“โอเค ไม่หัวเราะ ไม่หัวเราะ”หลินเยว่จึงรีบเกร็งใบหน้ากลั้นหัวเราะทันที แต่ทว่า ท่าทางที่กลั้นหัวเราะมันยิ่งทำให้คนคิดอยากหัวเราะง่ายขึ้นกว่าเดิมเสียอีก
ฉินเหยาเหยาจึงกลอกตาใส่หลินเยว่ เพราะถึงเธอจะสั่งห้ามการกระทำของเขาได้แต่เธอก็สั่งห้ามจิตใจของเขาไม่ได้อยู่ดี
หลินเยว่วางโจ๊กหมูไว้บนโต๊ะตรงหัวเตียงหลังจากนั้นจึงตักแบ่งใส่ชามเล็กๆ ออกมาชามหนึ่งแล้ววางไว้ที่เบื้องหน้าของฉินเหยาเหยาพร้อมพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน“มาสิ เราป้อนเธอนะ”
เมื่อได้ยินเช่นนี้ ฉินเหยาเหยาจึงยิ้มออกทันทีรอยยิ้มนี้เต็มไปด้วยความรักหวานละมุนหลายหมื่นรูปแบบที่ไม่สามารถบรรยายออกมาได้เลยริมฝีปากเล็กๆ เปิดออกน้อยๆ ราวกับสาวน้อยที่กำลังออดอ้อนและรอคอยการปลอบใจจากคนอื่นอยู่
หลินเยว่ยิ้มจางๆเขาเป่าโจ๊กหมูในช้อนที่ยังมีควันร้อนๆ ลอยขึ้นมาอยู่หลังจากนั้นจึงส่งไปถึงริมฝีปากของฉินเหยาเหยา แล้วป้อนโจ๊กให้เธอทาน
ฉินเหยาเหยาเคี้ยวอยู่สองสามครั้ง ใบหน้าของเธอมีแต่ความสุขหลังจากนั้นจึงพูดขึ้น “อร่อยจัง อร่อยกว่าแต่ก่อนเยอะเลยต่อไปนายต้องทำให้เรากินบ่อยๆ นะ”
“ภรรยาออกคำสั่งแบบนี้ แล้วสามีจะกล้าหือได้อย่างไร”หลินเยว่หัวเราะฮ่าๆ
“ใครเป็ภรรยาของนายกันล่ะ!” ฉินเหยาเหยาส่งเสียงหึในลำคออย่างงอนๆแต่ทว่าสายตาของเธอกลับเต็มไปด้วยความสุขซึ่งก็เป็การเผยความรู้สึกที่แท้จริงของเธอออกมา
“ได้ เธอไม่ใช่ภรรยาของเรา แต่เราเป็สามีของเธออย่างนี้โอเคไหมล่ะ มาสิ อ้าปากหน่อย”
“หึ” ฉินเหยาเหยาส่งเสียงเบาๆแต่ก็ยังอ้าปากออกอย่างว่าง่าย
เมื่อป้อนฉินเหยาเหยาจนเธออิ่มแล้วหลินเยว่จึงจัดการโจ๊กหมูที่เหลือทั้งหมดอาหารมื้อนี้จึงผ่านไปท่ามกลางบรรยากาศอันอบอุ่นอ่อนหวาน
ตอนกลางคืน หลินเยว่กอดฉินเหยาเหยาไว้ในอ้อมกอดพวกเขาทั้งสองนอนคุยกันกะหนุงกะหนิงอยู่บนเตียง
“พวกเราซื้อบ้านกันเถอะเราอยากมีบ้านที่เป็ของพวกเราจริงๆ” หลินเยว่พลันโพล่งขึ้นมา
เขามีความคิดที่จะซื้อบ้านมาตั้งนานแล้วหากเขามีบ้าน เขาก็จะสามารถรับบิดามารดาที่อยู่บ้านนอกมาอาศัยอย่างสบายด้วยกัน
“ซื้อบ้าน?” ฉินเหยาเหยาตกตะลึงไปเล็กน้อยหลังจากนั้นเธอจึงใช้นิ้ววาดวงกลมเล่นๆ อยู่บนหน้าอกของหลินเยว่ “เรามีเงินอยู่ 2แสนหยวน เป็เงินที่เราเก็บสะสมไว้หลายปีแล้วนายเอาไปใช้ได้นะ” เพื่อคนรักของเธอแล้ว เธอยินดีทำทุกอย่าง
“2 แสน?ทำไมเธอถึงได้มีเงินเยอะขนาดนี้ล่ะ? มีเงินเยอะแบบนี้ แล้วทำไมตอนอยู่ที่อำเภอชางเธอยังเช่าบ้านเก่าๆโทรมๆ แบบนั้นอยู่กับเราอีกล่ะ?” หลินเยว่ถามอย่างไม่เข้าใจ
ฉินเหยาเหยาหยิกหน้าอกหลินเยว่ “อย่างแรง” ทันทีหลังจากนั้นจึงพูดอย่างเคืองๆ “ก็เป็เพราะนายยังไงล่ะ”
“เพราะเราอย่างนั้นหรอ?” หลินเยว่อึ้งไปชั่วครู่หลังจากนั้นเขาจึงถามด้วยสีหน้าไม่อยากเชื่อ“เธอคงไม่ได้ชอบเรามาั้แ่ตอนนั้นหรอกนะ เราได้ยินมาจากเฮ่อหลันเยว่น้องเล่าว่าตอนที่เรานอนอยู่ที่โรงพยาบาล น้องเป็คนโทรศัพท์หาเธอแล้วเธอถึงได้รีบร้อนมาที่นี่ แต่ไม่ใช่เธอมาถึงที่นี่แล้วถึงได้รู้เื่นี้ถ้าอย่างนี้ก็หมายความว่า...... อิอิ...... เราก็มีเสน่ห์มากอยู่เหมือนกันนะเนี่ยทำให้เธอที่เป็สาวสวยขนาดนี้ถึงได้แอบชอบเรามาตั้งนานแล้ว อิอิ......”
“คนหลงตัวเอง!”
ขณะที่พูดฉินเหยาเหยาก็หยิกลงบนหน้าอกของหลินเยว่แรงๆ อีกครั้ง
หลินเยว่หัวเราะฮ่าๆ แล้วพูดขึ้น “เธอเก็บเงิน 2แสนหยวนนี้ไว้เป็สินเดิมตอนที่จะแต่งงานกับเราเถอะนะตอนนี้เรามีเงิน”
“นายมีเงิน? ถึงแม้ว่านายจะเรียนกับปรมาจารย์เฮ่อฉางเหอแต่นายก็คงไม่มีโอกาสหาเงินได้เยอะหรอกมั้ง?”ฉินเหยาเหยารู้สึกสงสัยเป็อย่างมากว่าทำไมจู่ๆ หลินเยว่ถึงได้มีเงินเก็บเยอะขนาดนี้เธอยังจำได้เป็อย่างดีถึงชีวิตที่แสนลำบากของพวกเขาตอนที่อยู่อำเภอชาง
“เราได้เงินจากการพนันหินหยกที่เถิงชงน่ะตอนนี้เรามีเงิน 1.05 ล้านหยวน แล้วอีกไม่กี่วันก็จะมีการตัดหินหยกอีกครั้งเราก็จะมีเงินเยอะขึ้นอีก” หลินเยว่อธิบายขึ้น
“พนันหินหยก?”
เมื่อได้ยินเช่นนี้ฉินเหยาเหยาจึงอดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้วขึ้น
นี่ไม่ใช่อาชีพที่มั่นคงสักเท่าไร
หลินเยว่มองออกถึงความกังวลของฉินเหยาเหยาเขาจึงกดจูบเบาๆ ลงบนหน้าผากของเธอพร้อมพูดปลอบใจ “วางใจเถอะนะ เรารู้ตัวเองดีเธอไม่ต้องกังวลเื่ของเราหรอกนะ”
“อืม” ฉินเหยาเหยาตอบรับเบาๆ หลังจากนั้นจึงซุกตัวเข้าในอ้อมกอดของหลินเยว่พร้อมทั้งหาตำแหน่งที่สบายแล้วหลับตาทั้งสองข้างลง
“ง่วงจังเลย”
“นอนเถอะนะ” หลินเยว่พูดตอบเบาๆแล้วหอมแก้มของฉินเหยาเหยา แขนของเขาก็กอดเธอไว้แน่นยิ่งขึ้น
เช้าวันถัดมา ตอนที่หลินเยว่ตื่น เขารู้สึกว่าส่วนนั้นของเขามันเริ่มชูขึ้นเขามองหญิงสาวในอ้อมกอดของตน ในใจเกิดความปรารถนาลุกโชติ่
หลินเยว่ััได้ว่าผิวกายของฉินเหยาเหยาเนียนละเอียดมือของเขาจึงเริ่มซุกซนขึ้นมาทันที เขาเริ่มต้นที่แผ่นหลังของเธอแล้วค่อยๆไล้ลงไปทางด้านล่าง และมือของเขาจึงได้ัักับสะโพกอันงามงอนของเธอสะโพกของเธอมีความยืดหยุ่นเป็อย่างดีจนทำให้หลินเยว่อดไม่ได้ที่จะคลึงสะโพกของเธอเล่น
เนียนดีจัง!
เด้งมากด้วย!
ไม่รู้ว่าเป็เพราะการกระทำของหลินเยว่แรงมากจนเกินไปหรือว่าเป็เพราะถึงเวลาตื่นนอนแล้วฉินเหยาเหยาจึงครางออกมาเล็กน้อยเหมือนคนที่กำลังจะตื่น แต่อาจจะตื่นไม่เต็มที่แต่แล้วเธอก็ซุกตัวเข้าหาอ้อมกอดของหลินเยว่อีกครั้ง เธอหาท่านอนที่สบายแล้วก็นอนหลับต่อไป
เมื่อเห็นท่าทางเหมือนสาวน้อยของฉินเหยาเหยาไฟปรารถนาของหลินเยว่ก็ลุกโชติ่อีกครั้ง ส่วนนั้นของเขาก็แข็งมากยิ่งขึ้น
ขณะที่ฉินเหยาเหยากำลังเคลิ้มหลับอยู่นั้นเธอก็รู้สึกว่ามีอะไรแข็งๆ ดันต้นขาของเธออยู่ เธอรู้สึกรำคาญจึงยื่นมือลงไปเพื่อไปจับมันออกแต่สิ่งที่เธอจับได้คือสิ่งที่ร้อนผะผ่าวอย่างหนึ่ง
นี่มันคืออะไรหรือ?
ฉินเหยาเหยากำลังสะลึมสะลือ เปลือกตาของเธอขยับเล็กน้อยหลังจากนั้นเธอจึงลืมตาขึ้นมาทันที และออกแรงตรงมือไปพร้อมๆ กัน
ความร้อนผะผ่าว มีความยืดหยุ่น เธอพลันเข้าใจได้ทันทีว่านี่คืออะไรใบหน้าของเธอจึงกลายเป็สีแดงราวกับแสงอาทิตย์ยามตะวันรอนทางทิศตะวันตกเป็ความเขินอายที่น่ารักน่าเอ็นดู เธอไม่รู้ว่าจะวางมือไว้อย่างไรดีจะปล่อยออกก็แปลกๆ จะจับไว้ก็แปลกๆ เช่นกัน
เมื่อหลินเยว่เห็นท่าทางเขินอายของฉินเหยาเหยาเขาจึงอดใจไม่ไหวอีกต่อไป ขณะที่ฉินเหยาเหยากำลังกรีดร้องอย่างใเขาก็พลิกตัวแล้วทาบทับลงไปบนตัวของเธอ......
พายุฝนเพิ่งผ่านพ้นไป......
ร่างกายของพวกเขาเพิ่งหลุดออกมาจากดินแดนแห่งความหฤหรรษ์เนื้อตัวยังแดงไปหมด
ผ่านไปนานพอสมควร พวกเขาทั้งสองคนจึงกลับสู่สภาพปกติ
“ควรจะลุกได้แล้วล่ะ”หลินเยว่ช่วยฉินเหยาเหยาจับผมที่ตกลงมาด้านหน้าให้ปัดไปทางด้านหลังพร้อมพูดขึ้น
เมื่อฉินเหยาเหยามองนาฬิกาแขวนในห้องของหลินเยว่เธอจึงใทันที นี่เป็เวลาแปดโมงครึ่งแล้ว
“มันสายแล้วใช่ไหมล่ะ?”หลินเยว่ถามพร้อมยิ้มอย่างเ้าเล่ห์
“เป็เพราะนายเลย เบี้ยขยันเดือนนี้ของเราหายไปหมดแล้ว”ฉินเหยาเหยาขึงตาใส่หลินเยว่อย่างแรง
“พอดีเลย เดี๋ยวเราเลี้ยงเธอเอง”มือของหลินเยว่ก็เริ่มซุกซนอีกครั้ง
“อย่าขยับนะ เราจะลุกจากเตียงแล้ว”ฉินเหยาเหยาปัดมือของหลินเยว่ที่วางอยู่บนตัวเธอออกไป แล้วลุกขึ้นมานั่งเธอมองไปรอบๆ เพื่อหาเสื้อผ้าของตัวเอง
หลินเยว่จึงลุกขึ้นมานั่งเช่นกันเขากอดร่างงามของฉินเหยาเหยาจากทางด้านหลัง แล้วรัดเข้าในอ้อมกอดพร้อมพูดอยู่ตรงริมหูของเธอเบาๆ“วันนี้ไม่ต้องไปทำงานนะ หยุดพักสักวัน”
ขณะที่พูด เขาก็ไม่ได้รอให้ฉินเหยาเหยาตอบกลับแต่กลับกอดเธอให้ล้มตัวลงนอนลงบนเตียงไปด้วยกัน
ฉินเหยาเหยามองหลินเยว่อย่างอ่อนใจ หลังจากนั้นจึงพลิกตัวเข้าไปกอดเอวของหลินเยว่แล้วซุกหน้าลงในอ้อมกอดของเขา หลังจากนั้นจึงเคลิ้มหลับไปอีกครั้ง
พวกเขาทั้งสองโอบกอดกันอย่างเงียบๆจนกระทั่งถึงเวลากลางวันเมื่อท้องร้องด้วยความหิวโหยจึงได้ลุกขึ้นมาจากเตียง
หลินเยว่เป็ผู้ทำอาหารกลางวันอีกครั้ง เมื่อทานอาหารเสร็จแล้วหลินเยว่จึงห้ามฉินเหยาเหยาไม่ให้ไปทำงานอย่างเด็ดขาดเขาบอกให้เธอพักผ่อนที่บ้าน
ฉินเหยาเหยารู้ว่าหลินเยว่หวังดีต่อเธอเธอจึงตอบตกลงพร้อมรอยยิ้ม
ถึงแม้ว่าหลินเยว่อยากจะอยู่ด้วยกันกับฉินเหยาเหยาแต่เมื่อเขาคิดว่าเมื่อวานเขาได้บอกไว้ว่าวันนี้จะไปตัดหินหยก เขาจึงต้องจำใจเดินออกจากประตูบ้านอย่างอาลัยอาวรณ์
เมื่อหลินเยว่เดินออกไปยังนอกเขตบ้านพักอาศัยเขาจึงถอนหายใจออกมาหนักๆ
ชายหนุ่มมักจะตกอยู่ในกำมือของหญิงสาวจริงๆ!
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้