...มนตราคือชื่อของฉันหรือที่ใครหลาย ๆ จะรู้จักในนามว่า...มนต์...ปัจจุบันฉันทำงานในตำแหน่งเลขาให้กับประธานบริษัทั์ใหญ่ระดับอาเซียน ตำแหน่งที่ใคร ๆ ก็ต่างถวิลหาอยากจะเข้ามาอยู่ในจุดจุดนี้ นั่นก็เพราะไม่ใช่แค่เงินเดือนและสวัสดิการของบริษัทนี้ที่ดีเท่านั้น แต่ทว่า...ยังมีอีกหนึ่งสิ่งที่สำคัญไม่น้อยไปกว่ากันนั่นก็คือ การได้ใกล้ชิดกับท่านประธานของบริษัทแห่งนี้ที่ทั้งเก่งแถมยังหล่อติดอันดับหนุ่มฮอตผู้ทรงอิทธิพลของสังคมที่นิตยสารไฮโซระดับอาเซียนมอบให้อีกด้วย
...แต่ก็นั่นแหละเพราะด้วยความหล่ออีกทั้งเสน่ห์ที่มากล้นเกินต้านของท่านประธานสุดฮอต มีหรือที่คนอย่างฉันจะไม่หลงใหลไปกับรูปโฉมและความสามารถเ่าั้ของเขา เพราะฉันเองก็เป็เหมือนกับผู้หญิงหลาย ๆ คนที่ใฝ่ฝันจะได้ใกล้ชิดและแอบปลื้มผู้ชายที่เก่งรอบด้านไม่ต่างกัน เพียงแต่ด้วยสถานะของฉันที่เป็เลขานั้น มันจึงทำให้ฉันทำได้เพียงแค่เก็บงำความรู้สึกนั้นไว้ในใจ
แต่ทว่า...เพราะไอ้ความปลาบปลื้มที่นับวันรังแต่จะทวีเพิ่มพูนไม่หยุด...มันได้มอมเมาจนฉันเริ่มปล่อยตัวปล่อยใจอาจหาญกระทำการบางอย่างลงไปอย่างไร้สติไม่คิดหน้าคิดหลัง เพียงเพราะคิดว่ามันจะเป็ความลับที่จะไม่มีใครล่วงรู้ได้...แต่สุดท้ายแล้วความลับไม่มีในโลกฉันใดก็ฉันนั้น...เพราะเมื่อวันหนึ่งความลับที่เก็บงำมานานถูกจับได้ จนกลับกลายมาเป็หายนะที่ทำลายชีวิตฉันไม่มีชิ้นดี...และด้วยเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ ฉันเองก็ไม่อาจโทษใครได้เลย...นอกจากตัวเอง...เท่านั้น...
ปั่ก...ปั่กๆๆ
“อื้ออออ ~~ สะ...เสียว”
“ตอดดีเหลือเกิน...มนต์...มันทำให้ผมคลั่ง! นะรู้ไหม!! ทั้งเสียง่ล่างของคุณมันดีเหลือเกิน...อ่าาาาส์ ~~”
ร่างบางนอนเปลือยเปล่าอยู่บนสังเวียนนุ่มขนาดใหญ่กำลังอ้าขาสนองตัณหาและราคะให้กับชายหนุ่มที่กำลังสอดแก่นกายขนาดใหญ่รุกล้ำเข้าออกอยู่ตรงกึ่งกลางกายสาวอยู่ในขณะนี้ด้วยร่างที่เปียกชุ่มไปด้วยเม็ดเหงื่อที่พร่างพราวไปทั่วทั้งตัว
“อ๊ะ...อ๊ะ...มะ...มนต์...จะไม่ไหวแล้ว”
“ผมก็ไม่ไหวแล้วเหมือนกัน...อืมมมม ~~”
เสียงสอดประสานส่งออกมาด้วยความกำหนัดของผู้ชายที่กำลังโยกย้ายขยับบั้นเอวอย่างบ้าคลั่งอยู่บนตัวฉันอยู่ในขณะนี้ก็คงจะเป็ใครไปไม่ได้เลยนอกจาก ทายาทตระกูลดังอีกทั้งยังเป็ประธานบริษัทรุ่นที่ 4 ของบริษัทั์ใหญ่ระดับอาเซียนอย่าง รุ่งเรืองโรจน์รัตนกิจ คนที่ฉันเพิ่งเอ่ยถึง คุณวาคิม รุ่งเรืองโรจน์รัตนกิจ ผู้ซึ่งเป็เ้านายของฉันนั่นเอง...
และถ้าหากจะถามว่าเื่ราวของเราสองคนมาถึงจุดนี้ได้ยังไง คำตอบเดียวที่ยังคงก้องอยู่ในใจของฉันเสมอมาก็คือประโยคประโยคหนึ่งในท่วงทำนองหนึ่งที่ว่า (~~ ดั่งขุมนรกอเวจีชังหรือสรวง์ชั้นดาวดึงส์แกล้ง ~~) (หลบพี่ลิขเขาหน่อย) (> /l\ <) เพราะฉันคงไม่มีทางลืมเื่ราวที่เกิดขึ้นในวันนั้นไปได้เลย...
ย้อนกลับไปถึงวันที่เกิดหายนะขึ้น...
ณ บริษัทรุ่งเรืองโรจน์รัตนกิจ
--- มนตรา Talk ---
6.30 น
ณ เวลานี้เป็เวลาที่ฉันมักจะมาถึงที่ทำงานในทุก ๆ เช้าก่อนใครเสมอ แม้ใครหลาย ๆ คนมักจะมองว่าฉันเป็คนขยันทุ่มเทให้กับงานมากแค่ไหน แต่ทว่า...ใครเล่าจะล่วงรู้ถึงความเป็จริงอันดำมืดของฉันที่เก็บงำเอาไว้ในใจอยู่นานแล้วถึงเหตุผลที่แท้จริงของตัวเองที่ต้องมาทำอะไรบางอย่างในทุก ๆ เช้าเฉกเช่นวันนี้...
ติ๊ดดด ~~ แกร๊ก~~
เสียงสแกนนิ้วมือพร้อมกับแรงดันประตูเปิดเข้าไปภายในห้องทำงานส่วนตัวแบบ VIP ที่อยู่ชั้นบนสุดของอาคาร ห้องที่นอกจากจะเป็ห้องทำงานของฉันแล้ว มันยังเป็ห้องของผู้บริหารั์ใหญ่ที่ได้ชื่อว่าเป็เ้าของบริษัทแห่งนี้อีกด้วย
รอยยิ้มแย้มสดใสปรากฏขึ้นบนใบหน้าสวยเหมือนเช่นเคย หลังจากที่ร่างบางเดินเข้ามายังห้องทำงานได้แล้ว จากนั้นสองขาเรียวสวยก็ก้าวเท้าเดินตรงดิ่งไปยังโต๊ะประจำตำแหน่งที่แสนจะภาคภูมิใจของตัวเอง ตำแหน่งที่ฉันได้มันมาด้วยความสามารถของตัวฉันเองทั้งสิ้น
ความรู้สึกถึงความภาคภูมิใจฉายเข้ามาในห้วงความคิดเหมือนเช่นเคยยามที่ฉันนึกถึงวันที่ฉันได้เข้ามาทำงานในตำแหน่งเลขานี้ เพราะนอกจากตำแหน่งนี้จะทำให้ฉันได้รับความยำเกรงจากเหล่าผู้จัดการแผนกต่าง ๆ แล้วนั้นตำแหน่งของฉันก็ยังทำให้หญิงสาวหลาย ๆ คนทั้งในและนอกองค์กรต่างรู้สึกอิจฉาไปตาม ๆ กันอีกด้วย ด้วยเหตุเพราะฉันได้มีโอกาสทำงานใกล้ชิดกับนักธุรกิจหนุ่มไฟแรงผู้ที่มีความสามารถโดดเด่นที่บริหารกิจการธุรกิจจนแซงหน้าคนหนุ่มวัยเดียวกันชนิดที่ว่าไม่เห็นฝุ่น จนทำให้บริษัทแม่และบริษัทในเครืออีกหลายแห่งก้าวหน้าไต่ติดอันดับระดับอาเซียนภายในเวลารวดเร็ว และด้วยความสามารถของเขาก็ส่งผลทำให้เขากลายเป็นักธุรกิจหนุ่มหน้าใหม่ไฟแรงที่ประสบความสำเร็จโดยใช้เวลาแค่ไม่กี่ปี
และนอกจากความสามารถอันโดดเด่นในการบริหารธุรกิจของเขาแล้ว สิ่งที่ไม่ด้อยไปกว่ากันเลยนั่นก็คือ...ใบหน้าอันหล่อเหลาและรูปร่างอันสมส่วนชนิดที่ว่าความงามของเขานั้นส่งให้เขาติด TOP 10 ผู้ชายที่ผู้หญิงหมายปองมากที่สุดของนิตยสารระดับอาเซียนเลยทีเดียว จนเหล่าเซเลปแมวมองทั้งหลายต่างพูดกันเป็เสียงเดียวว่าถ้าหากเขาไม่ได้เป็นักธุรกิจแล้วล่ะก็ เขาคงเป็ดาราหรือนายแบบระดับแนวหน้าได้สบาย ๆ
สิ้นความคิดถึงเื่จริงที่เกิดขึ้นเกี่ยวกับผู้ชายที่เป็เ้าของห้องทำงานนี้ ฉันก็รีบจัดการเก็บสัมภาระของตัวเองให้เสร็จเรียบร้อยโดยเร็วทันที เพราะฉันไม่อยากปล่อยเวลาให้ผ่านลวงเลยไปจนไม่ได้ทำในสิ่งที่ตัวเองตั้งใจมาทำั้แ่เช้าแบบนี้ และถึงแม้ว่าคนภายนอกจะมองหรือคิดกันเอาเองว่าสาเหตุที่ฉันมาทำงานแต่เช้าคงเป็เพราะว่าฉันขยันต้องรีบมาเคลียร์งานและจัดการทุกอย่างให้เสร็จเรียบร้อยก่อนที่เ้านายหนุ่มสุดหล่อจะเริ่มทำงาน แต่ทว่า...ในความเป็จริงแล้วนั้น...สิ่งที่ทุกคนไม่อาจล่วงรู้ได้เลยว่าสาเหตุที่แท้จริงที่ฉันมาทำงานั้แ่เช้าจะเป็เพราะว่าฉัน้ามาเก็บเอากลิ่นอายของเ้านายคนโปรด กลิ่นอายที่ยังคงอบอวลอยู่ในสถานที่ที่เคยมีตัวตนของเขาอยู่ อีกทั้งยังเป็สถานที่ที่เขาทิ้งลมหายใจเอาไว้ และในความเงียบสงบที่แสนรัญจวนใจใครจะไปรู้ว่าบรรยากาศเ่าั้มันจะกลับทำให้ฉันรู้สึกมีความสุขและมีพลังที่จะทำงานในทุก ๆ วัน...
จากนั้นร่างระหงก็ไม่รอช้าเริ่มลุกขึ้นเดินกรีดกรายสูดเอาอากาศที่มีทั้งกลิ่นอายและลมหายใจของผู้ชายที่ฉันแอบปลื้มเข้าไปอย่างเต็มปอดด้วยความรู้สึกอิ่มเอมใจ เขาเป็ผู้ชายที่ฉันแอบปลื้มมาตลอดหลายปีที่ผ่านมานับั้แ่ก่อนที่จะมาสมัครเข้าทำงานที่นี่ด้วยซ้ำ เพราะด้วยความที่เขาเป็ผู้ชายเพอร์เฟกต์และเก่งในทุก ๆ ด้าน และตามที่ฉันได้ศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับเขามาก่อนที่จะเข้ามาสมัครแข่งขันในตำแหน่งเลขานี้ ข้อมูลเ่าั้จึงทำให้เขาเป็เหมือนต้นแบบของการประสบความสำเร็จในหน้าที่การงานสำหรับฉัน ฉันที่ทั้งชื่นชมและอยากเอาเขาเป็เยี่ยงอย่างในด้านการทำงานมาโดยตลอด ดังนั้นฉันจึงภาคภูมิใจมากที่ได้มาทำหน้าที่เป็เลขาของเขาและได้อยู่ข้างเขาคนเก่งอย่างเขาแบบนี้...
แต่เหนือสิ่งอื่นใดสิ่งที่เขายิ่งทำให้ฉันปลื้มใจนั่นก็คือ เขาไม่เคยมีท่าทีคุกคามฉันหรือทำให้ฉันรู้สึกไม่สบายใจเวลาที่ทำงานกับเขาเลยสักนิด แม้ว่าเขาจะได้ชื่อว่ามีผู้หญิงมากหน้าหลายตาก็ตาม แต่ส่วนใหญ่เวลาที่เราทำงานร่วมกัน เขาก็มักจะทำหน้านิ่งเคร่งขรึมวางตัวสุขุมอยู่ตลอดเวลาเป็เ้านายที่ไม่ค่อยมีปฏิสัมพันธ์กับลูกน้องคนไหนเลยแม้กับฉันเองที่เป็เลขาเขามานานก็ตาม แต่ถ้าจะมีก็คงมีแค่คนเดียวนั่นก็คือลูกน้องคนสนิทที่เป็ทั้งบอดี้การ์ดและเลขาอีกคนของเขาเท่านั้นเอง
ฉันเดินไปทั่วทั้งห้องพร้อมกับนึกไปถึงใบหน้าคมเข้มที่มักจะดูมีเสน่ห์เหลือล้นยามที่เขาวุ่นอยู่กับงาน ท่วงท่าที่เขามักจะวางตัวจริงจังจนพานทำให้ฉันต้องเป๊ะตามไปด้วยแต่กลับกลายเป็ผลดีต่อตัวฉัน แม้ว่าฉันจะกลายเป็เลขาที่ใคร ๆ ต่างให้ฉายาว่าเลขาหน้าตายแต่มันก็ไม่ได้กระทบกับการใช้ชีวิตของฉันในบริษัทแห่งนี้เลยสักนิด ตรงกันข้ามฉันยิ่งรู้สึกดีและยิ่งหลงใหลในตัวเขามากขึ้น เพราะถึงแม้ว่าเขาจะเป็ผู้ชายพูดน้อยและมักจะวางมาดดุดันอยู่เสมอ แต่สำหรับฉันเขาช่างมีเสน่ห์ไม่เหมือนใครและดึงดูดใจฉันให้หวั่นไหวยามที่ได้อยู่ใกล้ ๆ เขาทุกที
รอยยิ้มหวานเผลอผุดขึ้นยามที่คิดไปถึงใบหน้าที่เคร่งขรึมของเขาอย่างไม่อาจห้ามได้ แม้ว่าเขาจะมองฉันเป็เพียงแค่เลขา เป็แค่พนักงานตัวเล็ก ๆ นอกสายตาไม่ได้สนใจอะไร แต่ถึงกระนั้นฉันก็พอใจกับสถานะของตัวเองตอนนี้ ได้เป็เลขาที่อยู่ใกล้ ๆ เขา ได้อยู่เคียงข้างและคอยทำงานจัดการเื่นู้นเื่นี้ให้กับเขา และถึงแม้ว่าเขาจะมีเพียงแค่ความเฉยชาไร้ซึ่งรอยยิ้มยามที่ฉันทำงานได้ดีมาให้ก็ตามมันก็ไม่ได้ทำให้ความปลาบปลื้มชื่นชมในตัวเขาที่มีของฉันลดน้อยลงเลยสักนิดเดียว ตรงกันข้ามฉันกลับยิ่งรู้สึกหลงใหลและปลาบปลื้มเขามากยิ่งขึ้นเสียด้วยซ้ำ
ก่อนที่ฉันจะเดินสูดเอากลิ่นกายและความหอมที่อยู่ในห้องทำงานต่อด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความสุขพร้อมหัวใจที่รู้สึกถึงอิ่มเอิบ คล้ายกับว่าตัวเองกำลังเดินอยู่ท่ามกลางทุ่งดอกไม้ที่ส่งกลิ่นหอมเฉพาะตัว และด้วยการกระทำที่เหมือนกับว่าสิ่งที่ทำอยู่ ณ ตอนนี้เป็เสมือนภารกิจของตารางประจำชีวิตของตัวเองในยามเช้าไปแล้ว...ทำให้ฉันไม่รู้เลยว่าไอ้ความชะล่าใจถึงสิ่งที่ทำอยู่ในตอนนี้มันจะนำพาหายนะมาสู่ชีวิตตัวเองในอีกไม่กี่ชั่วโมงข้างหน้านี้แล้ว...
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้