมวยแปดสุดยอดสำเร็จั้แ่เด็ก แต่การฝึกไทเก๊กขาดสมดุลไปหน่อยนึงชงยาดองทำได้ไม่เลว มวยภายในยังแย่ไปหน่อย อาจารย์ของนายคงจะเป็ยอดฝีมือสินะ” กัวไฮว่หลับตาพลางพูดขึ้น
“เสี่ยวเฟย ตั้งใจขับรถ” ชายชราเห็นมู่หรงเฟยที่อึ้งงันไปก็รีบพูดเตือน
“พี่สุดหล่อ พี่สุดยอดไปเลย ยังไม่ทันจะจับมือผมก็รู้รายละเอียดผมซะชัดขนาดนี้เดี๋ยวลงรถไปเราไปฝึกวิชากันเถอะ” มู่หรงเฟยพูดยิ้มๆ