"อะไรนะ?"
ฉินโจ้วลุกพรวดออกจากเตียงทันที ไม่สนใจที่จะฝึก"คัมภีร์เปลี่ยนเส้นเอ็น" ต่อก่อนจะรีบตรงปรี่ไปที่ฉินหวังกรุ๊ปด้วยความเร็วที่สุดเท่าที่จะเร็วได้เมื่อได้รับข่าวที่น่าใ ซึ่งยังคงสะท้อนก้องอยู่ในใจ ชูหลิงถูกสังหารจนต้องกลับไปหมู่บ้านโนวิส
"เกิดบ้าอะไรขึ้นเนี่ย?" ทันทีที่เขาก้าวเข้าประตูไป ฉินโจ้วก็ไม่รีรอที่จะถามคำถามขึ้นมีเพียงหวังโหรวคนเดียวที่อยู่ในห้อง ส่วนชูหลิงนั้นหายตัวไป
"หลังจากที่นายออกไปแล้วชูหลิงก็ตามออกไป แต่ดูเหมือนว่าเธอจะรีบร้อนเลยไม่ได้พาหน่วยรักษาความปลอดภัยไปมากเท่าที่ควรเลยถูกซุ่มโจมตีจากผู้เล่นนับสิบใน่ที่กำลังเดินทางผ่านสมรภูมิรบฉางป่าน(สามก๊ก : จูล่งฝ่าทัพรับอาเต๊า) หลังจากที่ฟื้นคืนชีพแล้ว ก็ถูกตามฆ่าอีกสองครั้งสุดท้ายเลยต้องกลับไปเกิดที่หมู่บ้านโนวิส" หวังโหรวได้อธิบายให้ฟัง
"มันเป็ใคร?" ฉินโจ้วถามด้วยสีหน้าเ็า
"หัวหน้ากลุ่มชายร่างใหญ่ใช้ค้อนหัวฟักทองเป็อาวุธ..."
"เ้า... ฟางเซียวเสี้ยว!"ฉินโจ้วถึงกับขบกรามแน่น
"หัวถูกทุบจนเละ สมองกระจายไปทั่วพื้นก่อนจะถูกฆ่าตายอย่างน่าอนาถ" น้ำเสียงของหวังโหรวเบาลงเป็อย่างมาก
"ระดับของพี่หลิงหลิงอยู่ที่เท่าไร?" ฉินโจ้วถามขึ้น
"เลเวล 12" หวังโหรวคิดอยู่ชั่วครู่จึงตอบ
เลเวล 12 ช่างน่าประทับใจมากที่ผู้นำลำดับที่สามของฉินหวังกรุ๊ปเพิ่งจะเลเวลแค่12 ทำให้ฉินโจ้วไม่รู้ว่าควรจะดีใจหรือเสียใจดีหลังจากคิดอยู่ครู่หนึ่ง ก็ตอบหวังโหรวไปว่า "ไม่ต้องห่วงบอกพี่หลิงหลิงไปว่า ไม่ต้องกังวลไป ปล่อยให้ผมจัดการเอง และแจ้งข่าวบอกคนของเราว่าทางที่ดีใน่นี้ถ้าไม่จำเป็ก็อย่าออกไปข้างนอกนะ"
"นายอย่าคิดทำอะไรโง่ๆ นะหลิงหลิงกับฉันมีหน้าที่แค่บริหารจัดการเื่ระดับเลเวลนั้นไม่ได้มีความสำคัญอะไรเลย" สายตาของหวังโหรวเต็มไปด้วยความกังวล
"ไม่ต้องห่วง ทุกอย่างจะเรียบร้อย ผมไปล่ะ"ฉินโจ้วหัวเราะขึ้นในขณะก้าวออกไป
เมืองลิงของกิลด์ต้นไม้ทงเทียนนั้นสร้างขึ้นในป่าขนาดใหญ่ที่แวดล้อมไปด้วยสีเขียวของธรรมชาติที่สวยงาม และมีอากาศที่บริสุทธิ์ เป็สถานที่เหมาะสำหรับผู้สูงอายุเป็อย่างยิ่ง
ประชากรที่อาศัยอยู่ในเมืองลิงอย่างถาวรนั้นมีจำนวนอยู่ราวแปดล้านคนเนื่องจากอยู่ห่างไกลจากเมืองอื่นๆ ค่อนข้างมาก และกิลด์ต้นไม้ทงเทียนก็มีการคัดเลือกคนที่จะเข้ามาอยู่จึงทำให้ประชากรของเมืองลิงนั้นค่อนข้างน้อยเมื่อสังเกตจำนวนประชากรของกิลด์วังเทพแห่งตะวันแล้วที่มีจำนวนคนอยู่มากที่สุดถึงสามสิบล้านคน
สถานที่ตั้งของเมืองลิงนั้นอยู่ค่อนข้างห่างไกลแต่นั่นก็มีเหตุผล เพราะว่ามีูเาอีกเป็หมื่นเป็แสนลูกอยู่เื้ั ซึ่งอุดมไปด้วยทรัพยากรเป็จำนวนมากโดยเฉพาะอย่างยิ่งวัตถุดิบหลักในการปรุงยาแดง ยาสมุนไพรต่างๆเพียงแค่ภาษีที่เก็บได้ในแต่ละเดือนก็มากกว่า 50,000 เหรียญทองแล้วนี่ยังไม่รวมถึงไม้ชนิดต่างๆ เครื่องหนัง และสินค้าอื่นๆ อีกมากมาย
ธุรกิจตัดเย็บเสื้อผ้าขนาดใหญ่ที่สุดในเขตเหยียนหวงก็ตั้งอยู่ที่เมืองลิงแห่งนี้ซึ่งสมาชิกของธุรกิจตัดเย็บก็มีแต่ผู้หญิงซึ่งมีหน้าที่ผลิตเกราะหลังและเครื่องป้องกันอื่นๆ เป็หลัก ซึ่งอุปกรณ์ที่ผลิตขึ้นจากบริษัทเหล่านี้ขึ้นชื่อในเื่ของความสะดวกสบายสวมใส่ง่าย และอีกทั้งยังดูดีอีกด้วย เป็ที่นิยมมากในหมู่ผู้เล่นหญิงซึ่งเป็หนึ่งในบริษัทที่มีชื่อเสียงโด่งดังในเขตเหยียนหวง จะเป็รองก็เพียงแค่ฉินหวังการผลิตของฉินหวังกรุ๊ปเท่านั้น
เดิมทีนั้นกิลด์ต้นไม้ทงเทียน้าที่จะให้บริษัทขายยาเทพแห่งการเกษตรย้ายไปที่เมืองลิงแต่ดูเหมือนว่าความปรารถนานี้ไม่เป็ผล
เวลาผ่านไปหนึ่งวันกับอีกหนึ่งคืนั้แ่ที่ฉินโจ้วเริ่ม ''ปฏิบัติการล่าสังหาร'' ซึ่งผลลัพธ์ที่ได้ก็ดูโดดเด่นแต่กับกิลด์ต้นไม้ทงเทียนแล้วอาจจะดูน่าอับอายอยู่บ้าง สำหรับเมืองลิงแล้วนี่แทบไม่ส่งผลกระทบเลยแม้แต่น้อยไม่ว่าผู้เล่นเ่าั้จะทำอะไรหรือสิ่งใดก็ตามที
ฉินโจ้วหยุดยืนอยู่ที่หน้าประตูเมืองลิงราวสิบนาทีห่างจากประตูเมืองราวสามสิบเมตร ทันทีที่เมืองลิงสร้างเสร็จระบบก็จะให้หน่วยรักษาความปลอดภัยสำหรับเฝ้าประตูไว้แปดคน ระดับเลเวล 70 อาจเป็เพราะมีหน่วยรักษาความปลอดภัยถึงแปดคนไม่ว่าผู้เล่นจะมีความแค้นระหว่างกันมากแค่ไหน ก็ไม่มีใครคิดที่จะลองโจมตีเมืองเพราะนั่นหมายถึงความตาย
แต่ว่าวันนี้มีคนคิดที่จะแหกกฎลองฝ่าฝืนข้อห้ามนี้ดู
ฉินโจ้วก้าวเดินตรงไปข้างหน้า มุ่งไปยังประตูเมือง เมื่อเขาข้ามพ้นระยขอบเขตสามสิบเมตรหน่วยรักษาความปลอดภัยก็เคลื่อนไหวทันที ประกายดาบส่องวาบขึ้นและพวกเขาก็เริ่มโจมตีเงาดาบจำนวนมากที่ยาวกว่าสิบเมตรพุ่งตรงเข้าใส่ฉินโจ้วโดยพลันดูเหมือนว่าฉินโจ้วจะอยู่ในรายชื่อที่เป็ศัตรูของเมืองลิงแล้ว เมื่อปรากฏตัวก็จะถูกหน่วยรักษาความปลอดภัยเข้าจู่โจมทันที
ฉินโจ้วก็ไม่ได้เกิดอาการตื่นตระหนกแต่อย่างใดก่อนจะเปิดใช้งานทักษะ ''ป้องกันสัมบูรณ์'' ของหยดน้ำตาแห่งดาร์คเอลฟ์ขึ้นมาเกราะป้องกันโปร่งแสงที่หลากสีสันก็ครอบคลุมร่างของฉินโจ้วเอาไว้อยู่ภายในเงาดาบพุ่งเข้าเฉือนเกราะกำบัง แต่ดูเหมือนจะได้ยินแค่เสียงเท่านั้น ไม่ได้ส่งผลกระทบแต่อย่างใด
หน่วยรักษาความปลอดภัยนั้นโจมตีตามคำสั่งซึ่งพวกเขาไม่มีความคิดเป็ของตนเอง ดังนั้นเมื่อพวกเขาเห็นว่าเป้าหมายยังไม่ถูกทำลายลงก็เริ่มการโจมตีขึ้นใหม่อีกครั้ง ประกายแสงของดาบที่ดูต่อเนื่องราวกับโซ่ตรงเข้าเฉือนเกราะกำบังสีรุ้งนั่น แต่ดูเหมือนว่าจะไม่ส่งผลอะไรเลยแม้แต่น้อยหน่วยรักษาความปลอดภัยที่เหลือเมื่อเห็นว่าเป้าหมายนั้นทรงพลังเป็อย่างมากจึงยืนเรียงแถวก่อนจะเริ่มหลอมรวมเงาดาบเข้าด้วยกันเป็กลุ่มก้อน
เมื่อฉินโจ้วเห็นก็เริ่มรู้สึกใจไม่ดีเล็กน้อยจึงพุ่งเข้าไปด้วยวิชาตัวเบา ''ย่ำหิมะไร้รอย'' ระยะห่างราวสามสิบเมตรผ่านไปชั่วพริบตา ในขณะที่เกราะกำบังหลากสียังคงทำงานอยู่อย่างต่อเนื่องเสียงดังคล้ายกับหยาดฝนกระทบพื้นดิน พอจะจินตนาการออกได้ทันทีว่า ถ้าไม่มีเกราะกำบังดังกล่าวฉินโจ้วคงถูกสับเป็ชิ้นๆ ไม่ต่างจากโคลนเนื้อเป็แน่
ฉินโจ้วถอนหายใจอย่างโล่งอกโชคยังดีที่คำสั่งของหน่วยรักษาความปลอดภัยก็คือ กำจัด ไม่ได้้าหยุดเขาเอาไว้ไม่อย่างนั้นแล้ว ต่อให้เขามี ''หยดน้ำตาแห่งดาร์คเอลฟ์''ก็คงไม่สามารถเข้าไปได้โดยการโจมตีของหน่วยรักษาความปลอดภัยทั้งแปดยังคงมีอยู่อย่างต่อเนื่อง แปดคนดาบแปดเล่ม และแขนของพวกนั้นที่กวัดแกว่งไปมาไม่ต่างจากแผ่นเสียงแค่มองดูยังไม่สามารถเห็นได้อย่างชัดเจน ระดับ 70 ก็ยังคงเป็ระดับ70 เปรียบเทียบกันกับระดับเลเวล 50 หรือ เลเวล 60 ไม่ได้เลย
หน่วยรักษาความปลอดภัยทั้งแปดคนต่างโจมตีเข้าใส่ผู้เล่นคนหนึ่งอย่างพร้อมเพรียงเป็สิ่งที่พบเห็นได้ค่อนข้างยาก ทำให้ผู้เล่นที่อยู่รายล้อมต่างพากันตื่นตระหนกและจ้องมองไปยังฉินโจ้วราวกับมองดูมอนสเตอร์ คนผู้นี้เป็ใครกัน? หน่วยรักษาความปลอดภัยทั้งแปดคนจึงได้โจมตีเข้าใส่อย่างบ้าคลั่งแต่คนคนนี้ก็ยังดูปกติดีอยู่ นี่มันหน่วยรักษาความปลอดภัยระดับเลเวล 70 เลยนะ ไม่ใช่ทหารรักษาเมืองโนวิสหรือทหารทั่วไป
เวลางวดเข้ามาทุกทีฉินโจ้วไม่ได้ใส่ใจว่าแต่ละคนจะมีปฏิกิริยาตอบสนองอย่างไร เขาจึงหยิบ ''โลงศพทองเหลือง'' ออกมา เสียงดัง ''ตึง'' พื้นดินถึงกับสั่นะเื ผู้คนที่ยืนอยู่ถึงกับซวนเซจนเกือบจะล้มลงในขณะที่พวกเขากำลังตื่นตระหนกอยู่นั้นก็พบว่าฉินโจ้วได้กลืนยาเพิ่มพละกำลังเข้าไป ก่อนจะผลักฝาโลงให้เปิดออกจากนั้นก็เข้าไปแล้วปิดฝาโลงทันที
เมื่อหน่วยรักษาความปลอดภัยทั้งแปดคนนั้นเห็นเป้าหมายซ่อนตัวอยู่ในโลงศพจึงได้เริ่มโจมตีเข้าใส่โลงศพโดยทันที เสียงโจมตีกระแทกเข้าใส่โลงศพแต่ถึงอย่างนั้นพวกเขาก็พบว่าโลงศพนี้ดูจะแข็งแกร่งมากกว่าเกราะกำบังหลากสีก่อนหน้านี้มากนักและไม่มีแม้แต่ริ้วรอยปรากฏขึ้นให้เห็นแม้แต่นิดเดียว
ผู้เล่นที่อยู่รายรอบต่างพากันงุนงงหาคำอธิบายไม่ได้ ได้แต่ยืนนิ่งงันจากนั้นได้ยินเพียงเสียงกระซิบกระซาบของแต่ละคนพูดคุยกัน
"มีอะไรเกิดขึ้น นี่มัน..."
"ทำไมชายคนนั้นถึงมีโลงศพมาด้วยหมายความว่าอย่างไร?"
"ทำไมเขาต้องปีนลงไปในโลงศพด้วย?"
"นั่นใครน่ะ?"
"ล้อเล่นอะไรกันหรือเปล่า?"
"คงจะเป็ศัตรูนั่นแหละไม่อย่างนั้นพวกหน่วยรักษาความปลอดภัยจะโจมตีใส่เขาทำไมกัน?"
"เอ... จู่ๆ ทำไมถึงมืดได้ล่ะ?" ผู้เล่นคนหนึ่งเงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้าอย่างไม่ตั้งใจ
"ไม่นะ... นั่นมันอุกกาบาตนี่ ดูนั่น...ฝนอุกกาบาต" ผู้เล่นอีกคนมองตามขึ้นไปทำให้ผู้เล่นที่เหลือต่างเงยหน้าขึ้นไปมอง ทันใดนั้น สีหน้าของผู้เล่นเ่าั้ก็ตื่นตระหนกราวกับถูกงูพิษฉกกัด พวกเขาสะดุ้งโหยง และรีบวิ่งตรงไปยังประตูเมืองอย่างบ้าคลั่งปากก็พร่ำด่าไปตลอดทาง
"เชรด... ฝนอุกกาบาตน้องสาวนายสิ...ถึงกับมีฝนอุกกาบาต ครอบครัวนายมีฝนอุกกาบาตหรือไง... นี่มันเวทโจมตีระดับสูง ''ฝนอุกกาบาต'' ถูกศัตรูโจมตีแล้ว เ้าพวกโง่ ถ้าวิ่งหนีไม่ทันก็นอนรอความตายอยู่ที่นี่เถอะ..."หลังจากคำพูดของชายคนดังกล่าว ราวกับทำลายความลับ์ ผู้คนจำนวนมากต่างก็พบว่ามีบางอย่างผิดปกติ ก้อนหินที่ปกคลุมด้วยเปลวไฟพุ่งเป็สายตรงเข้าหาเมืองลิงสิ้นเสียงะโที่ดังขึ้น ทุกคนที่ไม่อยากตายต่างก็มุ่งหน้าวิ่งตรงไปยังประตูเมือง
ที่ประตูเมืองกลายเป็ความสับสนอลหม่านเกิดความวุ่นวายขึ้นโดยพลัน
บึ้ม!
อุกกาบาตลูกแรกพุ่งเข้าใส่ร้านค้าพังทลายคล้ายกับทะลุผ่านเยื่อกระดาษทำให้ร้านค้าดังกล่าวกลายเป็เศษซากชิ้นเล็กชิ้นน้อยในทันทีพื้นดินสั่นไหวะเืเลื่อนลั่น และตามมาด้วยเปลวไฟลุกโหมกระพือ
หลังจากที่อุกกาบาตตกลงมาลูกแล้วลูกเล่าก็เกิดเสียงดังะเิขึ้นตามมา บ้านเรือนพังเสียหายแทบจะในทันที ฝุ่นควันลอยฟุ้งพุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้าบ้างก็ตกใส่พื้นดินจนกลายเป็หลุมั์ขนาดใหญ่พื้นผิวบริเวณดังกล่าวไหม้เกรียมด้วยความร้อนจนกลายเป็ถ่านเถ้าส่งกลิ่นเหม็นไม่พึงประสงค์ออกมา
ผู้คนในเมืองลิงก็ไม่ได้คาดฝันว่าจะประสบกับหายนะที่ร่วงหล่นมาจากท้องฟ้าอุกกาบาตนั้นพุ่งเข้ามาอย่างรวดเร็วและรุนแรงมากโดยที่พวกเขานั้นไม่ได้เตรียมตัวไว้ก่อนเลยบางคนก็ถูกฆ่าตายคาที่จนกลายสภาพเป็หลุมเนื้อและโคลนเหลวบ้างก็ตายเพราะถูกสิ่งปลูกสร้างทับ บางคนก็ถูกไฟเผาจนกลายเป็เถ้าถ่านบ้างก็สำลักฝุ่นควัน ทำให้ผู้คนจำนวนไม่น้อยต่างก็ตื่นตระหนกวิ่งหนีออกจากบ้านไปบนถนน บ้างก็วิ่งหาที่หลบภัย แต่โชคไม่ดีนักที่ภัยธรรมชาตินั้นมักจะโเี้ไร้ความปรานีไม่ว่าจะอยู่ ณ ที่แห่งใด ก็ถูกอุกกาบาตสังหารสิ้น เสียงร้องไห้ระงมไปทั่วพร้อมกับเสียงกรีดร้องด้วยความหวาดกลัว
มองดูพวกเขาที่มีท่าทีตื่นตระหนก และมีแต่ความสิ้นหวังราวกับว่าวันสิ้นโลกได้มาถึงก็มิปาน
มีผู้เล่นที่ฉลาดหลายคนคิดที่จะออฟไลน์ออกจากเกมแต่ปรากฏว่าไม่สามารถทำได้ เนื่องจากระบบแจ้งเตือนว่า กำลังอยู่ในการโจมตีของศัตรูจึงไม่สามารถออฟไลน์ออกไปได้ ผลก็คือ ผู้เล่นเ่าั้พากันสาปแช่งด้วยความโกรธโดยไม่รู้ด้วยซ้ำว่าศัตรูคือใครกัน
ในขณะเดียวกันผู้เล่นที่อยู่ห่างออกไปไม่ไกลนักจากเมืองลิงก็ได้รับเกียรติที่จะได้รับชมเหตุการณ์ที่น่าประทับใจของฝนอุกกาบาตด้วยความเพลิดเพลินที่เห็นได้อย่างชัดเจนจนน่าตกตะลึงในเวลากลางวันเช่นนี้ โดยแทบไม่จำเป็ต้องใช้กล้องส่องทางไกลเส้นโค้งที่วาดขึ้นกลางท้องฟ้าของอุกกาบาตนั้นดูงดงามราวกับดอกไม้ไฟที่พวยพุ่งทำให้ผู้ที่ได้พบเห็นประทับใจไม่รู้ลืม
แต่ถึงอย่างนั้นพวกเขาก็ไม่ได้คาดว่าผู้เล่นทั้งหลายที่อยู่ภายใต้ฝนอุกกาบาติที่โปรยปรายลงมานี้จะต้องทนทรมานจากภัยพิบัติที่ไม่ต่างจากหายนะในครั้งนี้
ถ้าในเวลานี้มีใครบางคนที่อยู่สูงขึ้นไปในอากาศเขาก็จะพบว่าอุกกาบาตที่กำลังลุกไหม้อยู่นี้ไม่ต่างอะไรกับหยดน้ำฝนสีแดงก่ำทุกหยดที่หล่นลงสู่พื้นดินก็จะเบ่งบานออกเป็ดอกไม้ที่แตกต่างกัน มีหลากหลายสีสันและมีขนาดที่แตกต่างกัน คงไม่มีใครที่จะปฏิเสธว่าสิ่งนี้ช่างดูสวยงามจนน่าประหลาดใจ
เพียงไม่กี่นาทีต่อมาหลังจากการทำลายล้างอย่างต่อเนื่องของ ''ฝนอุกกาบาต'' ทำให้ฝุ่นและควันฟุ้งกระจายลอยอยู่ในอากาศเป็จำนวนมากจนทำให้ท้องฟ้านั้นกลายเป็มืดครึ้มผู้เล่นที่หลบอยู่ใต้ดินต่างก็ใจนมือไม้อ่อนทำอะไรไม่ถูก ได้แต่กรีดร้องด้วยความหวาดกลัวบนถนนก็เต็มไปด้วยความชุลมุนวุ่นวายมีผู้คนจำนวนไม่น้อยที่ถูกเหยียบจนตายในระหว่างที่กำลังหลบหนีเนื่องจากมีแต่ผู้หญิงเป็ส่วนใหญ่ เวลาที่เผชิญหน้ากับหายนะความอ่อนแอของผู้หญิงก็เผยออกมาให้เห็นอย่างไม่ต้องสงสัย
การะเิดังขึ้นอย่างต่อเนื่องเปลวเพลิงก็ยังคงโหมลุกไหม้ หายนะในครั้งนี้ดูราวกับจะไม่มีวันสิ้นสุดลง
"รายงาน : ศัตรูกำลังบุกเข้ามาตอนนี้เรากำลังโดนโจมตีอย่างหนัก..." เ้าหน้าที่หน่วยข่าวกรองกำลังรีบเร่งจึงะโขึ้นจากที่ห่างไกล แต่ในขณะที่กำลังวิ่งไปถึงประตูห้องโถงเสียงก็หยุดลงทันที เพราะสมาชิกระดับกลางและระดับสูงทั้งหลายรวมถึงหัวหน้าหลวีเซ่อจีกวงเองก็หยุดยืนอยู่ที่ทางเดินพวกเขาในเวลานี้สามารถมองเห็น ''ฝนอุกกาบาต'' ตกลงในเมืองกว่าครึ่งได้อย่างชัดเจน
"ไสหัวไป" หลวีเซ่อจีกวงโบกมือไล่ด้วยความหงุดหงิดราวกับไล่แมลงวันที่น่ารำคาญตัวหนึ่ง
เ้าหน้าที่หน่วยข่าวกรองถึงกลับนิ่งงันก่อนจะรีบหมอบคลาน และถอยออกไปอย่างรวดเร็ว
"เวทมนตร์ระดับสูงสุดทำไมถึงเป็เวทระดับสูงสุดไปได้" หลวีเซ่อจีกวงสีหน้าเปลี่ยนไปจนดูไม่ได้ก่อนจะส่งเสียงคำรามอยู่ในลำคอ
"ก่อนหน้านี้เพื่อจัดการกับกองทหารรับจ้างหมาป่าโลหิต เมามายซบตักสาวงามก็ใช้เวทมนตร์ระดับสูงสุด''เปลวเพลิงแห่งนรกโลกันตร์'' มาแล้ว"ไม่คิดว่าเขายังคงมีเวทมนตร์ระดับสูงสุดอยู่ในมืออีกรองหัวหน้ากิลด์ได้แต่บ่นพึมพำขึ้น
หัวหน้าแท่นบูชาทั้งหลายถึงกับหน้าถอดสีในขณะมองดูบ้านเกิดของพวกเขากำลังถูกทำลายด้วยฝนอุกกาบาต ด้วยความรู้สึกราวกับถูกมีดกรีดเข้าที่กลางใจแต่ก็ไม่มีใครที่จะเสนอความคิดสำหรับการแก้ไขขึ้นมาเพราะในเวลานี้ทั้งระดับเลเวลและอุปกรณ์ของผู้เล่นทั้งหลายนั้นไม่สามารถรับมือกับเวทระดับสูงสุดนี้ได้ถ้าพวกเขาออกไป ผลลัพธ์ก็คงมีอยู่แค่อย่างเดียว นั่นก็คือความตายต่อให้กระตุ้นการป้องกันของตราคำสั่งสร้างเมือง ผลลัพธ์ที่ได้ก็คงไม่ต่างกัน
"พวกเราจะทำอย่างไรกันดี?" รองหัวหน้าอีกคนได้ถามขึ้น
"ตาต่อตา ฟันต่อฟัน"อู้โหยวเสี่ยวเต้าขบกรามแน่นขณะพูด ระดับการตัดสินใจเลื่อนไปที่สูงสุดเขาถูกสังหารถึงสองครั้ง ทำให้ความแข็งแกร่งลดลงทันที เื่ที่เกิดขึ้นทำให้เขานั้นยากที่จะลืมทำให้ความเกลียดชังยิ่งฝังแน่นเข้ากระดูกดำ
"ตาต่อตา ฟันต่อฟันเืต้องล้างด้วยเื" หัวหน้าแท่นบูชาทั้งสี่ต่างมีความเห็นตรงกันในเื่การแก้แค้น
เวลานี้รองหัวหน้ากิลด์ที่รับผิดชอบในเื่การป้องกัน เริ่มมีสีหน้าที่เปลี่ยนไปก่อนจะเอ่ยขึ้นอย่างหวาดกลัวว่า "หัวหน้า ท่าไม่ดีแล้วพลังป้องกันของประตูเมืองตอนนี้ลดลงเหลือแค่ 40% แล้วมีความเป็ไปได้ว่าจะถูกทำลาย"
ซี๊ดดดดด...
รองหัวหน้ากิลด์ทั้งหลายถึงกับต้องซู้ดปากถ้าเกิดประตูเมืองพังลงมา กิลด์ต้นไม้ทงเทียนก็คงต้องเสียหน้ามากเป็แน่ซึ่งแตกต่างจากกำแพงเมืองที่มีความเสียหายบางส่วนประตูเมืองนั้นไม่สามารถสูญเสียได้ นี่เป็สิ่งที่บ่งบอกว่า กองกำลังนี้จะสามารถยืนหยัดขึ้นในเกมได้หรือไม่
หลวีเซ่อจีกวงก็พลันมีสีหน้าซีดเผือดลงหลังจากนั้นไม่กี่วินาที เขาก็เงยหน้าขึ้นและเอ่ยด้วยน้ำเสียงโเี้ว่า"ส่งผู้ใช้เวทออกไปร่ายเวทป้องกันประตูไว้ เพื่อให้แน่ใจว่าประตูเมืองยังคงปลอดภัยอยู่"
รองหัวหน้ากิลด์สีหน้าเปลี่ยนไปอีกครั้งเวลานี้เขามีความลังเลอยู่บ้าง แต่ก็ไม่ได้พูดสิ่งใดก่อนเดินจากไปเมื่อเทียบกับประตูเมืองแล้ว ชีวิตของผู้ใช้เวททั้งหลายก็ดูจะไม่สำคัญ
หลวีเซ่อจีกวงเอ่ยปากอีกครั้งก่อนจะสั่งการให้หัวหน้าแท่นบูชาทั้งห้า"แจ้งพี่น้องของเราทุกคนให้เตรียมทำศึก เราจะตัดรากถอนโคนฉินหวังกรุ๊ป"
"ครับ"หัวหน้าแท่นบูชาทั้งห้าต่างก็ตอบขึ้นอย่างพร้อมเพรียงในใจรู้สึกตื่นเต้นเป็อย่างมาก
เป็สิบนาทีที่รู้สึกยาวนานมาก ในที่สุด ''ฝนอุกกาบาต'' ก็หยุดลง รองหัวหน้ากิลด์ที่หลบอยู่ด้านหลังหลวีเซ่อจีกวง ต่างก็ถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก
มันหยุดแล้ว... ในที่สุดก็จบลงเสียที
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้