นางเซี่ยปวดใจกับเมิ่งอู่ ทนไม่ได้ที่จะเห็นนางทุกข์ใจ
แต่หลังเหตุการณ์ครั้งนี้ นางเซี่ยก็เห็นด้านที่รับผิดชอบและแบกรับไว้เองของอินเหิงในฐานะบุรุษ สุดท้ายนางจึงไม่กล่าวอันใดต่อ เพียงแค่นเสียงเ็าหนึ่งครั้ง ก่อนเดินไปจัดการธุระที่เตาไฟ
ชาวบ้านคนอื่นๆ ที่มาช่วยทำงานก็ปรากฏตัวขึ้นทีละคน
ไม่โทษที่พวกเขาเจตนาหลบเลี่ยงปัญหาที่เกิดขึ้น สาเหตุหลักเป็เพราะปกติพวกเขาต่างได้รับความเดือดร้อนอย่างหนักจากการก่อกรรมทำชั่วของพวกอันธพาล หากไปยั่วยุคนกลุ่มนั้น เกรงว่าต่อไปชีวิตคงไม่สงบสุข
ชาวบ้านต่างรู้สึกละอาย พวกเขาทำได้เพียงตั้งใจทำงานขั้นตอนสุดท้ายเพื่อสร้างเรือนหลังใหม่ให้เสร็จ
เมิ่งอู่จัดการผักไปพลาง หันกลับไปมองอินเหิงบ่อยครั้งไปพลาง ก่อนกล่าว "อาเหิง ท่านแม่เป็ห่วงข้า นางปากร้ายใจดี"
อินเหิงที่กำลังให้อาหารไก่พยักหน้า "อืม ข้ารู้"
ผ่านไปครู่หนึ่งเมิ่งอู่ถาม "อาเหิง เ้ากระหายน้ำหรือไม่? ข้าจะรินน้ำให้เ้า"
อินเหิง “ไม่กระหาย”
ผ่านไปอีกครู่หนึ่งเมิ่งอู่ถามอีกครั้ง "อาเหิง เ้าหิวหรือไม่? ข้าจะตักข้าวให้เ้า"
อินเหิง “ไม่หิว”
เมิ่งอู่ “อาเหิง เ้า…”
ยังไม่ทันพูดจบ นางเซี่ยก็ทนดูไม่ไหว ะโว่า “อาอู่! เ้าว่างมากนักหรืออย่างไร รีบๆ จัดการผักให้เสร็จแล้วมาช่วยผ่าฟืน!”
อินเหิงเหลือบตามองเมิ่งอู่แล้วยิ้มบาง
เมิ่งอู่ตอบรับ “มาแล้ว มาแล้วเ้าค่ะ” ก่อนหันกลับไปทำงานต่อ
ใกล้เที่ยง ควันไฟในครัวลอยคลุ้งไปทั่วลานเรือน ทุกอย่างกลับมาสงบสุขอีกครั้ง
ยามราตรี ขณะเมิ่งอู่ตักน้ำให้อินเหิงล้างหน้า นางพูดคุยกับเขาอย่างละเอียด "อาเหิง ต่อไปหากเกิดเื่เช่นนี้อีก อย่าเผชิญหน้ากับพวกเขาโดยตรง ขอเพียงเ้ากับท่านแม่ปกป้องตนเองให้ปลอดภัย เื่อื่นๆ รอข้ากลับมาจะจัดการเอง วันนี้เ้าประมาทเกินไป หากข้ากลับมาช้ากว่านี้อีกเพียงก้าวเดียว ไม่แน่ว่าพวกเขาจะรังแกเ้าแล้ว"
อินเหิงพยักหน้าทั้งสีหน้าไร้เดียงสาและไร้พิษภัย "ข้าจำได้แล้ว อาอู่ ข้าจะปกป้องท่านแม่ของเ้า เ้าจำไว้ว่าต้องปกป้องข้าด้วย"
เมิ่งอู่รับปากอย่างจริงจัง "เ้าวางใจเถิด นั่นแน่นอน"
…
กล่าวถึงหัวหน้าอันธพาลที่แขนหักทั้งสองข้างคนนั้น หลังร้องไห้กลับไปแล้วก็ทนความเ็ปไม่ไหว แน่นอนว่าย่อมต้องเชิญหมอมารักษาเป็ครั้งแรก
บังเอิญหมอประจำหมู่บ้านของพวกเขาออกไปตรวจคนไข้แล้ว
ผู้ใดจะอยากรักษาเนื้อร้ายที่เป็ภัยต่อคนในหมู่บ้านเยี่ยงนี้ ดังนั้นต่อให้ไม่ออกไปตรวจคนไข้ พอได้ยินว่าหัวหน้าอันธพาลได้รับาเ็กลับมา เพื่อเลี่ยงไม่ให้ถูกเรียกตัว จึงต้องพยายามทุกวิถีทางที่จะหาเหตุผลออกไปตรวจคนไข้
หมอคนเดียวที่อยู่ใกล้ที่สุดจึงเหลือเพียงหมอหยาง
หมอหยางถูกหัวหน้าอันธพาลบังคับให้ไปรักษาแขนให้เขาให้สำเร็จ และขู่ว่าหากหมอหยางไม่ไป พวกเขาจะส่งคนไปทำร้ายครอบครัวของหมอหยาง หากทำร้ายครอบครัวของเขาไม่ได้ ก็จะส่งคนไปขุดสุสานบรรพบุรุษของเขา
หมอหยางจึงทำได้เพียงกัดฟันทนต่อแรงกดดันของชาวบ้านทั้งหมู่บ้าน ไปช่วยต่อกระดูกให้หัวหน้าอันธพาล
แต่ทักษะทางการแพทย์ของเขาก็แค่หลอกลวงคนครั้งสองครั้งเท่านั้น หากให้แสดงฝีมือด้วยสองมือจริงๆ ก็คงไม่ไหว
ผลปรากฏว่าหมอหยางที่เหงื่อท่วมกายทำให้หัวหน้าอันธพาลร้องโหยหวนดังลั่นด้วยความเ็ปทรมาน แต่กระดูกแขนก็ยังเชื่อมต่อไม่สำเร็จ
หมอหยางจึงโดนพวกอันธพาลรุมทำร้ายจนหน้าตาบวมปูดอย่างไม่ต้องสงสัย เขากลิ้งกลับเรือนด้วยสภาพฟกช้ำดำเขียว
เมื่อเผชิญกับข้อกังขาของชาวบ้าน เขาก็ถอนหายใจก่อนเอ่ยว่า ตนจงใจไม่ต่อกระดูกให้หัวหน้าอันธพาล แม้จะโดนทำร้าย ก็จะไม่ยอมช่วยพวกเขาทำชั่ว
ชาวบ้านต่างพากันชื่นชมว่าเขามีคุณธรรมสูงส่ง
แต่ต่อมาเมื่อถ้อยคำเหล่านี้ไปเข้าหูของหัวหน้าอันธพาล หมอหยางจึงถูกพวกอันธพาลจับไปทุบตีอีกครั้ง เขาร้องไห้คร่ำครวญหามารดา "ข้าโกหก! ทั้งหมดนั่นข้าโกหก! ฮือๆๆ ข้าต่อกระดูกไม่เป็... พวกเ้าไปหาเมิ่งอู่สิ นางรู้วิชาแพทย์ นางต้องต่อกระดูกได้แน่ๆ!”
หมอหยางโยนความผิดไปให้เมิ่งอู่ คิดในใจอย่างมีความสุขว่าครานี้เมิ่งอู่ต้องโดนพวกอันธพาลเล่นงานจนร้องไห้แน่ๆ
สุดท้ายหัวหน้าอันธพาลจนปัญญา วันรุ่งขึ้นเขาจึงพาลูกน้องไปที่เรือนของเมิ่งอู่อีกครั้ง
วันนี้เมิ่งอู่อยู่ที่เรือน พอเห็นคนพวกนั้นมา นางก็ดัดกระดูกนิ้ว ดึงกระดูกข้อต่อดังกรอบๆ ทำเอาพวกอันธพาลประหวั่นพรั่นพรึง
หัวหน้าอันธพาลรีบกล่าว “วันนี้พวกเรามิได้มาหาเื่!”
ลูกน้องกล่าวเสริม "ถูกต้อง พวกเรามิได้มาหาเื่!"
เมิ่งอู่เลิกคิ้วพลางเอ่ย "เช่นนั้นมาทำอันใด?"
หัวหน้าอันธพาลกล่าว "พวกเรามาขอให้เ้าช่วยรักษา!"
ลูกน้อง "ถูกต้อง มาขอให้เ้าช่วยรักษา!"
เมื่อวานเมิ่งอู่ไม่ได้สังเกตว่าหัวหน้าอันธพาลจากไปพร้อมสองแขนห้อยต่องแต่ง แต่วันนี้นางสังเกตเห็นทันทีแล้ว
นางยิ้มเอ่ย "โอ้! นี่ไปทำชั่วที่ใดมาถึงได้รับผลกรรมตามสนองเร็วเช่นนี้"
หัวหน้าอันธพาลจ้องมองอินเหิงที่อยู่ข้างหลังเมิ่งอู่ด้วยความโกรธเกลียดและหวาดผวา กัดฟันกล่าว "อย่ามาเสแสร้ง! เ้าลองถามเขาดูสิว่าแขนของข้าหักได้อย่างไร!"
เมิ่งอู่จึงหันไปมองอินเหิง
อินเหิงกล่าวเบาๆ “คงเพราะสะดุดธรณีประตูล้ม กระดูกจึงหัก ยามนั้นคนเยอะ เ้าดันข้าเบียด เป็แบบนี้ก็ไม่น่าแปลกใจ”
เมิ่งอู่พยักหน้าเห็นด้วย
ตราบใดที่อินเหิงกล่าว นางล้วนรู้สึกว่าสมเหตุสมผล
หัวหน้าอันธพาลเบิกตากว้าง “เวรเอ๊ย…”
อินเหิงหรี่ตาจ้องมองหัวหน้าอันธพาลและลูกน้อง ดวงตาสีอ่อนไร้อารมณ์ แต่กลับทำให้หัวหน้าอันธพาลขนลุกซู่ ความหนาวเหน็บคืบคลานไปถึงกระดูกสันหลังแล้วทำให้หนังศีรษะของเขาชา
หัวหน้าอันธพาลกลืนน้ำลาย ฝืนกลืนคำผรุสวาทที่กำลังจะหลุดออกจากริมฝีปากลงคอ
อินเหิงถามเสียงเรียบเฉย “หรือไม่ใช่แบบนั้น?”
พวกอันธพาลราวกับไก่ชนที่พ่ายแพ้ มีเพียงคำเดียวที่เอ่ยออกมาได้ยามอยู่ต่อหน้าอินเหิงคือ... ขี้ขลาด
แย่แล้ว หัวเข่าเริ่มสั่นด้วยความเ็ปอีกแล้ว
ลูกน้องจับแขนของหัวหน้าอันธพาลประเดี๋ยวเดียว หัวหน้าก็ร้องลั่นด้วยความเ็ป ก่อนตบหน้าลูกน้องด้วยหลังมือฉาดหนึ่ง
ลูกน้องกุมหน้าพลางเอ่ยอย่างน้อยอกน้อยใจเสียงอ่อน “พี่ใหญ่ คนฉลาดย่อมไม่ยอมเสียเปรียบซึ่งหน้า”
หัวหน้าอันธพาลจึงหันไปพูดกับเมิ่งอู่ “ข้าไม่สน ไม่ว่าอย่างไรแขนของข้าก็หักที่นี่ ได้ยินว่าเ้าเก่งวิชาแพทย์ เ้ารักษาให้ข้าก็เป็เื่สมเหตุสมผลแล้ว!”
เมิ่งอู่เหลือบมองกรอบประตูลานเรือนของตนเอง กล่าวว่า “กระทำผิดต้องมีเหตุ หนี้ต้องมีเ้าของ ผู้ใดทำเ้าก็ไปหาคนผู้นั้นสิ” กล่าวจบ นางก็เดินไปที่ธรณีประตูพลางเอ่ย “ได้ยินว่าเ้าทำแขนของเขาหัก เ้าจะรักษาให้เขาหรือไม่?”
ทุกคนต่างจ้องมองธรณีประตูที่เงียบกริบ ก่อนเงียบไป
เมิ่งอู่เงยหน้ามองหัวหน้าอันธพาล กล่าวว่า “เ้าดูสิ มันไม่พูดแสดงว่ามันปฏิเสธ”
อันธพาล “...”
พวกอันธพาลจึงตำหนิอย่างเคืองแค้น “เ้านี่เถียงข้างๆ คูๆ!”
"ไม่ยอมหรือ" เมิ่งอู่พับแขนเสื้อขึ้น “ถ้าไม่ยอมก็เข้ามาทุบตีข้าสิ”
ทั้งต่อสู้ก็แพ้ ทั้งถกเถียงก็ไม่ชนะ แล้วจะทำเช่นไรได้?
เมิ่งอู่มองแขนของหัวหน้าอันธพาลสองหน ไหล่ของเขาบวมเป่ง นางยังไม่ลืมพูดตัดกำลังใจ “เมื่อวานเพิ่งเป็ วันนี้ยังไม่เข้าที่ หากการรักษาล่าช้าออกไปอีก อาจกลับมาเหมือนเดิมไม่ได้ อย่าว่าแต่จะเป็อันธพาลในหมู่บ้านเลย แม้แต่ชามข้าวก็ยังจะถือไม่มั่น ตะเกียบยังจะจับไม่ได้ จุๆ ไร้ค่าสิ้นดี!”
สองวันมานี้หัวหน้าอันธพาลได้ประสบกับความพ่ายแพ้ครั้งใหญ่ที่สุดในชีวิต ความเ็ปนี้บดขยี้เขาจนพังทลายลง ทรุดตัวลงนั่งกับพื้น แล้วร้องไห้เสียงดัง
เมิ่งอู่กล่าวเสริม “ทำชั่วไว้ย่อมต้องชดใช้ อาเหิงของข้ามือเท้าไม่สะดวก สองมือเปล่า พวกเ้ายังคิดจะรังแกเขา นี่ไม่ใช่กรรมตามสนองหรอกหรือ?”
อินเหิงทำหน้าประหลาดใจ “เมื่อวานโชคดีที่อาอู่กลับมาทันเวลาพอดี”
พวกอันธพาลใจสลาย เขาอ่อนแอตรงไหนกัน ทั้งหมดนั่นเป็เพียงภาพลวงตา!