จิ่นเซวียนใช้ความรู้สึกที่เกาซื่อมีต่อท่านปู่ปั้นเื่โกหกสวยหรูให้ท่านย่าเชื่อนาง
“ท่านย่า เดิมมีท่านปู่เกิดมาพร้อมดาวเหวินฉวี่ [1] หากมิใช่เพราะดาวพิฆาตบังดวงชะตา คงได้เป็ขุนนางใหญ่ในโลกมนุษย์แล้ว เหตุผลที่ช่วยข้านอกจากห่วงใยหลานสาวแล้ว ยังอยากให้ข้าดูแลท่านแทนเขาเ้าค่ะ ท่านปู่บอกว่าพวกท่านถูกลิขิตให้เป็สามีภรรยากันสามชาติสามภพ ชั่วชีวิตนี้มิอาจอยู่เคียงข้างท่านจนแก่เฒ่า ช่างเป็เื่ที่น่าเสียดายนัก ชาติหน้าเขาเลยจะแต่งท่านเป็คู่ชีวิตอีกเ้าค่ะ”
คำพูดไร้สาระของจิ่นเซวียนกระตุ้นความคิดถึงของเกาซื่อ หลังนางให้เสี่ยวเกาซื่อแต่งงานกับบุตรชาย ความสัมพันธ์ระหว่างนางกับสามีก็ยิ่งระหองระแหงขึ้นเรื่อยๆ เฮ้อ มาคิดตอนนี้แล้ว นางเสียใจที่ทำเช่นนั้นลงไปจริงๆ
“เซวียนเซวียน ท่านปู่บอกกับเ้าว่าอะไรอีก พวกเราต้องทำอย่างไรถึงจะไล่ดาวพิฆาตได้หรือ?”เกาซื่อถามเช่นนี้เห็นได้ชัดว่าเชื่อจิ่นเซวียนแล้ว
จิ่นเซวียนถอนหายใจหนักอย่างคาดเดาไม่ได้ “สตรีกาลกิณีรับมือยากนักเ้าค่ะ นางข่มดวงของท่านพ่อมาตลอด ข้ากังวลแทนท่านพ่อจริงๆ เ้าค่ะ”
สตรีกาลกิณีต้องเป็เกาเจินเจินแน่ ั้แ่สู่ขอเกาเจินเจินมา ท่านพ่อก็เริ่มตีตนออกห่างเขา
“ท่านแม่ ท่านจำเื่เมื่อสามปีก่อนได้หรือไม่ ก่อนสอบขุนนาง่สารทฤดู ข้ากับท่านไปจุดธูปบูชาที่วัดเซียงชานแล้วท่านเ้าอาวาสกล่าวว่าข้าไม่มีโชคยศถาบรรดาศักดิ์ ถูกลิขิตให้ถูกคนต่ำต้อยพัวพันชั่วชีวิต”
สามปีก่อนซย่าหลี่จวินไปขอร้องพระโพธิสัตว์ อวยพรให้เขาสอบผ่าน ผลสุดท้ายเสี่ยงเซียมซีออกมาได้ใบไม่ดี เ้าอาวาสบอกว่าเขาไม่มีโชคยศถาบรรดาศักดิ์ ข้างกายมีคนต่ำต้อยคอยก่อกวน เขาไม่เชื่อนัก แต่พอจิ่นเซวียนบอกมาเช่นนี้เขาจึงเชื่ออย่างไร้ข้อกังขา
ฮ่าๆ เื่ไร้สาระที่นางปั้นแต่งขึ้นมา พ่อเฮงซวยกลับเชื่อด้วย พอมีคำกล่าวของเ้าอาวาสก็ยิ่งหลอกง่ายขึ้น
“ท่านพ่อ หากไม่กำจัดดาวพิฆาต ข้าเกรงว่าท่านคงพลาดตำแหน่งขุนนางไป ท่านปู่ว่าไว้ว่าเพราะท่านไปข้องแวะกับดาวพิฆาต ท่านเทพเลยขึ้นบัญชีดำท่านเ้าค่ะ”
“ไม่มีทางแก้เลยหรือ?” ซย่าหลี่จวินมองจิ่นเซวียนอย่างผิดหวัง จิ่นเซวียนบอกว่าไม่มีหนทางแก้ไข นอกจากหาสตรีที่พอข่มดาวพิฆาตมายับยั้ง
“เซวียนเซวียน เ้าไปหาอาเล็กเ้าที่บ้านของนางให้พวกเขามาช่วยจัดงานแต่งเ้า เื่ดาวพิฆาตข้ากับพ่อเ้าจะจัดการเอง” เกาซื่ออยากไล่จิ่นเซวียนไปเพื่อหารือกับลูกชายตามลำพัง
“ท่านย่า แขนเสื้อข้าขาดแล้ว ข้าขอกลับไปซ่อมก่อนค่อยไปบ้านท่านอานะเ้าคะ” จิ่นเซวียนเตือนเกาซื่อ อาภรณ์นางขาดรุ่งริ่ง หากมิอยากให้คนนอกรู้ว่ารังแกหลานตัวเองก็รีบไปหาอาภรณ์ใหม่ที่ซย่าจิ่นอวิ๋นทำขึ้นมาให้นางเสีย
จิ่นเซวียนสูงพอๆ กับซย่าจิ่นอวิ๋นเลยใส่อาภรณ์กันได้พอดี ั้แ่ท่านปู่จากไปซย่าจิ่นอวิ๋นก็เอาอาภรณ์ เครื่องประดับของนางไปจนหมด นางจึงไม่มีชุดเปลี่ยนนอกจากตัวที่ใส่อยู่
“ท่านแม่ขอรับ จากนี้ท่านไม่ควรตามใจเจินเจินกับอวิ๋นเอ๋อร์อีกแล้ว อวิ๋นเอ๋อร์ละโมบในความมั่งคั่งฟุ้งเฟ้อั้แ่เล็กเช่นนี้ ใช้ได้ที่ไหนกัน” พอซย่าหลี่จวินนึกถึงคำกล่าวของซ่งผิงก็รู้สึกอับอาย บุตรสาวตัวเองเหมือนกัน ทว่าคนหนึ่งแต่งตัวเหมือนคุณหนู อีกคนเหมือนขอทาน ช่างต่างกันนัก
“เซวียนเซวียน อวิ๋นเอ๋อร์เอาของของเ้าไป ข้าไม่รู้เื่ ไป ข้าจะพาเ้าไปห้องนาง เอาของที่ควรเป็ของเ้าคืนมา” เกาซื่อลุกขึ้นเดินไปห้องซย่าจิ่นอวิ๋นกับจิ่นเซวียน เวลาเดียวกับที่ซย่าจิ่นอวิ๋นกำลังจัดอาภรณ์กับเครื่องประดับที่หน้าโต๊ะเครื่องแป้ง
นางหยิบกำไลทองในกล่องเครื่องประดับออกมาจูบอย่างหวงแหน
“ซย่าจิ่นเซวียนเอ๋ยซย่าจิ่นเซวียน คนหนุนหลังเ้าตายไปแล้ว วันหน้าแม่ข้าก็จะเป็ใหญ่ในบ้านหลังนี้ เ้ามีกำไลทองคิดว่าวิเศษวิโสนักหรือ?อีกอย่างมันเป็ของข้าแล้ว” จิ่นอวิ๋นคิดว่าไม่มีใครเห็นจึงจูบกำไลพลางเอ่ยแขวะ
เกาซื่อรู้สึกผิดหวังและขมขื่นนัก เมื่อได้ยินนางกล่าวว่าวันหน้าแม่ของนางจะเป็ใหญ่ในบ้าน ยามนี้เกาซื่อคือนายหญิงของบ้านหลังนี้ แม่ของนางจะนับเป็อะไรได้
“อวิ๋นเอ๋อร์ กำไลทองของข้ามาอยู่กับเ้าได้อย่างไร?” จิ่นเซวียนยิ้มร้ายและเดินไปแย่งกำไลมา นางจำได้ว่ากำไลทองนี้ท่านปู่ให้นางเป็ของขวัญวันเกิดตอนอายุแปดขวบ นอกจากนาง เกาซื่อกับท่านอาเล็กก็มีคนละอัน แต่ท่านปู่ชังเสี่ยวเกาซื่อแม่ลูกเลยไม่เคยซื้อของขวัญให้ นี่คือเหตุผลหลักที่พวกเสี่ยวเกาซื่อเกลียดนาง
“......” ซย่าจิ่นอวิ๋นตกตะลึง ไม่คิดว่าจิ่นเซวียนกับท่านย่าจะมาห้องนาง เดิมก็เป็เกาซื่อที่แนะนำให้นางเอาของจิ่นเซวียนมา
“พี่จิ่นเซวียน ท่านเอากำไลคืนมา มันคือกำไลสินสมรสของแม่ข้านะเ้าคะ” เมื่อใดที่ซย่าจิ่นอวิ๋นนึกถึงกำไลทองก็จะโกรธเป็ฟืนเป็ไฟ นางโตขนาดนี้ยังไม่เคยได้รับของขวัญจากท่านปู่ เพราะท่านปู่เกลียดแม่จึงลามมาเกลียดนาง
ซย่าจิ่นอวิ๋นเอื้อมมือมาแย่งกำไลแต่เกาซื่อเอ่ยขัดนางเสียงเย็น
“สินสมรสแม่เ้ามีเท่าไหร่กันเชียว เ้าน่าจะรู้ดี เ้ากล้าแย่งของขวัญวันเกิดที่ปู่เ้ามอบให้เซวียนเซวียนเชียวหรือ”
ท่านย่าผีเข้าหรือ?เหตุใดถึงช่วยนังสารเลวนี่รังแกนาง
“ข้าจำผิดเ้าค่ะ กำไลนี้แม่ข้าซื้อมาหลังจากนั้นเ้าค่ะ” ซย่าจิ่นอวิ๋นกังวลว่าจิ่นเซวียนจะเอาของคืนเลยแก้ตัวข้างๆ คูๆ
“ด้านนอกกำไลมีตัวอักษรเซวียนอยู่ เ้ายังกล้าเถียงอีกหรือ” เกาซื่อเสียใจยิ่งนัก เมื่อนึกถึงสิ่งที่จิ่นเซวียนพูดก่อนหน้านี้ เสียใจที่เอาเสี่ยวเกาซื่อมาเป็ลูกสะใภ้ หากนางมิได้บังคับเสี่ยวเกาซื่อแต่งเข้าบ้านมา สามีนางคงยังอยู่ดี ผู้มียศถาที่เ้าอาวาสท่านนั้นกล่าวถึงคงมิใช่แม่ผู้ให้กำเนิดจิ่นเซวียนหรอกหรือ?
เหตุผลที่นางเกลียดแม่จิ่นเซวียนเพราะนางเป็เด็กกำพร้าสร้างผลประโยชน์อะไรให้ไม่ได้
“พี่จิ่นเซวียน ข้าจะพูดความจริงกับท่าน กำไลนี้ท่านย่าให้ข้าเอง ท่านย่าบอกว่าท่านไม่จำเป็ต้องใช้ ดังนั้นท่านย่าเลยเอาอาภรณ์กับเครื่องประดับทั้งหมดของท่านมาให้ข้าเ้าค่ะ” ซย่าจิ่นอวิ๋นไม่ยอมโดนกระทำง่าย ๆ นางผลักความรับผิดชอบให้เกาซื่อจนท่านย่าหน้าแดงด้วยความโกรธ
เกาซื่อตบหน้าซย่าจิ่นอวิ๋นเสียงดังสนั่น “เ้าเด็กนิสัยเสีย เ้าทำผิดเองยังกล้าใส่ร้ายข้า”
“ท่านย่า อย่าโกรธเลยเ้าค่ะ ข้าเชื่อว่าท่านบริสุทธิ์” จิ่นเซวียนหันกลับมามองซย่าจิ่นอวิ๋นอย่างครุ่นคิด “แม้อวิ๋นเอ๋อร์จะทำเกินไป แต่ข้าไม่อยากให้ท่านพ่อเสียชื่อเสียงเพราะนาง เอาอย่างนี้ดีหรือไม่เ้าคะ เราลงโทษให้นางกวาดพื้นหนึ่งเดือนเป็การตักเตือนเถิดเ้าค่ะ”
ซย่าจิ่นอวิ๋นถลึงตามองจิ่นเซวียน ขณะนี้นางเสียสติไปแล้ว
“นางสารเลว เ้ามีสิทธิ์อะไรมาทำโทษข้า ของพวกนั้นท่านย่าเอามาให้ข้าเอง เ้ามิเชื่อหรือ เหอะ ท่านย่าที่แสนดีเกือบตีเ้าจนตายเลยนะ”
“สอนแล้วไม่รู้จักจดจักจำ” เกาซื่อยกมือขึ้นตบหน้าซย่าจิ่นอวิ๋นอีกครั้งจนนางตะลึงค้าง ร้องไห้ออกมาเสียงดัง
“ท่านย่า ท่านใจร้ายมาก ข้าทำอะไรผิดหรือเ้าคะ ท่านถึงตีข้า”
จิ่นเซวียนยิ้มเยาะ นางชาเขียวน้อยไม่ได้มีชั้นเชิงเลย หญิงชราคือผู้มีอำนาจในบ้านหลังนี้ นางไปยั่วยุจะส่งผลดีให้ตัวเองได้อย่างไร?
ท่าทางหญิงชราคงโกรธนางชาเขียวน้อยมาก หลานสาวที่รักดั่งแก้วตาดวงใจทรยศนาง คงเป็เื่เหลือจะทนสำหรับหญิงชรา
“เซวียนเซวียน เ้าไปดูว่าอะไรเป็ของเ้าบ้าง แล้วเอากลับมาทั้งหมด หากนางกล้ารังแกเ้า ย่าจะจัดการให้เอง” สิ้นเสียงเกาซื่อ จิ่นเซวียนก็เดินไปทางตู้เสื้อผ้า ของของนางต่อให้ไม่ใช้ก็ไม่มีทางยกให้น้องสาวเลวๆ เช่นนางแน่
“ซย่าจิ่นอวิ๋นเ้าหยุดเดี๋ยวนี้ ! ” จิ่นเซวียนยังไม่ทันเปิดตู้เสื้อผ้าก็โดนซย่าจิ่นอวิ๋นผลักไปกองกับพื้น
เชิงอรรถ
[1] ดาวเหวินฉวี่หรือดาวบุ่นเข็ก หมายถึง ดาวที่มีคุณสมบัติ (ส่งผลต่อชีวิตมนุษย์) กลุ่มดาวบุ่นเชียงกับดาวบุ่นเข็กเป็ดาวคู่กัน พูดถึงดาวบุ่นเชียง เทพบุ่นเชียงท่านเป็เทพแห่งการศึกษา อักษรศาสตร์ การประพันธ์ เอกสาร ศิลปะ การสอบเข้ารับราชการฝ่ายพลเรือน นอกจากนี้เทพทั้งสองยังให้ผลด้านโชคลาภ มีบันทึกไว้ว่าดาว "บุ่นเข็ก" นั้นเป็ดวงดาวลำดับที่ 4 ในกลุ่มดาวปักเต้า (กลุ่มดาวเหนือ) และเทพบุ่นเข็กนั้นก็ยังจุติลงมาเกิดบนโลกมนุษย์หลายครั้งด้วย
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้