ตอนที่ 1 แสงดาวนำทาง
รัตติกาลของกรุงเทพมหานครไม่เคยหลับใหล แต่สำหรับ อธิชา ในค่ำคืนนี้ มันเงียบสงบยิ่งกว่าที่เคย โลกภายนอกคือเสียงอึกทึกของเมืองใหญ่ที่แข่งกันกะพริบแสงสี แต่ในห้องทำงานเล็กๆ บนคอนโดชั้นสิบห้าของเธอ แสงไฟจากคอมพิวเตอร์และกล้องโทรทรรศน์สะท้อนระยับอยู่บนดวงตาคู่สวยที่กำลังจับจ้องไปยังแผนที่ดาวโบราณที่สลักบนแผ่นทองเหลืองเก่าคร่ำครึ เธอนั่งอยู่หน้าโต๊ะไม้โอ๊กตัวใหญ่ที่เต็มไปด้วยตำราโหราศาสตร์โบราณ แผนที่ดาว และอุปกรณ์ทางดาราศาสตร์ที่บ่งบอกถึงความหลงใหลอย่างลึกซึ้งในจักรวาล
อธิชา วรโชติเมธี วัย 26 ปี ไม่ใช่แค่นักดาราศาสตร์ทั่วไป เธอมองเห็นดวงดาวไม่ใช่แค่เพียงจุดแสงระยิบระยับบนท้องฟ้า แต่ััได้ถึง พลังงานที่มองไม่เห็น มันไม่ใช่เื่ที่เธอจะอธิบายให้ใครฟังได้ง่ายๆ ั้แ่เด็ก เธอมีความรู้สึกเชื่อมโยงกับดวงดาวอย่างประหลาด ราวกับมีเส้นใยที่มองไม่เห็นถักทอเชื่อมโยงเธอกับห้วงอวกาศอันไกลโพ้น ทุกครั้งที่เธอเงยหน้ามองผืนผ้าสีดำที่ประดับประดาด้วยเพชรนับล้านเม็ด เธอจะรู้สึกถึงเสียงกระซิบอันแ่เบา คล้ายบทเพลงจากอดีตกาลที่เล่าขานถึงความลับของจักรวาล ซึ่งเสียงกระซิบเ่าั้จะยิ่งชัดเจนขึ้นเมื่อเธอได้ัักับวัตถุโบราณที่เกี่ยวกับดวงดาว อย่างแผนที่ทองเหลืองในมือเธอตอนนี้
ค่ำคืนนี้ พลังงานเ่าั้กลับเข้มข้นเป็พิเศษ เธอััได้ถึงแรงสั่นะเืบางอย่างจากดวงดาวที่อยู่ไกลโพ้น คล้ายสัญญาณที่รอคอยการตอบรับจากเธอมานานหลายปี อธิชากระชับแผ่นทองเหลืองในมือ ภาพของกลุ่มดาวนายพราน กลุ่มดาวหมีใหญ่ และดวงดาวอื่นๆ ที่ถูกสลักไว้อย่างประณีตดูราวกับมีชีวิตขึ้นมาตรงหน้าเธอ แสงสะท้อนจากเลนส์กล้องโทรทรรศน์ขนาดใหญ่ที่ตั้งอยู่ริมหน้าต่างสะท้อนภาพดวงดาวบนท้องฟ้าจำลองให้ปรากฏขึ้นบนผนังห้อง บรรยากาศภายในห้องจึงราวกับหลุดเข้าไปอยู่ในหอสังเกตการณ์ดวงดาวส่วนตัว
เธอปิดเปลือกตาลง ปล่อยให้พลังงานนั้นไหลผ่านเข้าสู่กาย ััถึงความร้อนระอุที่แล่นพล่านไปทั่วสรรพางค์กาย มันไม่ใช่ความร้อนที่ทำให้รู้สึกเ็ป แต่เป็ความอบอุ่นที่ปลุกเร้าจิติญญาให้ตื่นขึ้น ภาพในห้วงความคิดของเธอเริ่มปรากฏขึ้น เป็ภาพของทะเลทรายอันกว้างใหญ่ไพศาล ท้องฟ้ายามค่ำคืนเต็มไปด้วยดวงดาวนับล้านที่ส่องแสงระยิบระยับกว่าที่เธอเคยเห็นมาในชีวิต มีเสียงกระซิบโบราณที่ดังขึ้นในใจเธอ แต่เป็ภาษาที่เธอไม่เข้าใจ ทว่ากลับรู้สึกคุ้นเคยอย่างน่าประหลาด เสียงนั้นดูเหมือนจะเรียกหาบางสิ่งบางอย่าง... หรือใครบางคน...
จู่ๆ โสตประสาทของเธอก็พลันได้ยินเสียงกระทบกันของวัตถุบางอย่างภายในลิ้นชักโต๊ะทำงาน เหมือนมีอะไรบางอย่างเคลื่อนที่เอง อธิชาลืมตาขึ้นช้าๆ เธอมองไปยังลิ้นชักที่ส่งเสียง ดวงตาสีน้ำตาลเข้มฉายแววฉงนระคนสงสัย ไม่มีลม ไม่มีใครอยู่ในห้องนอกจากเธอ และลิ้นชักนั้นก็ไม่ได้เปิดทิ้งไว้ เธอลังเลอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะค่อยๆ เอื้อมมือไปเปิดลิ้นชักออก ภายในนั้นไม่ได้มีอะไรพิเศษไปกว่าเอกสารเก่าๆ ปากกา และสมุดบันทึกเล่มหนา ทว่า...มีซองจดหมายสีเหลืองซีดจางวางอยู่ตรงกลาง มันไม่ใช่จดหมายที่เธอเคยเห็นมาก่อน ไม่มีการจ่าหน้าซอง แต่ตราประทับบนขี้ผึ้งสีแดงเข้มที่ปิดผนึกซองไว้กลับเป็รูปดวงดาวล้อมรอบด้วยอักขระโบราณที่เธอคุ้นเคยดีจากตำราโหราศาสตร์บางเล่ม
เป็สัญลักษณ์ที่พ่อของเธอ ศาสตราจารย์อนันต์ วรโชติเมธี ผู้เป็นักโบราณคดีที่หลงใหลในตำนานของอารยธรรมโบราณและดวงดาวมักจะใช้ประทับบนสมุดบันทึกส่วนตัวเสมอ พ่อของเธอหายสาบสูญไปเมื่อหลายปีก่อน ในระหว่างการเดินทางสำรวจครั้งล่าสุดในดินแดนตะวันออกกลาง คลื่นความหวังที่เคยจางหายไปนานกลับซัดเข้ามาในใจของอธิชาอีกครั้ง มือของเธอสั่นเทาขณะที่ค่อยๆ แกะขี้ผึ้งออกอย่างระมัดระวัง
ภายในซองมีกระดาษแผ่นเก่าที่เขียนด้วยลายมือของพ่อ และมีแผนที่ขนาดเล็กที่วาดด้วยมือแนบมาด้วย หัวใจของอธิชาเต้นระรัว เธอจำลายมือของพ่อได้ดีไม่มีผิดเพี้ยน เธอเริ่มอ่านข้อความที่เขียนอย่างรีบร้อนและหวาดหวั่น แต่ละตัวอักษรเต็มไปด้วยความตื่นเต้นและคำเตือน
“...ถึงอธิชา ลูกรัก” ข้อความเริ่มต้นขึ้น “พ่อรู้ว่าจดหมายฉบับนี้อาจจะไปไม่ถึงมือลูก หรืออาจจะไปถึงเมื่อสายเกินไป แต่พ่อต้องเขียนมันไว้ พ่อได้ค้นพบสิ่งที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในชีวิต สิ่งที่พ่อเชื่อมาตลอดว่ามันมีอยู่จริง... ที่นี่คืออัล-ซาฟีร่า อาณาจักรแห่งทะเลทรายดาว ดินแดนที่ซ่อนเร้นจากโลกภายนอก ที่ซึ่งท้องฟ้าเต็มไปด้วยดวงดาวพร่างพรายอย่างที่ลูกไม่เคยเห็นมาก่อน”
อธิชากลั้นหายใจขณะที่อ่านต่อ เธอรู้จักชื่อ "อัล-ซาฟีร่า" จากตำนานโบราณที่พ่อเคยเล่าให้ฟัง มันคืออาณาจักรในเทพนิยาย ไม่มีใครเคยพบเจอ มันเป็เพียงตำนานที่เล่าขานถึง ิญญาแห่งดวงดาว
“...ที่นี่มี ดวงใจแห่งแซฟไฟร์ ลูกรัก มันคือแก่นพลังงานลึกลับที่เชื่อมโยงกับดวงดาวทั้งมวล เป็หัวใจของอาณาจักรนี้ พ่อััได้ถึงพลังอันมหาศาลของมัน แต่ก็รู้สึกถึงอันตรายที่แฝงอยู่ พ่อเกรงว่าจะมีใครบางคนกำลังจะใช้พลังนั้นในทางที่ผิด”
ดวงใจแห่งแซฟไฟร์? ชื่อนี้ไม่เคยปรากฏในตำนานที่เธอเคยศึกษามาก่อน มันเป็สิ่งที่พ่อของเธอค้นพบเองอย่างนั้นหรือ? มือของอธิชาสั่นหนักขึ้นไปอีก พ่อของเธอไม่ได้หายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย แต่ไปพัวพันกับความลับที่ยิ่งใหญ่ขนาดนี้
“...พ่อรู้สึกได้ถึง เสียงกระซิบของดวงดาว ที่นี่ชัดเจนยิ่งกว่าที่ไหนๆ มันไม่ใช่แค่เสียงกระซิบ แต่มันคือคำเตือน คำทำนายที่กล่าวถึง สตรีจากแดนไกลผู้มีิญญาแห่งดวงดาว ที่จะนำมาซึ่งการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ ลูกคือสตรีผู้นั้น ลูกคือความหวังสุดท้าย”
อธิชาใจนแทบทำจดหมายหลุดจากมือ สตรีจากแดนไกลผู้มีิญญาแห่งดวงดาว หรือว่ามันจะหมายถึงเธอ? พลังพิเศษที่เธอมีมาั้แ่เด็ก พลังที่ทำให้เธอััถึงดวงดาวได้ นั่นคือ ิญญาแห่งดวงดาว อย่างนั้นหรือ? ความรู้สึกที่เชื่อมโยงกับจักรวาลมาตลอดชีวิตของเธอมันมีที่มาที่ไปอย่างนั้นหรือ?
“...พ่อถูกจับตามอง การกระทำของพ่อถูกจำกัด พ่อไม่รู้ว่าจะส่งจดหมายฉบับนี้ออกไปได้อย่างไร แต่พ่อเชื่อว่าดวงดาวจะนำพามันไปถึงลูก ดวงดาวจะนำทางลูกมาที่นี่ ลูกต้องมาช่วยพ่อ ลูกต้องมาช่วยอัล-ซาฟีร่า...”
ข้อความส่วนท้ายเขียนอย่างขาดตอนและหวาดหวั่น มีรอยเปื้อนหมึกจางๆ คล้ายรอยน้ำตา หรืออาจจะเป็รอยเื? หัวใจของอธิชาบีบรัดอย่างแรง เธอรู้สึกถึงความเ็ปและความโดดเดี่ยวของพ่อที่ส่งผ่านตัวอักษรเ่าั้ เธอไม่รู้ว่าพ่อของเธอต้องเผชิญหน้ากับอะไร แต่ที่แน่ๆ พ่อของเธอกำลังตกอยู่ในอันตราย!
สายตาของอธิชาเลื่อนไปที่แผนที่ขนาดเล็กที่แนบมาด้วย มันเป็ภาพวาดคร่าวๆ ของภูมิประเทศทะเลทราย แต่มีจุดที่ทำเครื่องหมายไว้เป็พิเศษ พร้อมกับสัญลักษณ์ของกลุ่มดาวบางกลุ่มที่เธอรู้จักดี และมีอักขระโบราณเขียนกำกับไว้ ซึ่งเธออ่านออกได้อย่างคลับคล้ายคลับคลาว่า ทางเข้าสู่หัวใจแห่งทะเลทรายดาว
ความรู้สึกแรกคือความสับสนและความหวาดกลัว อาณาจักรอัล-ซาฟีร่าเป็เพียงตำนาน มันจะไปตามหาได้ที่ไหน? แต่แล้วความหวาดกลัวก็ถูกแทนที่ด้วยความมุ่งมั่นและแรงปรารถนาอันแรงกล้าที่จะช่วยเหลือพ่อ เธอไม่ใช่แค่ลูกสาวที่ตามหาพ่อ แต่เธออาจจะเป็ความหวังของอาณาจักรโบราณแห่งหนึ่ง เป็ผู้หญิงที่ถูกดวงดาวเลือกให้ทำภารกิจที่ยิ่งใหญ่กว่าที่เธอเคยจินตนาการไว้
อธิชาเงยหน้ามองดวงดาวนอกหน้าต่างอีกครั้ง แสงดาวในค่ำคืนนี้ดูเหมือนจะส่องประกายสุกสกาวเป็พิเศษ ราวกับกำลังส่งสัญญาณบางอย่างมาถึงเธอ พลังแห่งดวงดาวที่เธอััได้มาตลอดชีวิต ไม่ใช่แค่เื่บังเอิญ แต่เป็ชะตากรรมที่รอคอยการเปิดเผย เธอจะต้องไปที่อัล-ซาฟีร่า จะต้องตามหาพ่อ จะต้องไขปริศนาของดวงใจแห่งแซฟไฟร์ และจะต้องเผชิญหน้ากับชะตากรรมที่ดวงดาวกำหนดไว้
คำพูดสุดท้ายของพ่อดังก้องอยู่ในหัวเธอ ลูกคือสตรีผู้นั้น ลูกคือความหวังสุดท้าย มันไม่ใช่แค่คำพูด แต่เป็พันธสัญญาที่เธอต้องทำ มันถึงเวลาแล้วที่เธอจะต้องออกเดินทางสู่ดินแดนแห่งทะเลทรายดาว ดินแดนที่ซ่อนเร้นภายใต้ผืนฟ้าที่เต็มไปด้วยดวงดาวพร่างพราย เธอจะไปที่นั่น ไปตามหาแสงแรกแห่งดวงดาวที่นำทางไปสู่หัวใจแห่งแซฟไฟร์
////****////
