ฟ้าวฟ้าว!
รถสองคันพุ่งไปยังข้างหน้าเหมือนเมื่อครู่แต่คราวนี้รถของฉินเฟิงอยู่บนรถของวิลเลียมส์ ท้ายรถของเขาล้ำหน้าเฟอร์รารี่ของวิลเลียมส์นิดหน่อยวิลเลียมส์รีบเบรกและรถก็จอดสนิททันที
ในเมื่อรถของวิลเลียมส์แบกรถของฉินเฟิงเมื่อเขาเข้าเส้นชัยเขาจึงไม่ใช่ผู้ชนะ
นี่เป็การแข่งที่ะเิความตื่นเต้นซูชิวเยว่และเหวยเสียวเหล่ยตกตะลึง สวี่รั่วโหรวที่กำลังนั่งอยู่ในรถเธอยื่นหัวออกจากนอกหน้าต่างและอาเจียนออกมา
ฉินเฟิงเปิดประตูอย่างสบายๆและะโลงบนเฟอร์รารี่ของวิลเลียมส์ก่อนที่จะะโลงมาบนพื้นเขามาที่ด้านข้างของสวี่รั่วโหรวและอุ้มเธอออกจากรถ
“รั่วโหรว รู้สึกเป็ยังไงบ้าง? เร้าใจหรือเปล่า?”ฉินเฟิงยิ้มและส่ายหัว “ไม่ๆ ไม่ใช่สิ เธอลิ้มรสมันไปแล้วฉันแค่สงสัยว่ามันเป็ยังไงบ้าง?”
ใบหน้าของสวี่รั่วโหรวแดงแจ๋เธอไม่รู้ว่าจะพูดอะไรกับฉินเฟิง เธอยังคงเวียนหัวและโลกก็ยังหมุนติ้วอยู่เธอเหมือนกับคนเมาและต้องให้ฉินเฟิงช่วยพยุงเดิน
“ฉินเฟิง เกิดอะไรขึ้น?” เหวยเสียวเหล่ยรีบขับเรเบนตันมาพร้อมกับซูชิวเยว่เขาเห็นเฟอร์รารี่ของวิลเลียมส์บี้แบนและรู้สึกถึงลางร้าย
“วิลเลียมส์...ยังอยู่ในรถหรือเปล่า?”
“อาจจะ ฉันไม่เห็นมันออกมาเลย” ฉินเฟิงกล่าวอย่างเมินเฉย
ั้แ่ที่มานี่เขาก็รู้ว่าเหวยเสียวเหล่ยร่วมมือกับชายอเมริกันคนนี้เพื่อทำร้ายเขาดังนั้นฉินเฟิงจึงตัดสินใจลงมือก่อน ใน่แรกของการแข่งขันเขาตั้งใจขับรถหมุนในอากาศและชนเข้าที่้าเฟอร์รารี่ของวิลเลียมส์
ฉินเฟิงส่ายหัวให้กับเฟอร์รารี่ที่หลังคาถูกชน
หน้าทั้งหน้าของเหวยเสียวเหล่ยกระตุกตอนแรกเขาตั้งใจจะวางแผนฆ่าฉินเฟิงแต่ฉินเฟิงไม่ตายแต่วิลเลียมส์ดันตายแทนเสียก่อน เหวยเสียวเหล่ยเหมือนกับแม่ทัพที่ไม่มีกองทัพเขารู้ว่าเขาเอาชนะฉินเฟิงไม่ได้และมองดูฉากตรงหน้าด้วยความสิ้นหวัง
ปัง!
ทันใดนั้นเฟอร์รารี่ที่บี้แบนก็เริ่มขยับด้วยเสียงที่ดังมหาศาลปอร์เช่ 911 ที่อยู่บนหลังคารถก็เริ่มแกว่ง
ปัง!
เสียงปังดังมากขึ้นกว่าเดิมและหินเล็กน้อยจากหน้าผาก็ร่วงลงมาปอร์เช่ที่อยู่บนหลังคาของเฟอร์รารี่ก็แกว่งมากขึ้น มันหล่นบนถนนด้วยเสียงโครมและกลิ้งหลายตลบก่อนจะตกลงเขา
ตูม!
ต่อมาเสียงะเิก็ดังขึ้นทั้งหุบเขาและรถแข่งที่มีราคามากกว่าสองล้านหยวนก็สูญเปล่าในทันที
แต่ไม่มีใครสนใจปอร์เช่ที่หล่นลงไปสายตาของทุกคนจับจ้องไปที่เฟอร์รารี่สีแดง หลังจากมีเสียงดังอีกครั้งหนึ่งหลังคาของเฟอร์รารี่ก็ถูกยกขึ้น ชายสูงใหญ่ที่มีผมสีบลอนด์และั์ตาสีฟ้ากระโจนขึ้นบนรถเขาแสยะยิ้มไปหาฉินเฟิง นี่คือวิลเลียมส์ที่คนอื่นคิดว่าโดนชนตายไปแล้ว
“ฉินเฟิง...ฉันจะขยี้แก!”
เสียงะโนี้เหมือนสัตว์ป่าที่กราดเกรี้ยวและสั่นะเืไปทั้งหุบเขา
เพียงสะบัดมืออย่างลวกๆหลังคาที่เขาแบกอยู่ก็ลอยไปด้วยความเร็วสูงสุด เขาทำเหมือนกับปาก้อนหิน
ั์ตาของฉินเฟิงหรี่แคบลงเขาแตะที่พื้นด้วยปลายเท้าเบาๆ ทำให้ตนเองลอยขึ้นและหลบหลังคารถขนาดมหึมา
โครม!
หลังคาตกลงบนเส้นทางูเาและปักนิ่งมันทิ่มลงพื้นไปครึ่งเมตร
“วิลเลียมส์ ฆ่ามัน!” เืของเหวยเสียวเหล่ยก็รุ่มร้อนขึ้นเมื่อเห็นฉากนี้
เขาบอกได้ว่าวิลเลียมส์เดือดดาลเพราะฉินเฟิงตอนแรกทั้งคู่วางแผนแอบกำจัดฉินเฟิง แต่พวกเขาทั้งคู่หมดความอดทนแล้วตอนนี้พวกเขา้าฆ่าไอ้เด็กนี่อย่างเปิดเผย
ในฐานะลูกชายคนพิเศษของตระกูลวิลเลียมวิลเลียมส์เป็คนที่เกิดมาพร้อมกับความแข็งแกร่งที่ไม่ธรรมดา ตอนเขาอายุ 3 ขวบ เขาสามารถยกหินหนักร้อยชั่ง ปัจจุบันนี้วิลเลียมส์อายุ 23 ปี เขาสามารถออกแรงได้เกือบถึงพันชั่ง
นี่หมายความว่าอะไร?
แค่พื้นฐานความแข็งแกร่งของวิลเลียมส์อย่างเดียวเขาก็เทียบได้กับผู้ฝึกกำลังภายนอกขั้น 8 แล้ว
เขาไม่จำเป็ต้องให้เหวยเสียวเหล่ยมาเตือนให้ทำอะไรเนื่องจากวิลเลียมส์เดือดดาลแล้ว เมื่อเขาเห็นการโจมตีแรกไม่ได้ผลเขาก็ะโออกจากรถและพุ่งเข้าหาฉินเฟิงทันทีพร้อมกับแกว่งหมัด
เหตุการณ์กะทันหันและคาดไม่ถึงนี้ทำให้ฉินเฟิงไม่ทันตั้งตัวเมื่อเขาเห็นวิลเลียมส์ที่ใหญ่โตโอฬารเหมือนเสือ เขายังไม่ขยับ แต่ตรวจสอบความแข็งแกร่งของมันแทน
ปัง!
หมัดพุ่งเข้ามาและฉินเฟิงก็หลบอย่างว่องไวหมัดของวิลเลียมส์กระแทกเข้ากับหน้าผาข้างหลังเขา ทิ้งรอยบุ๋มรูปหมัดไว้
ถึงจุดนี้ฉินเฟิงบอกได้ว่าวิลเลียมส์ไม่ได้มือเปล่ามันใส่นวมเหล็กคู่หนึ่ง มีแสงไอเย็นส่องประกายวิบวับ เมื่อมันเคลื่อนที่ผ่านหูของเขาเขารู้สึกถึงความเย็นที่ทิ่มแทงกระดูก
ดูจากหมัดของวิลเลียมส์แล้วอย่างน้อยก็มีพลัง 800 หรือ 900 ชั่ง ดังนั้นเขาน่าจะอยู่อย่างน้อยก็ผู้ฝึกกำลังภายนอกขั้น 7 นี่เป็ครั้งแรกของฉินเฟิงที่เผชิญกับคู่ต่อสู้ที่แข็งแกร่ง
ครั้งล่าสุดเขาสู้กับเฒ่าเฟิงที่วังัพลอยม่วงแต่มันเป็แค่ผู้ฝึกกำลังภายนอกขั้น 4 เท่านั้น
หลังจากที่เอาชนะผู้ฝึกกำลังภายในขั้น4เหลียงเจิ้นเวยลงได้ในวันนี้ฉินเฟิงจึงมั่นใจว่าจะชนะคนที่เป็ผู้ฝึกกำลังภายนอกขั้น 4 หรือขั้น 5 ลงได้ อย่างไรก็ตามเขารู้สึกสิ้นหวังนิดหน่อยเมื่อเห็นการะเิของวิลเลียมส์กะทันหัน
ผู้ฝึกกำลังภายนอกขั้น7ไม่ใช่คนที่ฉินเฟิงจะสู้ได้ในตอนนี้
“สิ่งที่เขาฝึกไม่ใช่ทั้งกำลังภายนอกหรือพลังปราณภายในเขามีพลังพิเศษของต่างชาติ...พลังที่เกี่ยวข้องกับพละกำลัง”
ฉินเฟิงสะดุ้งเมื่อได้ยินเสียงที่อ่อนโยนและน่ารื่นรมย์ของซูชิวเยว่ดังออกมาคนที่มีพลังพิเศษ นี่เป็ครั้งแรกที่ฉินเฟิงได้ยิน เขาสงสัยว่าคนพวกนี้แตกต่างจากคนที่ฝึกวิทยายุทธ์ในจีนอย่างไร
“คุณชิวเยว่ อะไรคือคนที่มีพลังพิเศษ?” ฉินเฟิงถามขณะหลบการโจมตีที่เกรี้ยวกราดของวิลเลียมส์
“คนที่มีพลังพิเศษจะมี 2 ประเภทอย่างแรกคือมีมาั้แ่เกิด ส่วนอีกอย่างคือได้รับมา...ทุกคนที่มีพลังพิเศษจะมีพลังพิเศษหนึ่งหรือสองสามอย่างตัวอย่างเช่น คนที่มีพลังพิเศษด้านพละกำลังก็จะเกิดมาพร้อมกับพละกำลังที่เหนือกว่าคนที่มีพลังพิเศษด้านไฟก็สามารถปล่อยไฟได้...”
คิ้วที่เรียวยาวของซูชิวเยว่ขมวดลงเธอรีบกล่าวอย่างทันที “แต่นอกจากพลังพิเศษของพวกเขาแล้ว อย่างอื่นก็ไม่ได้ต่างจากคนทั่วไปนัก”
“ยายสำส่อนหุบปากซะ” ในเมื่อเขาตัดสินใจจะฆ่าฉินเฟิงต่อหน้าซูชิวเยว่เหวยเสียวเหล่ยก็เผยคราบที่แท้จริงต่อหน้าเธอด้วย
ด้วยสีหน้ามุ่งร้ายเขากระโจนเข้าใส่เธอ “นางร่านฉันจะฆ่าเธอ”
เหวยเสียวเหล่ยคิดในใจว่าดีจังที่เกิดเป็ผู้ชายเขาไม่ควรจะมีปัญหากับผู้หญิงอ่อนแออย่างซูชิวเยว่ทว่าเขาไม่แม้แต่จะััถูกตัวของซูชิวเยว่เธอก็ะโขึ้นกลางอากาศเรือนร่างของเธอส่องประกายเหมือนน้ำ การเคลื่อนไหวก็พลิ้วไหวและสวยงามดั่งดอกไม้ปลายเท้าของเธอเตะเข้าที่หน้าของเหวยเสียวเหล่ย เป็ลูกเตะที่มีพลังรุนแรงจนส่งเหวยเสียวเหล่ยกระเด็นไปได้
เธอกลับลงพื้นอย่างสวยงามด้วยสีหน้าที่สงบนิ่งเหมือนน้ำเธอไม่ได้มองเหวยเสียวเหล่ยที่กระเด็นไปแสงจันทร์ฉายบนใบหน้าที่งดงามของเธอและเธอดูเหมือนกับนางฟ้าที่น่ามหัศจรรย์
ด้วยคำอธิบายของซูชิวเยว่ฉินเฟิงก็ตระหนักได้ทันทีไม่สงสัยว่าทำไมเขาถึงไม่เข้าใจการโจมตีของวิลเลียมส์ความแข็งแกร่งของเขามหาศาลมากและทุกครั้งที่โจมตีโดนหินก็จะถูกส่งปลิวไปด้วยเสียงะเิ
แต่ั้แ่เริ่มจนจบเขาก็ยังไม่ถูกฉินเฟิงเลยสักครั้งเขาไม่แม้แต่ััตัวของฉินเฟิงได้ เพราะเขามีแต่พละกำลัง มีแค่แรงแต่ไม่สามารถเทียบได้กับความเร็วของฉินเฟิง
ในระหว่างการโจมตีต่อเนื่องนี้ความอดทนที่เบาบางของวิลเลียมส์และการเคลื่อนไหวของเขาก็ยุ่งเหยิงก่อนหน้านี้มันเป็วิธีบ้าบิ่นในแบบของเขาแต่ตอนนี้เขากลายเป็วัวคลั่งที่อาศัยแต่แรงกายเพื่อต่อยอย่างซี้ซั้ว
“ฉินเฟิง นอกจากวิ่งหนีแล้วแกทำอะไรเป็มั่งวะ? ถ้าแน่จริงก็อยู่เฉยๆให้ฉันต่อยสิโว้ย” วิลเลียมส์ะโด้วยความโกรธเกรี้ยว
ฉินเฟิงมองเขาอย่างดูถูก“งั้นทำไมนายไม่อยู่เฉยๆ และให้ฉันเตะนายล่ะ?”
แม้ว่าเขาจะพูดอย่างนี้แต่ฉินเฟิงก็อ่านการเคลื่อนไหวของวิลเลียมส์ออกจากการที่เขาตรวจสอบั้แ่แรกเขาหยุดหลบทันทีและพุ่งทะยานไปหาคู่ต่อสู้ ในขณะเดียวกันเขาก็ถอดเกราะับินและใช้พลังลมปราณเพื่อทำให้เร็วขึ้น
ฉินเฟิงในตอนนี้ไวมากเขาเหมือนกับสายฟ้าแลบ
วิลเลียมส์ตกตะลึงเมื่อเขาเห็นว่าฉินเฟิงไม่ได้วิ่งหนีและวิ่งมาหาเขาแทน เขาก็เริ่มตื่นเต้นและคิดว่าในที่สุดก็จะได้อัดไอ้เวรนี่ได้สักที
แต่เพียงพริบตาเขาก็รู้ว่าฉินเฟิงหายไป ในชั่วพริบตาเดียว Oh my god ฉินเฟิงปรากฏตัวขึ้นเหนือหัวของเขาขณะที่ถือกระบี่ส่องแสงคมกริบที่โผล่จากไหนไม่รู้
“ไอ้ผมทอง อย่าขยับและให้นายน้อยผู้นี้เชือดซะ!” ฉินเฟิงยิ้ม ขณะเดียวกันกระบี่ในมือก็ตวัดลงมา
กระบี่ตวัดโค้งลงมาเหมือนสายรุ้งเงากระบี่ที่วาดลงมามีพลังระดับแบ่งแม่น้ำตัดูเา
ั์ตาสีฟ้าของวิลเลียมส์เองก็ไวมากเขาต่อยออกไปด้วยสัญชาตญาณ
ตูม!
หมัดและกระบี่ปะทะกันเสียงตูมดังก้องกังวานไปทั้งหุบเขาราวกับฟ้าผ่า
พลังมหาศาลปะทะเข้ากับกระบี่และส่งฉินเฟิงกระเด็นลอยไปพร้อมกับกระอักเื ในทางกลับกันวิลเลียมส์ไม่ได้เป็อะไรมากเขาแค่ถอยไปไม่กี่ก้าวเท่านั้น
“ฮ่าๆๆ ไอ้เด็กน้อย ใครจะสนว่าแกเร็วแค่ไหนกันล่ะ? กับกำลังที่น้อยนิดเหมือนไม่ได้กินข้าวอย่างนั้นไม่มีทางที่จะทำอะไรฉันได้หรอก” วิลเลียมส์หัวเราะอย่างโอหัง
ฉินเฟิงเช็ดเืจากมุมปากและมองนวมเหล็กที่แวววับด้วยไอเย็นของวิลเลียมส์กระบี่เจินกังของเขาตัดมันไม่ได้
เหลียงเจิ้นเวยมีแส้หนังวัวที่ใช้เส้นเอ็นของวัวป่าเป็วัตถุดิบหลักซึ่งเย็บเข้าด้วยกันกับหนังแต่มันก็ยังโดนฟันขาดเป็สองท่อนด้วยกระบี่เจินกังนวมเหล็กที่ส่องประกายไอเย็นพวกนั้นดูเหมือนจะเป็ของที่ค่อนข้างดีเลยทีเดียว
“ฉินเฟิง ฉันจะช่วยคุณเอง” กลิ่นหอมหวนลอยแตะจมูกของเขาฉินเฟิงเห็นซูชิวเยว่ยืนอยู่ข้างเขาแต่เขาไม่รู้ว่าเธอมาั้แ่เมื่อไร
ตามปกติแล้วเธอจะสำรวมและใจเย็น แต่ท่าทีตอนนี้ของเธอนั้นรุนแรงและพัดสีแดงก็ปรากฏขึ้นในมือของเธอ พัดที่ทำจากวัตถุดิบพิเศษที่ไม่ใช่ทั้งไม้และทอง
ในเมื่อเธอถือมันก็เป็ที่ชัดเจนแล้วว่าเธอตั้งใจจะใช้มันเป็อาวุธ