คนอื่นไม่ได้สนใจเื่ของหลัวเลี่ยแล้ว และหลัวเลี่ยก็ไม่ได้สนใจพวกเขาเช่นกัน เขากำลังจิบสุรารสเลิศพร้อมกับชื่นชมดวงจันทร์และคิดถึงที่บ้าน เดิมทีเขาก็ไม่มีความตั้งใจที่จะสานสัมพันธ์กับองค์ชายสามและองค์ชายเก้าอยู่แล้ว
หากเทียบกันแล้ว หลัวเลี่ยรู้สึกว่าสุรานี้ดึงดูดความสนใจของเขามากกว่าองค์ชายทั้งสอง เขาคิดว่ามันคงเป็สุราชั้นเยี่ยมของวังหลวงในแคว้นจินหลาน
เขาจิบสุราอย่างเพลิดเพลิน
ขณะกำลังดื่มสุราอยู่นั้น เขาก็เหม่อมองพระจันทร์เต็มดวงอีกครั้ง เขาคิดถึงพ่อแม่ของเขาที่อยู่อีกโลกหนึ่ง เมื่อคิดดูแล้ว เขาก็จำไม่ได้ด้วยซ้ำว่ามาที่นี่ั้แ่เมื่อไร
ทันใดนั้นเสวี่ยปิงหนิงก็โผล่มาอยู่ข้างกายเขา นางไม่ได้พูดหรือทำอะไรมากมาย นางแค่อยู่ข้างๆ เขาอย่างสงบ และไม่เคยทอดทิ้งเขาไปไหน
ทางด้านองค์ชายสาม องค์ชายเก้า และคนอื่นๆ กำลังมีเื่ตื่นเต้นเกิดขึ้น
ชาวแคว้นจินหลานต่างจับจ้องมาที่พวกเขา
องค์ชายทั้งสองเดินไปข้างหน้าพร้อมกัน และหยุดยืนอยู่ใต้ต้นหอมหมื่นลี้โบราณ พื้นที่โดยรอบต้นหอมหมื่นลี้ภายในรัศมีสามสิบเมตรล้วนสะอาดและบริสุทธิ์ เพราะห้ามนำสิ่งของใด โดยเฉพาะสุราและเนื้อสัตว์เข้ามาภายในบริเวณนี้
พวกเขายืนตัวตรง ใบหน้าเต็มไปด้วยความเคารพ เสื้อผ้าเรียบร้อยปราศจากรอยยับย่น พวกเขาเงยหน้าขึ้นมองดวงจันทร์ที่สว่างไสว
เยาวชนผู้มากฝีมือสี่อันดับแรกในรุ่นปัจจุบันของแคว้นจินหลาน ได้แก่ เฉิงปู้กุย ซือสิ่งหลง หูหยางอี หูหยินอี ต่างมองหน้ากัน ก่อนจะก้าวไปข้างหน้าในเวลาเดียวกัน
ฝาแฝดหยินและหยางยืนอยู่ทางซ้ายและทางขวาขององค์ชายสาม
ส่วนเฉิงปู้กุยและซือสิ่งหลงก็ยืนอยู่ทางซ้ายและทางขวาขององค์ชายเก้า
โดยทั้งสี่คนยืนอยู่ข้างหลังองค์ชายทั้งสอง
ทันใดนั้น ทั้งสี่คนก็โค้งคำนับพร้อมๆ กัน และท่องคำบูชาพระจันทร์ด้วยความเคารพ พวกเขาใช้พลังเวท พลังวรยุทธ์ และพลังความเคารพจากส่วนลึกในจิตใจท่องคำบูชานั้นออกมา หลังจากนั้นก็ปรากฏแสงสว่างบนร่างกายของพวกเขา แล้วแสงนั้นก็ถูกส่งไปยังองค์ชายทั้งสองพร้อมกัน
เมื่อได้รับการสนับสนุนจากทั้งสี่คน พลังขององค์ชายทั้งสองก็ยิ่งแข็งแกร่งขึ้น
“น้องเก้า ข้าขอเริ่มก่อนเลยนะ” องค์ชายสามหัวเราะ
“เชิญพี่สามเถิด” องค์ชายเก้าเอ่ย
องค์ชายสามหยิบหยกชิ้นหนึ่งออกมาจากกระเป๋าเฉียนคุนของตนเอง แล้วประคองไว้ในมือทั้งสองข้าง เขามองไปที่องค์ชายเก้า แล้วท่องคำบูชาพระจันทร์ด้วยความเคารพ
ทันใดนั้น ต้นหอมหมื่นลี้โบราณที่มีอายุนับหมื่นปีก็ดูเหมือนจะเคลื่อนไหวเล็กน้อย ขณะที่ดอกหอมหมื่นลี้ซึ่งมีรูปร่างเหมือนัก็ส่งเสียงคล้ายเสียงร้องของัออกมา จากนั้นแสงของดวงจันทร์ที่อยู่เหนือยอดไม้ก็ส่องกระทบร่างกายขององค์ชายสาม ทำให้ทั่วทั้งร่างของเขาถูกอาบไล้ด้วยแสงจันทรา และรายล้อมด้วยเสียงัขับขาน ปรากฏการณ์นี้เรียกว่า ักู่จันทร์ฉาย นี่คือนิมิตของเขาที่แตกต่างจากของผู้อื่น
“น้องเก้า ถึงคราวของเ้าแล้ว” องค์ชายสามแสดงท่าทางพึงพอใจ
เป็เื่ยากมากที่จะทำให้เกิดความมหัศจรรย์ด้วยการบูชาดวงจันทร์ และปรากฏการณ์ักู่จันทร์ฉายที่เขาได้รับก็นับว่าเป็ความมหัศจรรย์ที่น่าประทับใจมาก
“ท่านสามารถได้รับักู่จันทร์ฉายเช่นนี้ พี่สามช่างเก่งกาจยิ่งนัก เช่นนั้นข้าคงต้องทำให้สุดความสามารถแล้ว” องค์ชายเก้าไม่เปิดโอกาสให้องค์ชายสามได้พูดแทรก เขาหยิบสิ่งของบางอย่างออกมา ซึ่งในทันทีที่องค์ชายสามได้เห็น เขาก็มีสีหน้าเปลี่ยนไป
“กิ่งจิตสุพรรณหอมหมื่นลี้!” องค์ชายสามพูดอย่างแ่เบา
องค์ชายเก้ากล่าวว่า “พี่สามสายตาเฉียบแหลมยิ่งนัก ใช่แล้ว สิ่งนี้คือกิ่งจิตสุพรรณหอมหมื่นลี้ที่ข้าเพิ่งได้มาเมื่อไม่กี่วันก่อน ข้าได้ยินมาว่าสมบัติชนิดนี้มักจะทำให้เกิดความมหัศจรรย์ขึ้นในวันไหว้พระจันทร์ ไม่รู้ว่าจะเป็เื่จริงหรือไม่ แต่อย่างไรก็ตาม พี่สามมาที่งานครั้งนี้เพราะอยากตัดสินเื่ยุวราชันแห่งแคว้นจินหลาน ดังนั้นสิ่งที่ข้าจะทำได้ในตอนนี้คงมีเพียงต้องทำอย่างสุดความสามารถ เพื่อไม่ให้พี่สามผิดหวังแล้ว”
องค์ชายสามมีสีหน้าซีดเซียว องค์ชายเก้ากำลังเย้ยหยันเขาอย่างชัดเจน พวกเขาเตรียมตัวมาแต่ไม่ได้เตรียมใจ จึงถูกองค์ชายเก้าตลบหลังเอาเสียได้
“แม้ว่ากิ่งจิตสุพรรณหอมหมื่นลี้จะแข็งแกร่ง แต่มันก็ขึ้นอยู่กับความสามารถของผู้ใช้ด้วย” องค์ชายสามเย้ยหยัน
องค์ชายเก้าหัวเราะ “เช่นนั้นก็เชิญพี่สามดูด้วยตาของตนเองเถิด”
องค์ชายเก้าเก็บซ่อนรอยยิ้ม จัดเสื้อคลุมและกวานเล็กน้อย แล้วหลับตาลง เขาโค้งคำนับเล็กน้อยและกำกิ่งจิตสุพรรณหอมหมื่นลี้เอาไว้ จากนั้นก็เริ่มท่องคำบูชาพระจันทร์
ชิ้ง!
กิ่งจิตสุพรรณหอมหมื่นลี้เป็สิ่งแรกที่ส่องสว่าง
จากนั้นก็เกิดรัศมีสว่างไสวรอบกายขององค์ชายเก้าเช่นกัน
ครู่ต่อมา กิ่งจิตสุพรรณหอมหมื่นลี้ก็ผลิดอกออกมา ก่อนที่กลีบดอกจะเริ่มเคลื่อนไหวลู่ไปตามสายลม โดยเคลื่อนไหวเป็จังหวะเดียวกันกับดอกหอมหมื่นลี้ที่มีรูปร่างคล้ายับนต้นหอมหมื่นลี้โบราณ ทำให้เกิดเสียงัคำรามดังคล้ายคลื่นทะเลซัดสาดเข้ากระทบฝั่ง
“โฮก!”
ทันใดนั้นก็เกิดเป็ัคำรามสะท้านฟ้า
ดอกหอมหมื่นลี้บนต้นหอมหมื่นลี้โบราณบานสะพรั่งเต็มต้น มันรวมตัวกันบนยอดของต้นไม้โบราณ และกลายเป็เงาของัตัวหนึ่ง
เงาัอ้าปากและตะกุยอากาศด้วยกรงเล็บพุ่งทะยานตรงไปยังดวงจันทร์ จากนั้นเงาันี้ก็หยิบเอาแสงจันทร์สาดลงมาบนร่างขององค์ชายเก้า
องค์ชายเก้าดูเหมือนาาที่แต่งกายด้วยแสงจันทร์และล้อมรอบด้วยัสีน้ำเงิน ซึ่งแน่นอนว่าไอพลังนี้ของเขาก็แข็งแกร่งกว่าขององค์ชายสาม
ผู้คนทั้งหลายที่มาเข้าร่วมงานเลี้ยงคืนไหว้พระจันทร์ครั้งนี้ล้วนเป็ผู้สนับสนุนองค์ชายเก้า เมื่อพวกเขาเห็นเช่นนี้ต่างก็ะโโห่ร้องอย่างยินดี
“องค์ชายเก้าชนะแล้ว”
“ัคำรามสะท้านฟ้า นี่เป็ปรากฏการณ์ที่หาดูได้ยากในรอบสิบปีของการบูชาพระจันทร์”
“ักู่จันทร์ฉายในตอนแรกเทียบไม่ได้เลยกับัคำรามสะท้านฟ้า นับว่าองค์ชายสามแพ้อย่างราบคาบแล้ว”
พวกเขาทั้งหมดต่างแสดงความยินดีกับองค์ชายเก้า
องค์ชายเก้ามีความสุขมากที่ได้รับชัยชนะ เขาหัวเราะด้วยความภาคภูมิใจ
องค์ชายสามหน้าซีดเผือด เขาเตรียมการมาอย่างรอบคอบ และหยกในมือก็เตรียมไว้สำหรับครั้งนี้ ใครจะคิดว่าองค์ชายเก้าจะมีกิ่งจิตสุพรรณหอมหมื่นลี้อยู่ในมือ เหตุการณ์นี้ทำให้เขาสิ้นสติแล้ว
“พี่สาม ต้องขออภัยด้วย แต่ตำแหน่งยุวราชันนี้เป็ของข้าแล้ว” องค์ชายเก้าภูมิใจมาก
“เหอะ!”
องค์ชายสามสะบัดแขนเสื้อ และจากไปอย่างรวดเร็วพร้อมกับฝาแฝดหยินหยาง
“พี่สาม อย่าเพิ่งรีบร้อนจากไป ในเมื่อข้าเป็ผู้จัดงานคืนไหว้พระจันทร์ครั้งนี้ขึ้น เช่นนั้นข้าก็ควรไปส่งท่านลงจากเขาด้วยตนเอง ไม่เช่นนั้นอาจถูกกล่าวหาได้ว่าไม่รู้จักมารยาท” ในที่สุดองค์ชายเก้าก็ได้โต้กลับองค์ชายสามอย่างแรง เขาจะปล่อยให้องค์ชายสามจากไปง่ายๆ ได้อย่างไร เขารีบตามเฉิงปู้กุยและซือสิ่งหลงไปอย่างรีบเร่งด้วยความตื่นเต้น องค์ชายเก้าตั้งใจจะทำให้พวกเขาอับอายมากกว่านี้
ทั้งหกคนลงจากูเาไปแล้ว
ลูกของขุนนางคนอื่นๆ ต่างก็ลุกขึ้นตามไปทีละคน
มีเพียงคนเดียวที่ดูเหมือนจะไม่รับรู้เื่นี้ ั้แ่ต้นจนจบเื่ราวนั้น เขามองเพียงพระจันทร์ที่สว่างไสว แล้วนึกถึงเทศกาลไหว้พระจันทร์ทุกครั้งที่ผ่านมา เขาคิดถึงพ่อแม่ และขอบคุณในความเมตตาของพวกท่านด้วยความจริงใจ
เขาคือหลัวเลี่ย
การมาเยือนดินแดนเหยียนหวงเพียงลำพังทำให้เขาเหงามาก ความเหงาแบบนี้ฝังลึกอยู่ภายในใจของเขา มันเป็ความเหงาที่เกิดจากการห่างไกลบ้านเกิด ไม่มีใครสามารถเข้าใจความเหงานี้ได้อย่างแท้จริง
ยิ่งคิดถึงก็ยิ่งรู้สึกผิด
หลัวเลี่ยหยิบจอกสุราแล้วลุกขึ้นยืน ก่อนจะเดินไปใต้ต้นหอมหมื่นลี้ เขามองไปที่ดวงจันทร์ที่สว่างไสวอยู่ไกลๆ และยกจอกสุราขึ้นอวยพรให้พ่อแม่ในอีกโลกหนึ่งของเขา ขอให้พวกท่านมีสุขภาพแข็งแรงและไม่ต้องคิดถึงเขา
เขาเงยหน้าขึ้นและดื่มสุราลงท้อง
ความเผ็ดร้อนของรสสุราทำให้เขายิ่งเหงามากขึ้น เขาพึมพำกับตัวเองว่า “ฉันเป็คนแปลกหน้าในต่างแดนเพียงลำพัง และฉันก็คิดถึงญาติของฉันทุกเทศกาล”
พรึ่บ!
ทันใดนั้นเกิดแสงเป็ประกายพุ่งออกมาจากร่างกายของหลัวเลี่ย
เดิมทีในเวลากลางคืนนั้นแม้จะมีแสงสว่างจากดวงจันทร์ แต่ก็ไม่อาจสว่างเท่าในตอนกลางวัน ทว่าขณะนี้แสงที่แผ่ออกมาจากร่างของหลัวเลี่ยทำให้ทั่วทั้งูเาอวิ๋นเยว่สว่างไสวดุจกำลังอยู่ใน่เวลากลางวันอย่างแท้จริง ทำให้สามารถมองเห็นทุกรายละเอียดภายในรัศมีหนึ่งกิโลเมตรนี้ได้อย่างชัดเจน
หลัวเลี่ยเป็เหมือนดวงอาทิตย์ที่แผดเผาสะท้อนดวงจันทร์ที่สว่างไสวบนท้องฟ้า
“โฮก!” “โฮก!” “โฮก!”
หากจะกล่าวว่าเสียงร้องของัที่เกิดจากองค์ชายทั้งสองเป็เหมือนเกลียวคลื่นกระทบฝั่ง แต่ในขณะนี้ดอกหอมหมื่นลี้ที่เหมือนัของต้นหอมหมื่นลี้อายุนับหมื่นปี ดูเหมือนจะกลายเป็ัที่ส่งเสียงคำรามดังลั่นสั่นะเืไปทั่วทั้งเมืองหลวงของแคว้นจินหลาน ซึ่งอยู่ไกลออกไปจากูเาอวิ๋นเยว่นี้
ทันใดนั้นดอกหอมหมื่นลี้ที่คล้ายัก็ะเิลำแสงออกมาและรวมตัวกันบนท้องฟ้า กลายเป็เงาัเก้าตัว
เป็ปรากฏการณ์มหัศจรรย์ขั้นสูงสุดในพิธีไหว้พระจันทร์
เรียกว่านวัล้อมเดือน
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้