บทที่ 43 จับผีสาวมาด้วย
พอเห็นรอยยิ้มของผีสาว เย่จื่อเฉินก็ถึงกับตะลึงงัน
ทำไมผีสาวถึงได้น่ารักขนาดนี้ แบบนี้มันไม่ยุติธรรมเลย
พรึบ
ผีสาวเมื่อเห็นอาการของเย่จื่อเฉินจึงลอยขึ้นไปบนเพดานรถ สองมือยกขึ้นบังไว้ข้างหน้าแล้วขมวดคิ้วมุ่น
"นายจะทำอะไร อย่ามาคิดมิดีมิร้ายกับฉันนะ"
"เธอลงมาเถอะ"
เย่จื่อเฉินยกมือขึ้นจับข้อเท้าของผีสาวพร้อมกับดึงเธอลงมา รถมันก็คันแค่นี้เธอจะไปหลบอยู่ตรงไหนได้
"นายจะทำอะไร ขอบอกไว้เลยนะ ฉันคือผีสาวเวอร์จิน ถ้านายคิดเอาเปรียบฉันนายซวยหนักแน่"
ผีสาวทำหน้าคาดโทษ ท่าทางแบบนั้นเหมือนกับว่าเย่จื่อเฉินจะทำอะไรเธอจริงๆ
"ฉันว่านะเพื่อนผี เราสองคนมันอยู่กันคนละขั้ว เธออย่าหลงตัวเองเกินไปจะดีกว่าไหม? รอบตัวฉันยังมีสาวๆ รอให้ฉันไปจีบอีกตั้งเยอะ!"
ด้วยกลัวว่าผีสาวจะไม่เชื่อ เย่จื่อเฉินจึงหยิบโทรศัพท์ออกมาเปิดหน้าหลักของซูเหยียน
...
ไม่ใช่ว่าบล็อกกันไปแล้วนะ
ไม่มีข่าวคราวใดๆ ในหน้าหลักของซูเหยียนเลย เขาจึงลองส่งข้อความไปดู
hello!
เปิดการยืนยันความเป็เพื่อน คุณยังไม่ได้เป็เพื่อนกับอีกฝ่าย
กรุณาทำการส่งคำขอยืนยันความเป็เพื่อน...
"ฮ่าฮ่าฮ่า โดนเขาลบไปแล้ว!"
ผีสาวหัวเราะชนิดที่ว่าอย่าให้พูดเลยว่ามีความสุขขนาดไหน เย่จื่อเฉินทำมือเป็เชิงบอกว่ารอเดี๋ยว จากนั้นจึงเลื่อนเปิดหน้าหลักของเซี่ยเขอเข่อ
เฮ้ คราวนี้ไม่ได้ลบ
"ดูสิ!"
เย่จื่อเฉินพลิกโทรศัพท์มา แต่ผีสาวตนนั้นกลับอึ้งไป
"เขอเข่อ"
"เธอรู้จักเหรอ?"
เย่จื่อเฉินเบิกตาโต และเห็นว่าผีสาวนั้นเผยรอยยิ้มโศกเศร้าออกมาจางๆ
"เขาสบายดีไหม?"
ดูท่าว่าผีสาวตนนี้จะรู้จักเซี่ยเขอเข่อจริงๆ
"สบายดี ตอนนี้เป็ดาวมหาลัยเทคโนโลยีปิงเฉิง"
"ดีจังเลย" ผีสาวเผยรอยยิ้มออกมาจางๆ แล้วพูด "ก่อนหน้านี้พวกเราเคยพูดไว้ว่าจะเข้ามหาลัยเทคโนโลยีปิงเฉิงด้วยกัน ไม่คิดเลยว่าเธอจะเข้ามหาลัยนี้จริงๆ จริงสิ ฉันเป็เพื่อนสนิทเซี่ยเขอเข่อ"
เย่จื่อเฉินกลืนน้ำลายอัตโนมัติ แล้วลูบแขนตัวเอง
บอกตามตรงเลยว่าเขาขุนลุกไปหมดแล้ว
ผีสาวคนนี้รู้จักกับเซี่ยเขอเข่อ แถมสองคนนี้ยังสัญญาว่าจะเข้ามหาวิทยาลัยเดี๋ยวกันก่อน
โดยเฉพาะการที่ทั้งคู่สัญญากันไว้ว่าจะเข้ามหาวิทยาลัยเทคโนโลยีปิงเฉิงด้วยกัน
จึงมั่นใจได้ว่าตอนที่พวกเธอรู้จักกันคือตอนมัธยมปลาย
เนื่องจากเด็กชั้นมัธยมต้นนั้นจะมีมหาวิทยาลัยอยู่ในหัวพวกเขาแค่ไม่กี่ที่เท่านั้น...
"ฉันขอถามหน่อยได้ไหมว่าเธอตายเมื่อไร?"
"สองปีก่อน ก่อนสอบเข้ามหาลัย"
ใบหน้าของผีสาวเต็มไปด้วยรอยยิ้ม แต่รอยยิ้มนั้นมันกลับขมขื่นจนไม่สามารถพูดออกมาได้
ตึก
เย่จื่อเฉินวางมือตรงหน้าอก หายใจเข้าซ้ำๆ อยู่หลายครั้ง
เขามีลางสังหรณ์
เขาพบเจอเื่ที่ไม่ธรรมดาเข้าแล้ว
เื่เกิดก่อนสอบเข้ามหาวิทยาลัย...
ยังไม่สิ้นอายุขัย
เขาฆ่า!
ขนลุกซู่ขึ้นมาทั้งตัว เย่จื่อเฉินตั้งสติสลัดความคิดในใจออกไป เพื่อให้ตัวเองสงบลง
"กลับไปที่เื่เดิม เธอดูหน่อยว่ามีตรงไหนตามตัวฉันที่เธอสามารถอาศัยอยู่ได้บ้าง ต่อไปนี้เธอก็มาอยู่กับฉัน เธอกับเซี่ยเขอเข่อเป็เพื่อนสนิทกันไม่ใช่เหรอ มาอยู่กับฉันเธออาจจะได้เจอเขาก็ได้นะ"
"จำเป็เหรอ?" ผีสาวยิ้มพร้อมกับส่ายหน้า "ต่อให้เจอกัน แล้วพวกเราจะคุยกันเหมือนฉันกับนายได้เหรอ?"
เย่จื่อเฉินรู้ดีว่ามันเป็ไปไม่ได้
ที่เขาสามารถมองเห็นผีสาวตนนี้ได้ก็เพราะว่าเนตรอัคคีของซุนหงอคง เซี่ยเขอเข่อเป็แค่คนธรรมดา แล้วจะไปมองเห็นได้ยังไง
คนกับผี อย่างไรพวกเขาก็ไม่ใช่คนที่เดินอยู่บนถนนสายเดียวกัน
แต่เขาเห็นความหวังในดวงตาของผีสาวตนนี้
"ได้สิ!"
เย่จื่อเฉินยิ้มแล้วพูดขึ้น
ผีสาวมีสีหน้าใ เย่จื่อเฉินพูดต่อ "เชื่อฉัน มีเื่แปลกประหลาดเกิดขึ้นรอบตัวฉันมากมาย อย่างเช่นตอนนี้ที่ฉันมองเห็นเธอ เธอมาอยู่กับฉัน ฉันทำให้เธอเกิดใหม่ได้"
"นายโกหก เื่ที่แม้แต่คุณตากู่ก็ยังทำไม่ได้ นายไม่มีทางทำได้!"
"ฉันไม่รู้หรอกนะว่าคุณตากู่ที่เธอพูดถึงเขาเป็ใคร แต่ฉันไม่ใช่เขา อย่าเอาเขามาตัดสินฉันสิ"
เย่จื่อเฉินหรี่ตาลง เขาไม่รู้ว่าคุณตากู่คนนั้นเป็ใคร แต่มองเห็นผีได้ก็ต้องเป็ยอดมนุษย์แน่นอน
แต่พลังสูงแล้วยังไง เขามีเป็กลุ่มเลยนะ!
ในกลุ่มนั้นเป็เทพเซียนกันทั้งนั้น
เพื่อทำให้ผีสาวมีความหวังขึ้นมาใหม่ เย่จื่อเฉินจึงเสี่ยงโยนะุปืนออกไปอีกครั้ง
"ฉันรับรองเลยว่าฉันสามารถทำให้เธอฟื้นคืนชีพขึ้นมาได้ จะทำให้เธอได้เจอพ่อแม่และเพื่อนของเธออีกครั้ง..."
ฟื้นคืนชีพ
ร่างของผีสาวสั่นเทิ้มขึ้นมาอย่างรุนแรง เธอขบกัดริมฝีปากเต็มแรง บีบมือสองข้างเข้าหากันแน่น
"ที่ตัวนายมีของอยู่สิ่งหนึ่งที่สามารถให้ฉันอาศัยอยู่ได้"
"เธอชี้เลย"
"ฉันหาไม่เจอ แต่ฉันรู้สึกถึงมันได้"
เย่จื่อเฉินนึกขึ้นมาได้ทันที เขาเลื่อนเปิดหีบสมบัติในโทรศัพท์ แล้วเอาเนตรัที่ไม่รู้ว่าใช้งานยังไงออกมา
"ใช่ไอ้นี่ไหม?"
"ใช่"
สิ้นเสียงผีสาวก็ม้วนตัวหายเข้าไปในเนตรั หลังจากที่เธอเข้าไปแล้ว เนตรัสีขุ่นอันนั้นก็หดตัวเล็กลงอย่างรวดเร็วจนมีขนาดเท่าลูกแก้ว
้าลูกแก้วก็ยังเปล่งแสงสว่างสีขาวด้วย
"ในนี้เหมาะที่จะให้ฉันอยู่มาก มันหล่อเลี้ยงิญญาของฉันได้" ในน้ำเสียงของผีสาวมีความดีใจอยู่ แต่เพียงครู่เดียวเธอก็เปลี่ยนมาเป็น้ำเสียงหนักแน่นอีกครั้ง "นายช่วยฉันแก้แค้นได้จริงๆ เหรอ? ขนาดนั้นคุณตากู่ยัง..."
"ฉันบอกแล้วไง ฉันก็คือฉัน เชื่อฉัน"
เย่จื่อเฉินััเนตรัที่เปล่งแสงสว่างนั้นแ่เบา เนตรัสว่างจ้าขึ้นมาเล็กน้อย ราวกับว่าผีสาวกำลังยิ้มอยู่
"โอเค ฉันเชื่อนาย บอกชื่อนายมา"
"เย่จื่อเฉิน"
"สวัสดี ฉันชื่อหลิวฉิง"
กลับมาถึงมหาวิทยาลัยตอนหอกำลังจะปิดพอดี เย่จื่อเฉินรีบพุ่งเข้าไปตอนที่ประตูจะปิด ภายในห้องพักกลุ่มชายฉกรรจ์กำลังถอดเสื้อผ้ากันอยู่
"นี่ ทำไมนายถึงพาฉันมาที่แบบนี้"
เพิ่งเข้ามาในห้อง หลิวฉิงที่อยู่ในกระเป๋าก็เริ่มโวยวาย เย่จื่อเฉินใช้มือตบที่เนตรัเบาๆ แล้วพูดเสียงต่ำ
"หอชายมันก็แบบนี้แหละ ถ้าเธอไม่อยากเห็น เธอก็อยู่ในเนตรัไปนิ่งๆ"
"ฉันก็แค่อยากรู้นี่ ฉันไม่เคยมามหาลัยเลยนะ ขอตอบสนองความพอใจของตัวเองหน่อยก็ไม่ได้"
"'งั้นเธอก็อย่าเป็กระต่ายตื่นตูม"
"จื่อเฉิน ทำไมไปยืนพูดอยู่คนเดียว?" คังเผิงวิ่งเข้ามาโดยที่ใส่บ๊อกเซอร์ตัวใหญ่ตัวเดียว หลิวฉิงร้องกรี๊ดขึ้นอีกครั้งจนแก้วหูเย่จื่อเฉินถึงกับะเื
"เย่จื่อ นายไม่สบายหรือเปล่า?"
"ฉันไม่ได้เป็อะไร ขอพักหน่อยแป๊บเดียว" เย่จื่อถอดเสื้อแล้วล้มตัวลงบนเตียงโดยที่ไม่ได้อาบน้ำ
"นี่ รีบไปอาบน้ำเลยนะ!" หลิวฉิงทำหน้ารังเกียจอยู่ข้างๆ
"ไม่อาบ..." เย่จื่อเฉินพลิกตัวนอนทับผ้าห่ม หลิวฉิงยกสองมือขึ้นเท้าเอว ส่งเสียงหึในลำคอแล้วพูด "ได้ ไม่อาบใช่ไหม..."
"กรี๊ดดด..."
เย่จื่อเฉินหน้าตาบูดบึ้ง เดินถือขันอาบน้ำพร้อมผ้าขนหนูไปยังห้องน้ำรวมของมหาวิทยาลัย
เขาเริ่มรู้สึกเสียใจที่ตอนนั้นใจดีพาผีสาวตนนี้กลับมาด้วย แบบนี้มันเท่ากับพาแม่นมกลับมาด้วยชัดๆ เลย
"นายรีบไปอาบ ฉันจะรอนายอยู่ตรงนี้"
หลิวฉิงนั่งอยู่ตรงหน้าต่างนอกห้องอาบน้ำ มองดูแสงจันทร์นอกหน้าต่าง
เย่จื่อเฉินปรายตามองเธอเล็กน้อย ก่อนจะหยิบเจลอาบน้ำแล้วก็เดินเข้าไป
เปิดฝักบัว หลับตาปล่อยให้น้ำไหลผ่านเส้นผม ในหัวของเย่จื่อเฉินเอาแต่ย้ำชื่อเดียววนไปวนมา
หลิวฉิง...
ไม่รู้เลยว่าเื่ราวแบบใดจะเกิดขึ้นกับเธอในอนาคต
แต่ว่า...
ยัยผีตัวนี้น่ารักมากจริงๆ!