ซูอี้หรานเหมือนจะนึกอะไรขึ้นมาได้ มันทำให้เขาตัวสั่นไปทั้งตัว
เขาไม่อยากจะคาดเดาอะไรเลย เขาเอามือกุมหัวเอาไว้ ลูบแล้วลูบอีก ...
หลังจากนั้น ซูอี้หรานก็ตาโตจนแทบหลุดจากเบ้า เขานิ่งอยู่กับที่เหมือนก้อนหิน วินาทีนั้นเขารู้สึกว่าหัวของตนเองมันว่างเปล่า สภาพจิตใจของเขาก็เย็นและดำดิ่งสุดๆ !
ใช่ ไฟบนหัวของเขานั้นดับแล้ว แต่เส้นผมของเขาถูกเผาจนเปลี่ยนรูปและค่อยๆ หลุดร่วงไปทีละเล็กละน้อย วินาทีที่เขาเอาหัวมุดดินผมของเขาก็แหลกสลาย ตอนที่ดึงหัวออกมามันเลยไม่เหลืออะไรอีก ...
“อ๊า!”
ซูอี้หรานร้องออกมาด้วยความเ็ปใจ ก่อนหน้านี้เขายังเป็เป็ชายหนุ่มผมเต็มหัวรูปงามอยู่เลย แต่ตอนนี้ทั่วทั้งตัวของเขากลับดำเป็ตอตะโก หัวก็โล้นแปลกๆ ...
แล้วจะให้เขายอมรับความจริงที่โหดร้ายแบบนี้ได้อย่างไร?
แน่นอนว่า หากซูอี้หรานรู้ว่าคิ้วของเขาก็ไม่เหลือเหมือนกัน ไม่รู้ว่าเขานั้นจะคิดอย่างไร
และเวลานี้ในร่างกายของเขาก็ถูกพลังงานเปลวไฟรุกรานอยู่ มันทำให้เขารู้สึกทรมานอย่างมาก ส่วนความหัวโล้นนั้นก็ทำให้ซูอี้หรานเ็ปใจ ร่างกายและจิตใจได้รับความกระทบกระเทือนทั้งคู่ มันทำให้เขาสติแตก!
เขาจ้องไปที่ิอวี่ ถึงแม้ในใจของเขาจะปั่นป่วน มีคำพูดมากมายอยากจะด่าิอวี่ แต่กลับพูดอะไรไม่ออกเลยแม้แต่คำเดียว
เพราะเขาเริ่มมีความกลัวิอวี่ขึ้นมาแล้ว!
ั้แ่เริ่มมาจนถึงตอนนี้ ไพ่ไม้ตายที่ิอวี่ใช้มันทำให้ซูอี้หรานนั้นตะลึงมาก และเขาเองตอนนี้ก็าเ็หนัก เลยไม่กล้าที่จะลงมืออะไรกับิอวี่อีก
“เ้าอย่าเข้ามานะ ... อย่าเข้ามา ... ”
ซูอี้หรานมองเห็นิอวี่ค่อยๆ เดินบีบเข้ามาใกล้ เขาก็ใขวัญกระเจิงทรุดตัวลงนั่งกับพื้น พยายามจะคลานและลุกขึ้นมา พร้อมกับอดทนต่อความเ็ป เขาวิ่งหนีไปแบบก้นเปลือยเปล่าและรีบขึ้นเหยี่ยวั์ของตัวเอง แล้วบินหนีไปด้วยความรวดเร็วที่สุด
ิอวี่มองเห็นทุกอย่างชัดเจน เขายืนอยู่ในท่าเดิม ไม่ได้ตามไป
จนกระทั่งซูอี้หรานนั้นหายไปจากระยะสายตาของเขา และเมื่อมั่นใจแล้วว่าลมปราณนั้นห่างออกไปไกลแล้ว ิอวี่ถึงได้จับไปที่หน้าอกของตัวเอง ก่อนจะมีเืไหลออกมาที่มุมปาก
“ในที่สุดก็ผ่านด่านสำคัญไปได้แล้ว ... ”
ิอวี่เช็ดเืที่มุมปาก ในใจก็รู้สึกว่าโชคดี
ที่จริง เมื่อครู่ที่ิอวี่ต้านกระบี่ทะยานฟ้าของซูอี้หราน เขาก็รู้สึกาเ็จนแทบทนไม่ไหว เพียงแต่เขาพยายามฝืนไม่ให้เืมันไหลออกมาเท่านั้นเอง
เพราะอย่างไรกระบี่ทะยานฟ้าก็เป็ถึงทักษะการต่อสู้เสวียนระดับต้นสูงสุด แล้วซูอี้หรานเองก็ใช้ความหมายที่แท้จริงของ “กระชับรับกุม” ด้วย กระบวนท่านั้นมันแข็งแกร่งมาก ต่อให้เป็ผู้กล้าขอบเขตอมฤตขั้นที่สามทั่วไปก็ไม่อาจต้านทานความน่ากลัวของมันได้
ถึงแม้ิอวี่จะเปิดสถานะหยางแล้ว ใช้หมัดคชสารัใหญ่แล้ว แต่ก็ยังไม่อาจสู้อานุภาพของกระบี่ทะยานฟ้าได้เลย
โชคยังดีที่ิอวี่นั้นยังมีสัจธรรมเพลิงไร้เทียมทานอีกสี่ส่วนที่คุ้มกันร่างกายอยู่ ไม่อย่างนั้น ต่อให้เขาจะต้านทานได้แข็งแกร่งแค่ไหนก็ตาม ก็จะต้องถูกคลื่นลมปราณกระบี่ซัดจนร่างแหลกไปอย่างแน่นอน
ิอวี่รู้ดีว่าต่อให้เขาต้านพลังสังหารของซูอี้หรานได้ ซูอี้หรานเองก็ไม่มีทางเลิกรา การต่อสู้มันก็จะไม่จบ ดังนั้น ิอวี่จึงใช้ลมปราณที่เหลืออยู่สร้างะเิเพลิงขั้นที่สองขึ้นมา และโจมตีทันทีในตอนที่ซูอี้หรานนั้นยังไม่ทันได้ตั้งตัว!
ถึงแม้ะเิเพลิงขั้นที่สองจะไม่สามารถสังหารซูอี้หรานได้ แต่ก็สามารถทำให้ร่างกายและจิตใจของเขาได้รับความกระทบกระเทือนอย่างรุนแรงแน่นอน
ซูอี้หรานเห็นการต่อสู้ของิอวี่ทุกอย่างชัดเจน ิอวี่ทำให้เขาตกตะลึงทุกครั้ง และความตกตะลึงนั้นก็หนักขึ้นเรื่อยๆ
ดังนั้น ต่อให้ในร่างกายของซูอี้หรานจะยังมีลมปราณเหลืออยู่ เขาก็ไม่กล้าสู้ต่อแล้ว เขากลัวว่าตัวเขาจะตาย! หลังจากที่ะเิเพลิงขั้นที่สองะเิจนตัวเขาาเ็ สิ่งแรกที่เขาคิดก็คือหนี
ซูอี้หรานคิดไม่ถึงเลยว่า เขามอบโอกาสให้ิอวี่นั้นได้มีชีวิตต่อไปโดยไม่รู้ตัว!
“ฮู้ว ... ”
ิอวี่ถอนหายใจเฮือกใหญ่ ก่อนหน้านี้เขาทำร้ายผู้กล้าขอบเขตอมฤตขั้นที่สองระดับสูงสุดสองคน แล้วก็วางแผนฆ่าผู้กล้าขอบเขตอมฤตขั้นที่สามหนึ่งคน และสุดท้ายยังพยายามโจมตีผู้กล้าขอบเขตอมฤตขั้นที่สามอีกคนจนาเ็สาหัสแล้วหนีเอาชีวิตรอดไป ...
ร่างกายของิอวี่นั้นวิปริตมาก ในเวลานี้เขารู้สึกเหนื่อยล้าอย่างยิ่ง
หากมีใครรู้ถึงผลการต่อสู้ของิอวี่จะต้องตะลึงจนพูดไม่ออกแน่ เพราะในคนรุ่นราวคราวเดียวกับเขา คนที่สามารถทำแบบนี้ได้ ในสำนักเทพอัคคีนั้นเรียกว่าผู้มีความสามารถ!
แต่ว่าในใจของิอวี่นั้นไม่ได้มีความภาคภูมิใจแต่อย่างใด เพราะเขารู้ว่าเขาได้ชัยชนะมาแบบอันตรายสุดๆ การจะเอาชนะซูอี้หรานนั้นยากลำบากมาก
แต่มันก็ไม่ได้หมายความว่าเขาจะกลัว
“ศึกในสนามรบร้างโบราณในครั้งนี้ เริ่มน่าสนใจแล้วสินะ” ิอวี่พยายามสงบสติและรวบรวมความมั่นใจ จากนั้นก็ยิ้มมุมปากขึ้นมา
......
ภายในถ้ำใต้ดิน แสงสว่างสลัวส่องมายังผนังถ้ำและโขดหินด้านหนึ่งของถ้ำ
เิหยูเยียนนั่งขดตัวสั่นอยู่ที่มุมผนัง เมื่อครู่เหมือนนางจะแอบได้ยินเสียงร้องโหยหวนดังขึ้น จากนั้นก็เป็เสียงปะทะที่รุนแรงมาก แล้วนางก็ไม่ได้ยินเสียงอะไรอีกเลย
ในเวลานี้ ห่างจากเสียงเคลื่อนไหวครั้งสุดท้ายมาก็ประมาณสามนาทีได้แล้ว ...
เิหยูเยียนถอนหายใจอย่างเศร้าใจ นางรู้ว่าการต่อสู้มันจบแล้ว
พูดตามตรง เิหยูเยียนก็คิดไม่ถึงเลยว่าิอวี่จะรับมือกับพวกซูอี้หรานที่มีขอบเขตอมฤตขั้นที่สามได้นานขนาดนี้ ต้องรู้ก่อนเลยว่า ปกติแล้วผู้กล้าขอบเขตอมฤตขั้นที่สองคนหนึ่งมักจะถูกผู้กล้าขอบเขตอมฤตขั้นที่สามฆ่าตายในแค่พริบตา!
ิอวี่สามารถรับมืออยู่ได้หลายนาที นั่นหมายความว่า ความสามารถของเขานั้นแข็งแกร่งมาก อย่างน้อยก็น่าจะอยู่ในระดับขอบเขตอมฤตขั้นที่สองที่สูงสุดๆ แล้ว!
แม้แต่เิหยูเยียนเองยังคิดว่าตัวเองนั้นไม่สามารถไปถึงระดับเดียวกับิอวี่เลย
แต่ว่าศิษย์ที่มีความสามารถแข็งแกร่งแบบนี้ กลับต้องมาจบชีวิตลงเร็วแบบนี้ เพียงเพราะความไร้เดียงสาและโง่เขลาของนาง!
เิหยูเยียนได้เตรียมใจเอาไว้แล้ว แต่เมื่อความจริงมันปรากฏอยู่ตรงหน้า นางก็ยังรู้สึกผิดอยู่ดี ยิ่งคิดดวงตาของนางก็ยิ่งแดง นางยังคงเอาหัวมุดอยู่ที่หน้าอก ท่าทางเศร้ามาก แล้วน้ำตาก็เริ่มไหลลงมาอาบหน้าของนางอีกครั้ง
ทันใดนั้นเอง นางก็เหมือนจะได้ยินเสียงฝีเท้าคนดังขึ้นมาจากปากถ้ำ!
มันไม่ใช่เสียงฝีเท้า แต่มันเป็ระฆังแห่งความตาย ฝันร้ายมันกำลังจะเริ่มขึ้นแล้ว!
“ฮ่าฮ่าฮ่า ... ”
ด้านข้างของเิหยูเยียน อวี่ชงกับข่งหลินเฟิงที่เืนองไปทั่วพื้นนั่งพิงผนังหายใจรวยริน พยายามออกแรงหัวเราะขึ้นมา
ถึงแม้การส่งเสียงหัวเราะของพวกเขานั้นจะกินแรงอย่างมาก พลังชีวิตก็ถดถอยจนแทบไม่มีแรงจะพูดอะไรอีกแล้ว แต่ด้วยทิฐิ มันยังทำให้พวกเขาอยู่มาได้ถึงตอนนี้!
พวกเขาอยากเห็นซูอี้หรานกับหลินเฮ่าเฉือนร่างกายของิอวี่เละเป็ชิ้นๆ ้าเห็นสีหน้าท่าทางหวาดกลัวและอนาถของิอวี่ พวกเขาอยากจะแน่ใจก่อนว่า ชายหนุ่มที่ใช้กระบี่แทงทะลุตัวของพวกเขาเมื่อครู่ มีสภาพย่ำแย่กว่าพวกเขาหลายเท่าตัว!
พวกเขานั้นทั้งตื่นเต้น และก็ ... สิ้นหวังไปด้วย
เิหยูเยียนหดตัวแน่น ดวงตาปิดสนิท น้ำตาไหลออกมาอย่างต่อเนื่อง
นางรู้สึกแค่ว่า้ากำลังมีคนกำลังเดินลงมา แล้วค่อยๆ เดินมาหาและใช้มือจับไปที่่เอวของนาง
เิหยูเยียนััได้ถึงลมปราณที่กำลังเข้าใกล้ นางขดตัวแน่นขึ้นกว่าเดิม และพยายามดิ้น เอาหัวมุดหน้าอกลึกขึ้นแล้วก็ร้องไห้ “ฮือฮือ”
แต่หลังจากนั้น นางกลับรู้สึกว่ามือทั้งสองข้างของนางเบาขึ้น โซ่ถูกคลายออก โซ่ที่พันอยู่ทั่วตัวของนางก็ถูกปลดออกเช่นกัน หรือว่าซูอี้หรานกำลังจะข่มหงนางแล้ว! …
“ทุกอย่างจบแล้ว ที่นี่อยู่นานไม่ได้ เรารีบไปกันเถอะ”
แต่ในเวลานี้เอง เสียงที่คุ้นเคยเสียงหนึ่งก็ดังขึ้นมาข้างหูของเิหยูเยียน
“ ... หือ?”
เิหยูเยียนค่อยๆ เงยหน้าขึ้นมาแล้วลืมตาขึ้น มองไปที่ชายหนุ่มหน้าตาดีที่อยู่ตรงหน้าของนางด้วยน้ำตาที่ยังอาบหน้าอยู่ ชายหนุ่มคนนั้นอยู่ใกล้แค่เอื้อม เขานั่งยองๆ และปลดโซ่ที่พันตัวนางออก ท่าทางนิ่งมาก
เวลานี้ ในใจของเิหยูเยียนนั้นเหมือนมีคลื่นลูกใหญ่ซัดเข้ามา น่าตกตะลึงจนแทบคลั่ง!
“ ... ิอวี่?!”
เิหยูเยียนร้องเรียกขึ้นมาด้วยความใ นางแทบไม่เชื่อสายตาตัวเองเลย รู้สึกแค่ว่าหัวใจของนางนั้นเต้นแรงและเร็วมาก ร่างกายหายใจเร็วและหอบ
นี่เป็เื่จริงหรือ? คนที่นางเห็นตรงหน้าคือิอวี่! มันไม่ใช่ความฝันใช่ไหม!
“เ้า ... เ้าชนะแล้วหรือ?” เิหยูเยียนถามด้วยความตะลึง
