บทที่ 10 : หินวัดพลังะเิ และอัจฉริยะในตำนาน
รุ่งเช้ามาเยือนเมืองเมฆาหยกไวกว่าที่คิด
แสงแดดอ่อนๆ สาดส่องเข้ามาในห้องรับรอง ปลุก แป้งหอม และ ต้นกล้า ให้ตื่นขึ้นมาพร้อมกับอาการหาวหวอดๆ เพราะเมื่อคืนมัวแต่วิ่งไล่จับโจรกันจนเกือบเช้า
หลังจากจัดการศพนักฆ่า (ด้วยการโยนลงคลองระบายน้ำ... วิธีการสุดคลาสสิกของหนังมาเฟีย) ทั้งคู่ก็แอบย่องกลับเข้าห้องนอนโดยไม่มีใครจับได้
"ท่านย่าเ้าคะ... ป้ายหยกนี้ ท่านพอจะคุ้นตาบ้างไหม?"
บนโต๊ะอาหารมื้อเช้า ต้นกล้าตัดสินใจหยิบป้ายหยกรูปงูพันกระบี่ออกมาวางกลางโต๊ะ
ท่านย่าหลิวชะงักตะเกียบที่กำลังคีบซาลาเปา ใบหน้าเหี่ยวย่นซีดเผือดลงทันตา
"นี่มัน... ป้ายของ 'สำนักงูเงา'!" นางอุทานเสียงสั่น "สำนักมือสังหารที่โเี้ที่สุดในยุทธภพ... พวกเ้าไปได้มาจากไหน?"
"เอ่อ... เก็บได้แถวๆ รั้วบ้านเมื่อคืนขอรับ" ต้นกล้าโกหกหน้าตาย (สกิลการแถเริ่มพัฒนา) "สงสัยคงมีใครทำตกไว้"
"งูเงา..." หลิวชิงชิงกำหมัดแน่น ดวงตาฉายแววโกรธแค้น "พวกมันรับจ้างฆ่าคนโดยไม่สนผิดถูก... ต้องเป็ฝีมือของ 'คนคนนั้น' แน่ๆ ที่จ้างพวกมันมาดักปล้นเราเมื่อวาน"
แม้ไม่ได้เอ่ยชื่อ แต่ทุกคนในโต๊ะก็รู้ดีว่าหมายถึงใคร... โจวเฟิง คู่หมั้นจอมกร่างคนนั้น
"ช่างเถอะเ้าค่ะ เื่เครียดเอาไว้ก่อน..." แป้งหอมรีบตัดบทเมื่อเห็นบรรยากาศเริ่มมาคุ "วันนี้ข้ากับท่านพี่... เอ้ย ท่านพี่เทียนกล้า อยากจะออกไปเดินชมเมืองสักหน่อย ท่านย่าอนุญาตไหมเ้าคะ?"
"ได้สิ! ได้เลย!" ท่านย่าหลิวรีบหยิบถุงผ้ากำมะหยี่หนักอึ้งออกมาวางตรงหน้า "นี่คือเบี้ยหวัดเล็กน้อย ถือเป็ค่าขนมนะจ๊ะหลานรัก... ไปเปิดหูเปิดตาเถอะ"
แป้งหอมตาโต รับถุงมาเปิดดู... ข้างในเต็มไปด้วยเหรียญเงินและเหรียญทอง!
‘โอ้โห... ป๋ามากแม่! นี่มันเทียบเท่าบัตรเครดิตรูดปรื๊ดเลยนะเนี่ย!’
...
จัตุรัสกลางเมืองเมฆาหยก
บรรยากาศในเมืองวันนี้คึกคักยิ่งกว่าเมื่อวาน ผู้คนหลั่งไหลมารวมตัวกันที่ลานกว้างหน้าอาคารทรงสูงที่เขียนป้ายว่า 'หอทดสอบปราณ'
แป้งหอมเดินกินถังหู (ผลไม้เคลือบน้ำตาล) อย่างมีความสุข มือข้างหนึ่งควงแขนต้นกล้าไว้กันหลง (หรือฉวยโอกาสก็ไม่แน่ใจ)
"คนเยอะจัง เขามาทำอะไรกันอะ?" แป้งหอมถามทั้งที่เคี้ยวตุ้ยๆ
"ป้ายเขียนว่า... 'ทดสอบรากิญญาประจำปี' " ต้นกล้าอ่านป้ายภาษาจีนโบราณที่เขาพอจะแกะความหมายได้ (สกิลภาษาจากการอ่านนิยายจีนแปลเริ่มทำงาน) "น่าจะเป็การวัดค่าพลังเหมือนพวกสอบเข้ามหาลัยมั้ง"
"วัดพลังเหรอ!?" แป้งหอมตาเป็ประกาย "น่าสน! เราไปลองกันบ้างไหมกล้า? อยากรู้ว่าไอ้น้ำเขียวๆ ที่กินเข้าไป มันทำให้เราเทพแค่ไหน"
"ก็ดีเหมือนกัน... รู้เขารู้เรา รบร้อยครั้งชนะร้อยครั้ง" ต้นกล้าพยักหน้า
ทั้งคู่พยายามแทรกตัวเข้าไปในฝูงชน จนกระทั่งไปถึงหน้าเวทีหินอ่อนสีขาว
ตรงกลางเวทีมีศิลาสีดำขนาดใหญ่ตั้งตระหง่านอยู่ มันดูเหมือนหินอุกกาบาตที่มีลวดลายเรืองแสง
บนเวทีนั้น... ชายหนุ่มในชุดสีม่วงฉูดฉาดกำลังยืนเก๊กท่าด้วยความมั่นใจ
ไม่ใช่ใครที่ไหน... โจวเฟิง โจทย์เก่าเ้าประจำ!
"ดูนั่น! คุณชายโจวกำลังจะทดสอบ!" เสียงชาวบ้านซุบซิบ
"ได้ยินว่าเขาบรรลุขั้นรวบรวมลมปราณระดับ 5 แล้วนะ อัจฉริยะจริงๆ!"
โจวเฟิงแสยะยิ้ม วางมือลงบนหินสีดำ
"ย้าก!"
วูบ!
แสงสีเหลืองนวลส่องสว่างออกมาจากหิน ความเข้มข้นปานกลาง
ผู้าุโคุมสอบพยักหน้า "รากิญญาธาตุดิน ระดับกลาง... ผ่าน! มีคุณสมบัติเข้าสำนักเมฆาได้!"
"เฮ้!!!" เสียงโห่ร้องยินดีดังลั่น โจวเฟิงยืดอกอย่างภูมิใจ ก่อนจะกวาดสายตาลงมาเห็นต้นกล้าและแป้งหอมที่ยืนอยู่หน้าสุด
"อ้าว... นึกว่าใคร" โจวเฟิงะโผ่านไมค์... เอ้ย ผ่านลมปราณขยายเสียง "ไอ้พวกขอทานตระกูลหลิวนี่เอง! กล้าเสนอหน้ามาที่หอทดสอบด้วยรึ? นึกว่าเก่งแต่ซ่อมรถม้ากับกินล้างกินผลาญ!"
คนทั้งลานหันมามองเป็ตาเดียว แป้งหอมกำหมัดแน่น ถังหูในมือแทบหัก
"หนอย... ไอ้ปากปีจอ! เดี๋ยวแม่ปาไม้เสียบลูกชิ้นใส่หน้าเลย!"
"ใจเย็นแป้ง..." ต้นกล้าแตะไหล่เธอเบาๆ แล้วก้าวขึ้นบันไดเวทีไปอย่างช้าๆ ท่าทางสงบนิ่งราวกับผิวน้ำ
"ข้าไม่ได้มาเพื่อฟังเสียงสุนัขเห่า..." ต้นกล้าพูดเสียงเรียบ แต่ก้องกังวานไปทั่วลาน "แต่ข้ามาเพื่อทดสอบว่า... มาตรฐานของ 'อัจฉริยะ' เมืองนี้ มันต่ำเตี้ยเรี่ยดินขนาดไหนต่างหาก"
"อุ๊บ..." แป้งหอมหลุดขำ
‘โอ้โห... ปากแซ่บกว่าฉันอีก! พ่อคนดีศรีสังคมด่าเจ็บมาก!’
โจวเฟิงหน้าแดงก่ำด้วยความโกรธ "เ้า! ปากดีนัก! ถ้าเ้าทดสอบแล้วไม่มีรากิญญา ข้าจะให้เ้าคลานลอดหว่างขาข้าออกจากเมืองนี้!"
"ตกลง" ต้นกล้าตอบรับทันที "แต่ถ้าข้ามี... เ้าต้องถอดชุดลิเกสีม่วงนั่น แล้ววิ่งรอบเมืองะโว่า 'ข้าคือไอ้โง่' สามรอบ... กล้าไหม?"
"จะ... จัดไป! ข้ารับคำท้า!"
บรรยากาศตึงเครียดจนแทบหยุดหายใจ ชาวบ้านต่างกลั้นหายใจลุ้นระทึก
ต้นกล้าเดินไปหยุดหน้าศิลาวัดพลัง
เขามองสำรวจหินนั้นด้วยสายตาเด็กวิทย์
‘โครงสร้างผลึก... การนำไฟฟ้า... ถ้ากระตุ้นด้วยพลังงานจลน์ผสมกับพลังงานความร้อนในตัว...’
เขายื่นมือเรียวยาวออกไป แตะลงบนผิวหินเบาๆ
ไม่ได้ะโ "ย้าก" เหมือนโจวเฟิง
แค่แตะ... แล้วปล่อยพลังงานที่หมุนวนอยู่ในท้องน้อยออกไป
1 วินาทีผ่านไป... เงียบกริบ
โจวเฟิงเริ่มแสยะยิ้ม "หึ... ขยะก็คือข..."
ตู้มมมมมมม!
คำพูดของโจวเฟิงถูกกลืนหายไปกับเสียงะเิของแสง!
ไม่ใช่แสงสีเหลือง สีแดง หรือสีฟ้า...
แต่เป็ ลำแสงสีทองอร่าม ที่พุ่งเสียดฟ้าขึ้นไปทะลุเมฆ! ความสว่างจ้าจนทุกคนต้องยกมือบังตา พื้นดินสั่นะเืเลื่อนลั่น หินวัดพลังสั่นระริกราวกับจะแตกเป็เสี่ยงๆ
"นะ... นี่มัน..." ผู้าุโคุมสอบตาถลน ขากรรไกรค้าง "รากิญญาธาตุทอง... ระดับตำนาน! แถมยังมีความบริสุทธิ์เต็มสิบส่วน! ์! นี่มันอัจฉริยะในรอบพันปี!"
แสงสีทองค่อยๆ จางลง เผยให้เห็นต้นกล้ายืนเอามือล้วงกระเป๋ากางเกง (ถ้ามี) ทำหน้านิ่งๆ เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
"ก็... สว่างดีนะครับ ใช้แทนหลอดไฟได้เลย"
แป้งหอมที่ยืนอยู่ด้านล่าง กรี๊ดกร๊าดะโโลดเต้น
"กรี๊ดดดด! ผัว... เอ้ย! เพื่อนฉันเก่งที่สุด! เห็นไหมไอ้ม่วง! เห็นไหม!"
โจวเฟิงยืนตัวแข็งทื่อ หน้าซีดเป็ไก่ต้ม ขาสั่นพั่บๆ
"เป... เป็ไปไม่ได้..."
"ตาเธอแล้วแป้ง" ต้นกล้ากวักมือเรียก "ขึ้นมาเลย"
แป้งหอมรีบวิ่งขึ้นเวทีอย่างมั่นใจ เธอหันไปยักคิ้วให้โจวเฟิงหนึ่งที แล้ววางมือป้อมๆ (ที่ตอนนี้เรียวสวยแล้ว) ลงบนหิน
ครืนนนนน!
คราวนี้ไม่ใช่สีทอง... แต่เป็ แสงสีฟ้าครามใสกระจ่าง ที่เย็นะเืจนเกล็ดน้ำแข็งเกาะไปทั่วเวที!
อุณหภูมิในลานกว้างลดฮวบลงจนคนดูปากสั่น
"รากิญญาเหมันต์! ธาตุพิเศษหายาก!" ผู้าุโแทบจะเป็ลม "แถมยังบริสุทธิ์เต็มสิบส่วนอีกคน! วันนี้มันวันวิปโยคหรือวันมงคลกันแน่เนี่ย!"
แป้งหอมชักมือกลับ รู้สึกสะใจจนบอกไม่ถูก
เธอหันไปหาโจวเฟิงที่ตอนนี้ลงไปนั่งกองกับพื้นแล้ว
"อ้าว... คุณชายโจว ชุดสีม่วงสวยดีนะ ถอดเลยสิ... หรือจะให้ช่วยถอด?"
โจวเฟิงหน้าเสีย รีบตะเกียกตะกายลุกขึ้นวิ่งหนีฝ่าฝูงชนไปอย่างไม่คิดชีวิต
"ฝากไว้ก่อนเถอะ! พวกปีศาจ!"
ชาวบ้านต่างส่งเสียงโห่ไล่ตามหลัง แล้วหันมาปรบมือเชิดชูสองอัจฉริยะคนใหม่ดังสนั่นหวั่นไหว
ต้นกล้าและแป้งหอมยืนเคียงคู่กันบนเวที ท่ามกลางแสงแดดและเสียงชื่นชม
แป้งหอมเงยหน้ามองต้นกล้า ยิ้มกว้างจนตาหยี
"พวกเรานี่มัน... เทพจริงๆ ด้วยแฮะ"
ต้นกล้ายิ้มตอบ เอื้อมมือมาลูบหัวเธอเบาๆ ต่อหน้าธารกำนัล (ทำเอาสาวๆ แถวนั้นอกหักดังเปราะ)
"เก่งมาก... ยัยหมูตอนของฉัน"
"นี่! หยุดเรียกหมูตอนได้แล้วนะ! เดี๋ยวแม่แช่แข็งซะเลย!"
แป้งหอมแง่งอน แต่แก้มแดงระเรื่อ
ในขณะที่ทุกคนกำลังเฉลิมฉลอง... ไม่มีใครสังเกตเห็นชายชราในชุดคลุมสีเทาเก่าๆ ที่ยืนอยู่บนยอดตึกฝั่งตรงข้าม
ดวงตาฝ้าฟางจ้องมองมาที่ทั้งคู่ด้วยความสนใจ
"รากิญญาทองคำและเหมันต์บริสุทธิ์... แถมยังมาจากต่างมิติ..."
ชายชราลูบเครายาวสีขาว ยิ้มมุมปาก
"ดูท่า... โรงเรียนเซียนฟ้าคำรามปีนี้ คงจะมีเื่สนุกให้ดูแล้วสิ"
