ชูสี่เดือนสาม เป็วันหว่านเมล็ดข้าว
แม้จะเป็เดือนสามที่อากาศเริ่มอบอุ่นแล้วแต่ในความจริงอากาศยังคงหนาวอยู่เล็กน้อย
ในฤดูแตกต้นอ่อนนี้ไม่มีพลาสติกมาครอบก็ลำบากมากจริงๆ
เมื่อคิดถึงเกษตรกรในชาติก่อนต่างเอาพลาสติกมาคลุมเอาไว้ส่วนที่นี่กลับแค่หว่านเมล็ดลงไปในนี้ก็พอเป็เช่นนี้พืชพันธุ์ที่งอกออกมาจะต้องทั้งช้าและเติบโตได้ไม่ดี
“เฮ้อหากสามารถมีพลาสติกบางๆ ที่สามารถเอามาปิดได้คงดีสิ ไม่มีสิ่งใดที่เอามาใช้แทนได้เลยหรือ? เรือนเพาะชำคนในยุคนี้ก็มีแต่เรือนเพาะชำที่เอาไว้เพาะพันธุ์ผักออกมา มีแค่คนรวยที่ปลูกผักออกมาทานเท่านั้นส่วนครอบครัวคนจนไม่มีเงินพอจะทำเรือนเพาะพันธุ์ได้ ช่างเถิดเส้นทางนี้คิดต่อไปไม่ได้แล้ว ทำตามที่คนเขาทำปกติแล้วกัน วันนี้เอามันฝรั่งลงไปปลูก”
เพราะต้นอ่อนของข้าวมีไม่มากเฉินเนี้ยนหรานกับพวกหวงเต๋ออันเอาต้นอ่อนลงดินในตอนเช้าก็เสร็จแล้ว
ในตอนนี้นางทุ่มเวลาไปกับการเร่งเพาะปลูก
ตอนกลางวันเฉินเนี้ยนหรานนำมันฝรั่งที่ถูกหั่นเป็ชิ้นมาหว่านลงในดินขี้เถ้า
แม้ดินที่มันฝรั่ง้าจะต้องมีปุ๋ยมากแต่โดยพื้นฐานอย่างไรก็ต้องมี
ซึ่งมันฝรั่งก็มีไม่มากดังนั้นภายในตอนบ่าย เฉินเนี้ยนหรานกับหวงเต๋ออัน และคนงานระยะยาวสามคน ต่างช่วยกันทำเสร็จแล้ว
สุดท้ายน้องหกกับน้องห้ามาช่วยเอามันลงดินไปด้วยกันทำกันไปมาจนถึงตอนดึกจึงจะเสร็จ
“เอาล่ะพรุ่งนี้พวกเรายังต้องเอามันหวานลงไปเพาะ”
หวนเต๋ออันที่กำลังล้างโคลนที่ขาออกอยู่ครั้นได้ยินว่าพรุ่งนี้จะเพาะมันหวานจึงพยักหน้าอย่างตื่นเต้น
“มันหวานนี่ข้าได้ยินว่าเป็พืชระดับสูงเชียว หากมีเ้ามันหวานนี่แล้ว ต่อไปไม่ต้องกังวลเื่อาหารแล้ว”
เฉินเนี้ยนหรานยอมรับ“เป็เช่นนั้นจริงๆ มันหวานกับมันฝรั่งต่างเป็พืชระดับสูง หากดูแลดีๆ แล้ว ต่อไปไม่ต้องกังวลเื่อาหารการกินแล้วจริงๆแต่มันฝรั่งนี่ พวกเราจะต้องกังวลเื่การปลูกสักหน่อย ใช่แล้ว หัวบุกนั่นข้าเห็นที่ดินทรายตรงตีนเขา สู้ปลูกเ้านี่สักหน่อย อย่างไรเ้านี่พวกเราก็สามารถทานเองได้”
เมื่อพูดถึงหัวบุกเฉินเนี้ยนหรานยิ้มไปด้วย ไม่พูดไม่ได้เลยว่านางที่สามารถหยั่งรากอยู่ในหมู่บ้านได้อย่างดีเช่นนี้ เป็เพราะการบอกวิธีปลูกและทำหัวบุกที่ประสบความสำเร็จมาก
โดยเฉพาะเป็หัวบุกใน่ฤดูหนาวยิ่งทำให้คนในหมู่บ้านซึ้งใจกันมาก
จากการแนะนำของเฉินเนี้ยนหรานแล้วให้เฉินจื่อิคู่สองสามีภรรยาออกหน้าให้ ก็หาบรรจุภัณฑ์ที่ดีมากมาได้ จากนั้นไปซื้อหัวบุกในหมู่บ้านมาเอาพวกมันมาห่อเอาไว้ในถุง ก่อนจะเอาไปขายให้กับพวกคนรวยในเขต
เพราะเป็ของแปลกใหม่ทั้งยังรวมถึงประสิทธิภาพการขาย โดยใช้กลวิธีเอาอาหารเข้ามาช่วยเพิ่มยอดขายของเฉินเนี้ยนหรานแล้วถึงแม้จะไม่สามารถเปิดตลาดระดับใหญ่ได้ แต่ยังสามารถขายออกได้ในจำนวนเล็กๆ
จากความคิดของเฉินเนี้ยนหรานของพวกนั้นเป็รายได้จำนวนเล็กๆ แต่สำหรับคนในหมู่บ้านแล้วของนั่นแค่เสียแรงนิดๆ หน่อยๆ กลับสามารถสร้างรายได้มาเกือบครึ่งปีแล้วรายได้แบบนี้ ให้ความรู้สึกเหมือนขนมเปี๊ยะหล่นจากฟ้า
เมื่อเป็เช่นนี้คนในหมู่บ้านจะไม่ทำดีกับเฉินเนี้ยนหรานหรือ? นั่นเป็เหตุผลว่าเหตุใดปีนี้เฉินเนี้ยนหรานจึงได้ไปถวายของหลังจากเห็นว่านางใช้อาหารมากมาย คนเ่าั้ต่างจะช่วยนางพูด
แม้แต่พวกน้องหกไปเข้าเรียนตอนนี้นอกจากบางคนที่ทำตัวเป็ศัตรูกับพวกนาง ตอนนี้เด็กๆ หลายคนต่างยินดีจะเข้ามาพูดคุยกับน้องหก
“หัวบุกมันฝรั่ง มันหวาน ข้าว ข้าวเหนียว เฮยกู่ ผักกาดขาว…หลายเมล็ดเชียวที่ต้องเพาะต้นอ่อนใน่นี้ต้องเพาะเมล็ดแล้ว ฤดูใบไม้ผลินี่มันยุ่งมากเสียจริงนะ แต่ลำพังของพวกนี้แน่นอนว่ามันไม่สามารถทำให้กลายเป็เ้าของที่ดินที่ร่ำรวยได้ไวนักหรอกที่สำคัญที่สุด จะต้องขยายออกไปทีู่เาร้างแล้วก็บึง!”
เื่ในบึงให้หวงเต๋ออันผู้มีประสบการณ์เก่าไปจัดการบวกกับจ้างคนงานระยะยาวมาอีกสองสามคน เมล็ดพวกนี้เพียงครู่เดียวก็ปลูกเสร็จ
ในวันนี้หลังจากหวงเต๋ออันจัดการเื่ในบึงเสร็จแล้ว ก็ตามเฉินเนี้ยนหรานมาถึงข้างบึง
“ตอนนี้เ้าเอาบัวลงไปปลูกตามที่ข้าพูดแล้วใช่หรือไม่ปลูกบัวไปแล้ว ่แรกน้ำในบึงนี้จะต้องมีปริมาณน้อยสักหน่อยต่อไปค่อยพูดถึงการเลี้ยงปลา”
เป็การปลูกพืชเช่นกันแต่การปลูกพืชชนิดนี้ต้องมีการพิจารณาให้ดี บางครั้งขุดบ่อตื้นไป ลึกไป ล้วนเกี่ยวข้องกับการเจริญเติบโตของบัวด้วย
สิ่งที่เฉินเนี้ยนหรานจะทำคือสั่งสอนหวงเต๋ออันไปตามขั้นตอนที่ตนเองคุ้นเคยอย่างเคร่งครัดแล้วเอาของพวกนี้ปลูกลงไป
เมล็ดมีจำนวนไม่มากดังนั้นเพียงครึ่งวันก็สามารถทำบึงบ่อเสร็จ
“บึงตรงนี้ปล่อยปลาเข้าไปก่อนพอลูกปลาส่งมาถึงพวกเราจะปล่อยปลาลงไป”
“แต่ว่านายหญิงมีประโยคหนึ่งที่ข้าไม่ได้พูดมาตลอดก็คือ ตอนนี้ปริมาณน้ำฝนไม่ถือว่ามีเยอะมากหากตอนที่น้ำเพิ่มขึ้น น้ำในที่กักน้ำจะล้นออกไปได้ง่ายเื่เลี้ยงปลาพวกนี้ไม่กลัวหรอก แต่หากน้ำล้นที่กักออกมาหรือน้ำทะลักออกมาปลาพวกนั้นจะถูกน้ำซัดไปจนหมด เอาเช่นนี้ดีหรือไม่ ข้าคิดว่าคนในหมู่บ้านคงไม่พอใจที่จะแบ่งบ่อน้ำให้พวกเราเพียงนั้น”
เฉินเนี้ยนหรานพยักหน้า“ใช่ ที่เ้าพูดมาถูกทั้งหมดเื่ปัญหาความปลอดภัยของที่กักน้ำจะต้องแก้ปัญหานี้ก่อนจริงๆ แต่ในเมื่อข้ากล้าพูดที่จะเลี้ยงปลาแน่นอนว่าต้องมีวิธี ที่กักน้ำนี่ ตอนนี้เป็ตัวแปรสำคัญ เหตุใดพวกเราไม่ทำให้มันเป็่ๆเป็ที่กักน้ำแบบมีที่ระบายน้ำออกเล่า? ทำที่กักน้ำแบบมีที่ระบายแล้ววางตาข่ายปลาเอาไว้ เช่นนี้ปลามันจะหนีออกไปได้อย่างไร?”
ที่กักน้ำเป็วิธีที่ช่วยแก้ปัญหาน้ำขึ้นได้ง่ายที่สุด
ตอนที่น้ำขึ้นเพียงเปิดประตูกักน้ำขึ้นแค่นี้ก็สามารถระบายน้ำออกมาได้อย่างสะดวก
หวงเต๋ออันเป็คนที่เก่งกาจอยู่บ้างเล็กน้อยพอได้ยินก็ตาวาวขึ้นมา “จริงสิ พวกเรารู้จักแค่ทำรูระบายน้ำในนาข้าว เหตุใดจึงคิดไม่ถึงว่าวิธีนี้จะสามารถใช้กับที่กักน้ำกันนะ? ไอ๊หยานายหญิง หากคนในหมู่บ้านรู้เข้าจะไม่เสียใจตายภายหลังกันหรือ?”
เฉินเนี้ยนหรานส่ายหน้า“ไม่ คนในหมู่บ้านต่างไม่ใช่คนโง่ ที่พวกเขาคิดไม่ถึงว่าจะต้องขุดบ่อกักน้ำเลี้ยงปลามีความเป็ไปได้สูงว่าปลาในแม่น้ำนี่อัตราในการมีชีวิตอยู่ไม่แน่นอนและขอแค่เป็คนขยันสักหน่อย ไปจับจากบึงของหมู่บ้านมาทานก็ได้ แม้จะต้องขยันและต้องคิดถึงดวงแต่ปลาในที่กักน้ำสาธารณะของหมู่บ้านยังสามารถจับขึ้นมาได้ เลี้ยงแบบนี้จะต้องคอยเฝ้าและต้องสูญเสียแรงกายแรงในใจการเลี้ยงปลาให้รอด ที่มันไม่สำเร็จเกรงว่าเพราะอัตราการมีชีวิตอยู่ต่ำ ทั้งยังมีค่าดูแล รายได้ต่ำเกินไปถึงได้ทำให้คนในหมู่บ้านไม่ยอมเลี้ยงปลา แต่ปัญหาพวกนี้ข้าได้คิดวิธีแก้ไขเอาไว้แล้ว”
ปกติแล้วปลาต้องแยกกันเลี้ยง
เฉินเนี้ยนหรานรู้เื่นี้ดีมากการเลี้ยงปลาไม่ใช่การโยนปลาลงบ่อไปแล้วจะสามารถเลี้ยงมันได้แล้ว ปลาน่ะจะต้องแบ่งประเภทกันเลี้ยง
ตอนที่นางไปพื้นที่ชนบทในยุคปัจจุบันเคยได้ยินเพื่อนของตนเองพูด
หากเลี้ยงปลา จะต้องระวังปลาชนิดหนึ่งคือปลาจิ้งเถียว
ปลาชนิดนี้จะกินปลาชนิดอื่นๆอีกทั้งอัตราการมีชีวิตอยู่จะสูง หากปลาชนิดนี้เลี้ยงปนอยู่กับปลาชนิดอื่นพวกปลาหลีเอยล้วนจะมีชีวิตอยู่ได้ยาก
ก่อนจะเลี้ยงต้องจัดการแยกปลาชนิดอื่นมาจากลูกปลาก่อน
ส่วนปลาที่โตแล้วเฉินเนี้ยนหรานเองก็คิดเอาไว้
เลี้ยงปลาในยุคนี้จะต้องปล่อยให้เติบโตในบึงโดยธรรมชาติ
การเติบโตเช่นนี้แม้จะเป็การเลี้ยงแบบดั้งเดิม แต่ความเร็วในการเติบโตช้าเกินไปจริงๆในยุคที่ไม่มีการผลิตอาหารปลา สิ่งที่นางทำได้คือการใช้อาหารดั้งเดิมมาเลี้ยงปลาทำให้พวกมันโตไวขึ้น
และนี่คือเหตุผลที่นางจะเลี้ยงไก่ขี้ไก่สามารถเอามาเป็อาหารปลาได้ ส่วนพวกใบของมันหวานสามารถทำเป็อาหารเลี้ยงไก่ได้
คิดถึงอาหารไก่เฉินเนี้ยนหรานรีบเดินไปที่เรือน ก่อนหน้านี้ได้ให้พวกน้องหกไปขุดขึ้นมา ไม่รู้ว่าตอนนี้เพาะพันธุ์ไปถึงไหนแล้ว
พอกลับมาถึงเรือนหนิวซื่อกลับอุ้มเด็กๆ ออกมาตากแดด
เด็กน้อยพอเห็นนางกลับมาก็แย้มยิ้มออกมาหลังจากหยอกล้อกับเขาเสร็จจึงให้น้องห้าดูแลเด็กทั้งสองคนส่วนนางกับหนิวซื่อจะไปที่บึงด้านหลังเรือนด้วยกัน
“พี่สะใภ้ครั้งก่อนที่ข้าให้ท่านเอาขี้วัวและพวกต้นหญ้ามาโยนเอาไว้ในนี้ได้ทำหมดแล้วใช่หรือไม่?”
“ทำหมดแล้วเ้าค่ะไอ๊หยา ข้าไม่เข้าใจจริงๆ ท่านให้พวกน้องหกไปขุดพวกไส้เดือนมากมายเช่นนั้นขึ้นมาทำไมหรือเ้าคะ? แมลงพวกนั้นดูแล้วน่าขยะแขยงนัก”
“พี่สะใภ้ของพวกนี้เป็สิ่งที่ไก่ชอบกิน พวกเราไม่มีข้าวเปลือกมากมายมาให้อาหารไก่หากมีเ้าไส้เดือนนี่แทนข้าวเปลือก เช่นนี้เ้าว่าพวกมันจะรู้สึกดีขึ้นมากหรือไม่?”
ทั้งสองคนพูดคุยกันและนั่งลงไปเปิดหญ้าแห้งที่ปิดเอาไว้้าขึ้นเลี้ยงไส้เดือนมาให้อาหารไก่ วิธีดีแน่นอนอยู่แล้วอย่างไรไก่ที่เลี้ยงด้วยไส้เดือนจะให้โปรตีนสูง สารอาหารมาก
ที่สำคัญกว่านั้นหากไก่เติบโตขึ้นมาดี ไข่จะเยอะตามด้วย!
ใช้ไม้คว้านลงไปที่ช่องว่างของดินก็คว้านไส้เดือนที่ดิ้นไม่หยุดขึ้นมาได้
พอคว้านขึ้นมาอีกหลายครั้งก็ล้วนคว้านเจอของดิ้นขยุกขยิกขึ้นมาได้
“เอาเถิดนายหญิงพูดถูก เ้าของน่าขยะแขยงพวกนี้ แม้จะรู้สึกไม่สบายใจแต่คิดถึงไข่ไก่เนื้อไก่อะไรพวกนี้แล้ว ความขยะแขยงในใจเหมือนจะลดลงเยอะมากแล้วเมื่อใดพวกเราจะสามารถเลี้ยงไก่ได้เ้าคะ? กำแพงที่ล้อมพวกนั้นเพิ่งจะล้อมได้เพียงครึ่งเดียวเท่านั้น! ยังมีลูกไก่ที่เป็ปัญหาเหมือนกัน?”
เื่พวกนี้เป็สิ่งที่เฉินเนี้ยนหรานยุ่งยากใจที่สุด ตอนนี้ทุกอย่างเพิ่งเริ่มจึงขาดทั้งเมล็ดพันธุ์ขาดทรัพยากร ขาดคน ขาดช่องทางการขาย…ขาดเงิน…
“พยายามซื้อลูกไก่มาแล้วกันพวกเราเลี้ยงลูกไก่ไป และค้นหาวิธีการฟักลูกไก่ไปด้วย”
“ใช่แล้วไส้เดือนพวกนี้ ขยายไปทีู่เาร้างหลายๆ ที่สักหน่อย แม้ตอนนี้จะยังซื้อลูกไก่มาไม่ได้แต่ไส้เดือนก็ไม่ได้โตขึ้นมาในเวลาหนึ่งถึงสองวัน สิ่งที่พวกเราต้องทำในตอนนี้คือพยายามเพาะพันธุ์ไส้เดือนออกมาให้มากสักหน่อย”
หลังจากคุยกับหนิวซื่อจนเข้าใจแล้วทั้งสองคนตบมือแล้วพากันเดินกลับเรือน
เพิ่งจะเข้ามาในเรือนก็เห็นหวงเต๋ออันกับคนที่ล้อมกำแพงรีบร้อนวิ่งเข้ามา
“นายหญิงแย่แล้ว แย่แล้ว”
“เกิดเื่ใดขึ้นหรือ?” เฉินเนี้ยนหรานใตาโตหากตอนนี้เกิดเื่อะไรขึ้น นางไม่รู้จะยืนหยัดสู้ต่อไปได้หรือไม่
“นายหญิงสถานที่ของพวกเรามีศัตรูพืช มีศัตรูพืช”
“ศัตรูพืชอะไรหรือ?” เฉินเนี้ยนหรานถามออกไปอย่างสงสัย
