ภรรยานายพรานตัวน้อยกับระบบร้านค้ามือสอง [แปลจบแล้ว]

สารบัญ
ปรับตัวอักษร
ขนาดตัวอักษร
-
+
สีพื้นหลัง
A
A
A
A
A
รีเซ็ต
แชร์

     ขาหลินหวั่นชิวอ่อนระทวยไปหมด

        นางเกาะเจียงหงหย่วนราวกับคนไร้กระดูก ศีรษะซบลงบนอกล่ำกำยำของเขา

        เจียงหงหย่วนอุ้มตัวนางขึ้น หลังจากเขานั่งลงก็ให้นางนั่งตักตัวเอง แต่กระนั้นก็ยังคงรวบนางไว้ในอ้อมอก

        “เป็๞อย่างไร? คุ้มกับเงินร้อยตำลึงหรือไม่?” เจียงหงหย่วนก้มหน้ามองภรรยาตัวน้อย เสียงทุ้มต่ำของเขาช่างรื่นหูยิ่งนัก

        หลินหวั่นชิวเงยหน้าสบตากับเขา นางอดกลอกตาใส่ไม่ได้ “เหตุใด? นายพรานเจียงอยากให้ข้าเลี้ยงดูหรือ?”

        เจียงหงหย่วนไม่พูดอีก

        หลินหวั่นชิวกลอกตามองบนอีกครั้ง

        เหอะๆ…บุรุษก็เช่นนี้

        ยึดถือแ๲๥๦ิ๪บุรุษเป็๲ใหญ่ขนาดนี้…

        “เอาสิ…”

        “แค่กๆ…”

        เสียงอ่อนแรงของบุรุษดังขึ้นข้างหูอย่างฉับพลัน หลินหวั่นชิวสำลักน้ำลายตัวเอง

        “ท่าน ท่าน…”

        “เลิกกลอกตาได้แล้ว ขืนยังกลอกอีก ลูกตาคงได้หลุดออกมาเหมือนปลาตายเป็๞แน่” เจียงหงหย่วนหยอกหลินหวั่นชิว “แต่ถ้าเสี่ยวเหนียงจื่อมีเงินจ่าย ต่อให้เป็๞ปลาตายข้าน้อยก็ยอม!”

        หลินหวั่นชิว “…”

        เง็กเซียนฮ่องเต้ พระแม่พระโพธิสัตว์กวนอิม พระแม่มารีย์ รีบมาปราบปีศาจตนนี้โดยเร็วด้วยเถิด!

        “ข้าไม่มีเงินจ่าย” หลินหวั่นชิวจะร้องไห้แล้ว พละกำลังสู้ไม่ได้ ความฉลาดทางสติปัญญาก็ยังจะสู้ไม่ได้อีก ทั้งที่เวลานางอยู่คนเดียวก็ค่อนข้างฉลาด บุรุษผู้นี้เป็๲ดาวเคราะห์ร้ายของนางชัดๆ

        “ร้อยตำลึงย่อมเพียงพอแล้ว” เจียงหงหย่วน “ข้าขายให้เ๯้าตลอดชีวิต”

        “ฮะฮะ…พ่อหนุ่ม คนเราควรมีความมั่นใจในตัวเอง มีความทะเยอทะยาน แค่ร้อยตำลึง…เ๽้าไม่กลัวพี่สาวได้ของถูกแล้วไปซื้อของแพงจากที่อื่นหรือ?”

        ไอ๊หยา เหตุใดเ๯้าปากเสียเช่นนี้!

        คำพูดไม่ผ่านสมองเพิ่งหลุดจากปาก หลินหวั่นชิวนึกเสียใจภายหลัง ดูสิ เจียงหงหย่วนโกรธแล้วเห็นหรือไม่ เขาโน้มตัวลงมาจูบ มือไม้อยู่ไม่สุข

        “ถ้าเสี่ยวเหนียงจื่อรู้สึกว่าถูกเกินไป จะเพิ่มราคาให้ก็ย่อมได้ เพิ่มสักสองร้อยตำลึงก่อนดีหรือไม่?”

        ชายฉกรรจ์จ้องนางด้วยสายตาประหนึ่งหมาป่า อุ้มนางเดินไปทางเตียง

        หลินหวั่นชิวหันไปมองประตู นางกางกรงเล็บ กรีดร้องในใจด้วยความปวดร้าว “ไม่นะ…”

        สองร้อยตำลึงนี่ช่าง…คุ้ม!

        จวบจนถึงเวลามื้อเย็น หลินหวั่นชิวก็ยังลุกจากเตียงไม่ได้

        นางนอนตัวเปลือยอยู่ในผ้าห่ม มุดศีรษะเข้าด้านใน ไม่ต้องมองก็จินตนาการออกว่าทั้งตัวเต็มไปด้วยรอยแดง

        ริมฝีปากบวมเป่ง

        แม้จะยังไม่ถึงขั้นสุดท้าย

        แต่ว่า…

        อสูรกายเจียงหงหย่วนผู้นี้…ไม่รู้ไปเรียนวิชามารมาจากที่ใด เล่นเอานางสับสนมึนงง ว่างเปล่าทั้งจิตใจและร่างกาย

        ปรารถนา…

        ทว่ามิอาจ…

        นางเหมือนลูกโป่งที่ลอยค้างในอากาศ ลงมาไม่ได้

        ในผ้าห่มมีกลิ่นที่เขาทิ้งไว้ อบอวลคละคลุ้งมาก

        ชายฉกรรจ์ใส่เสื้อผ้าเรียบร้อยแล้วแสร้งเดินออกไปด้วยมาดจริงจัง

        “ทานข้าวขอรับต้าเกอ พี่สะใภ้ล่ะขอรับ?” เสียงหงหนิงดังมาจากด้านนอก

        เจียงหงหย่วนตอบอย่างเคร่งขรึม “สองสามวันมานี้พี่สะใภ้เ๯้าวิ่งวุ่นจนเหนื่อย ข้าจะไปยกน้ำร้อนให้นางแช่ตัวให้ผ่อนคลายเสียก่อน เ๯้ากินไปก่อน ประเดี๋ยวข้าค่อยยกไปกินในห้องกับพี่สะใภ้เ๯้า

        เจียงหงหนิงเป็๲ห่วงทันที “หา…เช่นนั้นต้าเกอต้องช่วยพี่สะใภ้นวดด้วยนะขอรับ เมื่อก่อนข้าเคยช่วยนวดให้เอ้อร์เกอ เอ้อร์เกอบอกว่าสบายตัวมาก”

        “ข้ารู้น่า!” ไม่ต้องมายุ่ง!

        เจียงหงหนิงเดินพูดตามหลังเจียงหงหย่วน “ต้าเกอช่วยบอกพี่สะใภ้ทีขอรับว่ามีศิษย์พี่ที่สถานศึกษาอยากมาช่วยระบายสี ฝากถามว่าเริ่มงานได้เมื่อไร พวกเขาแบ่งเวลาหลังเลิกเรียนได้วันละหนึ่งชั่วยาม หากเป็๲วันหยุดจะมาช่วยได้ทั้งวันหรือไม่ก็ครึ่งวัน”

        เจียงหงหย่วน “อืม ข้าจะบอกพี่สะใภ้เ๯้าให้ ไว้นางตัดสินใจแล้วเ๯้าค่อยบอกพวกเขา”

        หลังจากสลัดเด็กคนนี้หลุด ชายฉกรรจ์ยกน้ำร้อนสองถังเข้ามาในห้อง เทน้ำลงในอ่าง ใช้มือวัดอุณหภูมิ ออกไปยกน้ำเย็นเข้ามาเติมแล้วเดินไปอุ้มหลินหวั่นชิว

        “ข้าเดินเองได้!” หลินหวั่นชิวประท้วง

        น่าเสียดายที่ไม่เป็๲ผล

        ชายฉกรรจ์เลิกผ้าห่มออก อุ้มนางที่ตัวเปล่าเปลือยไปวางในอ่างอาบน้ำ

        “เ๽้าจ่ายมาตั้งสองร้อยตำลึง ข้าต้องปรนนิบัติให้สบายอยู่แล้ว เ๽้าจะได้ไม่คิดไปหาผู้อื่น”

        คำพูดนี้เปรี้ยวราวกับไหน้ำส้มสายชูแตก เปรี้ยวไม่ไหว

        หลินหวั่นชิวปิดปากแน่น ไม่กล้าพูดกระไรมั่วๆ อีก

        ขืนยังพูดอีก นางกลัวตัวเองจะมีชีวิตรอดไม่พ้นคืนนี้ ต้องถูกชายฉกรรจ์ถลกหนังหักกระดูกกินลงท้องเป็๞แน่

        โชคดี ชายฉกรรจ์คงเห็นว่าร่างกายนางเต็มไปด้วยรอยแดง ระหว่างช่วยอาบน้ำจึงไม่ได้ทำกระไรเกินเลยอีก

        “เ๯้าแช่น้ำไปก่อน” เจียงหงหย่วนหยุดกลางคัน หันไปเปลี่ยนผ้าปูที่นอนและปลอกผ้านวม แต่พรรคพวกตัวน้อยที่เริ่มสร้างป้อมปราการอีกครั้งกลับเผยอารมณ์ที่กำลังถาโถมกับเปลวไฟที่ใกล้ควบคุมไม่อยู่ของเขา

        เปลี่ยนผ้าปูที่นอนกับปลอกผ้านวมเสร็จ เจียงหงหย่วนหาผ้าเช็ดตัวผืนใหญ่มาห่อตัวหลินหวั่นชิวไปที่เตียง

        จากนั้นเดินไปหยิบเสื้อผ้าให้อย่างคุ้นเคย

        หากไม่ใช่เพราะบุรุษผู้นี้มีอวัยวะบางส่วนที่นูนจนยากจะบรรยาย นางคงถูกสีหน้าที่ไม่สะทกสะท้านของเขาหลอกเสียแล้ว

        ทั้งที่ในใจร้อนรุ่มแทบทนไม่ไหว

        สีหน้ากลับเฉยชาราบเรียบ!

        ขี้โกหก!

        ชายฉกรรจ์ที่ถูกภรรยาตัวน้อยแปะเครื่องหมายว่าคนโกหกไม่กล้าปล่อยให้ตัวเองอยู่ที่นี่นาน ขณะที่นำน้ำออกไปเทก็ยืนตากลมหนาวอยู่อย่างนั้นเป็๲เวลานาน ตากจนไฟในร่างกายสงบลงจึงไปยกกับข้าว

        ทั้งคู่ไม่คุยกระไรกันระหว่างทานข้าว กระทั่งเมื่อทั้งคู่ขึ้นเตียง ชายฉกรรจ์รวบหลินหวั่นชิวมาในอ้อมกอดอย่างเคยชิน

        หลินหวั่นชิวไม่กล้าแม้แต่จะผายลม

        หากเกิดเหตุการณ์แบบก่อนหน้านี้อีก ชีวิตน้อยๆ ของนางคงไม่เหลือ

        ทั้งคู่ไม่พูดกระไรกัน บรรยากาศทั้งอึดอัดทั้งกระอักกระอ่วน

        อย่างน้อยก็สำหรับหลินหวั่นชิว เพราะชายฉกรรจ์มีความสุขดี พอใจที่ได้กอดภรรยาตัวน้อย

        ท่ามกลางความมืด มุมปากเขายกยิ้มกว้าง

        “เ๯้าได้ยินที่หงหนิงพูดแล้วใช่หรือไม่?” ผ่านไปสักพัก เจียงหงหย่วนเอ่ยปาก

        เขารู้สึกว่าหากเขาไม่เป็๲ฝ่ายทำลายความเงียบ ภรรยาตัวน้อยคงได้อกแตกตายเพราะความอึดอัด

        “ได้ยินแล้ว” หลินหวั่นชิวตอบเสียงเบา น้ำเสียงเกียจคร้านมีความอ่อนเพลีย ทำให้เจียงหงหย่วนอดนึกถึงเหตุการณ์ก่อนกินข้าวของทั้งคู่ไม่ได้

        “ข้าจะทุ่มเทสุดความสามารถ ชีวิตนี้ไท่ไท่เลี้ยงดูข้าคนเดียวได้หรือไม่?” ริมฝีปากชายฉกรรจ์๼ั๬๶ั๼โดนใบหูของนางเบาๆ แม้เขาจะไม่เคยได้ยินคำว่าเลี้ยงดู (บุรุษ) แต่ว่า…เขากลับเข้าใจความหมายของคำนี้ มีความหมายเหมือนเลี้ยงหนุ่มหน้าขาวนั่นแหละ

        เอ่อ…หน้าเขาดำ แล้วยังมีแผลเป็๞ ถือว่าเลี้ยงหนุ่มหน้าดำ[1]แล้วกัน

        ภรรยาตัวน้อยของเขาไม่เหมือนผู้ใด ดูเอาเถิด ขนาดบุรุษที่เลี้ยงยังมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว

        (หลินหวั่นชิว “…เ๯้ารู้ตัวเองดีนี่”)

         

        เชิงอรรถ

        [1] หนุ่มหน้าดำ(小黑脸) เป็๲คำตรงข้ามกับหนุ่มหน้าขาว(小白脸) โดยหนุ่มหน้าขาวจะเป็๲คำด่าประมาณ ไก่อ่อน อ่อนต่อโลก ในบางครั้งก็ใช้บรรยายถึงหนุ่มหล่อ

         

นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้