เซี่ยชิงเป่าอยากตบมือให้กับคำพูดของป้าสะใภ้ใหญ่ ใบหน้ากลมแหงนมองร่างสูงของชายหนุ่มที่ยืนอยู่ข้างกายด้วยสีหน้าเศร้าสร้อย
“พี่อาเหิง แล้วพวกเราไม่ใช่คนตระกูลเซี่ยหรือ เหตุใดถึงไม่มีสิทธิ์กินไก่ที่พวกเราเลี้ยง”
จางซุนโหรวเมื่อเห็นเด็กน้อยมีท่าทีสลดลง ก็รีบแสดงความเป็ใหญ่เพื่อข่มพวกเขา
“พวกเ้าหรือพวกเดียวกับเรา ดูแต่ละคนไร้ค่าทั้งนั้น แม่ผู้อ่อนแอของเ้า พี่ชายพิการพี่สาวเป็ใบ้ พี่เขยปัญญาอ่อน ครอบครัวพวกเ้ามีใครสมบูรณ์บ้าง นอกจากเด็กอย่างเ้า”
“ป้าสะใภ้ท่านยังลืมอีกคน บิดาที่ี้เีสันหลังยาวของข้าก็เป็ครอบครัวบ้านรองของเรา”
เซี่ยชิงเป่าไม่ลืมเอ่ยเตือนป้าสะใภ้ใหญ่ ท่าทางไม่รู้ร้อนรู้หนาวกับคำพูดเหน็บแนมผู้เป็บิดาที่ตะวันสายโด่งป่านนี้ยังไม่ลุกจากที่นอน ทำเอาแม่เฒ่าหวังหันไปส่งค้อนให้กับสะใภ้ใหญ่ที่ปากไม่มีหูรูด เปิดช่องโหว่ให้ศัตรูเอาคืนได้
“เ้ารองของข้าจะเป็ครอบครัวเดียวกับกลุ่มคนไร้ค่าอย่างพวกเ้าได้อย่างไร”
แม่เฒ่าหวังเอ่ยอย่างรังเกียจ เด็กน้อยยักไหล่ด้วยท่าทางไม่ยี่หระ หลายปีมานี้ตัวเขาก็ไม่เคยทำหน้าที่ของสามีและบิดา ตอนนี้จะอย่างไรก็ได้ ตนเองไม่สนใจอยู่แล้ว
“อืม...ก็ได้ท่านย่า ถ้าท่านพ่อไม่ใช่ครอบครัวของบ้านรองเรา เช่นนั้นนางเป็ครอบเดียวกับหญิงหม้ายอย่างป้าสะใภ้ใหญ่หรือ จิ!จิ! น่าสงสารลุงใหญ่ ตายไปไม่กี่ปีก็ถูกสวมหมวกเขียวเสียแล้ว”
คำพูดของเด็กน้อยทำเอาคนทั้งบ้านถึงกับสะอึกไปเลยทีเดียว
“เ้า!! เ้าพูดจาเหลวไหลอันใด คิดทำลายชื่อเสียงตระกูลเซี่ยของข้าหรือ”
เมื่อเซี่ยชิงเป่าเอ่ยออกมาเช่นนั้น จางซุนโหรวก็แสดงท่าทีร้อนรนราวกับทำเื่ที่ไม่ควรทำลับหลังบ้านรอง
“ช่างเถอะๆ ถ้าพวกท่านเห็นเราบ้านรองไร้ค่าเช่นนั้นพวกท่านก็ทำงานทุกอย่างด้วยตนเองเถอะ ต่อไปพวกเราจะไม่ทำงานเหล่านี้แล้ว”
เซี่ยชิงเป่าเอ่ยออกมาราวกับผู้ใหญ่ตัวน้อย ทว่าแม่เฒ่าหวังมีหรือจะยอมให้หลานในไส้มาอยู่เหนือตนได้
“ไม่ทำงานหรือ ถ้าพวกเ้าไม่ทำงานเช่นนั้นก็อย่ากินอาหารจากตระกูลเซี่ยของข้า”
“ไม่กินก็ไม่กิน พวกเราบ้านรองคนเยอะเพียงนี้ไม่กินข้าวบ้านท่านพวกเราก็ไม่มีทางอดตาย”
เด็กน้อยจีบปากจีบคอตอบหญิงชราด้วยท่าทางไม่แยแส เซี่ยชิงหลีไม่คิดว่าน้องสาวคนเล็กจะร้ายกาจถึงเพียงนี้ แม้แต่สตรีปากร้ายอย่างแม่เฒ่าหวังยังหมดหนทางต่อกรกับนาง
“เ้า!! เ้าเด็กคนนี้! หลี่หลันฮวาเ้าเป็แม่ เป็ผู้ใหญ่เหตุใดถึงปล่อยให้เด็กมายืนเถียงกับผู้าุโฉอดๆ เ้าไม่เอาหน้าแล้วใช่หรือไม่ โอ๊ย!! ใครก็ได้ ดูเ้าตัวล้างผลาญพวกนี้สิ เกิดมาเพื่อเอาชีวิตของข้าหรืออย่างไร!! ์!! ท่านเหตุใดต้องให้พวกมันมาเกิดในตระกูลเซี่ยด้วย”
หญิงชราทรุดตัวลงบนพื้นตีอกชกตัวหวังให้พวกเขารู้สึกละอายแก่ใจ ทว่าเซี่ยชิงเป่ากลับยืนหน้าตายไม่รู้ร้อนรู้หนาว
ในใจของนางคิดว่า หากตนเลือกเกิดได้ก็ไม่อยากเกิดเป็คนตระกูลเซี่ยเหมือนกัน เหล่าชาวบ้านต่างคุ้นชินกับสถานการณ์เช่นนี้ของตระกูลเซี่ยแล้ว ทุกวันมักมีเื่ถกเถียงกับบุตรสาวคนเล็กของบ้านรอง
สุดท้ายลงเอยที่นางถูกลงโทษอยู่เป็ประจำ บ้านไหนมีใครไม่เคยตีลูกหลานบ้าง อีกอย่างนี่ก็ไม่ใชเื่ของพวกตน พวกเขาจึงทำได้เพียงยืนมองอยู่ห่างๆ
“เถียงสู้ไม่ได้ก็เอาความาุโเข้าข่ม ความยุติธรรมบนโลกใบนี้อยู่ที่ใด”
เด็กน้อยกลอกตาด้วยความรำคาญ ในสายตาของเซี่ยชิงหลีเซี่ยชิงเป่าเกิดมาเพื่อเป็คู่ปรับกับแม่เฒ่าหวังโดยแท้ ร่างบางที่กอดอกยืนฟังอย่างเงียบๆ หลุดขำพรืดออกมา ทว่าก็รีบเก็บสีหน้าก่อนจะที่มีคนเห็นเข้า
เมื่อตนเถียงสู้เด็กน้อยแปดขวบอย่างเซี่ยชิงเป่าไม่ได้ แม่เฒ่าหวังจึงเลิกแสดงละคร หญิงชราลุกขึ้นยืนสะบัดเสื้อผ้าที่สกปรกก่อนชี้ไปยังคนบ้านรอง
“ได้! ได้! ข้าไม่เถียงกับพวกเ้าแล้วก็ได้ บ้านรองของพวกเ้าคนไหนจะเป็ผู้รับการลงโทษ จงเดินออกมา”
แม่เฒ่าหวังมองเห็นแววอยู่ไกลๆ ว่าตนอาจไม่ใช่คู่มือของหลานสาวผู้นี้ ช่างเถอะ!ไก่ตัวนั้นคนก็กินจนหมดแล้ว หากไม่หาทางระบายความโกรธใส่คนเหล่านี้ เห็นทีตนเองคงจะไม่สามารถนอนหลับได้
“ข้าจะขอรับโทษครั้งนี้เอง!!”
เซี่ยจื่ออี้เดินกะเผลกออกมาขวางน้องทั้งสองและมารดาเอาไว้ด้านหลัง
“ดี เ้าหมาป่าตาขาว เช่นนั้นก็จงรับโทษเสีย”
แม่เฒ่าหวังเอ่ยกับชายหนุ่มราวกับมิได้มองเขาเป็หลานชายของตน ในระหว่างที่กำลังจะลงแส้กับหลานชายคนรอง มือของใครคนหนึ่งก็เอื้อมมากระชากแส้จากมือนาง
“ใครมันกล้ามาขวางข้า!!”
หญิงชราหันขวับไปยังเ้าของมือ เมื่อเห็นว่าเป็หลานสาวใบ้ โทสะของแม่เฒ่าหวังที่กำลังดับมอดก็ยิ่งพลุ่งพล่านมากกว่าเดิม
หญิงชราปรี่เข้าไปหวังจะตบเด็กสาวตรงหน้าให้คว่ำ
ทว่าร่างสูงของอาเหิงก็พุ่งมาขวางทางทำให้ใบหน้าอันหล่อเหลาถูกฝ่ามือหนาของหญิงชราฟาดลงไปอย่างถนัดถนี่ มุมปากสีอิงเถาพลันมีเืสดๆ ไหลย้อยออกมา
เซี่ยชิงหลีไม่คิดว่าชายหนุ่มที่ถูกมองว่าเป็คนไม่เต็มเต็ง ถูกดูิ่ว่าเป็คนไร้ค่ากลับเอาตัวเข้ามาปกป้องตน สองชาติในการมีชีวิตนอกจากท่านอาจารย์และครอบครัวใหม่ของตนแล้ว เขาคืออีกคนที่พยายามปกป้องนาง
ั้แ่บัดนั้นเซี่ยชิงหลีได้สลักลึกลงในใจ ว่าอาเหิงเป็ของนางแต่เพียงผู้เดียว
หญิงสาวจับใบหน้าหล่อเหลาพลิกสำรวจดู เมื่อเห็นด้านข้างแก้มเป็รอยฝ่ามือของแม่เฒ่าหวังประทับเต็มทั้งห้านิ้วก็รู้สึกเ็ปในใจ ใครที่กล้าทำร้ายผู้ชายของตน มันจะต้องได้รับความเ็ปมากกว่าหลายเท่า
เซี่ยชิงหลีย่างสามขุมตรงเข้าหาหญิงชรา จางซุนโหรวจดจำสายตานี้ของนางได้ดี เมื่อเห็นฝ่ายตรงข้ามเอาจริงนางจึงรีบทิ้งแม่สามีเพื่อเอาตัวรอด ร่างบางกระชากหญิงชราเข้ามาใกล้ นางฟาดแส้ในมือลงไปบนร่างกายของผู้ก่อเหตุอย่างไม่ยั้งมือ
“โอ๊ย!! ตีคนแล้ว!!ตีคนแล้ว!!”
แม้แม่เฒ่าหวังจะร้องโหยหวนด้วยความเ็ปเพียงใด ทว่าเซี่ยชิงหลีก็ไม่หยุดมือ
ไม่รู้นางตีหญิงชราไปนานเท่าใด บัดนี้ร่างในมืออ่อนระทวยทิ้งกายลงบนพื้น ทุกเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นคนบ้านเซี่ยต่างเห็นกับตา ทว่ากลับไม่มีใครกล้าเข้ามาห้ามนาง เพราะดวงตาแดงก่ำราวกับสีโลหิตของเซี่ยชิงหลีช่างดูน่าหวาดกลัวนัก
กระทั่งอาเหิงเดินเข้ามาสวมกอดหญิงสาวเอาไว้แนบอก นางจึงได้สติกลับมา ดวงตากลมโตมองไปรอบๆ พบว่าหญิงชราหมดสติไปแล้ว ในใจคิดว่าตนเองลงมือหนักเกินไปหรือไม่
ชาติก่อนแฝงตัวเป็สายลับอาศัยอยู่ชายแดนซีเรียรู้จักแต่เพียงการฆ่าฟัน ลงมือเมื่อใดมักจะขาดสติทุกที จากนี้คงต้องฝึกตนเองไม่ให้ถูกกลิ่นอายสังหารครอบงำ ไม่อย่างนั้นคงได้มีคนตายเป็เบือแน่
“อาเหิงกลัวข้าหรือไม่”
หญิงสาวเอ่ยกระซิบเสียงเบาให้ได้ยินเพียงสองคน คะเนจากสายตาของนางเขาน่าจะอายุราวๆ ยี่สิบปี ส่วนร่างเดิมก็ไม่น่าเกินสิบห้าสิบหก เมื่อเทียบกับตนในชาติก่อนสองคนนี้ยังเล็กนัก
“อาเหิงไม่กลัว...หลีเอ๋อคือภรรยา อาเหิงไม่กลัว”
ชายหนุ่มเอ่ยปลอบหญิงสาวในอ้อมแขนราวกับกำลังปลอบใจตนเอง การแสดงออกของเขาแม้จะดูเหมือนเด็กเล็กทว่ากลับเข้าใจจิตใจของผู้อื่นได้เป็อย่างดี
เซี่ยชิงหลีผละจากอ้อมแขนของอาเหิง นางมองตรงไปยังชายชราที่ยืนอึ้งอยู่ข้างกายบุตรชายคนรองหรือก็คือบิดาราคาถูกของร่างเดิมนั่นเอง
เมื่อเห็นเด็กสาวตรงหน้าเบนความสนใจมาที่พวกตน คนเ่าั้ต่างรีบหนีกระเจิงไม่สนใจแม้แต่แม่เฒ่าหวังที่นอนหมดสติอยู่บนพื้นเลยสักคน
“ขี้ขลาด!”
เซี่ยชิงเป่าบริภาษคนเ่าั้ด้วยสีหน้าดูแคลน
“หลีเอ๋อ น้องคิดจะทำอย่างไรกับนาง”
เซี่ยจื่ออี้ชี้นิ้วไปยังท่านย่าที่นอนหมดสติอยู่บนพื้น
เซี่ยชิงหลีก้มลงกดนิ้วโป้งลงไปเหนือริมฝีปากของหญิงชรา ไม่นานนักนางก็ได้สติกลับคืนมา เมื่อเห็นใบหน้าหลานสาวที่ลงมือทำร้ายตนแม่เฒ่าหวังก็ทำท่าจะหมดสติไปอีกครั้ง ทว่าครั้งนี้หญิงสาวไม่ยอมให้เป็เช่นนั้น นางลากร่างแม่เฒ่าหวังไปทิ้งเอาไว้ที่ประตูของเรือนใหญ่อย่างไม่ไยดี จากนั้นกลับมาที่กระท่อมของตนวางแผนพาครอบครัวไปจากที่นี่
“เป่าเอ๋อน้องพาอาเหิงออกไปเล่นข้างนอกก่อนดีหรือไม่ พี่สาวมีเื่สำคัญต้องปรึกษาท่านแม่และพี่ชาย”
“เ้าค่ะ พี่อาเหิงตามข้ามาเถอะ”
เซี่ยชิงเป่าทำหน้าที่พี่เลี้ยงของตนพลางเดินหน้ามุ่ยออกจากลานเรือน แม้ในใจจะไม่พอใจทว่าก็ทำตามที่พี่สาวสั่งอย่างว่าง่าย
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้