เดือนพฤศจิกายนมาเยือนแล้ว นอกจากการแข่งขันทักษะภาษาอังกฤษ เซี่ยเสี่ยวหลานยังมีอีกเื่หนึ่งที่ต้องใส่ใจ
ร้านเสื้อผ้าที่ซางตูได้เวลาวางขายเสื้อผ้าสำหรับฤดูหนาวแล้ว
เฉิงซีเหลียงต้องอดทนคอยรองรับอารมณ์ผู้อื่นก็จริง แต่สุดท้ายก็ประสบความสำเร็จ ในที่สุดเขาก็ได้งานปกนิตยสาร《ภาพยนตร์ดัง》มาครอง โจววั่งจิงนักแสดงหนุ่มดาวรุ่งพุ่งแรงสวมเสื้อคลุมขนแกะสไตล์ชุดเครื่องแบบถ่ายแบบขึ้นปกนิตยสาร สีกรมท่าของชุดขับให้เขาดูเยือกเย็นและน่าเกรงขาม มีกลิ่นอายความแข็งแกร่งดั่งชายชาตรี
เสื้อคลุมรุ่นนี้แม้เซี่ยเสี่ยวหลานจะเคยขายเมื่อปีที่แล้ว แต่กลับได้รับความนิยมอย่างแท้จริงในปีนี้ หน้าร้านหลานเฟิ่งหวงแปะรูปภาพที่ฉีกออกจากปกนิตยสารมาติดไว้บนกำแพง พร้อมเขียนว่า เสื้อคลุมแบบเดียวกับ ‘โจววั่งจิง’ สินค้ามีวางจำหน่าย
โจววั่งจิงเริ่มโด่งดังั้แ่ปีที่แล้ว เขามีแฟนคลับผู้หญิงจำนวนมากอยู่ทั่วประเทศ อีกทั้งเขายังไม่ใช่พวกดาราหนุ่มหน้าละอ่อน ตรงกันข้ามเขามีบุคลิกภาพเยือกเย็น แข็งแกร่งสมชายชาติทหาร ดังนั้นจึงมีแฟนคลับผู้ชายอยู่ไม่น้อยเช่นกัน
ที่สำคัญที่สุดคือเสื้อคลุมตัวนี้เมื่ออยู่บนตัวเขาแล้วสวยมากจริงๆ หากสภาพทางการเงินเอื้ออำนวยล่ะก็ สหายหญิงทั้งหลายคงอยากซื้อให้สามีหรือคู่ครองของตนเป็แน่ เพราะมันคุ้มค่ากับการเป็อย่างยิ่ง เซี่ยเสี่ยวหลานรู้สถานการณ์ของทางเฉินซีเหลียงจึงสั่งจองล่วงหน้าไว้ 200 ชุด
หนึ่งสัปดาห์หลังนิตยสารวางแผง สินค้าคงค้างของโรงงานผลิตเสื้อผ้าเฉินอวี่หายวับไปในพริบตา ตัวแทนจำหน่ายที่เคยรู้สึกว่าเสื้อคลุมขนแกะนั้นมีราคาแพง ไม่อยากรับสินค้าชนิดนี้มาวางหน้าร้าน ตอนนี้กลับรบเร้าขอเหอฉงเซิงว่าอยากได้เสื้อคลุม แม้โรงงานจะบวกราคาเพิ่มอีกสิบหยวน แต่สต๊อกเสื้อคลุมเกือบสามหมื่นตัวก็ยังคงถูกกว้านซื้อไปอย่างรวดเร็ว
ในที่สุดเฉินซีเหลียงก็ได้ชดเชยข้อผิดพลาดของตน อีกทั้งยังแนะนำเหอฉงเซิงให้ผลิตเสื้อคลุมรุ่นนี้ต่อไป แต่เขากลับถูกผู้อำนวยการเหอปฏิเสธ เพราะกลัวว่ามันจะได้รับความนิยมเพียงชั่วคราวเท่านั้น หากตัวแทนจำหน่ายไม่รับสินค้าในภายหลัง สินค้าที่ผลิตเสร็จก็จะกลายเป็ภาระเช่นเคยมิใช่หรือ เฉินซีเหลียงเสียดายยิ่งนัก เพราะเขารู้สึกราวกับกำลังพลาดโอกาสงาม ยิ่งคิดเขาก็ยิ่งรู้สึกว่า ตนนั้นไม่ควรทำแค่ธุรกิจขายส่ง การสร้างแบรนด์ของตัวเองเป็สิ่งที่ถูกต้อง
“นี่เท่ากับเสียกำไรไปเท่าไรกัน!”
เฉินซีเหลียงเป็พวกบูชาเงิน เห็นเงินอยู่ตรงหน้าแต่ไม่ได้ฉกฉวยไว้มันทำให้เขาเ็ปยิ่งกว่าถูกฉีกเนื้อหนังออกไปเสียอีก คำถามที่เซี่ยเสี่ยวหลานถามเขายังไม่เข้าใจเท่าไรนัก เซี่ยเสี่ยวหลานพูดชัดเจนแล้วว่ายังไม่อยากร่วมหุ้นด้วย แม้ฤดูหนาวใกล้จะมาเยือนแล้ว แต่เฉินซีเหลียงยังคงหัวร้อนจนต้องดื่มจับเลี้ยงขมๆ [1] ดับเพลิงโทสะที่มีอยู่
การทำธุรกิจเช่นนี้สามารถทำกำไรได้อย่างเป็กอบเป็กำ
ปี 1979 ‘เหล้าบำรุงเสินกุ้ย’ ปล่อยโฆษณาทางสถานีโทรทัศน์เมืองเซี่ยงไฮ้ จนกลายเป็โฆษณาเชิงพาณิชย์ตัวแรกของประเทศจีน
และนั่นก็เป็การจุดประกายธุรกิจโฆษณาทางโทรทัศน์และหนังสือพิมพ์ จนกระทั่งปี 1984 ผู้คนก็ไม่ได้รู้สึกตื่นตาตื่นใจกับการ ‘โฆษณา’ อีกต่อไป แต่การผสานรวมดารากับโฆษณาเข้าด้วยกันนั้นยังไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน
แม้ว่าการขายเสื้อคลุมขนแกะครั้งนี้จะไม่ได้เชิญดาราหนุ่มไฟแรงอย่างโจววั่งจิงมาเป็พรีเซ็นเตอร์ อีกทั้งไม่ได้ประชาสัมพันธ์ทางสถานีโทรทัศน์อย่างแพร่หลาย แต่อาศัยเพียงการลงนิตยสารสองสามฉบับก็ได้ผลลัพธ์ที่ยอดเยี่ยมเช่นนี้ เฉินซีเหลียงคิดว่าหากถือโอกาสนี้สร้างแบรนด์ของตัวเองขึ้นมาก็คงจะดีไม่น้อย!
แต่เซี่ยเสี่ยวหลานบอกให้เขาคิดให้รอบคอบ ดังนั้นเฉินซีเหลียงรีบร้อนไปก็ทำอะไรไม่ได้อยู่ดี
สิ่งที่เขาขาดไม่ใช่เงินทุน แต่เป็หุ้นส่วนธุรกิจที่มีวิสัยทัศน์กว้างไกลและมีความสามารถในการคิดวิเคราะห์ อย่างที่เฉินซีเหลียงเคยพูด ่แรกไม่จำเป็ต้องมีโรงงานผลิตเสื้อผ้าของตัวเอง แค่หาแบบมาสั่งผลิตที่โรงงานก็เพียงพอแล้ว เขาทำธุรกิจค้าส่งเสื้อผ้ามานานหลายปี มีประสบการณ์ด้านนี้อย่างล้นเหลือ
เขาคิดว่าตนไปหาเซี่ยเสี่ยวหลานเป็เื่ที่ถูกต้องแล้ว หากเซี่ยเสี่ยวหลานบอกว่าสิ่งใดทำกำไรได้ ย่อมได้เงินมาไม่น้อย แต่หากเธอลังเลก็แสดงว่ามีบางอย่างที่ไม่สมควร อย่างเช่นการร่วมหุ้นกันขายวิทยุราคาถูก เซี่ยเสี่ยวหลานทำแค่ครั้งเดียวก็รามือ เฉินซีเหลียงจึงต้องควบคุมความโลภของตัวเองเอาไว้
มันเป็สิ่งที่ทำเงินได้อย่างรวดเร็ว และได้กำไรมากกว่าขายส่งเสื้อผ้าโข
แต่หากตอนนั้นเขาละโมบโลภมาก คิดอยากขายวิทยุปริมาณมากกว่านั้น ก็คงเหมือนพี่ว่านที่ต้องเผชิญหน้ากับราคาตลาดพุ่งดิ่งเหวโดยไม่รู้ตัว พี่ว่านลงทุนน้อยจึงขาดทุนแค่สองพันหยวน แต่เฉินซีเหลียงมีทุนหนา หากเขาลงทุนไป ขาดทุนทีคงจะเสียไปหลายหมื่น!
เซี่ยเสี่ยวหลานใช้ความสามารถพิสูจน์ตัวเอง เฉินซีเหลียงจึงไม่อาจเมินเฉยต่อความคิดของเธอได้
ขายเสื้อผ้าผู้ชายหรือผู้หญิง?
จะเปิดร้านค้าปลีกอย่างไร เลือกตีตลาดเมืองไหนเป็เมืองแรก?
เฉินซีเหลียงยิ่งคิดคำนวนเงินทุนก็ยิ่งถอนหายใจ ไม่ได้การ เขาวางสายโทรศัพท์เมื่อไรจะต้องไปดื่มจับเลี้ยงสักแก้วเพื่อสงบสติอารมณ์สักหน่อยแล้ว
จับเลี้ยงของหยางเฉิงไม่เหมือนหวังเหล่าจี๋ [2] ที่ถูกพัฒนาสูตรแล้ว มันมีฤทธิ์แก้ร้อนในอย่างดีเยี่ยม แต่รสชาติจะขมเป็อย่างมาก นี่เป็การทรมานตัวเองกลายๆ ของเฉินซีเหลียง เซี่ยเสี่ยวหลานรู้ดีว่าเขารู้สึกร้อนใจ บางครั้งเธอก็อดคิดไม่ได้ว่าตนบีบคั้นเถ้าแก่เฉินมากไปหรือเปล่า แต่ต้นกล้าแห่งความใจอ่อนที่งอกเงยขึ้น ก็ถูกตัวตนของเธอเด็ดทิ้งไปในฉับพลัน นี่คือเงินของโจวเฉิง เธอเพียงช่วยลงทุนแทนเขาเท่านั้น ไม่ควรปล่อยให้เฉินซีเหลียงทำตามใจชอบ
—---------------------------------------
โจววั่งจิงสวมเสื้อคลุมขนแกะถ่ายแบบปกนิตยสาร《ภาพยนตร์ดัง》ทั้งๆ ที่ไม่ได้ทำโฆษณา แต่ก็ทำให้เสื้อคลุมรุ่นนั้นของเฉินอวี่ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลาย
หลี่เฟิ่งเหมยโทรหาเซี่ยเสี่ยวหลาน บอกว่าเสื้อคลุมขายดีมากเหลือเกิน
“แต่โปสเตอร์ที่แปะอยู่หน้าร้านถูกคนฉีกไปเป็ประจำ...”
ครั้งนี้หลานเฟิ่งหวงลงทุนก้อนใหญ่ สั่งเสื้อคลุมสีดำและสีกรมท่ารวมกันแล้ว 400 ตัว เฉินซีเหลียงยังคงให้ราคาขายส่งเท่ากับปีที่แล้วแก่พวกเธอ หาใช่ราคาที่ถูกบวกเพิ่มดั่งเช่นราคาส่งที่ให้แก่ร้านค้าอื่นๆ แต่อย่างไรมันก็ต้องใช้เงินถึงสามหมื่นหยวนสำหรับการลงทุนกับเสื้อคลุมนี้ ่ปลายฤดูใบไม้ร่วงเข้าฤดูหนาว เสื้อผ้าของหลานเฟิ่งเหมยเน้นเสื้อขนแกะเป็หลัก เมื่อรวมกับสินค้าอื่นๆ การนำเข้าสินค้าครั้งนี้ใช้เงินทุนไปถึงห้าหมื่นหยวน
เพื่อเสื้อผ้าสำหรับฤดูหนาว ่สองเดือนที่ผ่านมาหลานเฟิ่งหวงยังไม่เคยจ่ายเงินปันผลเลยสักครั้ง ครั้งก่อนที่ให้เงินปันผลคือ่เดือนสิงหาคม แต่เงินปันผลนั้นถูกเซี่ยเสี่ยวหลานนำไปจ่ายค่ามัดจำเสื้อกีฬาแล้ว
ทางด้านเซี่ยเสี่ยวหลานนั้นไม่รีบร้อนอยากได้เงินปันผล หลี่เฟิ่งเหมยเองก็เช่นกัน พวกเธอปรึกษากันแล้วว่า เสื้อผ้าฤดูหนาวปีนี้จะต้องทำให้ประสบความสำเร็จอย่างงดงามให้จงได้
พอถึงปลายปีเมื่อรวมเงินปันผลสะสมทั้งหมด เซี่ยเสี่ยวหลานคาดว่าคงมีเงินมากพอจะเปิดร้านสาขาเพิ่มอีกหนึ่งแห่ง
“ให้พวกเขาฉีกไปเถอะค่ะ ไม่เป็ไรหรอก ฉีกแล้วก็สามารถพิมพ์ใหม่ได้!”
สำหรับเหล่าแฟนคลับชายหญิง การแจกโปสเตอร์ไม่น่าตื่นเต้นเท่ากับการแอบขโมยไป เซี่ยเสี่ยวหลานอดชื่นชมไม่ได้ว่า ความนิยมของโจววั่งจิงไม่ได้แพ้ดาราหนุ่มหน้าใหม่ในโลกอนาคตเลย
ยุคนี้โทรทัศน์ยังไม่แพร่หลายเท่าไร นักแสดงที่โลดแล่นอยู่บนจอแก้วไม่ได้มีเยอะจนตาลายเหมือนอย่างในอนาคต ศิลปินในภายภาคหน้าคือสินค้าที่อาศัยการปั่นกระแสเป็หลัก ดังง่าย ต้นทุนต่ำ ทว่าล้าสมัยอย่างรวดเร็ว
ยุค 80 นั้นไม่เหมือนกัน นอกจากหน้าตาดีแล้วยังต้องมีความสามารถ
โจววั่งจิงตอนนี้เป็ดาราหนุ่มดาวรุ่งพุ่งแรง แต่อีกสามสิบปีข้างหน้า เขาจะกลายเป็ศิลปินผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับการนับหน้าถือตาเป็อย่างสูง
หลังฟังคำบอกเล่าของหลี่เฟิ่งเหมย ก็ได้รู้ว่าก่อนหน้านี้เสื้อขนแกะสำหรับสุภาพบุรุษรุ่นนี้วันหนึ่งขายได้เพียงสามถึงสี่ชุดเท่านั้น แต่หลังนิตยสารวางแผงแค่ไม่กี่วัน ยอดขายก็เพิ่มขึ้นเป็เจ็ดถึงแปดชุด ่ที่ได้รับความนิยมที่สุดหลานเฟิ่งหวงสามารถขายได้วันหนึ่งถึงยี่สิบชุด ทั่วทั้งประเทศเหลือสินค้าคงค้างไม่ถึงสามหมื่นชุด และที่ซางตูก็มีเพียงหลานเฟิ่งหวงเท่านั้นที่มีสินค้ามากถึง 400 ชุด
เสื้อคลุมหนึ่งตัวราคาหนึ่งร้อยกว่าหยวน แน่นอนว่าราคานี้ไม่ใช่ถูกๆ
แต่ซางตูมีประชากรเท่าไรกัน
ไหนจะในตำบลอื่นๆ ที่อยู่ใต้ซางตู มีประชากรอีกมากเท่าไร!
คนส่วนใหญ่รู้สึกว่าแพง แต่ผู้บริโภคที่มีกำลังซื้อสามารถยอมรับราคานี้ได้ การขายเสื้อคลุม 400 ชุดจึงไม่ใช่เื่กดดันอะไร เสื้อคลุมล็อตนี้แม้จะใช้เงินทุนเกือบสามหมื่นหยวน แต่กำไรสุทธิสูงเกินสองหมื่นหยวนอย่างแน่นอน
ที่หลี่เฟิ่งเหมยโทรหาเซี่ยเสี่ยวหลานยังมีธุระอีกเื่หนึ่ง หลิวหย่งบอกเื่แอบซื้อเรือนสี่ประสานที่ปักกิ่งกับเธอแล้ว เซอร์ไพรส์คราวนี้ถือเป็เื่น่าใสำหรับเธอมากจริงๆ
“ลุงไม่เคยเล่าให้ป้าฟังเลยหรือ”
—— สหายหลิวหย่ง วิธีการแบบลัทธิชายเป็ใหญ่เช่นนี้ จะสร้างความเดือดร้อนให้ตัวเองเอาได้นะ!
เชิงอรรถ
[1]เครื่องดื่มสมุนไพรจีน มีฤทธิ์แก้ร้อนใน
[2]น้ำจับเลี้ยงยี่ห้อดังของประเทศจีน