ใบหน้าหล่อเหลาของเฉินเซวียนเต็มไปด้วยความกังวล เมื่อเห็นว่าหานโม่ลืมตาขึ้นมาเขาก็เอ่ยถามด้วยความเป็ห่วงทันที "คุณหนูหานโม่ เป็อย่างไรบ้างขอรับ?”
ใบหน้าของหานโม่ซีดเซียว นางอยากจะพูดอะไรบางอย่าง แต่ร่างกายกลับอ่อนแรงลงและลำคอก็ราวกับถูกปิดกั้นนางจึงไม่อาจพูดอะไรออกมาได้เลย
ดวงตาของเฉินเซวียนลุ่มลึกขึ้น เขาอุ้มหานโม่ขึ้นมาและเดินตรงไปยังที่พักของตัวเอง
หานโม่ปล่อยให้เฉินเซวียนอุ้มนางขึ้นมาโดยไม่ขัดขืน แม้ว่าในใจนางจะรู้สึกว่าเรือนเหอเซียงปลอดภัยกว่า แต่เมื่อเห็นว่าเฉินเซวียนสามารถหลบหลีกสายตาของพวกบ่าวรับใช้และรู้ทางหนีทีไล่ได้เป็อย่างดี จนกระทั่งเขาพานางมาถึงเรือนหลังเล็กๆ ที่อยู่ห่างไกลจากเรือนหลังอื่นได้อย่างปลอดภัย หานโม่ก็รู้สึกโล่งใจขึ้นมา
เฉินเซวียนผลักประตูเรือนให้เปิดออกแล้ววางหานโม่ลงบนเตียงด้วยสีหน้าที่จริงจัง
หานโม่นอนนิ่งๆ พลางมองดูเฉินเซวียนที่กำลังวุ่นวายอยู่หน้าตู้ไม้ใบใหญ่ มือของเขาหยิบจับของบางอย่างไม่ได้หยุด ครู่หนึ่งก็มีกลิ่นสมุนไพรบางๆ ลอยมากระทบจมูกทำให้หานโม่ประหลาดใจเล็กน้อย
ร่างกายของนางไม่สามารถขยับเขยื้อนได้ถนัด ดังนั้นนางจึงทำได้เพียงขยับศีรษะมองไปรอบตัวเท่านั้น แล้วก็พบว่าภายในห้องเล็กๆ แห่งนี้เต็มไปด้วยสมุนไพร
เฉินเซวียนเป็หมอหรือ?
ความประหลาดใจของหานโม่ยังไม่ทันหายไป เฉินเซวียนก็เดินตรงมาพร้อมกับถือถ้วยใส่ยาสมุนไพร จากนั้นจึงป้อนยาให้นางอย่างระมัดระวัง
ยาสมุนไพรเหล่านี้หานโม่ไม่รู้ว่ามันมีคุณสมบัติอย่างไร แต่หลังจากที่นางดื่มเข้าไปหานโม่ก็รู้สึกได้ว่าความบอบช้ำและยุ่งเหยิงที่อวัยวะภายในต่างๆ ได้อันตรธานหายไปแล้ว
"แค่ก แค่ก..." หานโม่ไอออกมาสองสามครั้ง พลางพ่นลมหายใจที่ติดค้างอยู่ในทรวงอกออกมา
เฉินเซวียนยื่นน้ำชาให้นาง เมื่อหานโม่ดื่มน้ำชาจนหมดจึงรู้สึกราวกับว่าทั่วทั้งร่างของนางมีชีวิตชีวาขึ้นมาทันที
“ขอบคุณมาก” หานโม่เอ่ยขึ้นมาด้วยความจริงใจ
นางไม่ชอบติดหนี้บุญคุณใคร ไม่ว่าครั้งนี้เฉินเซวียนจะช่วยนางไว้ด้วยเหตุผลใดก็ตาม
"หลังจากนี้หากเ้า้าความช่วยเหลือใดๆ ก็มาหาข้าได้ ข้ายินดีช่วยเหลืออย่างเต็มที่" หานโม่เอ่ย
เฉินเซวียนมองไปยังหานโม่แล้วก็หัวเราะออกมา
“คุณหนูหานโม่ช่างแตกต่างจากคนตระกูลหานอย่างสิ้นเชิง”
"หืม?"
หานโม่มองไปยังเฉินเซวียนแล้วถามต่อ "คนตระกูลหานทำไมหรือ?"
คำพูดของหานโม่จริงๆ แล้วมีความหมายที่ธรรมดา เฉินเซวียนอยู่ในฐานะคนรับใช้ของตระกูลหานแต่เขากลับกลับมีเรือนพักส่วนตัวโดยที่เทพไม่รู้ผีไม่เห็นได้ [1] เห็นได้ชัดเลยว่าเขามีความเชี่ยวชาญด้านยาสมุนไพร อีกทั้งทักษะทางการแพทย์ของเขายังดียิ่ง
เขายืนยันที่จะเรียกนางว่าคุณหนูหานโม่ เพราะไม่้าเอานางไปรวมกับสมาชิกคนอื่นๆ ในตระกูลหาน เหตุผลของเขาทำให้หานโม่สงสัย
เฉินเซวียนไม่ได้คิดจะปิดบังหานโม่ เขาตอบคำถามของนางไปตามตรงว่า "คนตระกูลหานไม่ใช่คนดีอะไร คุณหนูหานโม่ ท่านก็รู้สึกเช่นนี้ใช่หรือไม่ขอรับ?"
หานโม่รู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย
เมื่อได้ยินเฉินเซวียนพูดออกมาเช่นนี้ เห็นได้ชัดว่าเขาจงเกลียดจงชังตระกูลหานมากมายมหาศาล ราวกับว่าเขา้าให้คนตระกูลหานทุกคนไม่ตายดี
สิ่งที่เขา้าคือความล่มจมของตระกูลหานที่ไม่อาจฟื้นคืนกลับมาได้อีกตลอดกาล
ช่างเป็ความเกลียดชังที่รุนแรงอะไรเช่นนี้
ไม่รู้ว่าตระกูลหานทำเื่เลวร้ายอันใดไว้ถึงสามารถทำให้ชายหนุ่มที่อายุไม่กี่สิบปีอาฆาตแค้นอย่างรุนแรงขนาดนี้
หานโม่จ้องมองไปเฉินเซวียนชั่วขณะหนึ่ง
นางไม่ใช่คนของตระกูลหานดังนั้นคำที่เฉินเซวียนใช้เรียกนางจึงถูกต้อง แม้ว่าแซ่ของนางจะเป็หาน แต่นางก็ไม่ใช่หานโม่ผู้นั้นที่เกิดในตระกูลหานอีกแล้ว
แต่ถึงอย่างนั้นหานโม่ก็พูดว่า "ข้าไม่รู้ว่าตระกูลหานทำเื่เลวร้ายอันใดต่อเ้า แต่การให้พวกเขาชดใช้มันด้วยชีวิตนั้นเป็เื่ของฟ้าดินที่ไม่อาจเปลี่ยนแปลงได้ ถ้าเ้า้าจัดการกับคนตระกูลหาน หากเ้ามีความสามารถมากพอข้าก็จะไม่ขัดขวาง เมื่อโค่นล้มตระกูลหานได้ถือได้ว่าเ้าได้ล้างแค้นสำเร็จแล้ว แต่มีเพียงสิ่งเดียวเท่านั้น..."
ตอนที่หานโม่พูดดวงตาของนางก็จับจ้องไปยังเฉินเซวียนที่ยืนอยู่ข้างหน้าอย่างแน่วแน่ "มีเพียงสิ่งเดียวเท่านั้นคือ ในตระกูลหานไม่ใช่ทุกคนที่เลวร้าย หากมันเกิดขึ้นจริง ข้าหวังว่าเ้าจะละเว้นคนบริสุทธิ์เ่าั้ไป อย่าทำให้พวกเขากลายเป็เหมือนกับเ้า”
เฉินเซวียนตกตะลึง
เขาไม่คาดคิดว่าหานโม่จะพูดเช่นนี้ออกมา
หลังจากนั้นไม่นาน รอยยิ้มกว้างก็ปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเขา เขารู้มาตลอดว่าคุณหนูหานโม่นั้นแตกต่างกับคนตระกูลหาน
“ข้ารับปากขอรับ”
หานโม่พักอยู่ที่เรือนของเฉินเซวียนไม่นานก็กลับมายังเรือนเหอเซียงอาการาเ็ของนางเกือบจะหายดีแล้ว จนดูเหมือนกับว่าไม่เคยได้รับาเ็มาก่อน ดังนั้นเสี่ยวเยว่จึงไม่รู้ว่ามีสิ่งผิดปกติเกิดขึ้นกับคุณหนูของนาง
หลังจากทานมื้อค่ำเสร็จ หานโม่ก็ให้เสี่ยวเยว่กลับไปพักผ่อน
โตวโตวรอจนกระทั่งเสี่ยวเยว่เดินจากไปมันก็เปิดปากถามหานโม่เกี่ยวกับเื่ที่เกิดขึ้นเมื่อกลางวันทันที ส่วนหานโม่เองก็ไม่ได้คิดปิดบังอะไร
หลังจากโตวโตวได้ฟังมันก็รู้สึกโกรธมาก "ชายแก่ผู้นั้นบังอาจทำร้ายท่าน ครั้งหน้าโตวเย่ว์จะฆ่าเขา!"
เมื่อเห็นความขุ่นเคืองของโตวโตวเช่นนี้ หานโม่ก็หัวเราะออกมาและรู้สึกอบอุ่นในหัวใจเล็กน้อย
ทั้งสองพูดคุยกันอยู่พักหนึ่ง ตอนที่กำลังจะเข้านอนหานโม่ก็ได้ยินเสียงว่ามีคนกำลังเข้ามาใกล้เรือน จึงตื่นตัวขึ้นมาทันที
โตวโตวก็เช่นกัน เป็เพราะเื่ราวที่เกิดขึ้นกับหานโม่ในวันนี้ทำให้มันระมัดระวังเป็พิเศษ
ดูเหมือนว่าคนด้านนอกมีจำนวนไม่น้อยเลย ทั้งคนและนกต่างหันมาสบตากัน จากนั้นพวกเขาก้นั่งนิ่งไม่ขยับตัว
พวกเขาคิดว่าเป็ถังชิงยุ่นที่ย้อนกลับมาเพื่อปลิดชีพของหานโม่
หานโม่ลุกขึ้นจากเตียงอย่างเงียบๆ นางมองหาที่ซ่อนเพื่อลอบโจมตี แต่กลับได้ยินเสียงเคาะประตูดังขึ้น
“......”
มุมปากของหานโม่และโตวโตวกระตุก
พวกมือสังหารทุกวันนี้ไม่ปกติกันสักคนเลยหรือ?
เคาะประตูก่อนลงมือช่างเป็การกระทำที่บ้าบออะไรเช่นนี้?
หานโม่พยายามอดกลั้นด้วยการกลอกตาไปมา แล้วเดินไปเปิดประตู
ผู้คนที่ยืนอยู่ด้านนอกประตูทำให้หานโม่ตาเป็ประกาย "พวกเ้าเองหรือ?"
หูเลี่ยงและคนอื่นๆ ที่อยู่ด้านนอกเมื่อเห็นว่าหานโม่เป็คนเดินมาเปิดประตูด้วยตัวเองก็มีความสุขขึ้นมาทันที หูเลี่ยงหันไปพูดกับคนอื่นๆ "พวกเ้าดูสิ ข้าบอกแล้วว่าหัวหน้าไม่ได้รับการโปรดปรานในตระกูลนี้ ที่ที่นางอยู่ก็ต้องไม่มีใครคอยดูแลอย่างแน่นอน นี่ยังไงเล่าไม่มีผู้ใดเลย แถมนางยังต้องมาเปิดประตูด้วยตัวเองอีก”
หานโม่ "..."
กลุ่มนักฆ่ารับจ้างที่อยู่ด้านหลังพากันเงียบ "..." หูเลี่ยง เ้าช่างไม่กลัวตายเสียจริง
หูเลี่ยงไม่ได้เข้าใจเลยแม้แต่นิดเดียวว่าตัวเขาพูดอะไรผิดไป พอพูดจบก็หันมามองหานโม่ด้วยรอยยิ้มแล้วเอ่ยต่อว่า "พวกข้ารู้ว่าหัวหน้าอยู่ที่ตระกูลหานอย่างไม่ดีนัก ดังนั้นจึงอยากมามอบความอบอุ่นให้แก่ท่าน ท่านซาบซึ้งใจหรือไม่?”
หานโม่ชำเลืองมองหูเลี่ยงด้วยสายตาเย็นะเื
หากไม่ใช่เพราะเห็นว่าคนพวกนี้มาพร้อมกับถุงใบใหญ่ใบเล็กจนเต็มมือ หานโม่ก็อยากจะฟาดหูเลี่ยงให้ขยับไม่ได้ไปเลย!
"เข้ามาก่อนสิ พวกเ้ามาที่นี่ด้วยเหตุใดหรือ?" หานโม่อดกลั้นความอยากที่จะตีใครสักคนเอาไว้ แล้วปล่อยให้หูเลี่ยงและคนอื่นๆ เข้ามาในเรือนเหอเซียง
หลังจากที่หูเลี่ยงและคนอื่นๆ เข้ามาพวกเขาก็อธิบายถึงจุดประสงค์การมาที่นี่ให้หานโม่ฟัง หลังจากมอบถุงใบใหญ่ใบเล็กให้แก่หานโม่แล้ว พวกเขาก็ยังมอบเม็ดยาเซียนหลิงเฉ่าให้แก่หานโม่อีกหนึ่งเม็ดด้วย
เมื่อหานโม่เห็นเม็ดยาเซียนหลิงเฉ่าหัวใจก็เต้นระรัว
หานโม่เคยมีเซียนหลิงเฉ่าจำนวนมากมาก่อน นางไม่อาจพูดได้ว่าเซียนหลิงเฉ่าที่นางเคยมีมากกว่าทั้งเมืองหลิงหยวนรวมกัน แต่เม็ดยาเซียนหลิงเฉ่าที่อยู่ตรงหน้านางนี้ หานโม่มั่นใจมากว่ามันทำขึ้นมาจากเหล่าเซียนหลิงเฉ่าของนางอย่างแน่นอน
........................................................................
เชิงอรรถ
[1] เทพไม่รู้ผีไม่เห็นได้ หมายถึง การทำสิ่งใดอย่างลับๆ, ลอบทำ
