จวินเหยียนลูบเส้นผมอวิ๋นซีเบาๆพูดเสียงต่ำ “คาดว่าบิดาเ้าคง้าให้ตนเองแข็งแกร่งขึ้นเพราะการทำเช่นนี้อาจเป็วิธีเดียวที่จะปกป้องเ้าได้ดีที่สุด”
“หมายความว่าอย่างไร? ” อวิ๋นซีเงยหน้ามองบุรุษข้างกาย “อะไรคือสิ่งที่เรียกว่าปกป้องข้าได้ดี? ” แท้จริงแล้วบิดายังมีความลับอันใดอีกกันแน่หรือว่า เขาจะมีศัตรูที่ร้ายกาจ?
“คาดว่าในความทรงจำของเ้ามารดาผู้ให้กำเนิดเ้าคงได้พบเพียงไม่นานก็จากไปกระมัง ที่จริงแล้วไม่ใช่เช่นนั้น เดิมมารดาเ้าเป็คุณหนูตระกูลสูงศักดิ์ที่ถูกกำหนดไว้ั้แ่เล็กว่าจะต้องเสียสละความสุขส่วนตัวเพื่อวงศ์ตระกูลแต่ที่น่าเสียดายก็คือ ตอนที่นางได้พบกับบิดาเ้านั้นเป็ตอนที่นางได้ถูกหมั้นหมายให้ซื่อจื่อแห่งจวนอ๋องไปแล้วถึงกระนั้นคนทั้งสองก็ตกหลุมรักกันั้แ่แรกพบ ในตอนหลังบิดาเ้าจึงได้พาคนหนีมา ซึ่งเื่ที่คนทั้งสองหนีตามกันนี้ในตอนนั้นโด่งดังไปทั่วทั้งเมืองหลวง คนมากมายล้วนพากันสงสัยว่า แท้จริงแล้วบิดาเ้าเป็ผู้ใดกันแน่เพราะคนถึงกับทำให้มารดาเ้าที่เป็สตรีสูงศักดิ์ยอมละทิ้งทุกอย่างเพื่อเขา ทั้งยังทำให้ถูกคนในตระกูลและจวนอ๋องไล่ล่าตามสังหารท้ายที่สุด บิดามารดาเ้าก็หนีมาเรื่อยๆ จนมาถึงดินแดนตะวันตกเฉียงเหนือแห่งนี้ และหลังจากที่คลอดเ้าออกมาแล้วมารดาเ้าก็ทิ้งไว้เพียงจดหมายฉบับหนึ่งก่อนจะจากไป”
อวิ๋นซีคิดไม่ถึงว่ามารดาตนจะเป็คุณหนูตระกูลสูงศักดิ์ และด้วยเื่การหนีตามกันมาของพวกเขาก็ยังมีเื่ราวเช่นนี้อยู่อีกด้วยคู่หมั้นของท่านแม่เป็ซื่อจื่อแห่งจวนอ๋อง? นางขบคิดอีกครั้งแต่ก็คิดเื่คู่หมั้นของซื่อจื่อแห่งจวนอ๋องหนีตามไปกับคนอื่นไม่ออกจริงๆ
“ตอนหลังบิดาเ้าพบข้อเท็จจริงเื่การหายตัวไปของมารดาเ้าซึ่งเื่นี้แท้จริงแล้วเป็เพราะการหลบหนีของพวกเขาถูกคนพบเข้า อีกทั้ง คนเ่าั้ยังใช้ชีวิตของบิดาเ้าและตัวเ้ามาข่มขู่นางและเพราะไร้หนทาง นางจึงจำใจจากพวกเ้าสองพ่อลูกไป เพียงแต่ในระหว่างทางกลับนั้นพวกเขาจำต้องโดยสารทางเรือ เป็เหตุให้มารดาเ้าตกลงไปในแม่น้ำอย่างเป็ตายไม่รู้ชัด”
คำพูดของจวินเหยียนทำให้อวิ๋นซีไม่อยากจะเชื่อแท้จริงแล้วมารดาของนางไม่ได้ตายเพราะให้กำเนิดนาง ทั้งยังไม่ได้ตายเพราะล้มป่วย ดังนั้นในตอนนั้นเกิดเื่ใดขึ้นกันแน่? แล้วเหตุใดมารดาอวิ๋นถึงได้ตกลงไปในแม่น้ำ?
“จวินเหยียนท่านรู้ใช่หรือไม่ว่าเกิดเรื่อใดขึ้น? ” ในสายตาของอวิ๋นซีเต็มไปด้วยความคาดหวัง “บอกข้ามาเหตุใดนางถึงตกลงไปในแม่น้ำได้? ” นางไม่เชื่ออย่างเด็ดขาดว่ามารดาอวิ๋นจะตกลงไปในแม่น้ำเองเฉยๆ ด้วยเื่นี้จะต้องเกิดเื่บางสิ่งที่ไม่ชอบมาพากลขึ้นแน่ๆ
จวินเหยียนส่ายหน้า“ตอนนั้นคนที่พบตัวมารดาเ้าคือคนของจวนอ๋อง เนื่องจากก่อนหน้านั้นซื่อจื่อผู้เป็คู่หมั้นหมายได้เดินทางมาถึงดินแดนตะวันตกเฉียงเหนือนี้ด้วยตนเองใจเขายึดติดอยู่กับมารดาเ้ามาแต่เล็ก ดังนั้น ต่อให้มารดาเ้าจะติดตามผู้อื่นไปแล้วเขาก็ยังต้องตามหาตัวนางให้เจอ ให้นางเข้าไปในจวนอ๋องกลายเป็หรูฟูเหรินของเขา ส่วนเื่ที่เกิดขึ้นบนเรือนั้นข้าไม่อาจรู้ได้ อย่างไรเสียเื่นี้ก็ผ่านมาสิบกว่าปีแล้ว อีกทั้ง คนที่ตอนนั้นติดตามซื่อจื่อก็ล้วนถูกสังหารจนหมดสิ้นแล้ว”
“ท่านว่าท่านพ่อข้าอยากจะแก้แค้นแทนท่านแม่หรือไม่? ” ชั่วขณะนั้นจู่ๆ นางก็เกิดลางสังหรณ์ไม่ดีขึ้น นางกำชายเสื้อจวินเหยียนอดถามไม่ได้ “ซื่อจื่อในตอนนั้นคือผู้ใดกัน? ” หากอยากจะรู้ว่าตอนนั้นเกิดอันใดขึ้นกับมารดาอวิ๋นคงมีเพียงต้องตามหาซื่อจื่อผู้นี้ให้เจอจึงจะสามารถรู้ความจริงทั้งหมดในตอนนั้นได้
“เื่นี้ พวกเราอย่าเพิ่งคุยกันเลยดีหรือไม่?ต่อให้เ้ารู้ว่าคนผู้นั้นเป็ใคร ตอนนี้พวกเรายังอยู่ที่ตะวันตกเฉียงเหนือไม่ว่าอย่างไรเ้าก็ไปหาเขาเพื่อถามความจริงถึงเื่ที่เกิดขึ้นในตอนนั้นไม่ได้อาซี บิดาเ้าไม่ไปเสี่ยงอันตรายอย่างโง่ๆ หรอก ต่อให้จะเพื่อเ้า แต่เขาย่อมเห็นความสำคัญของชีวิตตน”
อวิ๋นซีรู้สึกว่าตอนนี้ในใจนางสับสนมากเดิมคิดว่าโรงหมออวิ๋นซานที่อยู่ในดินแดนห่างไกลจากฮ่องเต้จักต้องเป็สถานที่ที่เงียบสงบปรองดองแต่ใครเล่าจะรู้ ภายใต้ความเงียบสงบนั้นยังมีเื่มากมายที่ถูกปิดบังไว้โดยที่นางไม่รู้เลยเมื่อคิดมาถึงตรงนี้ ชั่วขณะนั้นนางก็รู้สึกว่าหนทางในอนาคตช่างยาวไกล ยาวไกลนัก ดังนั้นนางควรทำเช่นไรถึงจะสามารถเดินไปทีละก้าวทีละก้าวไปยังที่ๆ นางอยากไปถึง
อวิ๋นซานตระกูลเฉียว เหล่านี้ล้วนเป็ความรับผิดชอบของนาง
“อาซี อย่าได้คิดไปมากมายเพียงนั้นและห้ามลืมเด็ดขาดว่า เ้ายังมีข้า”
นางและเขาสี่ตาสบประสานหลายเดือนมานี้เขามักจะพูดคำเช่นนี้หลายต่อหลายครั้ง เ้ายังมีข้า? นางอดถามกลับเสียงเบาไม่ได้ว่า“จวินเหยียน หากว่าวันหนึ่งท่านได้กลับไปยังเมืองหลวงแล้ว และได้พบกับสตรีที่มีสถานะสูงส่งกว่าข้าอีกทั้ง นางยังสามารถช่วยเหลือท่านได้มากกว่าข้า แล้วท่านจะเลือกคนที่ช่วยท่านได้มากกว่าหรือไม่”
เขามองเห็นความหวาดกลัวในดวงตานางชั่วขณะนั้นก็คิดถึงสิ่งที่เฉียวอวิ๋นซีต้องประสบมา เพียงชั่วลัดนิ้วที่เขาไม่แม้แต่จะคิดก็ใช้ปากตนประกบปิดปากนางถึงกระนั้นครานี้เขาก็ไม่ได้กระทำอย่างแ่เบาเหมือนที่ผ่านมา แต่เป็การรุกล้ำเข้าไปยังพื้นที่ภายในของนางอย่างอุกอาจ
แรกเริ่มนั้นอวิ๋นซีทั้งประหลาดใจและอึ้งงันไปแต่เมื่อคิดถึงว่าตนก็รู้จักจวินเหยียนมานานเพียงนี้ ทั้งยังหวนนึกถึงภาพจำกระทั่งเื่เล็กๆน้อยๆ ทั้งหลายที่เกิดขึ้นระหว่างนางกับเขา รวมถึง่นี้ที่เขาเจียดเวลามาสอนวรยุทธ์ให้นางฉับพลันนั้นมือของนางที่คิดจะผลักเขาออกก็ค่อยๆ เก็บกลับมา
เมื่อเห็นว่านางไม่ได้ผลักตนออกไปจวินเหยียนก็ดีใจมาก และอดไม่ได้ให้จูบให้ลึกซึ้งยิ่งกว่าเดิมจนเมื่อนางหอบหายใจลำบากแล้ว เขาถึงได้ยอมปล่อย “อาซี ข้าไม่ใช่เขาคำที่โอวหยางจวินเหยียนพูดไม่เคยกลับคำมาก่อน ชาตินี้ ชีวิตนี้ ขอมีเ้าเพียงคนเดียว”
ถ้อยคำที่จริงใจทำให้อวิ๋นซีเอื้อมมือออกไปกอดคอเขาไว้ จากนั้นก็ส่งริมฝีปากแดงของตนเข้าไป ชั่วขณะนั้นจวินเหยียนถึงกับนิ่งอึ้งแต่ไม่นานก็สามารถดึงสติกลับมาได้ เขากอดเอวนางไว้แล้วค่อยๆ พลิกร่าง เพื่อให้นางได้อยู่บนร่างเขาคนทั้งสองจูบกันราวกับลืมเลือนทุกสิ่งอยู่บนตั่งกุ้ยเฟย
คนทั้งสองราวกับเป็นกเป็ดน้ำคู่รักก่อนที่นางจะแนบหนุนอยู่ในอ้อมกอดเขา พูดเสียงเบา “ความเชื่อใจบางอย่างย่อมมีราคาที่ต้องแลกมาด้วยชีวิตจวินเหยียน หวังว่าข้าจะไม่ได้เลือกผิด”
เขาลูบไล้เส้นผมนางอย่างแ่เบาด้วยท่าทีรักใคร่จากนั้นก็พูดอย่างแน่วแน่และชัดถ้อยชัดคำ “หากชาตินี้ข้าผิดต่อเ้า ข้ายินดีโดนฟ้าผ่าห้าครั้งถูกสับเป็พันเป็หมื่นชิ้น” ยามที่เขาพูดนั้นมีสีหน้าจริงจัง แต่ในดวงตายังแฝงไว้ด้วยความรักลึกซึ้งชาตินี้ ขอเพียงมีนางคนเดียวก็พอแล้ว นี่เป็ความคิดของเขาที่ไม่เคยเปลี่ยนแปลงไปเลยนับแต่ที่ได้เจอนาง
เมื่ออวิ๋นซีได้ยินก็เสมองเขากาลก่อนโอวหยางเทียนหัวเพียงเพื่อจะพิสูจน์ความใส่ใจจริงใจของตนที่มีต่อนางก็เคยสบถสาบานเช่นนี้เช่นกันแต่ว่า ตอนนั้นนางกลับโง่งมคิดไปว่าิญญาของตนสามารถย้อนเวลามาในอดีตได้ ดังนั้น ไม่แน่ว่าคำสาบานก็อาจจะเป็จริงได้เช่นกันทำให้ในทุกๆ ครั้งที่เขาจะสาบาน นางก็มักจะห้ามไม่ให้เขาพูดออกมา
ทว่าตอนนี้ ครั้งนี้ นางจะไม่ทำเช่นนั้น นางเล่นเส้นผมของเขาขณะยิ้มงดงามเย้ายวน“จวินเหยียน จำคำพูดของท่านไว้ให้ดี หากว่าท่านผิดต่อคำพูดทุกคำในวันนี้จริงๆ ข้าผู้นี้จะสับท่านเป็พันเป็หมื่นชิ้นด้วยตนเอง”
แท้จริงแล้วใจนางทนไม่ไหวอยากจะยอมรับเขามานานแล้วแต่เพราะนางไม่อยากถูกคนทำร้ายซ้ำอีก ดังนั้น ตอนนี้เมื่อเปิดใจได้ นางจึงตั้งใจจะบอกบุรุษผู้นี้อย่างชัดเจนว่าหากมีวันหนึ่งที่เขากล้าหักหลังนางจริงๆ วันนั้นนางจะเป็คนลงมือสังหารเขาด้วยตนเอง
ความเชื่อใจมีเพียงครั้งเดียวหากว่าสูญเสียไป ชั่วชีวิตนี้ก็จะไม่มีอีก
“ได้”เขายิ้มกอดเอวนาง การที่นางพูดเช่นนี้ก็แสดงว่า นางยอมรับตนเข้าไปในหัวใจแล้วใช่หรือไม่
อวิ๋นซีอิงแอบอยู่ในอ้อมอกเขาพลางครุ่นคิดเกี่ยวกับเื่ของบิดาอวิ๋นสุดท้ายก็ถอนใจในใจอย่างปลงๆ ด้วยเื่นี้ นางจะให้พวกหลิงอีสืบให้ชัดเจน เพราะนางไม่คิดจะไปถามบิดาอวิ๋นอีกแล้ว
คนทั้งสองตระกองกอดกันอย่างเงียบๆขอแค่นางสามารถถอนพิษให้เซียวโหรวเอ๋อร์ได้ ก็จะได้หญ้าเฟิ่งกู่มาอยู่ในมือและเมื่อถึงตอนนั้น นางก็จะสามารถถอนพิษให้หวานหว่านได้แล้ว สุดท้ายครอบครัวของนางนี้ก็จะได้อยู่ด้วยกันอย่างสงบสุขเสียทีโดยที่ไม่จำเป็ต้องกังวลว่าเมื่อไรพิษของหวานหว่านจะกำเริบขึ้นมาอีก หรือเมื่อไรคนจะตายจากไป