ในเวลานี้ในหัวของพวกนางมีคำถามผุดขึ้นมามากมายเต็มไปหมด
ผู้หญิงที่เพิ่งจะปรากฏกายคนนี้เป็ใครกัน? ทำไมนางถึงได้งดงามสมบูรณ์แบบขนาดนี้ ั้แ่หัวจรดเท้าหาที่ติไม่ได้เลย?
แล้วนางกับิอวี่เป็อะไรกัน?
พี่น้องหรือ? เป็ไปไม่ได้ ิอ๋องมีองค์หญิงสิบเอ็ดองค์ซึ่งพวกนางเคยเจอมาหมดแล้ว ไม่มีคนไหนงดงามมากขนาดนี้มาก่อนเลย! แล้วหากเป็พี่น้องจริงจะหยอกล้อแบบคนรักอย่างนี้ได้อย่างไรกัน?
ดูจากลักษณะของนางแล้ว เหมือนเป็ภรรยาที่ดูดุมาก ทั้งยังดึงหูิอวี่แล้วจี้ถามอีก เหมือนผัวเมียทะเลาะกันมากกว่า
แล้วจากคำที่ิอวี่พูดคุยกับนาง เหมือนเขาแค่้าสั่งสอนพวกนาง ไม่ได้คิดจะทำอย่างว่าจริงๆ
หากเป็ก่อนหน้านี้ พวกนางทั้งห้าคนคงคิดว่าิอวี่เป็สุภาพบุรุษจอมปลอม ในใจคิดเื่ไม่ดีไม่งามแต่ไม่กล้ายอมรับ แต่พอเฮยจีปรากฏตัวขึ้นมาก็ทำให้พวกนางไม่กล้าคิดแบบนั้น
เื่ความงามบนใบหน้า พวกนางทั้งห้ามั่นใจในตัวเองมาก แต่พอเฮยจีปรากฏตัวก็ทำให้พวกนางรู้สึกได้รับความกระทบกระเทือนจิตใจอย่างสูง!
เมื่อครู่ในใจของพวกนางรู้สึกแย่มาก ในหัวมีภาพน่าอับอายผุดขึ้นมาเต็มไปหมด แล้วยังร้องไห้อีก ทั้งเสียใจและอัปยศ แต่ตอนนี้คิดแล้วก็น่าขำ
คิดอะไรแบบนั้นกัน? ิอวี่ไม่ได้คิดอยากจะแตะต้องพวกนางเลยแม้แต่ขนเส้นเดียว!
เยี่ยซีที่อยู่ด้านข้างนั้นหนักสุด วันนี้นางได้รับความกระทบกระเทือนจิตใจหลายต่อหลายเื่มาก เื่แรกรู้ว่าิอวี่มีความสามารถและพร์สูงกว่านาง เื่ที่สอง สาวคนรู้ใจของิอวี่มีหน้าตางดงามมากกว่านางร้อยเท่าพันเท่า ใบหน้าอันเรียวเล็กและท่าทางการแสดงออกนั้นมันดูดีอย่างมากเลย
ตอนนี้เยี่ยซีทำได้แค่ปลอบใจตัวเองว่าไม่เป็ไร ถึงจะเป็แบบนี้องค์ชายเก้าก็แข็งแกร่งกว่าเขาหลายเท่า ไม่ว่าจะด้านไหนก็ตาม ิอวี่ก็ไม่มีทางเหนือกว่าิเสวียนไปได้!
พอคิดว่าตัวเองมีสามีที่มีความสามารถสูง ในใจของเยี่ยซีก็รู้สึกดีขึ้นมานิดนึง
ส่วนผู้หญิงอีกสี่คนก็ใช้เหตุผลนี้มาปลอบใจตัวเองเช่นเดียวกัน
“ก็ได้ ก็ได้ ถือว่าเ้าไม่ได้คิดไม่ดีก็แล้วกัน เพราะมันก็ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับข้า เ้าจะมาอธิบายให้ข้าฟังทำไม น่ารำคาญจริง” เฮยจีพูดด้วยน้ำเสียงที่ดูสบายๆ ขึ้นมาอีกครั้ง
ิอวี่รู้สึกจนใจจนหมดคำพูด เมื่อครู่นางยังดุแล้วยังแสดงท่าทีหาเื่อยู่เลย ตอนนี้กลับทำท่าทางเหมือนไม่เกี่ยวอะไรด้วย แถมยังดูมีความสุขอีกต่างหาก
ผู้หญิงนี่เปลี่ยนอารมณ์เร็วกว่าพลิกตำราอ่านหนังสืออีกนะเนี่ย ...
“แค่กแค่ก ... เอาล่ะ เื่นี้พอแค่นี้แหละนะ เื่สำคัญที่สุดในเวลานี้ก็คือการหนีออกไปจากที่นี่ให้ได้ก่อน” สีหน้าท่าทางจริงจังขึ้นมา
“ ... หนีไปจากที่นี่? หมายความว่าอย่างไร?” เจียงซืออี่ที่อยู่มุมผนังถามขึ้นมาด้วยน้ำเสียงอ่อนแรง
หลังจากเฮยจีปรากฏตัว ศักดิ์ศรีแห่งสาวงามเส้นสุดท้ายที่นางมีก็สลายหายไปหมด
ิอวี่พูดอย่างจริงจังว่า “ข้าจะไม่อ้อมค้อมกับพวกเ้าล่ะนะ สถานที่ที่เราอยู่ในตอนนี้ คือใต้แม่น้ำลึกหนึ่งพันเมตร ้าของเรามีหินปิดทับอยู่ มันมีความหนาและหนักมาก ข้าคิดว่าด้วยกำลังของข้าคงไม่อาจขยับมันออกไปได้”
“และในพื้นที่เล็กและแคบแบบนี้ อากาศที่เราหายใจน่าจะพอให้เราใช้ไปได้แค่ห้าวัน ดังนั้น ภายในห้าวันเราจะต้องหาทางออกจากที่นี่ไปให้ได้”
ต่อให้เป็ผู้กล้าขอบเขตหลุดพ้นปุถุชนก็ยัง้าอากาศหายใจ ไม่อย่างนั้นต่อให้ร้ายกาจแค่ไหนก็ต้องจบด้วยความตายอยู่ดี
ิอวี่เดินลมปราณที่กลับมาบางส่วนแล้วซัดหมัดออกไป ลมปราณกลุ่มนั้นพุ่งปะทะขึ้นไป้าของถ้ำ หมัดนี้ถึงแม้จะดูธรรมดาแต่มีพลังเทียบเท่าราชสีห์สองพันตัว เมื่อปะทะเข้ากับหินที่ปิดอยู่้ามันกลับไม่มีแม้แต่เสียงะเือะไรเลย
นั่นก็หมายความว่า หินที่อยู่้านั้นมันหนาและมีน้ำหนักมาก แรงแค่นั้นไม่มีผลกระทบอะไรกับมันเลย
ิอวี่หยิบกระบี่หวงฉวนออกมาแล้วฟันไปที่ผนังหินอีก แต่ก็ทำได้แค่ให้มันเป็รอยหลุมเท่านั้น
“อย่างที่คิดเลย”
สีหน้าท่าทางของิอวี่ไม่สู้ดีนัก เป็อย่างที่เฮยจีบอกทุกอย่าง โขดหินพวกนี้มีความหนาแน่นสูงมาก จากการประเมินแล้วต่อให้ิอวี่ฟื้นพลังกลับมาอยู่ในระดับสูงสุดแล้วใช้ผลาญโลหิตฟันกระบี่หวงฉวนออกไป โดยคิดจะฟันให้เกิดช่องทางภายในห้าวันก็ยังยากยิ่งกว่ายาก
ผู้หญิงทั้งห้าคนเองก็เห็นสิ่งที่เกิดขึ้นทั้งหมดเหมือนกัน พวกนางยังคงมีอาการชาไปทั้งตัวอยู่ไม่สามารถเดินได้ปกติ แต่เมื่อเห็นิอวี่ไม่สามารถทำลายผนังหินลงได้ หากเปลี่ยนมาเป็พวกนางก็ยิ่งทำไม่ได้ใหญ่
ทำอย่างไรดีล่ะ?
พวกนางทั้งห้าคนเริ่มตื่นตระหนก ยังไม่ได้หายจากอาการตกตะลึงในความงามของเฮยจีเลยก็จะมาจบชีวิตในสถานที่แบบนี้แล้วหรือ?
พวกนางแต่ละคนล้วนแต่เป็ดั่งสมบัติล้ำค่าของตระกูล ถูกเลี้ยงดูอย่างดีมาั้แ่เล็ก มีความสุขและมีชีวิตที่มั่นคงมาโดยตลอด
พวกนางเพิ่งจะใช้ชีวิตแค่สั้นๆ เท่านั้น ต่อไปยังมีอนาคตที่งดงามรออยู่ แต่ตอนนี้ต้องมาตายลงแบบนี้ พวกนางจะไม่โกรธได้อย่างไรกัน?
เดิมพวกนางคิดอยากจะระบายความอัดอั้นไปที่ตัวของิอวี่ทั้งหมด แต่คนที่ทำให้พวกนางต้องมาติดอยู่ที่นี่คือิเสวียน ที่จริงมันไม่เกี่ยวอะไรกับิอวี่เลยแม้แต่นิดเดียว
พอคิดได้แบบนี้ในใจของพวกนางก็รู้สึกเศร้า
“พวกเ้ามีแหวนอักขระกันหรือเปล่า?” ิอวี่จ้องไปที่พวกนางทั้งห้าคน แล้วถามขึ้นมาอย่างจริงจัง
คำถามนี้สำคัญมาก เพราะในมือของิอวี่มีแหวนอักขระแค่วงเดียว เฮยจีเองก็มีแค่วงเดียว หากพวกนางห้าคนไม่มีแหวนอักขระ ถ้าอย่างนั้นต่อให้ิอวี่ร่างลายเส้นอักขระขึ้นมาได้มันก็เสียแรงเปล่าอยู่ดี
“เ้า ... เ้าจะถามไปทำไมกัน?” เจียงซืออี่ที่นั่งผิงผนังมองมาที่ิอวี่แล้วถามออกมาด้วยความสงสัย
“พูดมา มีไหม” ิอวี่จ้องไปที่เจียงซืออี่
เจียงซืออี่กัดฟันพูดว่า “ทำไมถึงต้องดุขนาดนี้ล่ะ ... มี”
จากนั้นิอวี่ก็ถามคนที่เหลือ แต่ละคนล้วนมีแหวนอักขระด้วยกันทั้งนั้น
ที่จริงแล้ว การที่พวกนางมีแหวนอักขระนั้นเป็เื่ที่ปกติมาก เพราะลายเส้นอักขระเป็ของที่ใครก็อยากจะมี ถือว่าเป็ของหายากและชั้นสูงมาก พวกนางเกิดในตระกูลใหญ่ย่อมมีเงินซื้อไหว ดังนั้นแต่ละคนจึงมีแหวนอักขระด้วยกันทั้งนั้น
เพียงแต่อักขระที่พวกนางใช้นั้นไม่ได้แข็งแกร่งอะไรเลย เมื่อหลายปีก่อนยังเอาออกมาใช้ได้ แต่ด้วยระดับในตอนนี้ลายเส้นอักขระพวกนั้นก็ไม่มีประโยชน์อะไรแล้ว
เยี่ยซีเองก็ส่ายหน้า ่ก่อนที่ใช้ค่ายกละเิเพลิงยังพอมีอานุภาพอยู่บ้าง แต่ตอนนี้มันไม่ได้แข็งแกร่งขนาดนั้นแล้ว
“ิอวี่ อย่าบอกนะว่าเ้าจะให้เราห้าคนร่ายค่ายกละเิเพลิงของท่านผู้สูงส่งผู้นั้นพร้อมกัน เพื่อะเิที่นี่ออกไปอย่างนั้นหรือ?”
ในที่สุดเยี่ยซีก็เอ่ยปากพูด นางส่ายหัวแล้วพูดว่า “ไม่มีประโยชน์หรอก อานุภาพของค่ายกละเิเพลิงมันไม่ได้แข็งแกร่งเท่ากับทักษะการต่อสู้ที่เรามีกันเลย ข้ายังเหลือค่ายกละเิเพลิงอีกตั้งเยอะ มันไม่มีประโยชน์แล้วล่ะ”
ิอวี่พูดว่า “ข้ารู้ว่าค่ายกละเิเพลิงอานุภาพมันไม่พอแล้ว เจตนาของข้าก็คือ ต้องใช้ลายเส้นอักขระที่แข็งแกร่งมากกว่านั้นะเิปากถ้ำ้าออก”
สาวๆ ทั้งห้าคนตกตะลึง แม้แต่เยี่ยซีก็ยังมีสีหน้าที่เปลี่ยนไป สายตาที่สิ้นหวังกลับมามีความหวังอีกครั้ง
“ท่านผู้สูงส่งท่านนั้นยังให้ไข่มุกอักขระอะไรกับเ้าอีก เอามาให้เราดูเร็วเข้า ขอแค่ฝึกใช้งานมันได้ไม่แน่ว่าเราอาจจะออกไปกันได้นะ” เยี่ยซีแทบทนรอไม่ไหว
ิอวี่พูดอย่างงวยงง “ข้าเคยบอกเ้าไปแล้ว ท่านผู้สูงส่งที่เ้าว่าคนนั้นก็คือข้า ตอนนี้ข้ายังไม่ได้ร่างลายเส้นอักขระออกมา แต่อีกเดี๋ยวจะเริ่มร่างแล้ว”
ทุกคนมองไปที่ิอวี่ด้วยสายตาเหลือเชื่อ ‘คุยโวไม่เสียค่าปรับ’ ิอวี่ก็คุยโวเก่งเกินไปแล้วกระมัง?
ร่างลายเส้นอักขระสดๆ กันตรงนี้? หมายความว่าิอวี่เป็นักร่างอักขระอย่างนั้นน่ะหรือ?
นักร่างอักขระหายากกว่าขนหงส์อีก ต่อให้เป็องค์ชายเก้าของพวกนางก็ฝึกเฉพาะพลังยุทธ์ ิอวี่มีพลังยุทธ์ไม่ธรรมดาก็จริงแต่ก็ไม่ควรบอกว่าตัวเองเป็นักร่างอักขระสิ?
เห็นได้ชัดเลยว่าพวกนางทั้งห้าคนไม่มีใครเชื่อคำพูดของิอวี่เลย เยี่ยซีขมวดคิ้วแล้วพูดว่า “ิอวี่ นี่มันเวลาอะไรแล้วเ้ายังจะมาพูดล้อเล่นแบบนี้อีกมันสนุกนักหรือไร?”
“เฮ้อ ... ”
ในเวลานี้เอง เฮยจีที่อยู่ด้านหลังของิอวี่ก็ถอนหายใจแล้วพูดขึ้นมาว่า “พวกนางไม่ได้เห็นผู้สูงส่งลึกลับอย่างเ้าอยู่ในสายตาเลยนะ”
ิอวี่ก็ี้เีจะอธิบายมากอีกเลยพูดว่า “เฮยจี เ้าถ่ายโอนความทรงจำเกี่ยวกับค่ายกลเพลิงอุกกาบาตให้กับข้าที”
เื่นี้จะรอช้าไม่ได้ ตอนนี้ต้องรีบแล้ว ยิ่งเร็วเท่าไรโอกาสรอดก็เพิ่มขึ้นเท่านั้น!
หญิงสาวทั้งห้าคนมองไปที่เฮยจีด้วยความตะลึง พวกนางเห็นเฮยจีทำการประสานนิ้วชี้กับนิ้วนางเข้าไว้ด้วยกัน แล้วเส้นแสงสีแดงก็ปรากฏขึ้นและพุ่งเข้าไปที่หว่างคิ้วของิอวี่!
ทันใดนั้นก็มีอักษรจำนวนหนึ่งลอยเข้าสู่หัวของิอวี่
“คาถาค่ายกลกันไฟกระบวนท่าที่สาม ค่ายกลเพลิงอุกกาบาต! เมื่อเปิดใช้งาน หินไฟอุกกาบาตก็กลิ้งลงมา อานุภาพสูงมาก ประเมินระดับ ระดับหนึ่ง ขั้นสูง”
“ร้ายกาจขนาดนั้นเลยหรือ?” ิอวี่บ่นพึมพำ
ค่ายกละเิเพลิงกับค่ายกลระฆังทองที่เขาร่างขึ้นมาก่อนหน้านี้ล้วนแต่เป็ลายเส้นอักขระระดับหนึ่งขั้นกลางทั้งหมด คาถาค่ายกลกันไฟกระบวนท่าสุดท้ายกลับไปถึงระดับหนึ่งขั้นสูงเลย!
ิอวี่หลับตาลง ในหัวของเขามีแต่วิธีร่างอักขระกับลวดลายของอักขระ และยังมีข้อมูลของมันเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ไม่นานนัก เสียงของเฮยจีก็ดังขึ้นในหูของ “ิอวี่ มีเวลาไม่มากแล้ว พลังของข้ากำลังจะหมดลง คงยากที่จะสอนเ้าร่างลายเส้นอักขระแล้ว ข้าคงบอกได้แค่ประสบการณ์ในการร่างค่ายกลเพลิงอุกกาบาตเท่านั้นนะ”
“ค่ายกลเพลิงอุกกาบาตเป็ลายเส้นอักขระประเภทการโจมตี ดังนั้นพื้นฐานการร่างจะคล้ายกับค่ายกละเิเพลิง จำมุมด้านซ้ายบนทรงกลมกับด้านล่างสี่เหลี่ยมของค่ายกละเิเพลิงเอาไว้ มันคือพื้นฐานในการร่างค่ายกลเพลิงอุกกาบาต ร่างตามเส้นทางนี้แล้วนึกลวดลายของลายเส้นค่ายกลเพลิงอุกกาบาตตามไปให้ดี”
“ลายเส้นแค่นี้น่ะหรือ?”
ิอวี่เดินไปนั่งขัดสมาธิลงที่พื้นที่ว่างด้านหน้า เขาเดินลมปราณจนทำให้น้ำที่พื้นตรงหน้าเดือดขึ้นมา จากนั้นเขาก็พลิกฝ่ามือ กระดาษลายเส้นอักขระสีเขียวก็ปรากฏขึ้นมาบนมือ และกางลงบนพื้นหิน
จากนั้นเขาก็หยิบแท่นหมึกกับพู่กันลายเส้นอักขระออกมา หลังจากฝนหมึกเรียบร้อยแล้ว ก็ใส่เข้าไปในแท่น
เมื่อพู่กันจุ่มลงไปบนน้ำหมึก ิอวี่ก็ทำตามที่เฮยจีบอก ร่างลวดลายจากด้านซ้ายบนและด้านล่างอย่างคุ้นเคย
“แบบนี้หรือ?”
“อือ” เฮยจีมองไป จากนั้นก็หยิบพู่กันขึ้นมา นางร่างลงด้านข้างกระดาษแล้วพูดว่า “ลักษณะใช้ได้แล้ว แต่ตำแหน่งคลาดเคลื่อนไปหน่อย ควรจะเป็ตรงนี้ ตรงนี้ ปลายตรงนี้ต้องเชื่อมต่อกัน ต้องเว้นระยะให้มันพอดี”
ิอวี่มองดูอย่างตั้งใจแล้วก็คิดตามที่เฮยจีบอก จากนั้นก็แสดงความเห็นของเขาแลกเปลี่ยนกับเฮยจี
ในสายตาของิอวี่ จุดที่เฮยจีบอกล้วนแต่เป็ส่วนสำคัญ เพื่อให้หนีออกไปได้ภายในห้าวันเขาจะต้องพยายามอย่างเต็มที่ในการร่างค่ายกลเพลิงอุกกาบาตออกมา
ต่อให้ิอวี่รู้ว่ามันยาก แต่เขาก็จะต้องพยายามอย่างเต็มที่