ภายในห้องโถงกลางที่สร้างขึ้นเพื่อใช้เป็สถานที่หารือของกลุ่มผู้กล้า บรรยากาศภายในเต็มไปด้วยความเงียบสงัด ทุกคนที่นั่งอยู่รอบโต๊ะยาวล้วนแต่เป็บุคคลสำคัญทั้งริค ผู้นำกองกำลังย่อยอีกหลายคน และนักผจญภัยระดับสูงที่เคยสร้างชื่อเสียงมานับไม่ถ้วน ไฟจากตะเกียงเวทมนตร์กะพริบไหว แสงสีส้มทอดเงาทาบบนผนังหินหนาทึบ ยิ่งทำให้สถานที่แห่งนี้ชวนรู้สึกเคร่งเครียด
ทัคคุงนั่งอยู่ทางปลายโต๊ะ เก้าอี้ของเขาดูจะถูกจัดไว้เหมือนเป็
"แขกผู้มาเยือน"
ไม่ว่าจะเป็ริคที่สงบนิ่ง ฟีน่าที่นั่งไม่ห่างนักพร้อมรอยยิ้มอ่อนๆ คอยส่งกำลังใจให้ หรือเหล่าผู้นำคนอื่นๆ ที่กำลังจับจ้อง ทำให้ทัคคุง ที่ไม่รูู้เื่รู้ราว เกิดอาการประหม่าไม่น้อยเลย
ริคเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงจริงจัง
“ทัคคุง… พวกเรา้าให้เ้าแข็งแกร่งขึ้นอย่างรวดเร็ว และพวกเราก็มีวิธี”
ทัคคุงรีบที่ได้ยินดังนั้นก็รู้สึกตื่นเต้น ถึงเขาจะพอมีพร์แต่ก็คงต้องใช้เวลาอีกหลายเดือนกว่าเขาจะสามารถเป็นักผจญภัยระดับสูงได้ และ ถึงเขาจะเป็ได้ เขาก็ยังต้องพัฒนาอีกเยอะ กว่าจะเทียบเคียงกับคนในกองกำลังหลักของ ริค ได้
หนึ่งในผู้นำกองกำลังหยิบหีบขนาดเล็กขึ้นมา วางลงบนโต๊ะตรงกลางอย่างระมัดระวัง เสียงไม้กระแทกดัง “ตุบ” จนทุกสายตาหันไปจับจ้อง เขาค่อยๆ เปิดฝากล่อง ภายในเผยให้เห็นแสงสีฟ้าเรืองรองจากอัญมณีเวทมนตร์ที่ส่องประกายราวกับดวงดาว
“นี่คือ คริสตัลเสริมพลังจากแก่นั "
เขากล่าวช้าๆ หนักแน่น
“สมบัติล้ำค่า ที่เหล่านักผจญภัยหลายคนทั้งชีวิตยังไม่มีโอกาสได้ัั เพียงและผสานเข้ากับพลังของตน ก็สามารถยกระดับความสามารถให้ก้าวะโได้ราวกับก้าวข้ามกาลเวลา”
ดวงตาของทัคคุงเบิกกว้าง หายใจติดขัดทันที
“…ของแบบนี้…พวกท่านจะให้ผมจริงๆ เหรอครับ!?”
ริคพยักหน้าเบาๆ ก่อนพูดต่อ
“ถูกต้อง พวกเราจะมอบมันให้เ้า เพื่อที่เ้าจะได้ก้าวสู่ระดับสูงภายในเวลาอันสั้น”
ทัคคุงรู้สึกดีมาก เขาเคยได้ยินกี่ยวกับของสิ่งนี้มาบ้าง มันหายากและแพงแบบสุดๆ
แต่เขาก็ดีใจได้ไม่นานก็มีคนทักเขาขึ้นมา
"เราได้ยินมา ว่าเ้ามีคนรักที่ชื่อ มาเรีย ใช่หรือไม่?”
ทันใดนั้นหัวใจของทัคคุงแทบหยุดเต้น ภาพใบหน้าของมาเรียผุดขึ้นมาในหัวทันที หญิงสาวผู้มีพลังการรักษาอันอบอุ่นและอ่อนโยน เขาแทบจะลุกพรวดขึ้นยืน แต่เพราะบรรยากาศกดดันจึงได้เพียงเกร็งตัว
“มะ…มาเรีย เกี่ยวอะไรด้วยครับ?”
น้ำเสียงของเขาสั่น
ริคมองเขาด้วยสายตาลึกล้ำ ก่อนพูดอย่างเรียบๆ
“อย่าเพิ่งเข้าใจผิดพวกเราไม่ได้จะ ‘พราก’ นางไปจากเ้า แต่เรา้าให้นางเข้าร่วมกับกลุ่มผู้กล้า… เพราะนางมีพลังการรักษาที่จำเป็กับพวกเรามาก นางจะอยู่ในฐานะนักบวชผู้รักษาที่จะคอยสนับสนุนพวกเราในภารกิจใหญ่ที่กำลังจะมาถึง”
เสียงฮือฮาเบาๆ ดังรอบโต๊ะ ทุกคนพยักหน้าเห็นด้วย แต่ทั้งหมดล้วนจ้องที่ทัคคุงเหมือนกำลังรอดูคำตอบที่สำคัญ
อีกหนึ่งผู้นำที่ท่าทางสุขุมกว่าใคร ค่อยๆ เสริมขึ้น
“ลองคิดดูสิพลังของนางมีค่ามากเพียงใด หากนางเข้ามาอยู่ในกลุ่มผู้กล้า เราจะสามารถลดความสูญเสียได้มหาศาล และด้วยความจริงที่ว่านางเป็คนรักของเ้า… มันก็ยิ่งมั่นใจได้ว่า นางจะทำเพื่อพวกเราอย่างเต็มใจ”
ทัคคุงนั่งนิ่ง ราวกับสมองกำลังหมุนด้วยความเร็วสูง เขาไม่รู้ว่าควรดีใจที่ได้รับโอกาสครั้งใหญ่ หรือควรโกรธที่คนรักถูกเอ่ยถึงราวกับเป็เพียง
“เงื่อนไขต่อรอง”
หัวใจของเขาเต็มไปด้วยเสียงตีกันระหว่างความโลภที่อยากได้พลัง กับความหวงแหนที่อยากปกป้องมาเรียจากทุกสิ่ง และเสียงกระซิบแปลกๆ ในใจของเขา
ริคเอนหลังเล็กน้อย พูดด้วยน้ำเสียงนุ่มแต่แฝงพลัง
“ทัคคุง พวกเราไม่ได้บังคับ ถึงเ้าจะไม่ตกลง พวกเราก็ยังให้ คริสตัล กับเ้าอยู่ดี พวกเราแค่ขอความร่วมมือก็เพียงเท่านั้น”
คำพูดของ ริค ทำให้บรรยากาศผ่อนคลายลง
ทัคคุงก็ดูโล่งใจมากขึ้น
(พวกผู้กล้ายังไงก็คือผู้กล้า พวกเขาคงไม่บังคับ ให้เราต้องชวนมาเรียเข้ากลุ่มหรอกมั้ง)
ทัคคุงคิดในใจ ในแง่ดี
ที่ทัคคุงลังเลใจ ก็เพราะว่าเขากังวลเื่การฝึกพิเศษของกลุ่มผู้กล้าที่มันออกจะพิเศษเกินไปหน่อย
แล้วถ้ามาเรียคนรักของเขา มาเข้าร่วมกลุ่มผู้กล้า เธอจะต้องเข้าร่วมการฝึกแบบนั้นด้วยหรือเปล่า
ทัคคุงเองก็รู้ดีว่าพวกหนุ่มๆ ในกลุ่มผู้กล้ามีความสนใจในตัว มาเรีย คนรักของเขากันมานานแล้ว
ตอนนี้เขาเลือกไม่ถูกเลยจริงๆ เพราะจากที่ผ่านมาเขาได้รับอะไรหลายๆ อย่างมาจากกลุ่มผู้กล้า ทั้งทรัพยากรการฝึกฝน ไปจนถึง...เื่อย่างว่า การที่เขาจะเอาแต่รับเพียงอย่างเดียว มันก็ดูน่าอึดอัดใจแบบสุดๆ
ในตอนนี้เื่ของมาเรียเขาจึงทำได้แค่ บอกปัดด้วยการขอไปคุยกับมาเรียก่อน ยังไงเื่แบบนี้เขาก็ตัดสินใจแทนเธอไม่ได้อยู่แล้ว
ทางด้านพวกริคก็ไม่ได้คัดค้านอะไร
พวกเขาไม่ได้กดดันอะไรทัคคุงเพิ่มเติม
พวกเขาทำดูเหมือนว่าไม่ได้้าจะบังคับอะไรทัคคุง ถึงทัคคุงจะไม่เอามาเรียมาเข้าร่วมพวกเขาก็ไม่ว่าอะไร
ทำให้ทัคคุงดูเบาใจลง และจากไปอย่างครุ่นคิด
แต่ตอนที่ตอนทัคคุงจากไป ริค ยิ้มมุมปาก แบบว่าทุกอย่างเป็ไปตามแผน
ริค เขาวางแผนอะไรกันไว้แน่นะ.........