การเอ่ยปากของซือคงอวี่ทำให้ทุกคนใ
เขาถึงกับรับเนี่ยอวิ๋นเหอไว้ทันที?
ไม่เพียงผู้มีพร์ที่มาเข้าสอบ แม้แต่ผู้คุมสอบอีกสี่คนก็ใสุดขีดเช่นกัน จากนั้นพวกเขาก็ดึงผู้เยาว์ที่หมายตาเข้าสถานศึกษาของตนเองเหมือนกับซือคงอวี่ ผู้คุมสอบเป็ฝ่ายเชื้อเชิญเป็เกียรติยศเพียงใด ศิษย์ยี่สิบห้าคนได้รับคัดเลือกจากสถานศึกษาทั้งห้าหมดในพริบตา ทว่ามีเพียงคนเดียวที่ไม่ได้รับเลือก
นั่นคือเซียวเฉิน
เวลานี้สีหน้าของเซียวเฉินไม่เปลี่ยนแปลง เขามองเด็กหนุ่มสาวน้อยข้างกายได้รับเลือกเข้าสถานศึกษาทีละคน แต่ตนเองกลับไม่ได้รับเลือก
เซียวเฉินยิ้มแล้วหันกายะโลงจากเวทีประลอง
ในเมื่อไม่มีผู้ใด้า เช่นนั้นตนจะสร้างกิจการขึ้นเอง
เนี่ยอวิ๋นเหอมองเงาหลังของเซียวเฉิน ดวงตามีแววประหลาดใจเช่นกัน
ไม่มีสถานศึกษาใด้าเนี่ยเฉินเลยหรือ?
แต่ประหลาดใจเพียงครู่เดียว จากนั้นดวงตาก็เปี่ยมรอยยิ้ม เนี่ยเฉิน ดูสิว่าเ้าจะสู้ข้าได้อย่างไร
วันหน้า อย่างไรข้าก็ต้องเหยียบเ้าไว้ใต้เท้า
“เซียวเฉิน” ในเวลานี้เอง เสียงหนึ่งพลันดังขึ้นมา ทำให้เซียวเฉินชะงักฝีเท้า หันหน้ามามอง มู่หรงเชี่ยนเอ๋อร์กำลังอมยิ้มมองเขา ใบหน้างดงามเ็ามีรอยยิ้ม เอ่ยว่า “เ้ายินดีเข้าสถานศึกษาชางหวงหรือไม่?”
เซียวเฉินมองนาง เขารู้ว่าครั้งนี้สถานศึกษาชางหวงรับเพียงสี่คนจากในยี่สิบห้าคน ยังขาดอีกหนึ่งคน
แต่เซียวเฉินกลับเอ่ยว่า “ขออภัย ข้าไม่ชอบเป็ตัวสำรอง”
คำพูดของเซียวเฉินทำให้ทุกคนสะท้านะเื กระทั่งม่านตาของมู่หรงเชี่ยนเอ๋อร์ก็วูบไหวนิดๆ
เมื่อเห็นเซียวเฉินมีสีหน้าท่าทางจริงจัง มู่หรงเชี่ยนเอ๋อร์อดหัวเราะไม่ได้ “ใครบอกว่าเ้าเป็ตัวสำรอง?”
“หรือว่าไม่ใช่” เซียวเฉินย้อนถามยิ้มๆ “ท่านเห็นความสามารถเมื่อครู่ของข้าชัดๆ ต่อให้มิอาจบอกว่าอันดับหนึ่ง แต่สามอันดับแรกก็มิใช่คำคุยโวเด็ดขาด หากท่านจะเลือกข้า เหตุใดต้องเอาข้าไว้ท้ายสุด?” ระหว่างเอ่ยวาจา เขามีน้ำเสียงซักไซ้อย่างเลี่ยงไม่ได้ ทำให้มู่หรงเชี่ยนเอ๋อร์ส่งเสียงหัวเราะออกมา ที่แท้เขาก็ไม่พอใจนี่เอง
“เ้าไม่เคยได้ยินสิ่งที่เรียกว่าจุดที่น่าตื่นเต้นเร้าใจของเหตุการณ์หรือ หากไม่เชื่อ เ้าถามผู้คุมสอบคนอื่นๆ ได้ ขณะที่เ้ายังประลองอยู่ ข้าก็ตัดสินใจเลือกเ้าอย่างไม่เป็ทางการแล้ว นี่คือสาเหตุที่สถานศึกษาอื่นๆ ไม่ได้เลือกเ้า คราวนี้เ้าเข้าใจหรือยัง? จะตอบรับเข้าสถานศึกษาชางหวงหรือไม่?”
เอ่ยแล้วยังมีน้ำเสียงถอนหายใจเบาๆ “ไม่มาก็คือข้าไว้หน้าตัวเอง”
เซียวเฉินยิ้ม ไม่ได้ปฏิเสธสตรีเบื้องหน้า
“ได้ ข้ายินดี”
ซือคงอวี่มองเซียวเฉินแวบหนึ่งแล้วเอ่ยว่า “ในเมื่อการคัดเลือกของสถานศึกษาทั้งห้าเสร็จสิ้น พวกเราก็ควรจากไปได้”
คนทั้งห้าผงกศีรษะ จากนั้นพาศิษย์ในสถานศึกษาของตนออกจากเมืองอวิ๋นไห่
หลังเซียวเฉินสบตากับเนี่ยอวิ๋นเหอก็ติดตามด้านหลังของมู่หรงเชี่ยนเอ๋อร์ รอวิหคที่สถานศึกษาส่งมา
“กี๊ซ”
เสียงกู่ร้องยาวดังกังวาน พลันมีนกั์บินมาห้าตัวกลางนภา แต่ละตัวมีขนาดสิบเมตร สัตว์ั์ราวกับจะปิดฟ้าบังตะวัน เซียวเฉินอดตกตะลึงในใจมิได้
ยืนอยู่บนหลังนกั์ นกั์กางปีกทะยานสู่ฟากฟ้า
หนุ่มสาวเหล่านี้อดร้องอุทานไม่ได้ มีเพียงเซียวเฉินที่สงบนิ่งเยือกเย็น
“เ้าไม่กลัวหรือ?” มู่หรงเชี่ยนเอ๋อร์ถาม ดวงตาที่มองเซียวเฉินอดมีแววชื่นชมขึ้นหลายส่วนไม่ได้
เซียวเฉินยิ้ม “กระทั่งตายยังไม่กลัว แล้วเื่นี้นับเป็อะไรได้” ระหว่างเอ่ยวาจา น้ำเสียงของเขาแฝงความชืดชา
มู่หรงเชี่ยนเอ๋อร์มองเซียวเฉินแล้วรู้สึกรางๆ ว่าเด็กหนุ่มตรงเบื้องหน้ามีเื่ราวในชีวิตที่พลิกผัน เหมือนผ่านอะไรมาเยอะ มีเื่ราวมากมายในตัว
ระหว่างทาง เนื่องจากนิสัยของมู่หรงเชี่ยนเอ๋อร์ เซียวเฉินจึงกลายเป็สหายของนาง แม้รู้ว่านางเป็ผู้คุมสอบของสถานศึกษาชางหวงแต่กลับไม่ใช่อาจารย์ ทว่าเป็ศิษย์คนหนึ่งของสถานศึกษาชางหวง ทุกคนอดถอนใจไม่ได้ แม้แต่เซียวเฉินก็เคารพนับถือนาง
อายุยี่สิบ มีความสามารถขั้นตานฟ้า
อายุและพร์เช่นนี้ เกรงว่ามีอยู่ไม่มากนักในแคว้นชางหวง
เซียวเฉินมีความสามารถแข็งแกร่งที่สุดในบรรดาห้าคนที่สถานศึกษาชางหวงเลือกคือขั้นแรกกำเนิดห้าชั้นฟ้า คนอื่นๆ ล้วนมีความสามารถขั้นแรกกำเนิดสามชั้นฟ้า ห่างชั้นกับศิษย์ของสถานศึกษาอื่นๆ เล็กน้อย แต่มู่หรงเชี่ยนเอ๋อร์ก็พึงพอใจ เพราะมีแค่นางที่รู้ว่าเซียวเฉินคนเดียวก็เพียงพอแล้วที่จะต้านทานคนทั้งหมดได้ เนื่องจากสายโลหิตของเขา
ใช่แล้ว นางรู้สึกถึงพลังสายโลหิตของหงสาจากร่างของเซียวเฉิน นี่จึงเป็สาเหตุที่นาง้านำเซียวเฉินมาให้ได้
“เฮ้อ เ้ากับเนี่ยอวิ๋นเหอคนนั้นมีความแค้นอะไรต่อกัน” มู่หรงเชี่ยนเอ๋อร์ใช้ไหล่ชนเซียวเฉินแล้วส่งเสียงถาม เซียวเฉินมองนาง เขาไม่ได้ตอบแต่กลับถามว่า “อีกนานเพียงใดจึงจะถึงสถานศึกษาชางหวง?”
มู่หรงเชี่ยนเอ๋อร์แค่นเสียงฮึ “ไม่พูดก็ไม่พูด คนขี้งก”
“เดินทางอีกหนึ่งชั่วยามพวกเราก็จะกลับถึงสถานศึกษา”
ระหว่างทาง เซียวเฉินชมดูทิวทัศน์ใต้เท้า เขารู้สึกได้ถึงความสบายใจที่ไม่เคยมีมาก่อน นี่คือการออกจากเมืองอวิ๋นไห่ครั้งแรกนับั้แ่โตมา แต่ยามที่เขากลับไปอีกครั้งคือเวลาล่มสลายของตระกูลเนี่ย
หนึ่งชั่วยามต่อมา วิหคก็บินเข้าเมืองหวงและร่อนลงตรงสถานที่แห่งหนึ่งในเมืองทางทิศตะวันตก
ที่นี่ คือพื้นที่ในเขตสถานศึกษาชางหวง
ทุกคนะโลงจากวิหค ศิษย์ที่เห็นความงดงามหรูหราตรงเบื้องหน้าก็เหม่อลอยอยู่นาน
เมืองหวงก็เพียงเท่านี้
มู่หรงเชี่ยนเอ๋อร์พาพวกเซียวเฉินเดินตามหลังเข้าสถานศึกษาชางหวง ขณะที่พวกเซียวเฉินเพิ่งเหยียบย่างเข้าในสถานศึกษานั้น ก็มีเงาร่างนับร้อยพุ่งพรวดออกมาจากในสถานศึกษา คนเหล่านี้คือผู้ที่ได้รับคัดเลือกมาจากพื้นที่สือโจวของแคว้นชางหวง มีความสามารถแตกต่างกัน มีผู้อ่อนแอและมีผู้เข้มแข็งเช่นเดียวกัน
“ศิษย์ใหม่ปีนี้ไม่ค่อยเท่าไรจริงๆ คนที่แข็งแกร่งที่สุดมีแค่ขั้นแรกกำเนิดเจ็ดชั้นฟ้า”
“ใช่ ท่าทางการประลองจัดลำดับของสถานศึกษาชางหวงเราในคราวนี้เกรงว่าคงต้องรั้งท้าย”
“ย่ำแย่ลงทุกปีจริงๆ”
ผู้นำขบวนถอนใจ ไม่ได้ปฏิเสธ ศิษย์ในปีนี้แย่กว่าหลายปีก่อนจริงๆ
สายตาของเซียวเฉินกวาดตามองพวกศิษย์ที่กล่าววาจาแวบหนึ่ง
ขั้นแรกกำเนิดแปดชั้นฟ้าระดับสูงสุด
เซียวเฉินสืบเท้าออกมา มองคนผู้นั้นพลางเอ่ยเรียบๆ “ศิษย์ใหม่เซียวเฉิน คิดจะขอคำชี้แนะจากศิษย์พี่ท่านนี้”
เห็นเซียวเฉินก้าวออกมา ทุกคนต่างใ ศิษย์คนนั้นหัวร่อหยัน
“ความสามารถแค่ขั้นแรกกำเนิดห้าชั้นฟ้าก็กล้าออกมาแล้วหรือ ไม่รู้จักตายจริงๆ เช่นนั้นข้าจะสั่งสอนสักหน่อย ให้เ้าจดจำไปนานๆ” โจวเจ๋อแค่นเสียงฮึแล้วก้าวออกมา แสงเสวียนบนร่างปะทุในพริบตา ดั่งคลื่นคลั่งกระทบฝั่ง ต่อยสองหมัดออกว่องไวปานอสุนีบาต อานุภาพไม่ธรรมดา
คนอื่นๆ ต่างกอดอกมองเซียวเฉิน ดวงตาฉายแววดูแคลน
เพิ่งเข้าสถานศึกษาก็เหิมเกริมปานนี้ ให้โจวเจ๋อลบคมของเขาบ้างก็ดี
ส่วนศิษย์ที่เพิ่งเข้าสถานศึกษาคนอื่นๆ ต่างเบิกตาโตมองเซียวเฉิน ดวงตาฉายแววตื่นใ
เพิ่งเข้าสถานศึกษาก็ท้าสู้ศิษย์พี่ หรือว่าเขาไม่คิดจะมีชีวิตอยู่แล้ว?
ดวงตาของมู่หรงเชี่ยนเอ๋อร์ฉายแววตึงเครียด เซียวเฉินมุทะลุเกินไป อีกฝ่ายมีฝีมือขั้นแรกกำเนิดแปดชั้นฟ้าระดับสูงสุด เป็คนที่ความสามารถขั้นแรกกำเนิดห้าชั้นฟ้าอย่างเขาสู้ได้หรือ?
ศิษย์ใหม่ทางด้านข้างก็มองเซียวเฉินด้วยสายตาเ็า
“เ้านี่ไม่รู้จักตายจริงๆ มีแต่ทำให้พวกเราขายหน้า”
“นั่นสิ อีกสักครู่คงโดนอัดปางตาย”
“มีความสามารถขั้นแรกกำเนิดห้าชั้นฟ้ายังนึกว่าใต้หล้านี้ตนเองไร้คู่ต่อกรจริงๆ หรือ ชนะก็ช่างเถอะ แต่หากแพ้ ต่อไปศิษย์ใหม่อย่างพวกเราจะเชิดหน้าอยู่ในสถานศึกษาได้อย่างไร เป็เ้าตัวน่าชังแท้ๆ”
มู่หรงเชี่ยนเอ๋อร์มองพวกเขาด้วยสายตาเ็า
“พวกเ้าหุบปากนะ ถูกผู้อื่นชี้หน้าด่าทอยังไม่กล้าส่งเสียง ได้แต่อดทนกล้ำกลืน เซียวเฉินออกมาลงมือแทนศิษย์ใหม่ พวกเ้ามิเพียงไม่รู้จักซาบซึ้งกลับยังมาวิพากษ์วิจารณ์ผู้อื่น หยามเกียรติเขาตรงนี้ หากมีความสามารถพวกเ้าก็ลุยเองสิ ไม่เช่นนั้นก็หุบปากให้หมด”
ตูม!
เบื้องหน้า เซียวเฉินกับโจวเจ๋อปะทะกัน เกิดแสงสีขาวกลืนพวกเขาไว้ด้านใน
มู่หรงเชี่ยนเอ๋อร์มีสีหน้ากังวล
แม้ยามที่เซียวเฉินได้รับคัดเลือกจะแสดงความสามารถออกมาอย่างกล้าแข็ง ทว่าเวลานี้คู่ต่อสู้ของเขากลับแข็งแกร่งกว่าหลายเท่า
วิ้งวิ้ง!
แสงสีขาวเลือนหาย เผยเงาร่างของคนทั้งสองออกมา โจวเจ๋อถอยไปสองก้าว เซียวเฉินก็เช่นกัน ศิษย์ใหม่ทุกคนใสุดขีดเพราะข้อนี้ แม้แต่ผู้คุมสอบการคัดเลือกของสถานศึกษาชางหวงหลายคนก็ประหลาดใจ มู่หรงเชี่ยนเอ๋อร์หัวเราะออกมาอย่างตื่นเต้น
คิดไม่ถึงว่าเซียวเฉินจะต้านทานได้
สีหน้าของโจวเจ๋ออัปลักษณ์อยู่บ้าง “มีความสามารถอยู่บ้างจริงๆ มิน่าเล่าจึงเหิมเกริมปานนี้”
เซียวเฉินมองเขาแล้วเอ่ยเรียบๆ “นี่หรือศิษย์พี่? ก็แค่นี้เอง...”
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้