ชุยเฟิงอยู่มาจนอายุยี่สิบสองปี เขาไม่เคยรู้สึกอึดอัดใจขนาดนี้มาก่อน!
วันนี้ิอวี่ทำให้เขาดูแย่มากในสายตาศิษย์น้องของเขา ไม่ว่าอย่างไร วันนี้ิอวี่ต้องตาย!
ิอวี่เห็นชุยเฟิงหน้าดำหน้าแดงพยายามฝืนยิ้ม ก็อดขำไม่ได้
หลังจากจัดการกับอารมณ์ของตัวเองเรียบร้อยแล้ว ชุยเฟิงก็เดินผ่านหน้าผู้คนไปบริเวณด้านหน้าแท่นหินของเหยี่ยวชางโม่ ทำท่าทางว่าเขา้าจะซื้อมัน
การกระทำแบบนี้ทำให้เกิดเสียงพูดคุยกันในวงกว้าง
ตอนนี้ยังเช้าอยู่เลย แล้วสัตว์ปีกทั้งสิบตัวก็เพิ่งจะมาถึง แต่กลับมีคนที่ยังไม่ได้ดูคุณสมบัติอื่นก็จะซื้อมันแล้ว
เศรษฐีชัดๆ !
ในใจของแต่ละคนคิดแบบนี้ ราคาของสิบสุดยอดสัตว์ปีกต่ำสุดก็อยู่ที่สามสิบล้านห้าแสนเหรียญหยกดำ พวกเขาอยู่มาครึ่งชีวิตหรือตลอดชีวิตก็คงหาเงินมากขนาดนั้นไม่ได้ ทำได้แค่มามุงดูเท่านั้น แค่ได้ชื่นชมพวกมันก็รู้สึกมีความสุขมากแล้ว
หลังจากชุยเฟิงแสดงความ้าออกไป หญิงสาวชุดดำที่อยู่บนตัวของเหยี่ยวชางโม่ก็ะโลงมา สีหน้าของนางเต็มไปด้วยความรู้สึกผิด
“มีอะไรหรือ?” ชุยเฟิงเห็นสีหน้าของหญิงคนนั้นเหมือนจะผิดปกติจึงเอ่ยปากถาม
“นายท่าน ข้าชื่ออ้ายมี่ เป็ครูฝึกของเ้าเหยี่ยวชางโม่”
อ้ายมี่โค้งคำนับทักทายชุยเฟิงอย่างมีมารยาท จากนั้นก็พูดว่า “ก่อนอื่นต้องขอบคุณอย่างมากที่ท่านเลือกเหยี่ยวชางโม่ของข้า แต่ก่อนที่ท่านจะซื้อ ข้าจำเป็ต้องบอกท่านเื่หนึ่ง ก่อนหน้านี้เ้าเหยี่ยวชางโม่ได้รับาเ็มาเล็กน้อย นอกจากจะบินสูงมากไม่ได้แล้ว เื่อื่นก็ไม่มีปัญหาอะไร”
“อะไรนะ?” ชุยเฟิงพูดอย่างไม่เข้าใจว่า “บินสูงมากไม่ได้หรือ?”
“ใช่เ้าค่ะ ความเร็วเต็มกำลังของสัตว์ปีกส่วนมากก็คือการบินสูงสุด แต่ว่าเ้าเหยี่ยวชางโม่ไม่สามารถบินสูงสุดได้ เพราะเมื่อสามเดือนก่อนตอนที่กำลังฝึก มันยังไม่ได้ถูกกำราบและพยายามที่จะหนี ตอนที่เราจับมันได้ มันพยายามดิ้นจนทำให้กระดูกทางปีกซ้ายของมันหัก”
“ผ่านมาแล้วสามเดือน ตอนนี้กระดูกของมันสมานเรียบร้อยแล้ว ถึงแม้มันจะไม่สามารถบินสูงสุดได้ แต่ความเร็วในการบินก็ใกล้เคียงระดับสูงสุดแล้ว ซึ่งที่จริงแล้วมันก็ไม่ได้แตกต่างกันเท่าไร”
สีหน้าของอ้ายมี่นั้นเต็มไปด้วยความรู้สึกผิด “แต่เพราะมันมีตำหนิ ดังนั้นเราถึงได้ลดราคาของมันลงเจ็ดล้านเหรียญหยกดำ จากราคาเดิมสี่สิบสามล้านเหรียญหยกดำเหลือแค่สามสิบหกล้านเหรียญหยกดำ”
“สวนสัตว์ปีกของเรามีความจริงใจอย่างมาก ไม่ว่าสัตว์ปีกของเราจะมีปัญหาอะไรตรงจุดไหนเราจะมีการประกาศแจ้งต่อหน้าทุกคน ไม่มีการปกปิดโดยเด็ดขาด หากท่านซื้อเ้าเหยี่ยวชางโม่ไป ต่อไปหากมีปัญหาอะไรสามารถมาหาเราได้ทุกเมื่อ”
หลังจากอ้ายมี่พูดจบ หลายคนก็ต่างพยักหน้า
จรรยาบรรณของสวนสัตว์ปีกแทบไม่ต้องพูดถึง พอบินสูงสุดไม่ได้ก็ลดราคาไปเลยเจ็ดล้านเหรียญหยกดำ ที่จริงมันก็สมเหตุสมผลอยู่ พูดได้เลยว่าเ้าเหยี่ยวชางโม่ตัวนี้ก็มีมูลค่าเท่านี้แล้ว
ชุยเฟิงทำไมจะไม่เข้าใจ แต่พอได้ยินอ้ายมี่พูดแบบนี้แล้วเขากลับหน้าแดงจนถึงที่สุด
เพราะสิ่งที่อ้ายมี่พูดมันเหมือนกับสิ่งที่ิอวี่พูดก่อนหน้านี้ไม่ผิดเลย นั่นก็หมายความว่าิอวี่ไม่ได้พูดมั่ว ทุกสิ่งที่เขาพูดเป็ความจริง!
แต่เมื่อครู่เขาปฏิเสธสิ่งที่ิอวี่พูดไปทุกคำ แล้วยังพูดอย่างมั่นใจด้วยว่าจะเปิดโปงคำโกหกของิอวี่
ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า คำพูดเหล่านี้ของอ้ายมี่มันเหมือนการตบหน้าชุยเฟิงชุดใหญ่ ทำให้ชุยเฟิงรู้สึกทรมานมาก คิดอยากจะมุดดินหนีไปเลยด้วยซ้ำ!
เดิมทีชุยเฟิงรู้สึกว่ากระดูกมือซ้ายของเขาแตกหักก็ถือเป็ความอัปยศมากแล้ว แต่ตอนนี้ดูไปแล้วเขายิ่งอับอายหนักกว่าเดิมอีก มันเป็ความเสียหน้าที่ร้ายแรงที่สุดตลอดยี่สิบสองปีที่ผ่านมา!
วันนี้ตอนมาที่นี่ชุยเฟิงอารมณ์ดีมาก แต่ตอนนี้เขาอารมณ์เสียอย่างมาก
สีหน้าของศิษย์คนอื่นในสำนักกังเหรินเองก็ไม่ได้ดีไปกว่ากัน แต่ละคนอับอายอย่างมาก สายตาดูล่องลอย ไม่กล้าหันไปสบตากับิอวี่เลยแม้แต่คนเดียว
“นายท่าน ท่านยังอยากจะซื้อเหยี่ยวชางโม่อยู่ไหมเ้าคะ?” อ้ายมี่ถามอย่างมีมารยาท
ชุยเฟิงลังเลอยู่นาน ในที่สุดก็ตอบว่า “ช่างเถอะ ไม่ซื้อแล้ว”
ภาพจินตนาการที่สวยงามของชุยเฟิงคือภาพของเหยี่ยวชางโม่ที่สมบูรณ์แบบ แต่มันกลับไม่เป็อย่างนั้น ต้องรู้ก่อนนะว่าเ้าเหยี่ยวชางโม่มีราคาถึงสามสิบหกล้านเหรียญหยกดำ เงินมากมายขนาดนั้นเขาเก็บเอาไว้ฝึกวิชาดีกว่า
เพราะต่อให้เขาจะมีเงินก็จะใช้สุรุ่ยสุร่ายไม่ได้
พอคิดได้แบบนี้ ชุยเฟิงก็เดินออกมา
“ต้องอภัยอย่างสูงนะเ้าคะ คราวหน้าเราจะไม่ให้เกิดปัญหาเช่นนี้อีก” อ้ายมี่โค้งคำนับ และกลับขึ้นไปนั่งบนหลังของเหยี่ยวชางโม่อีกครั้ง
ที่จริงอ้ายมี่ก็ยังรู้สึกผิดอยู่ เพราะสัตว์ปีกรอบล่าสุดที่เข้ามาล้วนแต่เป็สัตว์ปีกสายพันธุ์ชั้นสูง แต่ละตัวมีต้นทุนที่สูงมากซึ่งทำกำไรได้มหาศาล
หากขายออกไปได้สักตัว สำหรับสวนสัตว์ปีกแล้วมันถือเป็เงินก้อนใหญ่เลย
หลังจากชุยเฟิงเดินออกมาแล้วก็จ้องไปที่ิอวี่ตาเขม็งแล้วชี้หน้า “ฝากไว้ก่อนเถอะ”
พูดจบเขาก็เดินหนีไปทันทีแล้วยืนเว้นระยะจากิอวี่ แต่เขายังคงจับตาดูิอวี่อยู่ตลอดเวลา ขอแค่ิอวี่ออกจากที่นี่เขาก็จะตามไปทันที!
วันนี้ิอวี่ทำให้เขาขายหน้ากับศิษย์น้องของเขาอย่างมาก เขาไม่เล่นงานิอวี่จนตายสิแปลก!
ิอวี่ี้เีจะไปสนใจอะไรชุยเฟิง เขาทำการสำรวจสัตว์ปีกอีกเก้าตัวที่เหลือต่อไป
เขารู้สึกว่าสัตว์ปีกที่เหลืออีกเก้าตัวนั้นมีจุดเด่นที่แตกต่างกันออกไป ในระยะเวลาสั้นๆ แบบนี้ิอวี่ไม่สามารถตัดสินได้เลยว่าตัวไหนดีที่สุด
แต่ในเวลานี้เอง หยกโบราณบนหน้าอกของิอวี่ก็มีลมปราณร้อนแผ่ซ่านออกมา จากนั้นเฮยจีก็พูดอย่างรีบร้อนว่า “ิอวี่ เลือกตัวที่สามที่อยู่ทางซ้ายมือของเ้า เร็วเข้า อย่าให้คนอื่นแย่งไปได้นะ เร็ว”
“หือ?”
ิอวี่มองตามที่เฮยจีบอก เขาพบว่าที่แท่นหินนั้นมีสัตว์ปีกขนสีดำตัวหนึ่งอยู่
มันเป็สัตว์ปีกที่ดูรูปร่างบางเบาที่สุดในบรรดาสัตว์ปีกทั้งสิบตัว ดวงตาของมันเป็สีเื มีปากแหลมยาวและเล็ก ปีกสยายใหญ่งดงาม ขนแต่ละเส้นของมันดำเงางามเหมือนใบมีด เมื่อแสงส่องลงมาก็จะเกิดแสงที่เงางามอย่างมาก!
เพราะสัตว์ปีกตัวอื่นมันโดดเด่นสะดุดตามากเกินไป ิอวี่เลยไม่ทันได้เห็นเ้าตัวนี้ พอเฮยจีเตือนสติเขาถึงได้มองเห็นมัน
เขารู้สึกว่าเ้าสัตว์ปีกตัวนี้มันมีเส้นขนที่โค้งสมส่วนมาก สามารถกระพือปีกสร้างลมได้อย่างสมบูรณ์แบบ!
ไม่ว่าจะเป็สีของปีกหรือความงามภายนอก มันก็มีลักษณะที่เรียบง่ายอย่างมาก มันเป็อสูรสีมืด ให้ความรู้สึกปราดเปรียวและเถื่อนดิบอย่างมาก
วิหคปีกมืดราคา สี่สิบห้าล้านเหรียญหยกดำ
ิอวี่มองไปที่ป้ายปักราคาแล้วก็พูดด้วยความสงสัยขึ้นมาว่า “เ้าวิหคปีกมืดนี่ไม่ใช่ตัวที่ขายแพงที่สุด แล้วมันแข็งแกร่งหรือเหนือกว่าสัตว์ปีกตัวอื่นอย่างไร”
ิอวี่รู้ดีว่าเฮยจีมีรสนิยมอย่างไร นางเป็คนที่หัวสูงมาก หากไม่ใช่ของดีนางไม่มีทางเอ่ยปากแน่นอน ตอนนี้ิอวี่ดูออกว่าเฮยจีตื่นเต้นมากแค่ไหน นั่นก็หมายความว่า วิหคปีกมืดตัวนี้มันจะต้องมีดีอย่างแน่นอน
“แข็งแกร่งอย่างไรหรือ? แค่สายพันธุ์ของมันก็เหนือกว่าสัตว์ปีกตัวอื่นหลายเท่าแล้ว”
พอเฮยจีพูดแบบนี้ ิอวี่ก็ยิ่งไม่เข้าใจไปใหญ่ “ข้ารู้สึกว่าต่อให้วิหคปีกมืดจะเป็สัตว์ปีกสายพันธุ์ชั้นเลิศ แต่ไม่ว่าอย่างไรมันก็เป็แค่นกกระจอกเท่านั้นนะ”
เฮยจีส่ายหน้าแล้วพูดว่า “มันไม่ใช่นกกระจอก แต่มันเป็ ... วิหคั!”
“วิหคั?” ิอวี่ขมวดคิ้วหนักมาก เขาเหมือนไม่เคยได้ยินชื่ออสูรแบบนี้มาก่อนเลย
“ใช่ มันคือวิหคั มันเป็หงส์สายพันธุ์หนึ่ง มันมีนิสัยโหดร้ายมาก และมีความเร็วมากด้วยเช่นกัน ได้ยินมาว่า วิหคัตอนเต็มวัยในเวลาที่กางปีกมันสามารถปกคลุมไปทั่วท้องฟ้าเลย มันสามารถบินออกไปได้ถึงหนึ่งแสนแปดพันลี้โดยการกระพือปีกแค่เล็กน้อยเท่านั้น!”
เฮยจีพูดอย่างจริงจังว่า “วิหคปีกมืดที่เ้าเห็นในตอนนี้ ความเป็จริงแล้วในร่างกายของมันมีสายเืของวิหคัเบาบางมาก แทบจะไม่เห็นเลยด้วยซ้ำ แต่มันก็มีสายเืของวิหคัอยู่จริงๆ และทำให้มันดูพิเศษมาก”
“ข้าเคยเห็นบันทึกของวิหคัในตำราโบราณ รูปร่างของวิหคัมันจะมีลักษณะพิเศษนั่นก็คือดวงตาสีเื ซึ่งเหมือนกับตัวที่เ้าเห็นไม่มีผิดเลย สิ่งที่แตกต่างเพียงอย่างเดียวก็คือลมปราณและสีขนของมัน ข้าคิดว่ามันน่าจะผ่านการผสมพันธุ์มาหลายรุ่นก็เลยเหลือสายเืของวิหคัแค่นิดเดียว”
“อย่างนี้นี่เอง” ิอวี่เริ่มสนใจในตัวของเ้าวิหคัน้อยตัวนี้ และพูดขึ้นมาว่า “ถ้าเป็ไปอย่างที่เ้าว่า ต่อให้จะมีสายเืวิหคัแค่นิดเดียว ก็ยังทำให้มันดูเหนือกว่าสัตว์ปีกสายพันธุ์อื่น”
“ใช่แล้ว”
เฮยจีพยักหน้า “ในตำราโบราณยังบันทึกอีกว่า วิหคัที่แท้จริงมันจะมีขนหลากสี มีด้วยกันทั้งหมดเก้าสี ได้แก่ สีแดง สีส้ม สีเหลือง สีเขียวอ่อน สีเขียวเข้ม สีน้ำเงิน สีม่วง สีดำ สีทอง ดังนั้น บรรพบุรุษของวิหคัเราเลยเรียกกันว่าวิหคัหลากสี”
“ตามตำนานกล่าวว่า วิหคัหลากสีมีความเร็วสูงมาก สามารถฉีกมิติอากาศจนขาดได้ เร็วกว่าความเร็วแสงอีก ความเร็วในระดับนั้นเราไม่อาจนึกภาพออกได้เลย”
“ต่อมา สายเืวิหคัหลากสีก็ค่อยๆ กลายพันธุ์ไปตามกาลเวลา มันเริ่มไม่บริสุทธิ์เหมือนเดิมอีก และสุดท้ายก็กลายเป็แค่วิหคัธรรมดาเท่านั้น เช่น วิหคัสีแดง วิหคัสีดำ วิหคัสีม่วง เป็ต้น ถึงแม้วิหคัพวกนี้จะไม่ได้มีสีสันเหมือนวิหคัหลากสี แต่ก็อย่าลืมนะว่า พวกมันก็คือสายพันธุ์หนึ่งของหงส์ และเป็สายพันธุ์ที่สูงส่งอย่างมาก”
ิอวี่ฟังอย่างเคลิบเคลิ้ม จากที่เฮยจีอธิบายมา เขาพอจะนึกภาพของวิหคัหลากสีออกเลย มันดูสวยงามน่าหลงใหล มีแค่ในตำนานเท่านั้นที่มีสัตว์เทพอสูรแบบนี้ มันทำให้คนรู้สึกเหมือนตกอยู่ในภวังค์
และเ้าวิหคปีกมืดตัวนี้ มันคือวิหคัน้อยที่มีสายเืของวิหคัอยู่ มันทำให้ิอวี่ตกตะลึงอย่างมาก!
“ดูท่า ใช้เงินสี่สิบห้าล้านเหรียญหยกดำซื้อเ้าวิหคปีกมืดนี้มา กำไรสุดๆ เลยนะ” ิอวี่อดพูดไม่ได้
“ที่ผ่านมาวิหคัก็แทบจะสูญพันธุ์อยู่แล้ว เ้าได้มาเจอวิหคัน้อยที่มีสายเืวิหคัอยู่แบบนี้ ถือว่าเ้าโชคดีมากเลยนะ”
เฮยจีพูดต่อว่า “วิหคัเดิมก็สูงส่งมากอยู่แล้ว พอเกิดมา ระดับของมันก็เหนือกว่าสัตว์อสูรตัวอื่นแล้ว หรืออาจจะเป็อสูรในระดับจ้าวเลย แต่มันก็จะมีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ทั้งก่อนและหลังการเติบโต”
“ถึงแม้เ้าวิหกัน้อยตัวนี้จะมีสายเืวิหคัที่เบาบางมาก ซึ่งตอนนี้ก็น่าจะเป็อสูรระดับเก้าทั่วไป แต่เพราะในตัวของมันมีสายเืวิหคัอยู่ ดังนั้นมันจะต้องเกิดการเปลี่ยนแปลงแบบผลัดขนอีกครั้งแน่ ข้าคิดว่าการผลัดขนของมันอีกครั้งน่าจะอยู่ระหว่างระดับทั่วไปกับระดับจ้าว เมื่อมันไปถึงระดับจ้าวอสูรเมื่อไหร่ก็จะเกิดการเปลี่ยนแปลงแบบพลิกฟ้าพลิกแผ่นดินเลยทีเดียว ทั้งร่างกายและสีขนของมันก็จะเกิดการเปลี่ยนแปลงทั้งหมด”
ิอวี่ขมวดคิ้ว พอได้ยินเฮยจีพูดแบบนี้เขาก็ตั้งตารอการเติบโตและพัฒนาการของเ้าวิหคัน้อยตัวนี้ขึ้นมาทันที
