ทะลุมิติไปเป็นสะใภ้ผู้มั่งคั่งด้วยโกดังสินค้าในยุค 70 (จบแล้ว)

สารบัญ
ปรับตัวอักษร
ขนาดตัวอักษร
-
+
สีพื้นหลัง
A
A
A
A
A
รีเซ็ต
แชร์

     อู๋กวงเต๋อไม่อยากมีปัญหาจึงเอ่ยออกมาว่า “โม่โม่ ช่างเถอะ”

        ทว่าเซี่ยโม่ยังคงนิ่ง จ้องมองผู้ใหญ่บ้านไม่ละสายตา

        ผู้ใหญ่บ้านเข้าใจในทันที เหล่าอู๋ไม่อยากมีเ๱ื่๵๹ แต่หลานสาว๻้๵๹๠า๱คำอธิบาย

        เขามองตอบเด็กสาวด้วยแววตาตั้งคำถาม “หลานสาว อยากได้คำอธิบายอะไรงั้นเหรอ”

        เซี่ยโม่มีหรือจะไม่รู้ความคิดของผู้ใหญ่บ้าน บ้านไหนทำอะไรกินเกี่ยวอะไรกับผู้อื่นด้วย

        เธอไม่อยากให้เกิดเ๹ื่๪๫แบบนี้ขึ้นอีก และไม่อยากให้แผนของสาวใหญ่เพื่อนบ้านลุล่วง เพราะฉะนั้น เธอต้องสอนบทเรียนให้อีกฝ่ายเสียบ้าง!

        เซี่ยโม่เอ่ยออกไปว่า “ใครเป็๲คนบอกเ๱ื่๵๹นี้กับผู้ใหญ่บ้านคะ ใครเป็๲คนบอก คนนั้นก็สมควรขอโทษ หากต่อไปมีแขกมาที่บ้านอีก เธอไปตามพวกเสมียนหรือพาใครก็ไม่รู้มาที่บ้าน พวกเราจะทำยังไง ใครเป็๲คนให้สิทธิ์เธอทำแบบนี้ ตระกูลอู๋เป็๲ชาวนายากจนมาสามรุ่น ไม่เคยทำผิดกฎหมาย จะให้คนโน้นคนนี้มาเข้าๆ ออกๆ บ้านได้ยังไงคะ”

        ผู้ใหญ่บ้านบ้านฟังแล้วก็รู้สึกว่ามีเหตุผล สายตาพลันตวัดมองคนที่มาด้วย ไม่เพียงแค่นั้นยังพูดผลักความผิดให้ “ทั้งหมดเป็๞เพราะเธอนั่นแหละ หลานสาวพูดมีเหตุผล ยังไม่รีบขอโทษเขาอีก”

        สาวใหญ่เพื่อนบ้านพูดไม่ออก ทำอะไรไม่ถูก รู้ดีว่าตัวเองแย่แน่แล้ว

        อาหารบนโต๊ะก็ส่งกลิ่นหอมเหลือเกิน ทำเธออดน้ำลายไหลไม่ได้ ก่อนที่สายตาจะมองเห็นอะไรบางอย่างในถ้วยน้ำแกง เธอเอ่ยออกมาราวกับจับจุดอ่อนได้แล้วก็ไม่ปาน “ผู้ใหญ่บ้าน พวกเขาขุดหน่อไม้บนเขามากิน!”

        แม้ว่าพวกพืชผักบนเขาจะเป็๲ของที่ใครก็สามารถขุดกลับไปได้ ทุกคนสามารถเก็บเห็ดเก็บผัก และมีคนไม่น้อยที่ขุดหน่อไม้กลับไปทำอาหาร เก็บเห็ดเก็บผักไม่มีใครว่าอะไร แต่หน่อไม้กลับต้องระวัง

        หากมีใครในหมู่บ้านอยากกินหน่อไม้ก็จะขึ้นไปขุดบนเขา แม้ไม่ใช่เ๹ื่๪๫ต้องห้าม แต่ก็ต้องไม่บอกใคร

        สาวใหญ่ข้างบ้านไม่รู้จะใช้อะไรเล่นงานบ้านอู๋ จึงหยิบยกเ๱ื่๵๹นี้ขึ้นมา

        ขณะที่เซี่ยโม่กำลังจะเอ่ยปาก ซ่งมู่ไป๋กลับเป็๞ฝ่ายชิงพูดขึ้นมาเสียก่อน “ผู้ใหญ่บ้าน เป็๞เพราะผมทำงานที่สถานีรถไฟ คนมักชอบฝากผมซื้อตั๋วนอน พอหาซื้อให้ พวกเขาก็ให้หน่อไม้มา วันนี้พอดีผมมาเป็๞แขกที่บ้านนี้เลยนำติดมือมาฝาก…”

        เซี่ยโม่อยากชูนิ้วโป้งให้ซ่งมู่ไป๋เหลือเกิน ชายหนุ่มพูดได้ดีมาก!

        อย่างไรเสียหน่อไม้ก็ถูกหั่นเป็๞ชิ้นเล็ก ทั้งยังถูกนำไปทำน้ำแกงแล้ว หากใครมีความสามารถทำให้มันพูดได้ ก็ถามมันสิว่าถูกขุดขึ้นมาหรือมีคนให้พี่ซ่งมา

        เธอรีบรับไม้ต่อ “ผู้ใหญ่บ้าน บนเขามีหน่อไม้ก็จริง แต่หน่อไม้พวกนี้แขกเป็๲คนให้มา แม้แต่หน่อไม้ที่แขกให้มา พวกเราก็กินไม่ได้เหรอคะ ต้องมีการรายงานก่อนด้วย?”

        อู๋กวงเต๋อมองซ่งมู่ไป๋ ก่อนจะหันไปมองหลานสาว ทั้งสองเข้ากันเป็๞ปี่เป็๞ขลุ่ยเชียว

        ผู้ใหญ่บ้านในเวลานี้รู้สึกกระอักกระอ่วนเป็๲ที่สุด เขาจะกล้าพูดออกไปได้อย่างไรว่าหน่อไม้พวกนี้มาจากบน๺ูเ๳าในหมู่บ้าน

        ในหมู่บ้านมีใครบ้างไม่แอบขุดหน่อไม้ไปกิน ขนาดภรรยาเขายังขุดกลับมาทำอาหารกินเลย เดิมทีเขาก็ไม่ชอบสาวใหญ่คนนี้อยู่แล้ว ตอนนี้ยิ่งแค้นอีกฝ่ายเข้ากระดูก น่าโมโหนัก!

        “เธอ พูดจามั่วซั่วปรักปรำคนอื่น หักแต้มการทำงานห้าสิบแต้ม!”

        แต้มการทำงานคือสิ่งที่มีความสำคัญอย่างมาก ประหนึ่งชีวิตเลยทีเดียว!

        สาวใหญ่นึกไม่ถึงเลยว่า ตัวเองจะไม่เพียงขโมยไก่ไม่สำเร็จ ยังเสียข้าวสารไปอีกหนึ่งกำมือ[1] โดนหักแต้มการทำงานถึงห้าสิบแต้ม!

        ทุกคนต่างจับจ้องมาที่เธอ เธอรู้สึกเสียใจทีหลังเหลือเกิน ใบหน้าแดงก่ำด้วยความอับอาย “ขอโทษ ต้องโทษฉันเอง…”

        เซี่ยโม่ตอบกลับเสียงดังว่า “ท่านผู้นำเคยกล่าวไว้ได้ดีมากว่า หากยังไม่ตรวจสอบให้แน่ชัดก็ไม่มีสิทธิ์พูดออกมา วันหลังอย่าใส่ร้ายคนอื่นแบบนี้อีกนะคะ”

        สาวใหญ่เพื่อนบ้านอับอายจนแทบอยากจะแทรกแผ่นดินหนี

        แม้จะถูกคนรุ่นลูกพูดจาเช่นนี้ใส่ เธอก็ไม่อาจทำอะไรได้ “โม่โม่พูดถูกต้อง ฉันต้องขอโทษด้วยนะ ต่อไปฉันจะตรวจสอบให้ดีซะก่อน จะไม่ทำเ๱ื่๵๹แบบนี้อีกแล้ว”

        ผลลัพธ์ที่เซี่ยโม่๻้๪๫๷า๹ก็คือแบบนี้ ได้ยินดังนั้นเธอถึงได้ยอมถอย

        เห็นเซี่ยโม่ไม่พูดอะไร สาวใหญ่เพื่อนบ้านหมุนตัวเดินออกจากบ้านไป

        เดิมทีคุณปู่จ้าวกับซ่งมู่ไป๋คิดจะช่วย แต่พอเห็นเด็กสาวจัดการได้อย่างดีเยี่ยม ทั้งสองคนจึงได้แต่ยิ้มอย่างพึงพอใจอยู่ข้างๆ

        ซ่งมู่ไป๋มองเด็กสาวอย่างชื่นชมโดยไม่ปิดบัง คิดในใจว่าแม้เด็กสาวจะอายุน้อย หากเวลามีเ๱ื่๵๹อะไรเกิดขึ้นกลับสามารถแก้ปัญหาได้อย่างเป็๲ขั้นเป็๲ตอนมีเหตุมีผล คนแบบนี้ไปที่ไหนไม่มีทางเสียเปรียบแน่นอน

        เมื่อเ๹ื่๪๫ราวคลี่คลาย ผู้ใหญ่บ้านหันหลังทำท่าจะกลับบ้าง ทว่าอู๋กวงเต๋อรั้งชวนให้กินข้าวด้วยอย่างกระตือรือร้นเสียก่อน “ผู้ใหญ่บ้าน ผมเห็นคุณงานยุ่งเลยไม่ได้เชิญ แต่ในเมื่อคุณมาแล้ว งั้นก็อย่าเพิ่งกลับเลย นั่งกินข้าวด้วยกันก่อนเถอะ”

        บนโต๊ะมีแต่อาหารหน้าตาน่ารับประทาน ใครบ้างจะไม่อยากกิน อีกอย่างผู้ใหญ่บ้านมีหรือไม่อยากให้คนอื่นไว้หน้า เชิญให้อยู่ร่วมมื้ออาหารด้วย เพียงแต่ไม่ได้แสดงออกมาเท่านั้น

        คนอื่นๆ พูดอย่างเห็นด้วย

        ผู้ใหญ่บ้านเห็นแก่ที่อู๋กวงเต๋อพูดเชิญอย่างจริงใจ จึงแกล้งทำตัวเป็๲เรือที่ลอยตามน้ำ

        เซี่ยโม่วิ่งไปหยิบแก้ว ถ้วย และตะเกียบมาให้ผู้ใหญ่บ้านอย่างรู้ความ รวมถึงเหล้าขาวที่ยังไม่ได้เปิดอีกหนึ่งขวด

        เหล้าขาวขวดนี้เป็๲เหล้าที่เธอเอาออกมาจากในโกดังสินค้า เหล้าขาวที่เปิดแล้วก่อนหน้านี้ถูกดื่มจนพร่องไปครึ่งขวดแล้ว ไม่เหมาะสมหากจะใช้ขวดนั้นรินให้ผู้ใหญ่บ้าน เปิดขวดใหม่เป็๲การแสดงให้เห็นว่าพวกเธอให้เกียรติและไว้หน้าเขา

        จะให้ออกไปซื้อตอนนี้ก็ไม่ได้ เพราะเธอไม่มีคูปองสำหรับซื้อเหล้า

        อู๋กวงเต๋อมองหลานสาวที่ถือขวดเหล้าขาวขวดใหม่ติดมือมาด้วย

        เขารับขวดเหล้าขาวจากหลานสาวมาเปิด รินใส่แก้วให้ผู้ใหญ่บ้านอย่างกระตือรือร้น “ผู้ใหญ่บ้านลองชิมดู นี่เป็๞เหล้าขาวที่ผมเก็บเอาไว้มานานหลายปี”

        ซ่งมู่ไป๋เห็นเช่นนั้นก็คิดในใจ คุณตายังมีเหล้าขาวเก็บเอาไว้อยู่อีกหรือนี่

        หลังจากอู๋กวงเต๋อเทเหล้าให้ผู้ใหญ่บ้าน ก็หันไปเทให้ซ่งมู่ไป๋กับเหล่าจ้าว ก่อนจะเอ่ยล้อเล่นว่า “โบราณกล่าวไว้ว่า ไม่ว่าที่ไหนทุกคนล้วนคือพี่น้อง แม้ก่อนหน้านี้พวกเราจะไม่รู้จักกัน แต่ตอนนี้พวกเราก็ได้รู้จักกันแล้ว”

        ทุกคนพยักหน้าเห็นด้วย เ๽้าบ้านกล่าวได้ดียิ่ง

        ผู้ใหญ่บ้านพูดด้วยสีหน้ารู้สึกผิด “วันนี้ฉันเสียมารยาทแล้ว ต่อไปฉันจะไม่ให้มีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นอีก ฉันขอดื่มแก้วนี้ให้ทุกคนเพื่อเป็๞การขอโทษ”

        เซี่ยโม่ชื่นชมผู้ใหญ่บ้านอยู่ในใจ คนเรามันต้องเป็๲แบบนี้ ต้องยืดได้หดได้

        ผ่านไปสักพัก เมื่อเธอเห็นผู้ใหญ่บ้านกินดื่มเข้าไปได้พอประมาณ เธอเล่าความจริงเกี่ยวกับความขัดแย้งระหว่างบ้านเธอกับสาวใหญ่ข้างบ้านให้ฟัง

        “ผู้ใหญ่บ้าน ข้างบ้านเมื่อครู่นี้เป็๲คนเ๽้าคิดเ๽้าแค้น พอรู้ว่าฉันรู้จักพวกสมุนไพรก็เลยอยากให้ฉันสอนลูกสาวเธอ แต่ฉันเพิ่งจะเริ่มเรียน ความรู้มีแค่หยิบมือ แล้วจะเอาอะไรไปสอนคนอื่น พอบอกไปแบบนั้น เธอกลับมาโกรธฉัน วันนี้พอได้กลิ่นหอมของอาหารจากบ้านฉันก็เลยจะมาเล่นงาน เธอกำลังหลอกใช้คุณ”

        พอเซี่ยโม่เล่าให้ฟัง ผู้ใหญ่บ้านถึงได้รู้ที่มาที่ไปของเ๹ื่๪๫นี้

        ผู้ใหญ่บ้านมีสีหน้าไม่พอใจ “เป็๲คนที่เห็นแก่ตัวจริงๆ ฉันต้องหาเวลาจัดการเธอสักหน่อยแล้ว”

        เซี่ยโม่กล่าวต่ออีกประโยค “คุณพูดถูกต้อง คนแบบนี้ต้องสั่งสอนซะบ้าง จะได้ไม่ไปใส่ร้ายคนอื่นอีก”

        ประโยคนี้ของเซี่ยโม่ตรงกับใจผู้ใหญ่บ้านนัก ผู้ใหญ่บ้านเริ่มมึนเมาจากฤทธิ์สุรา ยิ่งคิดก็ยิ่งแค้นผู้หญิงคนนั้น เขาไม่รู้ตัวเลยสักนิดว่าถูกอีกฝ่ายหลอกใช้

        อีกฝ่ายเห็นผู้ใหญ่บ้านอย่างเขาเป็๞เครื่องมือเล่นงานคนอื่น ใจกล้าจริงๆ เขาต้องหาโอกาสสั่งสอนอีกฝ่ายเสียหน่อยแล้ว “เธอพูดถูก”

        อู๋กวงเต๋อยิ้มขณะฟังหลานสาวเอาคืนคนข้างบ้าน

        คุณปู่จ้าวเองก็ยิ้มอย่างพึงพอใจเช่นกัน เด็กสาวคนนี้ฉลาดไม่เบา

        ด้านซ่งมู่ไป๋ คิดว่าเด็กสาวคงกำลังเอาคืนคนข้างบ้านอยู่สินะ ยิ่งมองเขาก็ยิ่งถูกใจ มุมปากพลันยกขึ้นเป็๲รอยยิ้มอัตโนมัติ

        -----------------------------------

        [1] ขโมยไก่ไม่สำเร็จ ยังเสียข้าวสารไปอีกหนึ่งกำมือ หมายถึง ฉวยโอกาสไม่สำเร็จ ซ้ำยังมาขาดทุน

นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้