คิดๆไปแล้วบุรุษปกติที่ใดจะทนรับเื่ของสามีภรรยาตีกันเช่นนี้ได้บ้าง
แม้จะออกเรือนไปแล้วคุณหนูกลับยังคงเล่นสนุกกับสามีของตนเอง จุดจบของเื่นี้ หากจะให้สองสามีภรรยามีการอยู่ร่วมกันได้ดีนั้นย่อมไม่มีทาง
ด้วยเหตุนี้ชีวิตออกเรือนของคุณหนูใหญ่จึงมีเวลาเพียงแค่ครึ่งปี
“เป็ข้าเพราะยามนั้นข้าพิจารณาเื่ราวได้ไม่ดีพอ ข้าควรจะตามไปเรื่อยๆอยู่กับคุณหนูใหญ่ เมื่อเป็เช่นนี้ ตอนนั้นคงไม่เกิดเื่เลวร้ายเช่นนั้นขึ้นคุณหนูใหญ่คงไม่มีชีวิตที่เ็ปอย่างในวันนี้…คุณหนูใหญ่เป็แม่นมเองที่ต้องขอโทษท่าน”
โจวรั่วเยวียนที่อยู่ในห้องในที่สุดก็หยุดมือลง เมื่อเห็นความเละเทะตรงหน้า นางจึงยิ่งร้องไห้หนัก
หมัดกำเข้าหากันแน่นเพราะคิดถึงเื่เก่าในครั้งนั้นจึงทำให้นางบันดาลโทสะ…
“จื่อิ…ความจริงแล้วข้าชอบเ้า…จริงๆ …”
***
เฉินเนี้ยนหรานกอดกองสิ่งของเดินกลับไปตลอดทางได้รับสายตาริษยาจำนวนมาก
ปกติแล้วสถานการณ์เช่นนี้นางสมควรแบ่งรางวัลให้กับพวกผู้ดูแล
ทว่าหลังจากโจวรั่วเยวียนให้คนนำของตบรางวัลพวกนี้มานางกลับไม่มีคนมีความคิดเช่นนี้อีก
มือหอบของรางวัลที่มากจนกลายเป็สัมภาระใบใหญ่ทำให้เฉินเนี้ยนหรานถึงกับถอนหายใจ ความจริงแล้ว เป็สาวใช้ก็ไม่ใช่ว่าจะไร้หนทางร่ำรวยนะ
เฉินเนี้ยนหรานเดินออกจากจวนสกุลโจวแล้วเปิดห่อผ้าพวกนั้นดูพลันยิ้มเย็น
“อยากให้ข้าช่วยเ้าค่าตอบแทนไม่น้อยเลยจริงๆ นะ”
ก่อนจะหยิบหยกสีงาช้างหนึ่งในนั้นขึ้นมา้ายังสลักคำว่า ถง เอาไว้
“คำว่าถง หรือหมายถึงถงจี้กันนะ?”
ทั่วทั้งแคว้นจะมีร้านค้าหนึ่งที่มีชื่อเสียงมาก นั่นคือร้านถงจี้
ร้านค้าใหญ่แห่งนี้ไม่เพียงจะมีของกิน เสื้อผ้า ที่พักอาศัย การค้ามากมายหลายรูปแบบจนกระทั่งทั่วทั้งแคว้นยังมีร้านรับแลกตั๋วเงินอยู่มากมาย
หากตู้ซินถงเป็คนของถงจี้จริงๆย่อมไม่ใช่จะไม่สามารถยื่นมือเข้าไปช่วยคนคนนี้ได้หรอกนะ
ส่วนคนคนนี้เข้าไปในจวนสกุลโจวได้อย่างไรนั้นไม่ใช่สิ่งที่นางจะต้องคิด
“ช่างเถิดช่วยคนคนหนึ่งก็คือช่วย ช่วยสามคนก็คือช่วย สู้ข้าช่วยไปทั้งสี่คนแล้วกัน”
พวกหนิงเซียงมีทั้งหมดสามคนแล้วตอนนี้เพิ่มตู้ซินถงเข้าไปอีกหนึ่งคน นางจะต้องช่วยออกมาสี่คน
การจะต้องช่วยสี่คนนี้จะต้องตั้งใจคิดดีๆ สักรอบ
คืนวันนั้นเฉินเนี้ยนหรานคิดวางแผนตลอดทั้งคืน จนกระทั่งกลางดึกของวันต่อมา ถึงได้นอนหลับไปครู่หนึ่ง
สิ่งที่ง่ายที่สุดคือวางยาลงในอาหารเครื่องดื่มของคนสกุลโจว เพียงแต่การใส่ยาลงไปจะต้องไม่ให้คนอื่นสงสัยตนเอง
โชคดีที่นางยังรู้จักคนที่สามารถวางยาคนได้แผนนี้จึงถูกนำมาใช้ใน่แรก
ส่วนขั้นตอนที่สองพวกวางเพลิงโจมตีพวกนี้ ไม่ใช่ว่านางไม่เคยคิด แต่เื่เช่นนี้หากวางเพลิงไม่สำเร็จ พวกหน่วยรักษาความปลอดภัยลับในจวนพวกนั้นออกมา นอกจากนางจะช่วยคนไม่สำเร็จกลับกันนางยังถูกจับตัวด้วย
ด้วยเหตุนี้แผนวางเพลิงย่อมต้องใช้ แต่จะต้องคิดให้ดีๆ
เมื่อคิดเช่นนี้เฉินเนี้ยนหรานจึงวางแผนอย่างละเอียด
ส่วนการกระทำของตนเองจะลากคนในหมู่บ้านมาติดร่างแหด้วยหรือไม่?
ในจุดนี้นางก็มีการพิจารณาไปถึงเช่นกัน
ดังนั้นตอนที่ออกจากเรือนในวันนี้ เฉินเนี้ยนหรานจึงบอกแผนของตนอย่างละเอียด
จินจื่อและลิ่วจื่อทั้งสองคนต่างคุ้นเคยกับการอยู่ในป่าจนชินตอนนี้เมื่อได้ยินว่าจะทำการใหญ่ มีหรือจะไม่พยักหน้ารับ
ส่วนชุนเทียนที่เป็ยอดฝีมือย่อมถูกนางใช้งานเป็อย่างดี
เพื่อจะพูดโน้มน้าวคนคนนี้ได้เฉินเนี้ยนหรานต้องงัดสิบแปดวิธีออกมาใช้ทั้งหมด
เพราะเ้าคนนี้จำไว้ตลอดว่าหากไม่ใช่คำพูดของเ้านายเขาจะไม่ฟัง
“ข้าคือนายหญิงเ้า!”สุดท้ายเฉินเนี้ยนหรานจึงกัดฟันพูดจาเด็ดขาดกับชุนเทียน “เ้ารู้จักความหมายของนายหญิงหรือไม่? ความหมายของนายหญิงก็คือข้าคือเ้านายของเ้า เ้านายของเ้าไม่ได้อยู่ที่นี่ ย่อมต้องฟังคำนายหญิง”
ชุนเทียนถลึงตาใส่นางจนดวงตาทั้งสองข้างกลมโต “เ้า เหตุใดเ้าจึงกลายมาเป็นายหญิงแล้ว?”
เฉินเนี้ยนหรานนับนิ้ว
“หนึ่งข้าได้คลอดลูกสองคนให้กับคุณชายเ้า ใช่หรือไม่?”
ชุนเทียนพยักหน้าหลังจากที่เขามาอยู่นี่ก็ได้ยินสาวใช้สีเคยพูดเื่ของคุณชายน้อยกับคุณหนูน้อยมาไม่น้อย
เื่นายน้อยทั้งสองคนชุนเทียนรอคอยที่จะได้เจอหน้าทั้งสองคนมาก
ภายในใจความจริงแล้วเขาเองก็ได้คิดว่าเฉินเนี้ยนหรานกลายเป็เ้านายของตนไปแล้ว…
“ใช่ข้าได้ยินที่สาวใช้สีพูดแล้ว ข้าเองก็อุ้มคุณชายน้อยมาหลายครั้ง”
ชุนเทียนพยักหน้า
“ดังนั้นั้แ่ตอนนี้ไป เ้าจะต้องฟังคำที่ข้าพูด หากยังพูดนั่นพูดนี่ดูสิว่าข้าจะไม่ต่อยเ้าแรงๆ สักที”
นางปล่อยหมัดออกไปทำให้ชุนเทียนใหดคอ
แต่ก่อนเขากลัวมากที่สุดคือสาวใช้หลายคนที่อยู่ข้างกายเ้านาย หนึ่งในนั้นก็มีพี่สาวคนนี้
คิดไม่ถึงเลยว่าผ่านมากตั้งหลายปีแล้วเขายังคงแก้เื่นี้ไม่ได้
“ขอรับนายหญิง ข้าจะจัดการกับพวกตัวยุ่งยากที่จะตามมา”
เมื่อโน้มน้าวองครักษ์สมองมีปัญหาสุดแข็งแกร่งคนนี้ได้เฉินเนี้ยนหรานกับคนอื่นจึงเตรียมตัวออกเดินทาง
แน่นอนว่าตอนที่ออกเดินทาง นางไม่ลืมที่จะพกห่อโอสถไปด้วยสองห่อ
“จินจื่ออีกเดี๋ยวเ้านำห่อโอสถนี่ใส่ลงไปในน้ำ”
“ลิ่วจื่อเ้านำห่อโอสถนี่ไปใส่ที่อีกฝั่งหนึ่ง ขอแค่คนพวกนั้นใช้โอสถพวกนี้ พวกเราย่อมมีวิธีหนีออกจากที่นี่แล้ว”
สำหรับเส้นทางการหนีออกไปนางได้เลือกเอาไว้แล้ว เื่นี้ ได้ให้สาวใช้สีจัดการเรียบร้อยแล้ว
ส่วนแม่นมตอนจะออกเดินทางก็ได้ส่งนางไปรอด้านนอกเมืองแล้ว
หากหนีออกมาจากเรือนเ้าของที่ดินได้แล้วคิดว่าจากความสามารถของพวกหนิงเซียงคงยังสามารถเดินทางไปยังเปียนโม่ได้อย่างปลอดภัย
เมื่อคิดวางแผนดีแล้วเฉินเนี้ยนหรานจึงเข้าไปในจวนสกุลโจวกับทุกคน
แม้พรุ่งนี้จะเป็วันงานมงคลอย่างเป็ทางการทว่าแขกที่เข้าอวยพรกลับมีเป็จำนวนมาก
ตู้ซินถงที่อยู่ในเรือนตอนนี้ใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว
เขาหลับตาลงแล้วนั่งอยู่ตรงนั้นท่าทางที่ดูคล้ายนิ่งสงบ แต่ในใจกลับคิดอยู่ตลอด ไม่รู้ว่าการเดิมพันของตนในครั้งนี้จะประสบความสำเร็จหรือไม่
เขารู้สึกผิดภายหลังจริงๆเหตุใดถึงได้เห็นแก่ตัวหนีออกมาคนเดียวกันนะ
เื่หนีออกมาคนเดียวก็ช่างมันเถิดแต่กลับซวยมาตกอยู่ในเงื้อมมือของหมาป่าสาวนี่สิ
พอคิดถึงสายตาที่เหมือนกับหมาป่าของโจวรั่วเยวียนเขารู้สึกไม่สบายใจมาก
คิดถึงตัวเขาตู้ซินถงที่แต่ไหนแต่ไรหาก้าสตรีเช่นไร คนในเรือนมักจะหามาให้เขา
จากที่มีแค่เขาเป็ฝ่ายเลือกสตรีั้แ่เมื่อใดกันที่ตัวเขากลายเป็คนที่ถูกสตรีเลือก
เพราะเช่นนี้แม้เขาส่งจดหมายขอความช่วยเหลือไปให้คนที่เรือน จึงรู้สึกขัดเขินเล็กน้อย
ตอนเห็นเฉินเนี้ยนหรานนำอาหารเข้ามาส่งตาของเขาพลันสว่างวาบ
ในมุมลับตอนที่เขากัดทางหยวน [1] ไปหนึ่งคำ ก็ดีใจขึ้นมา
“ตบรางวัลตบรางวัล”
หลังจากเฉินเนี้ยนหรานออกไปตู้ซินถงหยิบกระดาษที่จัดทำเป็พิเศษหนึ่งแผ่นออกมา ้าเขียนเพียงประโยคเดียวว่า“อีกเดี๋ยวได้ยินการเคลื่อนไหว ให้จัดการคนที่อยู่ข้างกาย แล้วหนีไปกับพวกเรา”
เมื่อมีกระดาษแผ่นนี้ใจของตู้ซินถงจึงหล่นลงไปที่พื้น
ดังนั้นขณะที่ถูกโจวรั่วเยวียนมองอีกครั้งเขาจึงสามารถมองพิจารณาชื่นชมสตรีตรงหน้าด้วยสภาพจิตใจปกติ
เมื่อมองอย่างละเอียดแล้วตู้ซินถงก็อดยอมรับไม่ได้ว่า ความจริงสตรีคนนี้หน้าตาไม่เลวเลยจริงๆ
โดยเฉพาะท่าทางตอนที่นางส่งสายตาที่เต็มไปด้วยความรู้สึกอ่อนโยนยิ่งทำให้คนมีความรู้สึกอยากจะกอดไว้ในอ้อมกอดแล้วให้ความรักนางอย่างดี
สิ่งเดียวที่น่าเสียดายคือเมื่อนางมองมายังเขา สายตาเหินห่างนั้นมักทำให้รู้สึกไม่สบาย
ความจริงแล้วที่สตรีนางนี้ชอบตน เกรงว่าจะมองเขาออก จึงหันไปสนใจบุรุษคนอื่น
ตู้ซินถงที่มักจะถูกเหล่าสตรีล้อมหน้าล้อมหลังตลอดเมื่ออยู่ภายใต้สายตาเช่นนี้ย่อมรู้สึกไม่สบายมากๆ
เขาไอออกมาก่อนจะยกจอกสุราขึ้นมา ยกมือขึ้นไปจับคางของโจวรั่วเยวียน
สาวใช้และเหล่าป้าแม่บ้านรอบๆต่างใ โดยเฉพาะโจวรั่วเยวียนที่ยิ่งมองบุรุษตรงหน้าด้วยดวงตาเบิกกว้าง
จนกระทั่งตู้ซินถงยกสุราเทเอาเข้าปากตนเอง ก่อนจะบีบที่คางของนาง ขณะเอาจอกสุราเทเข้าปากของนางนั้น…
ปัง…
สมองของโจวรั่วเยวียนคล้ายถูกะเินี่ นี่
นี่คือเื่ที่นางไม่เคยทำมาก่อน
ั้แ่ไหนแต่ไรแม้นางจะหยอกล้อผู้อื่นไปเรื่อย แต่เื่อย่างวันนี้ การถูกคนป้อนสุรากลับไม่เคยเกิดเื่เช่นนี้ขึ้นมาก่อน
ชั่ววินาทีนั้นบนใบหน้าของสตรีมีสีแดงระเรื่อขึ้นมาไม่น้อย ดวงตาที่เต็มไปด้วยความรู้สึกคู่นั้นยิ่งเหมือนกับสายน้ำอุ่น ความงามเช่นนี้มองไปยังบุรุษที่อยู่ตรงข้าม
“สามี…”
ตู้ซินถงแย้มยิ้มอุ้มนางขึ้นพร้อมกับโบกมือ “ไสหัวไป”
เขาในวินาทีนี้ไม่ใช่บุรุษที่มักจะโมโหอีกแล้ว ตรงกันข้าม เขาในตอนนี้กลับไปมีอำนาจดังเช่นแต่ก่อนยิ่งมีกลิ่นอายของบุรุษ
ท่าทีที่โจวรั่วเยวียนมีต่อเขาก็เปลี่ยนไปไม่โกรธ กลับยังชื่นชอบมาก
“สามี…อืม…”
ถูกบุรุษกอดไว้แน่นนางใกล้จะไร้เรี่ยวแรงต่อต้าน
“อยาก…”ตู้ซินถงจูบนางอย่างหื่นกระหาย
“อืมอา สามี ท่านนี่แย่มาก พรุ่งนี้ คืนพรุ่งนี้พวกเรายังสามารถ…”
“แต่ข้ากลับรู้สึกว่าวันนี้ดีกว่า”เสียงหยอกล้อของทั้งสองคนยิ่งดังขึ้นเรื่อยๆ รอจนพวกแม่นมไม่กล้าจะอยู่ที่นี่อีกและออกไปยืนห่างๆกันทั้งหมด ในตอนที่ทุกคนต่างรู้สึกกระอักกระอ่วนกลับได้ยินด้านนอกเรือนมีเสียงกรีดร้องด้วยความหวาดกลัวดังมา
“แย่แล้วแย่แล้ว น้ำรั่วออกมาแล้ว”
ในตอนที่ได้ยินเสียงนี้หนิงเซียงกับพวกโม่เต้าจื่อที่อึดอัดอยู่ในเรือนมาตลอดก็ตื่นตัวขึ้นมาพวกเขาแต่ละคนล้วงอาวุธที่ตนเองหาได้ออกมา
แม้หลายวันมานี้พวกเขาจะเป็แกะที่รอการถูกเชือดมาตลอดแต่ก็ใช่ว่าจะไม่มีการเตรียมตัวเลย
โดยเฉพาะโม่เต้าจื่อที่ในมือยังมีโอสถมากมาย
แม้โอสถเหล่านี้จะมีประสิทธิภาพไม่แรงมากแต่สามารถเอามาวางยาพวกสาวใช้ได้หลายคน ย่อมไม่ใช่ปัญหาใหญ่
หลังจากวางยาพวกป้าแม่บ้านจนล้มไปหมดแล้วจึงเห็นเฉินเนี้ยนหรานกำลังนำทางอยู่ด้านหน้า “เ้านายทั้งหลายนายท่านให้ข้ามาพาพวกท่านไปยังที่ปลอดภัย”
หนิงเซียงดึงหน้ารีบตามออกไปด้านนอกด้วยกัน
ในเรือนตอนนี้วุ่นวายไปหมด
เ้าของที่ดินโจวมองภาพวุ่นวายเละเทะตรงหน้าอย่างอ่อนแรงอยากจะร้องเรียกคน แต่จะอย่างไรก็เปล่งเสียงออกไปไม่ได้
เขาถลึงตามองเหล่าสาวใช้ที่ล้มลงกับพื้นด้วยตัวอ่อนปวกเปียกในปากก็ส่งเสียงร้องอย่างไร้หนทางช่วยเหลือ
เขาไม่อยากตายแต่ในตอนนั้นเอง เขาพลันรู้สึกว่าตนเองจะตายแล้ว
ความรู้สึกที่ไม่สามารถควบคุมความเป็ตายได้ทำให้เขาไม่พอใจมาก
เหล่าหน่วยรักษาความปลอดภัยลับในตอนนี้กลับยังไม่มีความเคลื่อนไหว
ช่วยไม่ได้แม้จะเป็หน่วยรักษาความปลอดภัยลับ แต่ยังคงต้องกินต้องดื่มนี่นะ
เชิงอรรถ
[1] ทางหยวน หมายถึงบัวลอย
