“ฉินเฟิง...นั่นคุณหรือเปล่า?” สวี่รั่วโหรวถามด้วยความสงสัยขณะที่แอบมองออกมาจากรถ
“รั่วโหรว ฉันเอง รีบมาชมจันทร์กันเร็ว”
ความกังวลใจของสวี่รั่วโหรวลดลงเธอวิ่งออกมาจากรถและพุ่งเข้าหาอ้อมแขนของฉินเฟิง “ฉินเฟิง ฉันกลัวแทบตายพ...พวกเขาทุกคนเป็คนไม่ดี”
เมื่อเห็นใบหน้าของสวี่รั่วโหรวบวมแดงเล็กน้อยและมีรอยฝ่ามือที่ยังไม่หายไปฉินเฟิงก็ทำทุกอย่างเพื่อควบคุมอารมณ์ของตนเองเขาไม่อยากแสดงสีหน้าโเี้ต่อหน้าสวี่รั่วโหรว
“เจ็บหรือเปล่า?” เขาค่อยๆลูบไล้ใบหน้าที่บวมของสวี่รั่วโหรวและถาม
สวี่รั่วโหรวกัดฟันและส่ายหัวเธอมองฉินเฟิงด้วยความหนักแน่น “ฉินเฟิง กลับกันเถอะ”
ฉินเฟิงััผมสลวยของสวี่รั่วโหรว“รอแป๊บหนึ่งนะ ฉันต้องทำให้คนที่มันรังแกเธอต้องเสียใจที่ได้เกิดมาซะก่อน”
ขณะที่เธอนอนในอ้อมกอดของฉินเฟิงสวี่รั่วโหรวรู้สึกว่าโลกนั้นเงียบงันเธอรู้สึกสงบและปลอดภัยอย่างที่ไม่เคยประสบมาก่อนทันใดนั้นความคิดไร้สาระก็เข้ามาในหัว ‘ถ้าเธอเป็ผู้หญิงของฉินเฟิงเธอคงจะต้องมีความสุขแน่ๆ’
ฉินเฟิงมาถึงยอดเขาอัดเหวยเสียวเหล่ย หลอกไอ้โง่เื่ไซอิ๋วกอดสวี่รั่วโหรวและขณะที่นั่งบนยอดเขาเพื่อชื่นชมดวงจันทร์อยู่นั้นเสียงดริฟต์ก็ดังขึ้นมา
คนแรกที่มาถึงคือชายที่มีผมบลอนด์หยักศกขับเฟอร์รารี่สีแดงหลังจากเขาหยุดรถก็รีบวิ่งออกมา เขาเห็นหลังของฉินเฟิงและสวี่รั่วโหรว“พี่เหวยเสียวจังอยู่ไหน?”
“ถ้านายอยากเสียว ก็ไปหาในเมืองเอาโน่น แถวนี้ไม่มีหรอก”ฉินเฟิงปลอบสวี่รั่วโหรวโดยลูบที่ต้นขาของเธอและพูดกับวิลเลียมส์
“นายน้อยเหวยอยู่ไหน?” วิลเลียมส์เงียบไปสักพักก่อนจะใช้อีกคำถาม
ฉินเฟิงชี้อย่างไม่ใส่ใจตอนนี้เหวยเสียวเหล่ยกำลังนั่งวาดรูปวงกลมวิลเลียมส์รีบวิ่งมาหาเมื่อเขาเห็นเหวยเสียวเหล่ย เขาก็สะดุ้งด้วยความใ “เชี่ยนี่หมูหรือคนวะเนี่ย? นายเห็นนายน้อยเหวยบ้างไหม?”
เหวยเสียวเหล่ยเกือบจะกระอักเืเขาชี้มาที่จมูกของตัวเอง “วิลเลียมส์ ดูดีๆ ฉันคือเหวยเสียวเหล่ย”
วิลเลียมส์มองดูเหวยเสียวเหล่ยใกล้ขึ้นอีกครั้งแต่เขาก็ยังจำไม่ได้อย่างไรก็ตามเหวยเสียวเหล่ยยืนยันลักษณะของตนเองด้วยเสียงที่ดังออกมาเขาทำทุกอย่างเพื่อกลั้นไม่ให้ยิ้มออกมา
“นายน้อยเหวย นี่กี่โมงแล้ว? คุณยังมีอารมณ์เอาหัวหมูมาทำให้คนอื่นกลัวอีกเหรอ?แล้วฉินเฟิงล่ะ? ฉันทะยานขึ้นเขามาแล้วนะแต่ยังไม่เห็นมันเลยเป็ไปได้ว่ามันหนีไปั้แ่ครึ่งทางหรือเปล่า?”
วิลเลียมส์พูดภาษาอังกฤษแต่มันก็ไม่ได้ยากสำหรับฉินเฟิงั้แ่เด็กฉินเฟิงไปอเมริกาเพื่อพักผ่อนทุกปีเพื่อจีบสาวให้ได้เขาจึงต้องฝืนตัวเองและเรียนจนกว่าเขาจะพูดอังกฤษคล่อง
เหวยเสียวเหล่ยไม่รู้ว่าจะพูดอะไรทันใดนั้นเขาก็นึกถึงความแข็งแกร่งที่ไม่ธรรมดาของวิลเลียมส์ตอนนี้ฉินเฟิงกำลังนั่งอยู่บนยอดเขามันจะตรงไปหรือเปล่าถ้าให้วิลเลียมส์โยนฉินเฟิงลงหุบเขาไปเลย?
เมื่อความคิดนี้โผล่ขึ้นในหัวเหวยเสียวเหล่ยก็ยืนขึ้นอย่างท้อใจทันทีเขากำลังจะสบตากับวิลเลียมส์แต่แล้วก็มีเสียงรถดังมาจากข้างล่างูเา
แล้วปอร์เช่911ก็มาถึงยอดเขาและสาวสวยสง่างามใส่กี่เพ้าก็ก้าวออกมาอย่างสบายอารมณ์
“เวรเอ้ย” คำสาปแช่งดังขึ้นในใจของเหวยเสียวเหล่ยและเขาก็ทำได้แค่ยกเลิกความตั้งใจที่จะฆ่าฉินเฟิงชั่วคราว
เมื่อซูชิวเยว่ลงมาจากรถเธอก็มองดูรอบๆ เธอรู้ว่าฉินเฟิงผ่านเธอไปนานแล้วเธอจึงไม่แปลกใจที่เห็นเขานั่งอยู่ที่นี่ แต่เมื่อเธอเห็นวิลเลียมส์และเฟอร์รารี่สีแดงที่จอดอยู่ด้านข้างใบหน้าสวยงามที่ปกติจะสงบเยือกเย็นเหมือนน้ำก็เปลี่ยนไปเล็กน้อย
เธอคิดว่าฝีมือขับรถของเธอไม่ธรรมดาแล้วแถมยังเก่งกว่านักแข่งมืออาชีพบางคนอีกด้วยแต่ไม่คิดเลยว่าชายต่างชาติสูงใหญ่คนนี้จะเร็วกว่าเธอ หมายความว่าเขาเองก็ไม่ธรรมดาเช่นกัน
ตามธรรมดาแล้ววิลเลียมส์ไม่ใช่คนธรรมดาฝีมือขับรถของเขาไม่ธรรมดาพร์ของเขาก็ไม่ธรรมดาและตระกูลที่อยู่เื้ัเขาก็ยิ่งไม่ธรรมดาเข้าไปใหญ่
เขาคือนักแข่งชนะเลิศของการแข่งรถในอเมริกาที่เขามีปฏิสัมพันธ์กับพวกมือสมัครเล่นนั้นก็เพียงเพราะเขากำลังมองหาเื่ตื่นเต้นเท่านั้นเขาไม่ได้อยู่ระดับเดียวกับพวกนายน้อยร่ำรวยที่แข่งตามถนนและรับสาวเพราะฝีมือแข่งรถของเขาโดดเด่นมากเหวยเสียวเหล่ยจึงมองหาวิลเลียมส์โดยเฉพาะเพื่อจัดการฉินเฟิงในระหว่างแข่ง
ไม่นานหลังจากที่ซูชิวเยว่มาถึงรถหรูหลายคันก็ทยอยกันเข้ามาอย่างต่อเนื่อง ในไม่ช้ายอดเขาที่ว่างเปล่าก็เต็มไปด้วยเสียงผู้คนเมื่อคนพวกนั้นรู้ว่าพวกเขาไม่ชนะเลิศและชวดเรเบนตันกับสาวสวยบริสุทธิ์พวกเขาก็คอตกด้วยความผิดหวัง
ครั้งนี้เหวยเสียวเหล่ยและวิลเลียมส์นั่งอยู่ในเรเบนตันเหวยเสียวเหล่ยไม่อยากให้คนพวกนั้นเห็นหน้าตาของตัวเองในตอนนี้เขาจึงถือโทรโข่งและะโจากในรถ “ดูเหมือนว่าเกือบทุกคนจะถึงยอดเขากันแล้วผู้ชนะเลิศของการแข่งใต้ดินครั้งนี้รู้ผลแล้วตามข้อตกลงฉันจะให้รางวัลทั้งเรเบนตันและสาวน้อยคนนั้นแก่เขา...ถ้าไม่มีอะไรอีกก็เชิญแยกย้ายกันไปได้”
แผนคืนนี้ไม่มีความคืบหน้าไม่ใช่แค่ฉินเฟิงยังมีชีวิตอยู่เท่านั้นเหวยเสียวเหล่ยก็โดนอัดจนหัวเป็หมูอีกด้วยเขาจะพอใจได้อย่างไร?
ตอนนี้เขาอยากจะให้คนภายนอกมันหายไปซะก่อนเมื่อเหลือแค่ฉินเฟิงบนยอดเขาโค้งงูเมื่อไรเขาจะให้วิลเลียมส์ลงมือ
หลังจากได้ยินว่าอันดับหนึ่งโดนคนอื่นเอาไปแล้วนายน้อยล่ำซำทั้งหลายก็รู้สึกว่าอยู่ไปก็ไร้ความหมายดังนั้นพวกเขาจึงออกกันเป็กลุ่ม 3-4 กลุ่มเพื่อไปพักผ่อนหย่อนใจกันที่บาร์และสถานที่นวดเท้า
ขณะที่พวกเขาขับลงูเาไปทีละคันๆเสียงเครื่องยนต์ของรถหรูก็กระหึ่มไปทั้งหุบเขา ในไม่ช้าก็เหลือคนเพียงไม่กี่คนที่ยังอยู่บนยอดเขา
“คุณซู มีอะไรอีกหรือเปล่า?” ทุกคนออกไปแล้วแต่ซูชิวเยว่ยังยืนอยู่บนยอดเขา ั์ตาของเหวยเสียวเหล่ยฉายด้วยความเ็า“มันค่อนข้างอันตรายนะที่อยู่บนยอดเขาร้างตอนกลางคืนแบบนี้”
“นายน้อยเหวยก็อยู่ที่นี่ไม่ใช่เหรอ? จะมีอะไรอันตรายล่ะ?”ซูชิวเยว่ยิ้มเล็กน้อยสายตาของเธอกวาดไปทั่วอย่างระมัดระวังและเงาดำก็รีบปกปิดตัวเอง
“ดวงจันทร์จากเขาโค้งงูทั้งกลมและใหญ่ ฉันยังอยากอยู่ที่นี่ต่ออีกสักนิด”ซูชิวเยว่ไม่เต็มใจออกไป
เหวยเสียวเหล่ยหน้าเสียนิดหน่อยเขาเห็นฉินเฟิงกำลังกอดกับสวี่รั่วโหรวและนั่งอยู่ริมยอดเขาเขาจึงอยากจะถีบมันจากด้านหลังและส่งมันลอยลงไปข้างล่างหุบเขาให้กระดูกมันแตกกระจายและตัวมันแหลกเป็ชิ้นๆ แต่ตอนนี้ซูชิวเยว่ยังอยู่ที่นี่เขาจึงเปิดเผยออกมาไม่ได้
เหวยเสียวเหล่ยและวิลเลียมส์สบตากันรอยยิ้มเ็าฉายผ่านแววตาของวิลเลียมส์และพึมพำใส่หูของเหวยเสียวเหล่ยริมฝีปากของเหวยเสียวเหล่ยโค้งขึ้นปล่อยรอยยิ้มเ็าออกมา
“ฉินเฟิง นายกล้าแข่งกับวิลเลียมส์หรือเปล่า?” ทันใดนั้นเหวยเสียวเหล่ยและวิลเลียมส์ก็อยู่ด้านหลังของฉินเฟิง
ที่ฉินเฟิงไม่ออกเพราะเขากำลังรอโอกาสที่จะกำจัดสองคนนี้อยู่ตอนนี้เขาเห็นเหวยเสียวเหล่ยส่งตัวเองมาถึงหน้าประตู เขายืนและหัวเราะ“ไม่ใช่ว่าฉันชนะไอ้โง่นั่นด้วยจักรยานแล้วเหรอ? จะแข่งอะไรกันอีก?”
วิลเลียมส์ยอมรับไม่ได้เมื่อเขานึกถึงตอนที่ตนเองขับรถแข่ง แต่แพ้เด็กขี่จักรยานเขาจึงรู้สึกโกรธมากจนอยากอัดคน
เหวยเสียวเหล่ยมองส่งซิกให้วิลเลียมส์ทันทีวิลเลียมส์ใช้กำลังระงับความโกรธไว้ เขายืนอยู่ด้านข้างและจ้องฉินเฟิงอย่างถมึงทึงเหวยเสียวเหล่ยกล่าว “ฉินเฟิง ฉันยอมรับว่าจักรยานนายมันเร็วจริงแต่ในเมื่อนี่คือการแข่งรถยนต์...วิลเลียมส์ไม่พอใจที่เขาแพ้ฉันหวังว่านายจะขับรถเป็และแข่งกับเขาอีกครั้ง”
“แล้วการไม่พอใจของมันมาเกี่ยวอะไรกับฉันด้วยล่ะ? ตราบใดที่ฉันมีความสุขก็พอแล้วนี่”ฉินเฟิงกล่าวอย่างไม่ใส่ใจ
วิลเลียมส์โกรธจนแทบกระอักเืเหวยเสียวเหล่ยก็ข่มความโกรธของตนและกล่าวต่อ “ฉินเฟิงวิลเลียมส์บอกว่าถ้านายชนะการแข่งขันนี้ เขาจะให้เฟอร์รารี่ 458 กับนาย”
เฟอร์รารี่458ของวิลเลียมส์อย่างน้อยก็ราคาห้าล้านในตลาดเหวยเสียวเหล่ยไม่เชื่อว่าจะล่อฉินเฟิงไม่ได้
“โอเค งั้นจะเริ่มตอนนี้เลยหรือเปล่า?” ฉินเฟิงถามทันที
เหวยเสียวเหล่ยไม่คิดว่าเขาจะตอบไวขนาดนี้เขาพยักหน้าอย่างบื้อๆ “อะ...อื้ม เราเริ่มตอนนี้ได้เลย”
ฉินเฟิงหัวเราะทันที“นายน้อยเหวย นายบอกแค่ว่าถ้าวิลเลียมส์แพ้มันจะให้เฟอร์รารี่ฉันแต่นายไม่ได้พูดถึงว่าถ้าฉันแพ้ฉันจะโดนอะไร เห็นได้ว่านายวางกับดักไว้ไม่ใช่ว่านายทำมันโจ่งแจ้งไปเหรอ? อย่าบอกนะว่านายพยายามจะทำเื่สนุกๆกับฉันในสนามแข่งน่ะ?”
มุมปากของเหวยเสียวเหล่ยกระตุกเขารู้สึกว่าเขาเร่งรีบเกินไป เขากระแอมทันทีและกล่าวอย่างจริงจัง “ใช่แล้วฉันเกือบลืมไป ถ้านายแพ้งั้นก็คืนมาเซราติแกรนทัวริสโมที่นายได้จากฉันมา”
ฉินเฟิงคิดสักพักและในที่สุดก็นึกออก“อ้อ มาเซราตินั่นน่ะเองมันโดนชายแก่เก็บขยะเอาไปในฐานะเศษเหล็กแล้ว...ฉันไม่ได้คิดเงินซะด้วยสิ!”
เหวยเสียวเหล่ยรู้สึกเหมือนมีคนมาแทงที่หัวใจของเขาอย่างเืเย็นนั่นคือรถคันโปรดของเขา และมันยังโดนลดค่าให้กลายเป็เศษเหล็ก เขากัดฟันและกล่าว“งะ...งั้นพนันด้วยเรเบนตันที่นายเพิ่งชนะมา ถ้านายแพ้ รถนั่นจะเป็ของวิลเลียมส์”
“ไม่ดีเลยนะ เรเบนตันคันนี้ราคาเป็สิบล้าน กับเฟอร์รารี่ราคาแค่ห้าล้านเห็นได้ชัดเจนว่ามันไม่ได้อยู่ระดับเดียวกัน” ฉินเฟิงส่ายหัว
เหวยเสียวเหล่ยอยากจะะเิเขากระตุ้นอยากจะให้วิลเลียมส์ไปจัดการมันตอนนี้เลยแต่เขาเห็นซูชิวเยว่กำลังยืนอยู่ด้านข้าง เขาจึงข่มความอยากนี้ไว้“งั้นนายจะเอายังไง?”
ฉินเฟิงเดินไปข้างๆซูชิวเยว่และกล่าวด้วยรอยยิ้ม “แม่ซูคนสวย ผมขอยืมปอร์เช่คุณหน่อยได้ไหม? ถ้าผมชนะการแข่ง ผมจะให้เฟอร์รารี่คุณ ถ้าผมแพ้ ผมจะให้เรเบนตันคุณ”
ซูชิวเยว่มองฉิงเฟิงอย่างมีความหมายหลังจากลังเลสักพัก เธอก็พยักหน้า “เอาไปใช้ได้เลย”
ถ้านายน้อยล่ำซำแห่งเมืองเทียนเฉิงเห็นฉากนี้เข้าพวกเขาคงไม่เชื่อสายตาเป็แน่ซูชิวเยว่ที่สง่างามและบริสุทธิ์เธอมีท่าทีต่อทุกคนอย่างมีมารยาทเหมือนกันหมดแต่เธอก็ขีดเส้นไว้ชัดเจนเธอไม่เคยแม้แต่จะให้ผู้ชายคนไหนขึ้นรถของเธอดังนั้นมันจึงไม่เคยได้ยินมาก่อนว่าเธอจะให้ยืมรถของเธอแก่ฉินเฟิงและปล่อยให้เขาขับอย่างที่เธอทำในตอนนี้