พี่ซ่งอุตส่าห์ยื่นทางลงให้ ถ้าเซี่ยโม่ยังยอมให้ผู้หญิงคนนี้มากดหัวอีก เธอก็ไร้ประโยชน์เกินไปแล้ว
ความที่คิดเช่นนี้ เซี่ยโม่จึงเอ่ยออกไปด้วยสีหน้าไม่ได้รับความเป็ธรรม “รอก่อนค่ะคุณป้า ไม่ใช่ว่าหนูไม่ระวัง คุณป้าน่าจะต้องกลับไปบอกให้ลูกสาวคุณป้าระวังมากกว่านะคะ อยู่ดีๆ เธอก็มาหาหนู มาต่อว่าสารพัด หนูไปขอข้าวเธอกินหรือยังไงคะ หรือว่าหนูติดหนี้เธอ? เธออายุแค่นี้แต่ยังเป็ถึงขนาดนี้ โตขึ้นไปไม่รู้จะเป็ขนาดไหน ส่วนคุณป้าอายุมากแล้วก็ยังมาหาเื่หนูถึงบ้าน คุณมีสิทธิ์อะไรคะ”
คุณตาได้ยินเช่นนั้นก็เข้าใจเื่ราวทั้งหมดทันที หลานสาวของเขากำลังถูกรังแก พอเห็นหลานสาวมีสีหน้าน้อยเนื้อต่ำใจ เขาพลันตบโต๊ะอย่างแรงก่อนจะเอ่ยอย่างเคืองโกรธ
“คนแซ่หวาง จู่ๆ คุณก็บุกเข้ามาในบ้านแล้วมาพูดจาสั่งสอนหลานสาวผม เื่ในบ้านคุณแท้ๆ เกี่ยวอะไรกับพวกเราด้วย”
คุณปู่จ้าวเอ่ยอย่างไม่พอใจเช่นกัน “หวางอิ๋งอิ๋ง เธอคิดว่าบ้านอู๋คือบ้านของตัวเองหรือยังไง นึกอยากจะมาก็มา นึกอยากจะไปก็ไป”
คุณยายเองก็พอจะเข้าใจเื่ราวทั้งหมดแล้วเช่นกัน ผู้หญิงคนนี้มาที่นี่เพื่อมาหาเื่
“มารังแกหลานสาวของฉันถึงบ้าน ไม่เห็นหัวพวกเราหรือยังไง หน้าไม่อายจริงๆ” หญิงชราเอ่ยด้วยน้ำเสียงโกรธา
หวางอิ๋งอิ๋งไม่เคยเห็นบ้านอู๋อยู่ในสายตา คนบ้านอู๋มีแต่คนแก่กับเด็ก ฐานะก็ยากจนอย่างกับอะไรดี แถมยังมาเกาะต้นไม้ใหญ่อย่างหลานชายเธอไม่ยอมปล่อย
ไม่ว่าเธอจะเตือนหลานชายอย่างไร หลานชายก็ไม่ฟัง ราวกับคำพูดเธอเป็เพียงลมที่พัดผ่านหู ด้วยเหตุนี้เธอเลยไม่ชอบคนในบ้านอู๋
ตอนแรกหวางอิ๋งอิ๋งตั้งใจจะทิ้งคำพูดสวยๆ แล้วจากไป คิดไม่ถึงว่าจะถูกเด็กสาวถามกลับมาเช่นนี้ ทั้งยังโดนพวกคนแก่ต่อว่าอีก เล่าเอาเธอทำอะไรไม่ถูก
อย่างไรที่นี่ก็เป็ถิ่นอีกฝ่าย เธอรีบออกจากตรงนี้ให้เร็วที่สุดจะดีกว่า
แม้ในใจจะกลัว หากสีหน้าที่แสดงออกยังคงเรียบนิ่ง “แล้วจะเอายังไง ฉันแค่มาถามเด็กนี่เท่านั้นว่าเกิดอะไรขึ้น ถ้าไม่มีอะไรแล้วงั้นฉันกลับก่อน”
ขณะที่หวางอิ๋งอิ๋งกำลังจะหมุนตัวเดินออกไป ซ่งมู่ไป๋กลับร้องเรียกเอาไว้เสียก่อน “คุณป้า ผมว่าผมพูดชัดเจนแล้วนะครับ คุณเป็ญาติผมก็จริง แต่บ้านอู๋ไม่ได้มีความเกี่ยวข้องอะไรกับคุณ คุณป้าบุกมาถึงบ้านเขา ต่อว่าคนในบ้านนี้ พอรู้ความจริงไม่คิดจะอธิบายอะไรสักหน่อยเหรอครับ”
หวางอิ๋งอิ๋งโมโหจะตายอยู่แล้ว คนบ้านอู๋จะไม่พอใจเธอก็ไม่แปลก แต่เหตุใดหลานชายเธอถึงไปช่วยพูดให้คนบ้านนี้กัน
“มู่ไป๋ นี่เธอเป็พวกเดียวกับคนพวกนี้เหรอ หลายปีที่ผ่านมาป้าดูแลเธอยังไง เธอลืมไปแล้วเหรอ” เธอพูดออกไปด้วยความไม่พอใจ
ความจริงเมื่อสามปีก่อนตอนซ่งมู่ไป๋ย้ายมาอยู่ที่นี่ใหม่ๆ หวางอิ๋งอิ๋งเห็นชายหนุ่มเป็ดั่งต้นไม้ใหญ่ให้เกาะ กอปรกับเห็นว่าตัวเองมีบุตรสาว ในใจพลันเกิดความคิดหนึ่งขึ้นมา
หวางอิ๋งอิ๋งจึงดูแลเอาใจใส่ชายหนุ่มอย่างดี ซึ่งซ่งมู่ไป๋ก็หาทางตอบแทนความเป็ห่วงเป็ใยที่คุณป้ามอบให้อยู่เสมอ
ครั้นได้รู้ว่าคุณป้า้าให้บุตรสาวแต่งงานกับตัวเอง นับั้แ่นั้นมาเขาก็ระมัดระวังตัวมากขึ้น อ้างเหตุผลว่าเป็ญาติกันไม่สามารถแต่งงานได้เพื่อปฏิเสธ ทั้งยังพยายามเอาตัวออกหาก
เขาไม่เคยคิดว่าตัวเองติดหนี้อะไรอีกฝ่าย หากตอนนี้คุณป้ากลับพูดลำเลิก เขาจึงตอบกลับเสียงแข็ง “คุณป้าครับ ที่คุณป้าทำดีกับผม ผมจะจดจำเอาไว้ แต่คุณป้าได้ของจากผมไปเท่าไรไม่เคยนับเลยเหรอครับ ถ้าของเ่าั้ยังตอบแทนน้ำใจได้ไม่หมด คุณป้าบอกจำนวนเงินมาก็ได้ ผมจะได้ตอบแทนเป็เงิน”
หวางอิ๋งอิ๋งอ้าปากค้าง พูดอะไรไม่ออกชั่วขณะ หลายปีมานี้ถ้าไม่ได้ของจากหลานชาย บุตรสาวของเธอไหนเลยจะได้กินดีอยู่ดี
เธอได้ตอบกลับมามากกว่าสิ่งที่เคยทุ่มเทไปเสียอีก ถึงอย่างนั้นก็ไม่คิดจะปริปาก เพราะเกรงว่าหากพูดออกไป หลานชายต้องตัดความสัมพันธ์กับเธอเป็แน่
เธอจึงอ้างเหตุผลอื่นออกไปแทน “ความเป็ห่วงเป็ใยที่ป้ามีต่อเราใช้เงินทองมาวัดได้ที่ไหน”
ได้ยินเช่นนั้นซ่งมู่ไป๋จึงเอ่ยต่อ “งั้นยังไม่พูดเื่นี้ก่อนก็ได้ครับ โบราณกล่าวไว้ว่า เมื่อเจอความไม่ยุติธรรมย่อมมีคนออกมาช่วยทวงความยุติธรรม เมื่อกี้คุณป้าทำอะไรลงไปไม่รู้ตัวเลยเหรอครับ ผิดก็คือผิด คุณป้าต้องขอโทษผู้ใหญ่ทั้งสามคนในบ้านนี้”
หวางอิ๋งอิ๋งไหนเลยจะยอมทำตาม “ทำไมป้าต้องขอโทษด้วย เด็กนี่ต้องไปพูดอะไรกับหม่านเยวี่ยแน่ๆ ป้ามาถามเพราะหม่านเยวี่ยกลับมาบ้านก็เอาแต่ร้องห่มร้องไห้ แบบนี้ป้าผิดตรงไหน”
ซ่งมู่ไป๋ตอบกลับด้วยน้ำเสียงเ็า “คุณป้าครับ ั้แ่เด็กหม่านเยวี่ยร้องไห้ไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้ง คุณป้าจะบอกว่าเป็ความผิดของโม่โม่ได้ยังไง แบบนี้มันไม่ยุติธรรมกับเธอ”
“ป้าไม่ได้หมายความแบบนั้น เื่ที่เกิดขึ้นในวันนี้ยังไงต้องเป็ฝีมือเด็กนี่แน่ๆ ไม่มีทางที่เธอจะไม่เกี่ยวข้อง” หวางอิ๋งอิ๋งพยายามจะแก้ตัว
“คุณป้าพูดถูกแค่ครึ่งเดียว เื่นี้ไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับโม่โม่ ผมเป็คนบอกเองว่า ถ้าหม่านเยวี่ยไปหาผมที่ทำงานอีก ผมจะไม่เจอเธอตลอดชีวิต เธอน้อยใจ กลับถึงบ้านก็เลยร้องไห้แบบนั้น”
หวางอิ๋งอิ๋งเบิกตาโตอย่างคาดไม่ถึงว่าเื่จะกลับกลายเป็เช่นนี้ เธอรีบพูดตัดบททันที “เอาละ ป้ารู้แล้ว งั้นป้ากลับก่อนนะ”
“ขอโทษ!” ซ่งมู่ไป๋เอ่ยเสียงแข็ง เขาไม่ยินยอมให้ป้าของตัวเองหนีกลับไปง่ายๆ
“ถ้าไม่ขอโทษ งั้นพวกเราก็ไปหาผู้ใหญ่บ้านให้ช่วยตัดสิน” ผู้ใหญ่ทั้งสามคนที่ทนฟังอยู่นานเอ่ยออกมา
หวางอิ๋งอิ๋งไม่้าให้เื่นี้เป็เื่ใหญ่ และไม่อยากให้ใครล่วงรู้ว่าสมองของบุตรสาวตัวเองไม่ค่อยสมประกอบ
บุตรสาวเธอโตแล้ว อีกไม่นานก็สามารถแต่งงานออกเรือนได้แล้ว หากชื่อเสียงเสียหายจะส่งผลต่ออนาคตได้
“เรานี่ไร้น้ำใจจริงๆ ป้ายอมขอโทษก็ได้” เธอจำใจต้องทำตาม พลางมองหลานชายด้วยสายตาผิดหวัง ก่อนจะหันไปกล่าวคำขอโทษกับคนในบ้านอู๋ด้วยน้ำเสียงเ็า จากนั้นถึงค่อยหมุนตัวเดินออกไป
ภายในบ้านเหลือไว้แต่ความเงียบ ทุกคนรู้แก่ใจดีว่าพวกเขาได้ล่วงเกินหวางอิ๋งอิ๋งเข้าให้แล้ว
ความสัมพันธ์ระหว่างซ่งมู่ไป๋กับคุณป้าเกิดรอยร้าวขึ้น เซี่ยโม่รู้ดีว่าที่ชายหนุ่มทำเช่นนี้ก็เพื่อปกป้องเธอ ซึ่งความจริงเื่นี้เธอเป็ฝ่ายผิดเอง
พอเื่ลงเอยแบบนี้ เธอเลยไม่รู้ว่าจะพูดคำไหนดี “พี่ซ่ง ขอโทษนะคะ ทั้งหมดต้องโทษฉัน…”
ซ่งมู่ไป๋หันไปมองเด็กสาวด้วยแววตาอ่อนโยน “เด็กโง่ คนที่ผิดคือฉันเองต่างหาก หลายปีที่ผ่านมาเป็เพราะฉันไม่อยากมีเื่ ตอนฉันเพิ่งย้ายมาอยู่ที่นี่ ฉันได้ท่านดูแลก็จริง แต่พอรู้ว่าท่านมีแผนในใจ ฉันเลยพยายามเอาตัวออกหาก ความจริงฉันต่างหากที่เป็คนทำให้เธอต้องมาเดือดร้อนไปด้วย”
เซี่ยโม่รู้สึกซาบซึ้งใจเหลือเกิน ถึงแม้พี่ซ่งจะเ้าเล่ห์มากแผนการ แต่ก็ปฏิบัติต่อเธออย่างจริงใจ
“พี่ซ่ง พี่ไม่ผิดสักหน่อย ฉันผิดเองต่างหาก เป็ฉันที่ไม่รู้ความ เื่ถึงได้กลายเป็แบบนี้…” เธอน้ำตาคลอเบ้า
ผู้ใหญ่ทั้งสามคนที่นั่งฟังอยู่ ยิ่งได้ฟังก็ยิ่งรู้สึกมึนงง
“โม่โม่ ตกลงมันเกิดอะไรขึ้น” ด้วยความที่สงสัยจนทนไม่ไหว คุณตาจึงเอ่ยถามออกมา
เื่ดำเนินมาถึงตอนนี้ เธอจึงต้องเล่าความจริงทั้งหมดออกไป
“เมื่อกี้เพื่อปกป้องหนู พี่ซ่งถึงได้ผลักความผิดทั้งหมดให้เกาหม่านเยวี่ย…” เซี่ยโม่สารภาพด้วยสีหน้าสำนึกผิด
พอผู้าุโทั้งสามคนได้ฟังเื่ราวทั้งหมดก็ต่างคิดในใจว่า เ้าหนุ่มมู่ไป๋ดีต่อหลานสาวของพวกเขาอย่างยิ่ง
หากเ้าหนุ่มคนนี้เลือกที่จะเพิกเฉย ไม่ช่วยออกตัวแก้ต่าง ชื่อเสียงของหลานสาวพวกเขาต้องถูกทำลายแน่นอน
“เสี่ยวซ่ง เธอนี่สุดยอดไปเลย”
“ต่อไปก็มาที่นี่บ่อยๆ นะ”
“เสี่ยวซ่ง ตอนกลับเอาน้ำมันหมูไปด้วยนะ ในนั้นมีกากหมูด้วย เผื่อเอาไว้กินตอนหิว ถ้าหมดแล้วก็มาเอาไปอีกได้ ที่นี่ยังมีอีกเยอะเลย” คุณยายเสนออย่างใจกว้าง
ซ่งมู่ไป๋รับรู้ถึงความเป็ห่วงเป็ใยของทุกคน ในใจพลันรู้สึกอบอุ่นขึ้นมา
ไม่ว่าจะเป็คุณตา คุณยาย หรือคุณปู่จ้าว หากใครทำดีด้วยเขาก็จะพยายามตอบแทนอย่างสุดความสามารถ เป็เพราะเหตุนี้ซ่งมู่ไป๋ถึงชอบมาที่นี่ ที่นี่ไม่มีการแก่งแย่ง ไม่มีการวางแผนเล่นงาน ถึงแม้ทุกคนจะคนละแซ่ แต่กลับปฏิบัติต่อกันอย่างจริงใจ
เขายิ้มพร้อมพยักหน้ารับทราบ “ครับ ผมจะมาบ่อยๆ”
