บ้านพีเค
ห้องครัว…
บนโต๊ะอาหาร
8:00น.
ยี่หวา หวันยิหวา….
แป๊ะ
“คะ?”ฉันหลุดจากภวังค์ความคิดทันทีที่พี่ปอนตบมือเสียงดังตรงหน้าฉันทำให้ฉันสะดุ้งใเผลอขานไป
“เป็อะไรนั่งยิ้มหวานอยู่คนเดียวทำยังกับคนเล่นยามาอย่างงั้นอ่ะ?”พี่ปอนเอ่ยถามฉันด้วยสีหน้าคุ้นคิดและสงสัย ตอนนี้เรากำลังนั่งทานข้าวกันอยู่ที่โต๊ะอาหารในห้องครัวที่มีพี่ปอนนั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามกับฉันและมีพี่เคนั่งอยู่ข้างๆพี่ปอน เขากำลังนั่งทานข้าวอยู่อย่างเงียบๆตามนิสัยเขา
“เปล่าค่ะ^_^”
“แหนะ….ก็พี่เห็นว่าเรานั่งยิ้มกินข้าวคำแล้วก็ยิ้ม….เหม่ออยู่คนเดียวเรียกก็ไม่ได้ยิน”พี่ปอนบ่นอุบพลางตักข้าวใส่ปากไปด้วย ฉันก็ยิ้มแหยๆให้พี่ปอน
“เเอบไปเล่นยามารึเปล่าเนี่ย?”พี่ปอนมองฉันอย่างจับผิด
“ใช่ที่ไหนเล่า….ยี่หว่าไม่ใช่คนแบบนั้นซะหน่อย”ฉันว่าอย่างจริงจัง พี่ปอนคงเห็นแววตาที่จริงจังของฉัน เขาถึงยอมเชื่อใจฉัน ถึงแม้ว่าเขาอาจจะสงสัยเื่ที่ทำให้ฉันยิ้มน้อยยิ้มใหญ่อยู่นี้ก็เถอะ ก็ฉันดีใจอ่ะที่พี่เคเขียนป้ายชื่ออันใหม่มาให้ฉันทั้งๆที่มันผิดกฏ เพราะปีหนึ่งจะมีป้ายชื่อได้แค่คนละป้ายเท่านั้นตลอดระยะเวลากิจกรรมเชียร์เป็เวลาั้แ่ต้นจนจบกิจกรรมเชียร์ ใครทำป้ายหายก็คือไม่ต้องใส่มันเลยและจะโดนหักคะแนนกิจกรรมด้วยแต่มหาลัยของฉันถ้าไม่อยากโดนหักก็แค่จ่ายเงินค่าคะแนนที่หายไปเพื่อเรียกมันกลับมาแค่นั้นเอง
“แล้วนี่มีเรียนกี่โมง?”พี่ปอนเอ่ยถามฉัน ฉันก็รีบเคี้ยวข้าวในปากให้ละเอียดไวๆเพื่อจะตอบคำถามของพี่ปอน
“เก้าโมงค่ะ”
“แล้วเวลาเชียร์วันนี้….ไปเปล่า?”
“อ้อ….ลืมเลย!!”ฉันว่าอย่างนึกขึ้นได้ ฉันจึงเอี้ยวตัวหันไปเปิดกระเป๋าเป้ของฉันเพื่อหยิบแผ่นกระดาษขออนุญาตผู้ปกครองที่ประธานรุ่นของฉันต้องนำมาแจกให้ฉันและปีหนึ่งทุกคนแต่กระดาษขออนุญาตแผ่นนี้ฉันไม่ได้มาจากประธานรุ่นแต่ได้มาพร้อมกับแผ่นป้ายชื่ออันใหม่ของฉันที่วางอยู่บนห้องฉันเมื่อเช้านี้ ฉันหยิบกระดาษแผ่นสี่เหลี่ยมขออนุญาตผู้ปกครองออกมาจากกระเป๋าเป้สีชมพูของตัวเองเพื่อจะให้พี่ปอนเซ็นอนุญาตให้ฉัน
พรึบ
“เซ็นให้หน่อยค่ะ^_^”ฉันบอกพี่ปอนไปในขณะที่ฉันวางแผ่นกระดาษสี่เหลี่ยมลงไปบนโต๊ะด้านหน้าของเขาแล้ว
“ใบขออนุญาตผู้ปกครองไปรับน้องกับทางคณะวิศวกรรมศาสตร์ของเราที่จะจัดขึ้นในวันที่สามสิบและสามสิบเอ็ดกรกฎาคม….”พี่ปอนอ่านข้อความที่เขียนอยู่ในแผ่นกระดาษสี่เหลี่ยมเสร็จก็เงยหน้าขึ้นมามองหน้าฉัน
“อ้อ^_^”ฉันว่าอย่างนึกได้อีกครั้ง ฉันจึงหันไปหยิบปากกาออกมาจากกระเป๋าของฉันและยื่นมันลงไปด้านหน้าของพี่ปอนด้านข้างของกระดาษขออนุญาตเพื่อให้เขาใช้ปากกาเซ็นชื่อให้ฉัน
“อยากไปเหรอ?”พี่ปอนเอ่ยถามฉันมา ฉันก็ขมวดคิ้วงุนงงสงสัยกับคำถามของเขา
“ไม่ไปได้ด้วยเหรอคะ?”ฉันถามพี่ปอนไป เขาก็ยิ้มกริ่มออกมาก่อนจะยื่นมือมาขยี้ผมฉันอย่างแรงจนผมฉันเสียทรง
“งื้อ!….ผมเสียทรงหมดแล้ว!”ฉันว่าอย่างงอนๆพลางย่นจมูกใส่พี่ปอน
“ไม่ไปได้ไงเล่า….ไม่ไปก็ไม่ได้เกียร์อ่ะดิ^_^”พี่ปอนว่าเสร็จก็หยิบปากกาแท่งสีชมพูของฉันไปเซ็นชื่อตัวเองที่อยู่ในช่องอนุญาตลายเซ็นผู้ปกครอง ฉันก็ยิ้มและรู้สึกได้เหมือนว่ามีสายตาคู่หนึ่งกำลังมอง ฉันจึงหันไปมองยังสายตาคู่นั้น ที่พอฉันหันไปมองเขาเขาก็หลบสายตาฉันอย่างไว ฉันจึงไหวไหล่เล็กน้อยและหันกลับมานั่งยิ้มแฉ่งให้พี่ปอนต่อ เขายังอยู่ในชุดไปรเวทอยู่เลย เพราะพี่ปอนไม่มีเรียนเช้าน่ะ
“อ่ะ….เรียบร้อยแล้ว…ส่งคืนให้ประธานรุ่นนะ”พี่ปอนว่าพลางยื่นกระดาษคืนมาตรงหน้าฉัน ฉันก็ยิ้มที่เห็นลายเซ็นของพี่ปอนในช่องอนุญาตของผู้ปกครอง
“รับทราบค่ะ^_^”
“พี่ว๊าก^_^”ฉันยิ้มรับคำและเอ่ยกวนพี่ปอนไปและรีบเก็บกระดาษใส่ลงไปในกระเป๋าของตัวเองทันที
“อยากโดนว๊ากที่บ้านป่ะ”พี่ปอนเอ่ยถามฉันเสียงเข้มพลางทำสีหน้าจริงจังให้ดูหน้ากลัว
“ไม่ง่ะ…สงสารคอพี่^_^”ฉันหันมายิ้มให้พี่ปอนและเอ่ยตอบเขาไป เขาก็ยิ้มแหยๆให้ฉัน
“เนอะ…โคตรเจ็บ…เตรียมน้ำผึ้งผสมน้ำมะนาวไว้ให้พี่ยัง?”พี่ปอนถามถึงน้ำผึ้งผสมน้ำมะนาวทันที สงสัยจะรู้สึกเจ็บคอแล้วล่ะสิท่า^_^
“เรียบร้อยแล้วค่ะ^_^”ฉันว่าพลางลุกขึ้นยืนและเดินไปยังเคาน์เตอร์ครัวหยิบแก้วน้ำสีใสขึ้นมาสองใบและจัดการเทน้ำผึ้งผสมน้ำมะนาวที่ฉันชงเตรียมไว้อย่างอุ่นๆกำลังพอดีกินไปวางให้พี่ปอนและพี่เคคนละแก้ว
“ดื่มเลยก็ได้นะคะ…ยังอุ่นๆอยู่เลยค่ะ…จะได้ชุ่มคอค่ะ^_^”ฉันว่าเสร็จแล้วก็เดินออกมาจากตรงนั้นเริ่มเก็บจานที่พี่เคกับพี่ปอนกินข้าวเสร็จแล้วนำจานไปล้าง ในขณะที่ฉันกำลังยืนล้างจานอยู่สายตาก็แอบชำเลืองมองพี่เคที่นั่งจิบน้ำผึ้งผสมน้ำมะนาวของฉันอย่างเงียบๆใบหน้าขาวใสจมูกโด่งริมฝีปากหยักสีชมพูระเรื่อแถมหวานมากทำให้ฉันเผลอใจเต้นแรงขึ้นมา
ติ๊ดๆๆๆๆ(เสียงโทรศัพท์ยี่หวา)
“ใครโทรมา?”พี่ปอนพึมพำขึ้นก่อนจะเอื้อมมือไปหยิบโทรศัพท์ของฉันที่วางอยู่บนโต๊ะตรงที่ฉันนั่งขึ้นมาดูว่าใครโทรมา
“ยี่หวา….แฟนเราโทรมา”พี่ปอนหันมาบอกฉันพลางชูโทรศัพท์ให้ฉันดู
“พี่ปอนกดรับสายให้หน่อย…”ฉันเอ่ยบอกพี่ปอนไป เขาก็พยักหน้าก่อนที่เขาจะกดรับสายสิบทิศ สงสัยเขาจะใกล้มาถึงบ้านฉันแล้ว
(ที่รักครับ^_^)
(เรากำลังเลี้ยวเข้าซอยบ้านเธอแล้วนะ^_^)
(แต่งตัวเสร็จรึยังครับ^_^)เสียงของสิบทิศเอ่ยหวานดังมาจากในโทรศัพท์ที่พี่ปอนกดเปิดสปีกเกอร์โฟน ฉันก็ยิ้มแหยๆให้พี่ปอนทันทีที่เขามองหน้าฉันพลางเลิกคิ้วขึ้นข้างหนึ่ง
“เสร็จแล้วค่ะ….”ฉันยื่นหน้าเข้ามาหาโทรศัพท์ของตัวเองเพื่อตอบสิบทิศเพราะมือทั้งสองข้างของฉันเลอะเทอะไปด้วยฟองสีขาวของน้ำยาล้างจานอยู่
(อ้อครับ….คิดถึง…อยากเจอ…อยากกอด….อยากหอมแก้ม….อยาก)
ปัง!!(เสียงแรงกระแทกของเก้าอี้ที่กระแทกเข้ากับโต๊ะอย่างแรง)
(เสียงอะไรน่ะ…ยี่หวา?)สิบทิศเอ่ยถามออกมาอย่างร้อนรนใจและใ ฉันเองก็ใยืนสตั้นมองร่างสูงของพี่เคที่เดินออกไปจากโต๊ะกินข้าวแล้ว โดยที่เสียงดังปังดังมาจากพี่เคนี่แหละที่เขาเก็บเก้าอี้ที่เขานั่งเก็บสอดใส่เข้าไปด้านใต้ของโต๊ะกินข้าวอย่างแรงทำให้ที่พิงของเก้าอี้กระแทกกับขอบโต๊ะจนเกิดเป็เสียงดังจนทั้งฉันและพี่ปอนรวมไปถึงสิบทิศยังใกับเสียงที่ได้ยินเลย
“อ้อ…ไม่มีอะไรค่ะ…สิบทิศรอยี่หวาหน้าบ้านเลยนะอีกห้านาทียี่หวาออกไปค่ะ”ฉันเอ่ยบอกสิบทิศและขยับปากให้พี่ปอนกดวางสายสิบทิศให้หน่อย เขาก็รับรู้และกดวางสายของสิบทิศให้ฉัน ฉันก็รีบหันกลับมาล้างจานต่อให้เสร็จ
“พี่เคจะโกรธเราไหมคะ?”ฉันเอ่ยถามพี่ปอนไปในขณะที่ฉันล้างจานเสร็จแล้วและก็กำลังจะถอดผ้ากันเป็ออกจากตัวฉันเพื่อกันไว้ไม่ให้ชุดนักศึกษาของฉันเปรอะเปรื้อนเวลาล้างจานหรือเวลายกอาหารมาเสิร์ฟให้พี่ปอนกับพี่เค
“ไม่หรอก….มันจะโกรธเราทำไมล่ะ…ในเมื่อเราไม่ได้ทำอะไรผิดสักหน่อย^_^”พี่ปอนเอ่ยบอกฉันพลางยิ้มละมุนให้ฉัน ฉันก็ยิ้มบางๆอย่างไม่ตั้งใจยิ้มให้พี่ปอนไป เพราะในใจก็คิดกังวลใจเื่ของพี่เคอยู่
“รีบไปเถอะ….เดี๋ยวสิบทิศมันจะรอนาน^_^”
“ค่ะ…งั้นยี่หวาไปก่อน…เจอกันที่มหาลัยค่ะ^_^”
“ครับ…เจอกัน^_^”พี่ปอนยกมือทำท่าตะเบ๊ะให้ฉัน ฉันก็ยกมือโบกบ๊ายบายพี่ปอนและหยิบกระเป๋าเป้สะพายใบใหญ่และหยิบโทรศัพท์เดินออกมาจากห้องครัวมุ่งหน้าไปยังห้องโถงที่มีห้องนั่งเล่นร่วมอยู่ด้วย ฉันใส่รองเท้าผ้าใบสีขาวอย่างรีบร้อนและรีบวิ่งไปเปิดประตูรั้วบ้านที่ด้านหน้ารั้วมีรถสปอร์ตคันสีขาวที่แสนคุ้นตาของสิบทิศจอดรอฉันอยู่
“ขอโทษนะ…ที่ให้รอ^_^”ฉันเอ่ยขอโทษสิบทิศทันทีที่เดินมาถึงตัวเขาแล้ว เขาที่ยืนพิงรถของเขาอยู่ก็ยันตัวยืนตรงและถอดแว่นตากันแดดสีดำออกและยิ้มให้ฉันอย่างอ่อนโยน
“ไม่เป็ไรเลยครับ…ต่อให้เราต้องรอเธอยันเย็นเราก็รอเธอได้^_^”สิบทิศว่าพลางยื่นมือของเขามารอรับกระเป๋าเป้ของฉันเพื่อเขาจะนำมันไปเก็บให้ฉัน ฉันก็ยื่นกระเป๋าเป้ของฉันให้สิบทิศเขาก็ยิ้มและผายมือเชื้อเชิญฉันให้ขึ้นรถ ฉันก็ยิ้มและพยักหน้าพร้อมกันเดินอ้อมรถไปขึ้นยังฝั่งคนนั่งโดยมีสิบทิศที่รีบวิ่งนำหน้าฉันมาเพื่อเปิดประตูให้ฉันขึ้นไปนั่งบนรถของเขา
“ขอบคุณค่ะ^_^”ฉันเอ่ยขอบคุณสิบทิศไปและหันหน้ามายังทางรถเพื่อจะขึ้นรถแต่แล้วความรู้สึกของฉันที่กำลังรู้สึกว่ามีแววตาคู่หนึ่งกำลังจับจ้องมาจากชั้นสองของบ้านทำให้ฉันต้องเงยหน้าขึ้นไปมองก็เจอเข้ากับสายตาคมกริบที่เเข็งกร้าวเ็าของพี่เคที่ยืนอยู่ตรงระเบียงชั้นสองของบ้านเขามองตรงมาที่ฉันฉันก็มองเขากลับไป
“มีอะไรรึเปล่าครับ?”
“อ้อ…ไม่มีอะไรค่ะ..เรารีบไปกันดีกว่า…ยี่หวามีเรียนเก้าโมง”
“ครับ…”สิบทิศว่าพลางยิ้มให้ฉันแต่สายตาของเขาก็บ่งบอกว่าสงสัยอยู่ดี ฉันจึงรีบก้าวขาขึ้นรถของสิบทิศ เขาก็ปิดประตูรถให้ฉันเสร็จสรรพแล้วเขาก็เดินอ้อมรถมาไปขึ้นยังฝั่งคนขับและขับออกมาจากหน้าบ้านที่เป็บ้านของพี่เคทันที ตลอดทางฉันไม่ได้พูดคุยอะไรกับเขา ในใจก็คิดว่าพี่เคโกรธอะไรฉันอยู่รึเปล่า?แต่พอฉันคุยหรือถามอะไรเขา เขาก็ดู
เหมือนจะไม่ค่อยอยากจะพูดหรืออยากจะตอบฉันสักเท่าไหร่….
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้