ตอนที่ 146 ตัดญาติขาดมิตร
อวิ๋นโส่วกวงรีบเข้าไปช่วยง้างมืออวิ๋นโส่วเย่าออก แต่มือของอวิ๋นโส่วเย่าราวกับเป็คีมเหล็กอย่างไรอย่างนั้น “เ้าสาม ปล่อยมือ ท่านหมอเจ็บแล้ว!”
อวิ๋นโส่วเย่าเพิ่งรู้สึกตัว รีบปล่อยมือพลางกล่าวขอโทษไม่หยุด หมอต้วนเห็นท่าทางร้อนใจของเขาก็ไม่อยากจะถือโทษโกรธเคือง เพียงแต่สะบัดมือที่ถูกบีบจนปวดร้าวแล้วเอ่ยว่า “เป็ยาพิษ เป็ยาพิษชั้นต่ำที่มักใช้ในหอนางโลม”
“เหลียนเอ๋อร์... เหลียนเอ๋อร์ผู้น่าสงสารของข้า!” เฉาซื่อร่ำไห้โหยหวน กลอกดวงตาขาวโพลนแล้วก็เป็ลมล้มพับไป
โม่ซ่านหูตาว่องไวรีบเข้าไปประคองได้ทัน พานางไปนั่งที่เก้าอี้ข้างๆ แล้วกดจุดเหรินจง [1] อย่างแรง เฉาซื่อจึงค่อยๆ ฟื้นขึ้นมา ทันทีที่ฟื้นขึ้นก็ร่ำไห้คร่ำครวญ ฟังแล้วน่าสงสารยิ่งนัก
หมอต้วนถอนหายใจ ก่อนจะหันเดินกลับออกไป ฟางซื่อรีบเดินไปส่งถุงเงินให้อย่างรวดเร็ว ส่วนอวิ๋นโส่วกวงก็ส่งหมอต้วนออกไป
ชุนเหมยรีบไปต้มยา ฟางซื่อจึงพูดกับเฉาซื่อที่กำลังเศร้าโศกเสียใจว่า “น้องสะใภ้ ก่อนอื่นไปต้มน้ำอุ่นเช็ดตัวให้เหลียนเอ๋อร์ก่อนเถิด เปลี่ยนเป็ชุดที่แห้งสบาย” ชุดที่บ้านก็มีอยู่แล้ว ชุดที่เจียวเอ๋อร์เคยให้เหลียนเอ๋อร์เป็แบบ มีขนาดที่เหลียนเอ๋อร์ใส่ได้พอดี
เฉาซื่อยกมือขึ้นปาดน้ำตา พูดปนเสียงสะอื้น “ขอบคุณพี่สะใภ้รองที่เตือนสติ”
เนื่องจากต้องอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าให้กับอวิ๋นเหลียนเอ๋อร์ พวกผู้ชายจึงออกไปข้างนอก อวิ๋นเจียวกับฟางซื่อก็ออกไปเช่นกันและช่วยปิดประตูให้
“อาสาม ท่านจะทำอะไรเ้าคะ?” ทันทีที่อวิ๋นเจียวก้าวออกจากห้องก็เห็นอวิ๋นโส่วเย่าพุ่งเข้าไปในครัว คว้ามีดทำครัวออกมา
เมื่ออวิ๋นเจียวร้องะโอวิ๋นโส่วกวงก็เห็นเช่นกันจึงรีบเข้าไปกอดเอวอวิ๋นโส่วเย่าไว้ โม่จู๋ก็เข้าไปแย่งมีดทำครัวในมืออวิ๋นโส่วเย่า
อวิ๋นโส่วเย่าร้องไห้คร่ำครวญ “พี่ใหญ่ ท่านอย่าห้ามข้า ข้าจะไปฆ่าไอ้สารเลวนั่น ข้าจะฆ่ามัน!”
อวิ๋นเจียวรีบวิ่งเข้าไปพูดด้วยความร้อนใจ “อาสาม หากท่านฆ่าเขาแล้วหากต้องชดใช้ด้วยชีวิต แล้วป้าสะใภ้สามจะอยู่ยังไง? เหลียนเอ๋อร์กับหลานเอ๋อร์จะอยู่ยังไงเ้าคะ? นี่ท่านจะเอาชีวิตพวกนางไปด้วยหรือ?”
“หากท่านตาย เหลียนเอ๋อร์จะต้องคิดว่าเป็ความผิดของนางแน่ ท่านถึงได้เอาชีวิตไปเสี่ยงแบบนี้ นางพยายามฆ่าตัวตายมาครั้งหนึ่งแล้ว ครั้งที่สอง พวกเราจะห้ามนางทันหรือเ้าคะ? หากเหลียนเอ๋อร์เกิดเื่ขึ้นอีก ป้าสะใภ้สามจะอยู่ได้อย่างไรเ้าคะ?”
“หากพวกท่านเป็อะไรไป ด้วยนิสัยอย่างหลานเอ๋อร์ นางจะยอมปล่อยคนบ้านเก่าหรือเ้าคะ? แบบนี้แล้วนางจะอยู่ยังไง? อาสามเ้าคะ การที่ท่านถือมีดไปฆ่าคนสารเลวนั่น แม้ในใจท่านจะสะใจ แต่ต้องแลกมาด้วยชีวิตคนทั้งบ้าน มันคุ้มกันแล้วหรือเ้าคะ?”
คำพูดของอวิ๋นเจียวดึงสติของอวิ๋นโส่วเย่ากลับมา เขาทรุดตัวลงนั่งยองๆ บนพื้นดิน ชายชาตรีร่างกำยำกุมศีรษะร่ำไห้อย่างขาดสติ บุรุษย่อมไม่หลั่งน้ำตาง่ายๆ เว้นแต่ถึงคราวเสียใจสุดหัวใจ
“นั่นคือแม่แท้ๆ... แม่แท้ๆ เชียวนะ... แม่แท้ๆ ของข้า!”
“เหตุใดนาง... เหตุใดนางถึงใจร้ายได้เพียงนี้... นี่มันเหมือนนางกำลังควักหัวใจข้า เหมือน้าจะเอาชีวิตเหลียนเอ๋อร์เชียวนะ!”
อวิ๋นเหลียนเอ๋อร์ถูกเรียกตัวกลับบ้านตระกูลอวิ๋นเก่า ประตูบ้านใหญ่ที่ถูกปิดตาย เสียงะโของเถาซื่อหน้าประตูบ้านที่บอกว่าอวิ๋นเหลียนเอ๋อร์ไปยั่วยวนเจียงเทียนเป่า แล้วยังมียาชั้นต่ำที่ท่านหมอกล่าวถึงอีก
เื่ราวทั้งหมดทั้งมวล เขาไม่ใช่คนโง่เสียหน่อย ที่จะไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น อวิ๋นโส่วเย่ากล่าวด้วยแววตาเ็า “ข้าจะตัดญาติ! ข้าไม่มีแม่อย่างนาง!”
“ตัดญาติหรือ! เ้าสาม เ้าคิดให้ดีๆ แม่... แต่ท่านพ่อเป็พ่อแท้ๆ นะ” อวิ๋นโส่วกวงใมากเมื่อได้ยินคำพูดของอวิ๋นโส่วเย่า
อวิ๋นโส่วเย่ากล่าวอย่างเคียดแค้น “แม้แต่เสือยังไม่กินลูกในไส้ เถาซื่อไม่เห็นข้าเป็ลูก ข้าก็จะไม่เห็นนางเป็แม่! ส่วนท่านพ่อ...”
พอเอ่ยถึงผู้เฒ่าอวิ๋น อวิ๋นโส่วเย่าก็หัวเราะเยาะหันไปมองอวิ๋นโส่วกวง “พี่ใหญ่ ท่านพ่อเป็คนรักหน้ายิ่งชีพ ปกติยังไม่ค่อยจะออกจากบ้าน ยิ่งเื่อวิ๋นเหมยเอ๋อร์เพิ่งทำให้เขาเสียหน้าไปหมาดๆ เขาจะออกจากบ้านแต่เช้าตรู่ได้อย่างไร? หากบอกว่าเื่นี้เขาไม่รู้เห็นด้วย ท่านเชื่อหรือ? ข้าไม่เชื่อ!”
อวิ๋นโส่วกวงได้ยินดังนั้น ริมฝีปากสั่นเทา สุดท้ายก็ไม่เอ่ยสิ่งใดออกมา อวิ๋นโส่วเย่าเป็คนเด็ดเดี่ยว เมื่อตัดสินใจแล้ว แม้วัวสิบตัวก็ฉุดรั้งเขาไว้ไม่อยู่
การตัดญาติต่างจากการแยกบ้าน ยุคนี้มีแต่พ่อแม่ตัดขาดลูก ไม่ใช่ลูกตัดขาดพ่อแม่ ยิ่งไปกว่านั้น หากลูก้าตัดขาดกับพ่อแม่ อาจต้องชดใช้ด้วยสิ่งที่ยากจะจินตนาการได้
เมื่อคิดถึงเื่นี้ ฟางซื่อจึงเอ่ยเตือน “น้องสาม เื่ตัดญาติเป็เื่ใหญ่ เ้าควรปรึกษากับน้องสะใภ้ เหลียนเอ๋อร์และหลานเอ๋อร์ก่อน”
“ตัดญาติเ้าค่ะ! ท่านพี่ พวกเราตัดญาติกับพวกเขาเถิด!” เฉาซื่อปาดน้ำตาพลางเอ่ยขึ้น ขณะนั้นนางกำลังเดินออกมาจากห้องของอวิ๋นเจียวเพื่อรินน้ำ เสียงดังโวยวายในลานบ้าน นางได้ยินชัดเจน
เมื่อเห็นว่าสองสามีภรรยาตัดสินใจแล้ว ฟางซื่อจึงไม่เกลี้ยกล่อมอีก นางกล่าวว่า “จัดการเื่เหลียนเอ๋อร์ให้เรียบร้อยก่อน รอให้พี่รองของเ้ากลับมา พวกเ้าสามพี่น้องก็ไปที่บ้านเก่าพร้อมกัน จัดการเื่นี้ให้เรียบร้อย”
ฟางซื่อพูดมาถึงขนาดนี้แล้ว อวิ๋นโส่วเย่าก็รู้ดีว่าพี่สะใภ้รองหวังดี ไม่อยากให้เขาเสียเปรียบ จึงให้เขารอพี่รอง แต่ครอบครัวพี่รองก็ช่วยเหลือเขามามากแล้ว เขาไม่อยากให้พี่รองต้องเข้ามายุ่งเกี่ยวกับเื่นี้ จนถูกคนอื่นนินทา
“พี่สะใภ้รอง ไม่ต้องหรอก ฝากเหลียนเอ๋อร์ไว้กับท่านด้วย แม่เ้า เ้าไปกับข้าแล้วกัน” เฉาซื่อได้ยินเช่นนั้นก็วางอ่างในมือลงอย่างเงียบๆ เดินตามหลังอวิ๋นโส่วเย่าไปที่บ้านตระกูลอวิ๋นเก่า
ฟางซื่อเห็นว่าห้ามไม่ไหว จึงพูดกับอวิ๋นเจียวว่า “เ้าไปตามพี่ใหญ่ของเ้ามา พาโม่จู๋ไปด้วย ไปที่บ้านเก่า อย่าให้อาสามของเ้าเสียเปรียบ”
โม่จู๋กับโม่ซ่านต่างก็มีวรยุทธ์ ฟางซื่อจึงไม่ต้องกังวลว่าอวิ๋นเจียวจะตกอยู่ในอันตราย
เฮ้อ เหลียนเอ๋อร์เป็เด็กสาวที่ดีแท้ๆ ไฉนถึงได้มาเจอย่าที่คอยแต่จะรังแกนางจนตายเช่นนี้
อวิ๋นเจียวพยักหน้า “เ้าค่ะ ท่านแม่วางใจเถิด”
หลังจากที่ได้อยู่ร่วมชายคาเดียวกันกับพี่น้องอวิ๋นเหลียนเอ๋อร์มาหลายวัน อวิ๋นเจียวก็รู้สึกชอบสองพี่น้องที่ทั้งใจดีและขยันขันแข็ง ยิ่งเห็นอวิ๋นเหลียนเอ๋อร์ถูกเถาซื่อผู้เป็ย่าแท้ๆ รังแกเช่นนี้ อวิ๋นเจียวก็ยิ่งรู้สึกสงสารจับใจ
“ช้าก่อน เอาตั๋วเงินนี่ไปด้วย หากอาสามของเ้า้าจะตัดญาติขาดมิตรก็ต้องใช้เงิน”
ฟางซื่อยัดตั๋วเงินสองใบใส่มืออวิ๋นเจียว นางแอบชำเลืองมองเห็นว่าเป็ตั๋วเงินใบละร้อยตำลึงเงินสองใบ นางรีบเก็บตั๋วเงินอย่างดีแล้วเอ่ยว่า “เ้าค่ะท่านแม่ เช่นนั้นข้าไปก่อนนะเ้าคะ”
ฝ่ายบ้านตระกูลอวิ๋นเก่า หลังจากเื่ที่อวิ๋นเหลียนเอ๋อร์ะโน้ำกลายเป็เื่ใหญ่โต ผู้เฒ่าอวิ๋นก็รีบร้อนกลับมาบ้าน ส่วนเจียงต้าไห่และอวิ๋นเจวียนเอ๋อร์ที่หลบออกไปก็กลับมาแล้วเช่นกัน
เมื่อเห็นเจียงเทียนเป่าทั้งตัวเต็มไปด้วยเื อวิ๋นเจวียนเอ๋อร์ก็ร้องไห้ด่าทอทันที “อวิ๋นเหลียนเอ๋อร์นังเด็กสารเลวตัวดี กล้าทำร้ายเทียนเป่าของข้า... โธ่เอ๊ย ลูกชายแม่ ลูกชายสุดที่รักของแม่ ไฉนถึงได้าเ็สาหัสเช่นนี้...”
ผู้เฒ่าอวิ๋นตวาด “ร้องไห้อยู่นั่นแหละ ยังไม่รีบไปตามหมออีก!”
เจียงต้าไห่รีบวิ่งออกไปตามหมอมารักษา เมื่อหมอตรวจดูอาการแล้วก็ทายาที่าแบริเวณไหล่ให้เจียงเทียนเป่า จากนั้นก็พันผ้าพันแผลและเขียนเทียบยาให้ “แผลไม่ลึก ไม่เป็อะไรมาก กินยาสองสามวันก็หายแล้ว”
อวิ๋นเจวียนเอ๋อร์เบิกตากว้างพลางะโลั่น “พูดจาเหลวไหล ใครว่าไม่เป็อะไร ลูกชายข้าสลบไปเช่นนี้ยังจะว่าไม่เป็อะไรอีกหรือ?”
เดิมทีหมอเองก็ไม่ค่อยชอบครอบครัวนี้ อวิ๋นเหลียนเอ๋อร์เป็เด็กสาวที่ดีและซื่อสัตย์ แต่กลับถูกคนพวกนี้รังแกสารพัด
ฉะนั้นหมอจึงพูดด้วยน้ำเสียงไม่พอใจ “ข้าเป็หมอหรือเ้าเป็หมอกันเล่า หากไม่เชื่อใจข้าก็ไม่ต้องให้ข้ารักษา! ข้าได้เปิดหูเปิดตาจริงๆ เพิ่งเคยเห็นมารดาที่อยากให้ลูกชายตัวเองเป็อะไรเช่นเ้า!”
ผู้เฒ่าอวิ๋นรีบกล่าวขอโทษ “ท่านหมออย่าไปถือสาอะไรกับสตรีเช่นนางเลย รบกวนท่านหมอแล้ว ค่ายาเท่าไหร่ขอรับ ต้าไห่ รีบจ่ายค่ายาให้ท่านหมอเร็วเข้า!”
เชิงอรรถ
[1] จุดเหรินจง (人中) คือ จุดฝังเข็มที่อยู่บริเวณร่องเหนือริมฝีปากบนใช้ในการรักษาอาการเป็ลมหมดสติ