การต่อสู้สิ้นสุดลง
ผู้ประลองทุกคนล้วนเข้าไปรวมตัวกันอยู่ข้างกายอันอิ่ง พันเทา และเจิ้งรุ่ย พวกเขาห้อมล้อมพันเทา ชื่นชมอันอิ่งที่กล้าแบกรับภาระหนักอย่างการเข้าไปล่องูเหลือมน้ำแข็งั์เอาไว้
ฉินซุ่นและจู่ฟางที่ตายไป ดูเหมือนจะไม่ส่งผลกระทบต่ออารมณ์ของพวกเขาเท่าไหร่นัก เพราะอย่างไรเสียก่อนหน้าที่จะเข้ามาในโลกมายามรกต พวกเขาก็ไม่ได้สนิทสนมอะไรกันอยู่แล้ว
ถงฮ่าวที่เดิมทีคุ้มกันอยู่ข้างกายเนี่ยเทียน เห็นว่ากิ้งก่าดินและงูเหลือมน้ำแข็งั์ต่างก็หนีกันไปหมดแล้ว แน่นอนว่าย่อมไม่สนใจเนี่ยเทียนอีก
เนี่ยเทียนเองก็มีความสุขที่ได้มีอิสระ นั่งอยู่ที่เดิมเพียงลำพัง ไม่ได้สนใจเสียงเอะอะทางฝั่งนั้น
“กระแสจิตว่ายวนไปยังจุดลึกของใต้ดิน...”
เขาหรี่ตาลง ครุ่นคิดอย่างลึกซึ้งอยู่กับตัวเอง รู้สึกแปลกใจมากกับความผิดปกติก่อนหน้านี้
ตามหลักแล้ว เขามีตบะอยู่แค่ขอบเขตหลอมลมปราณหก กระแสจิตไม่น่าจะสามารถเจาะทะลุลงไปยังจุดลึกใต้ดินได้ และยิ่งไม่สามารถล่องลอยอยู่ใต้ดินได้นานนัก
ทว่าเมื่อครู่นี้ พอเขาทำจิตใจให้สงบเพื่อรับััความเคลื่อนไหวของกิ้งก่าดิน กลับสามารถปล่อยความคิดและกระแสจิตล่องลอยออกมานอกร่างได้
เท่าที่เขารู้มา มีเพียงนักพรตที่เก่งกาจกว่าเขามากๆ เท่านั้นถึงจะสามารถปล่อยกระแสจิตให้ลอยออกไปนอกร่างได้
อันที่จริงเขารู้ั้แ่เด็กแล้วว่าตัวเองแตกต่างจากคนอื่น
เพราะว่าเขามักจะมีรูปร่างสูงใหญ่แข็งแรงยิ่งกว่าเด็กในวัยเดียวกัน หากทุกคนไม่ได้ใช้พลังิญญาในร่างกาย อาศัยเพียงแค่กล้ามเนื้อของเรือนกายมาต่อสู้กัน เขาเชื่อว่าไม่มีใครสามารถเป็คู่ต่อสู้ของเขาได้
เขารู้ว่าตัวเองแข็งแกร่งยิ่งกว่าเด็กวัยเดียวกัน แต่เขาไม่รู้ว่า แม้แต่ด้านกระแสจิต... เขาก็ยังได้เปรียบผู้อื่น
“การปล่อยกระแสจิตออกจากร่างครั้งหนึ่ง แทบจะใช้พลังกายทั้งหมด เหตุการณ์ประหลาดแบบนั้นขอให้เกิดน้อยครั้งที่สุดจะดีกว่า”
เมื่อคิดอย่างนี้ เขาก็ค่อยๆ รู้สึกถึงความง่วงนอนที่เข้ามาโจมตี ราวกับว่ามีเพียงการได้นอนหลับลึกยาวนานเท่านั้นถึงจะทำให้พลังที่สูญเสียไปฟื้นตัวกลับคืนมาได้
เมื่อไม่มีการคุกคามจากสัตว์วิเศษ เขาไม่ได้ตึงเครียดอยู่กับการระมัดระวังตัวอีกต่อไป ด้วยอารมณ์ที่ผ่อนคลายลง ดวงตาทั้งคู่ของเขาจึงค่อยๆ ปิดเข้าหากัน
อีกฝั่งหนึ่ง
พันเทากำลังรับคำเยินยอจากทุกคน ห่างกันหลายสิบเมตร เขาก็ยังแอบเหลือบมองเนี่ยเทียนอีกครั้ง
เมื่อเขาสังเกตเห็นว่าหลังจากที่ต่อสู้เสร็จ เนี่ยเทียนเหมือนจะเป็คนแรกที่เข้าสู่การฟื้นตัว พันเทาก็ยิ่งให้ความสนใจเนี่ยเทียนมากขึ้น
ในใจของเขาได้มองเนี่ยเทียนเป็บทบาทที่สำคัญที่สุดของกลุ่มนี้ไปแล้ว ระดับความสำคัญเป็รองเพียงแค่อันอิ่งเท่านั้น
เขายังถึงขั้นรู้สึกว่าเนี่ยเทียนสำคัญกว่าเจิ้งรุ่ยด้วยซ้ำ!
“เอาล่ะๆ” เห็นว่าเนี่ยเทียนพักผ่อนแล้ว อยู่ๆ เขาก็ไม่สามารถทนรับฟังเสียงเอ็ดอึงน่าหนวกหูของคนรอบกายเ่าั้ได้อีก “ทุกคนหยุดพักกันก่อนเถอะ! ไม่มีใครรู้ว่าสัตว์วิเศษพวกนั้นจะย้อนกลับมาโจมตีอีกหรือไม่”
“ทุกคนรีบพักผ่อนตรงนี้ทันที ฟื้นคืนพลังกลับมาให้เร็วที่สุด!”
“พวกเราต้องรักษาพลังในการสู้รบที่เพียงพอเอาไว้ตลอดเวลา!”
อันอิ่งพยักหน้า กล่าวสั่งความเช่นกัน “ก่อนหน้าที่จะฟื้นตัว ไม่ต้องพูดอะไรกันมากอีกแล้ว พวกเ้าแต่ละคนเอาแต่พูดมาก ถึงเวลาสำคัญขึ้นมาจริงๆ กลับช่วยอะไรไม่ได้เลย”
นางทอดสายตามองไกลไปยังเนี่ยเทียน
ก่อนหน้านี้ตอนที่ทุกคนหวาดกลัว ไม่รู้ว่าควรทำเช่นไร เนี่ยเทียนเป็คนแรกที่ยืนหยัดขึ้นมาได้
นางไม่รู้ว่าภายหลังเกิดอะไรขึ้น ไม่เข้าใจว่าเหตุใดเนี่ยเทียนถึงได้อ่อนแรงกะทันหันเช่นนี้ แต่ความใจเย็นและสติปัญญาของเนี่ยเทียนใน่เวลาสำคัญ ทำให้นางประทับใจอย่างล้ำลึก
เช่นเดียวกับพันเทา แม้ว่านางจะไม่ได้พูดออกมาอย่างชัดเจน ทว่าในใจนางได้มองเนี่ยเทียนเป็คนสำคัญคนหนึ่ง
หลังจากที่นางและพันเทาต่างก็เอ่ยปาก พวกผู้ประลองที่ยังตกอยู่ในความตื่นเต้นก็สงบลงในที่สุด แต่ละคนนั่งล้อมรอบนางและพันเทา
คนเหล่านี้ต่างหยิบเอาหินวิเศษสีใสมากมายหลายก้อนออกมาจากถุงผ้าคาดเอว
พวกเขากำหินวิเศษแน่น หลับตาลงและดูดซับเอาปราณิญญาฟ้าดินในหินวิเศษมาเพื่อฟื้นคืนพลังที่สูญเสียไปให้เร็วที่สุด
ก่อนหน้าที่จะเข้ามา ผู้าุโในตระกูลของพวกเขาได้บอกพวกเขาแล้วว่าปราณิญญาฟ้าดินในโลกมายามรกตเบาบางยิ่งกว่าในฟ้าดินที่พวกเขาใช้ชีวิตอยู่เยอะมาก
หากไม่มีวิธีการที่พิเศษ พลังที่สูญเสียไปเวลาสู้รบในโลกมายามรกตจะฟื้นตัวได้ช้าอย่างถึงที่สุด
ด้วยเหตุนี้ ก่อนหน้าที่พวกเขาจะเข้ามาในโลกมายามรกต ผู้าุโในตระกูลของพวกเขาจึงเตรียมหินวิเศษที่ช่วยให้พวกเขาฟื้นตัวได้รวดเร็วมาไว้ให้
ทว่าเนี่ยเทียนที่เนื่องจากสภาพอับจนข้นแค้นในตระกูลเนี่ย จึงไม่ได้เตรียมอะไรเข้ามาสักอย่าง
ขณะที่ทุกคนหลับตาลง ดูดซับเอาพลังิญญาในหินวิเศษเงียบๆ พันเทาก็ค่อยๆ ลุกเดินจากมา
เขามาหยุดอยู่ข้างกายเนี่ยเทียนที่นั่งขัดสมาธิอยู่เพียงลำพัง มองเห็นว่าเนี่ยเทียนคล้ายกำลังนอนหลับ เขาก็ลังเลเล็กน้อย ไม่ได้พูดอะไรรบกวน แต่หยิบเอาหินวิเศษที่โปร่งใสราวกับหยกสองก้อนออกมาจากเสื้อตรงหน้าอก วางลงไปเบื้องหน้าเนี่ยเทียนเบาๆ จากนั้นก็นั่งลงในจุดที่ห่างจากเนี่ยเทียนไม่ไกลนัก
แม้อันอิ่งจะหลับตาฝึกบำเพ็ญตบะ แต่แท้จริงแล้วกำลังสังเกตความเคลื่อนไหวรอบด้านอยู่เช่นกัน เพื่อป้องกันสัตว์วิเศษย้อนกลับมาโจมตี
นางเองก็สังเกตเห็นท่าทีที่ผิดปกติของพันเทา จึงลืมตาขึ้นเล็กน้อยแอบจับตามองพันเทาเงียบๆ พึมพำเสียงเบากับตัวเอง “เหตุใดอยู่ๆ เ้าหมอนี่ก็เปลี่ยนนิสัยเสียอย่างนั้น?”
แม้จะสงสัย แต่นางกลับไม่ได้คิดอะไรมากนัก เลือกที่จะหลับตาลงฟื้นพลังต่อไป
เวลาผ่านพ้นไปอย่างเงียบเชียบ
และไม่รู้ว่าผ่านไปนานเท่าไหร่ ทุกคนที่กำลังใช้พลังิญญาในการฟื้นตัวก็ได้ยินเสียงฝีเท้าที่เข้ามาใกล้ๆ อย่างกะทันหัน
ทุกคนทยอยกันลืมตา สีหน้าเปลี่ยนมาเป็ตึงเครียด เข้าใจว่าสัตว์วิเศษที่หนีไปพวกนั้นย้อนกลับมาสังหารอีกครั้ง
“ไม่ต้องตื่นเต้น ไม่ใช่สัตว์วิเศษ” อันอิ่งกล่าว มองไปยังทิศทางที่พวกเขาเดินทางมาก่อนหน้านี้แล้วพูดว่า “เสียงฝีเท้าไม่ใช่ของสัตว์วิเศษ อีกทั้งไม่ได้มาจากจุดลึกของเกาะน้ำแข็ง หากข้าเดาไม่ผิด ผู้ที่มาน่าจะเป็ผู้ประลองของอีกสามกลุ่มที่เหลือ”
“ไม่เสียแรงที่เป็อันอิ่ง!”
น้ำเสียงเ็าเสียงหนึ่งดังขึ้นฉับพลัน วินาทีถัดมา หยวนเฟิงแห่งหุบเขาเทาก็ปรากฏตัวก่อนเป็คนแรก
เมื่อหยวนเฟิงเผยร่าง อวิ๋นซงและผู้ประลองของหุบเขาเทาก็พากันเผยกายออกมาอย่างรวดเร็ว
“หุบเขาเทารึ!” เจิ้งรุ่ยขมวดคิ้วลุกพรวดขึ้นยืน
“ถูกต้อง” หยวนเฟิงเดินนำหน้า สายตาเย็นเยียบกวาดผ่านร่างของแต่ละคน เขามองเห็นซากศพของสัตว์วิเศษ รวมไปถึงฉินซุ่นและจู่ฟางที่ตายไปก็เอ่ยว่า “ดูท่าแล้ว ก่อนหน้านี้ไม่นาน พวกเ้าเพิ่งจะผ่านการต่อสู้ที่ดุเดือดกันมา ทำไม? เจองูเหลือมน้ำแข็งั์ตัวนั้นรึ?”
เวลานี้ เนี่ยเทียนที่หลับลึกก็ตื่นขึ้นมาเพราะเสียงดังหนวกหูของหยวนเฟิง
เขารู้ว่าเขาคงงีบไปแค่ครู่เดียวเท่านั้น ไม่มีทางหลับได้นานนัก
แต่ต่อให้เป็เพียงการงีบชั่วครู่ เขาก็ััได้อย่างชัดเจนว่าพลังฟื้นคืนกลับมาไม่น้อย
หลังจากลืมตาขึ้น เขาไม่ทันหันไปมองทางหยวนเฟิงก็สังเกตเห็นหินวิเศษสองก้อนที่วางอยู่หน้าตัวเอง
จากนั้นเขาถึงได้เห็นพันเทาที่อยู่ใกล้เขามากที่สุด
เขาตระหนักได้ทันทีว่าหินวิเศษสองก้อนนั้นมาจากพันเทา ดังนั้นเขาจึงกล่าวขอบคุณพันเทาด้วยรอยยิ้ม
“หากเห็นข้าอยู่ในสายตาก็เก็บหินวิเศษสองก้อนนั้นไว้เสียเถิด” พันเทากล่าวด้วยสีหน้าจริงจัง
เนี่ยเทียนพยักหน้า ยื่นมือออกไปเก็บหินวิเศษสองก้อนนั้นมาเก็บไว้ในถุงคาดเอวของตัวเอง
ที่เขาเหนื่อยล้าโรยแรงครั้งนี้ไม่ได้เป็เพราะสูญเสียพลังิญญามากเกินกำหนด แต่เป็เพราะกระแสจิตจำนวนมากที่สูญเสียไป เขาจึงไม่จำเป็ต้องใช้หินวิเศษในการฟื้นตัว
แต่ในเมื่อพันเทาพูดถึงขนาดนั้นแล้ว แน่นอนว่าเขาเองก็ไม่เกรงใจ
การประลองของโลกมายามรกตยังอยู่ห่างจากจุดสิ้นสุดไกลนัก ต่อไปก็คงไม่มีใครรู้ว่าจะต้องเจอกับสถานการณ์อันตรายแบบใด
มีหินวิเศษสองก้อนนี้อยู่ หากเขาดึงพลังิญญาไปใช้ล่วงหน้า ขอแค่มีเวลาให้เขา เขาก็สามารถใช้หินวิเศษนี้มาฟื้นคืนพลังได้รวดเร็วยิ่งขึ้น แบบนี้เขาก็จะมีโอกาสชนะมากขึ้น
“ไม่เพียงแต่เจองูเหลือมน้ำแข็งั์เท่านั้น แม้แต่กิ้งก่าดินก็โผล่มาด้วย บัดซบยิ่งนัก!” เจิ้งรุ่ยสบถด่าหนึ่งประโยคและก็กล่าวต่อว่า “แต่พวกเราแข็งแกร่งมากพอ แม้ว่าจะสังหารงูเหลือมน้ำแข็งั์และกิ้งก่าดินไม่ได้ แต่อย่างน้อยก็บีบให้พวกมันล่าถอยไปได้ หากเปลี่ยนมาเป็พวกเ้า ต้องเผชิญหน้ากับกิ้งก่าดินและงูเหลือมน้ำแข็งั์พร้อมกัน เกรงว่าคงไม่มีใครรอดชีวิตสักคน”
“หุบปากไป!” อันอิ่งตวาดเสียงเบา
“หึ!” อวิ๋นซงที่มาจากตระกูลอวิ๋นหัวเราะขึ้นมาเบาๆ “ท่านพี่! พวกเขาเพิ่งต่อสู้กับงูเหลือมน้ำแข็งั์และกิ้งก่าดิน ต้องสูญเสียพลังิญญาไปอย่างมากแน่นอน ดูสิ... พวกเขาล้วนใช้หินวิเศษฟื้นพลังกันทั้งนั้น นี่หมายความว่าพวกเขาในตอนนี้ไม่มีความสามารถให้สู้รบได้อีก”
“อีกอย่างนะ พวกเขายังมีคนตายไปแล้วสองคนด้วย!”
ดวงตาของอวิ๋นซงโชนแสง มองมาด้วยเจตนาร้าย สายตาตกมาอยู่ที่ร่างเนี่ยเทียนเป็คนสุดท้าย
วินาทีที่มองเห็นเนี่ยเทียน สีหน้าของเขาพลันเปลี่ยนมาเป็เ็า ั์ตาเต็มไปด้วยความอำมหิต
เจิ้งรุ่ยที่ถูกอันอิ่งห้ามปราม เวลานี้ก็มีปฏิกิริยาตอบสนองกลับมาเช่นกัน รู้ว่าคำพูดเมื่อครู่ของตนเปิดเผยให้อีกฝ่ายรู้ว่าพลังในการสู้รบของทุกคนเสียหายอย่างหนัก
เขาแอบด่าตัวเองที่ปากพล่อย ไม่กล้าพูดอะไรอีก แต่ถลึงตามองอวิ๋นซงอย่างดุดันหนึ่งครั้ง
“หยวนเฟิง เป้าหมายหลักที่พวกเราเข้ามาในโลกมายามรกต คือสัตว์วิเศษระดับสองสี่ตัวนั้น” อันอิ่งยังถือว่าสงบสติได้ “งูเหลือมน้ำแข็งั์ต่อสู้โรมรันกับพวกเราอยู่นาน น่าจะสูญเสียพลังไปไม่น้อยเช่นกัน พวกเ้าสามารถผ่านพวกเราไป ฉวยโอกาสที่มันอยู่ในสภาพไม่พร้อมรับมือ ฆ่ามันซะ”
“ข้าไม่ได้รีบร้อน” หยวนเฟิงแห่งหุบเขาเทากล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นเยียบ พลันยื่นมือออกมาชี้เนี่ยเทียนที่ห่างออกไปไกล กล่าวว่า “คนผู้นี้ไม่ใช่คนหอหลิงเป่าของพวกเ้า ข้า้าให้พวกเ้ามอบเขามาให้ข้า เมื่อได้ตัวเขาแล้ว พวกเราย่อมจากไปพร้อมกับเขา เพื่อไปฆ่างูเหลือมน้ำแข็งั์ที่อยู่ในจุดลึกของเกาะน้ำแข็งนั่น”
“เ้า้าตัวเนี่ยเทียนรึ?” อันอิ่งใ
พันเทาก็อึ้งตะลึงไปเช่นกัน
------
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้